ม้านอกสายตา JAS Mobile จะทำอะไรที่เกินคาดหมายอีกหรือไม่ในวันที่ 21 ธค. 58

กระทู้คำถาม
อ้างอิงจากกระทู้โพล "คุณคิดว่า "สัญญาณค่ายใด" ในอนาคตจะ "ก้าวไกล" มากที่สุดครับ ?" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เวลาที่ก็อปข้อมูล 14.30 น.

จะเห็นได้ว่า "JAS"  บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด นั้นเป็นม้านอกสายตาของนักวิเคราะห์หลายคน จนหักปากกาเซียนทั้งหลาย ให้หงายเงิบตกเก้าอี้กันเป็นแถบๆ หลังจากที่ JAS สามารถชิงใบอนุญาตที่ 1 จากทาง #TeamDtac มาได้จากการประมูลคลื่น 900 และสู้จนสูสีเกือบจะได้ใบอนุญาตที่ 1 จาก #TeamTrue ในการประมูลคลื่น 1800

ซึ่งผมก็เคยตั้งข้อสังเกตว่าทำไมทาง JAS ถึงกล้าทุ่มประมูลในราคามูลค่ามหาศาลเช่นนี้

แต่ทางเพื่อนๆ หลายคนในพันทิปก็บอกว่า "ทาง JAS นั้นมีกำไรจากการลงทุนในส่วนของ JASIF - กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน" เลยสามารถที่จะกล้าทุ่มประมูลชิงคลื่น 4G จากผู้ให้บริการรายเดิมในตลาดได้

แต่หลังจากจบการประมูลคลื่น 900 MHz ไม่นาน ผมก็ได้ข้อมูลกระจ่างขึ้นว่า ผู้หนุนหลังบริษัท JAS ในการประมูลทั้งสองครั้ง น่าจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง SK Telecom ของทางประเทศเกาหลี (ใต้) ที่เปิดให้บริการ LTE-A เป็นรายแรกของโลกเมื่อปี 2013

ขอบคุณข้อมูลจากคุณเอิ้น : https://www.facebook.com/it24hrs

และ นสพ. บ้านเมือง


ดังนั้น หลังจากที่ทาง JAS ได้ใบอนุญาต 900 ใบที่ 1 มาครอบครอง ก็น่าจะเพิ่มความน่าสนใจของตัวบริษัทให้มากขึ้น ซึ่งทาง JAS เองก็ขาดแคลนเสาสัญญาณในการเปิดให้บริการ ผมเลยวิเคราะห์ความเป็นไปได้ใน 2 แนวทาง คือ

1. ทั้ง #TeamAIS และ #TeamDtac ที่พลาด (จากความตั้งใจ หรือคาดการณ์ผิดก็ตาม) การได้รับใบอนุญาตทั้งคู่ อาจจะร่วมทุนกับ #TeamJAS ในการใช้เสาสัญญาณร่วมกัน เพราะทั้ง AIS และ DTAC ต่างมีเสาสัญญาณที่ใช้งานอยู่เป็นจำนวนมากทั่วประเทศ และค่อนข้างจะครอบคลุมอยู่แล้ว หาก JAS มาร่วมทุนกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งก็จะพร้อมในการให้บริการ 4G เร็วขึ้น รวมทั้งยังสามารถลดต้นทุนในการติดตั้งเสาสัญญาณของตนเองลงได้อีกด้วย  

แต่คาดว่าการร่วมทุนในครั้งนี้ทั้ง AIS และ DTAC คงจะต้องแข่งขันกันหนักเหมือนการประมูลคลื่นเช่นกัน ดังนั้นคงจะต้องขึ้นอยู่กับ JAS แล้วว่าอยากจะเลือกใครเป็นผู้ร่วมทุน???

2. อีกแนวทางซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากเช่นกัน ที่ทาง AIS อาจจะเข้าเทคโอเวอร์บริษัท JAS เพราะแค่ในส่วนของเงินกำไรในแต่ละปีของ AIS ก็สามารถซื้อบริษัทเล็กๆ อย่าง JAS ได้สบาย รวมทั้ง ทั้งสองบริษัทนี้เคยร่วมมือทำธุรกิจกันมาก่อนอยู่แล้ว ดังนั้น ทาง AIS เลยตัดสินใจไม่สู้ในใบอนุญาตที่ 1  เพราะถ้าต้องจ่าย 1.5 แสนล้านก็หนักเกินจะแบกรับภาระได้

รวมทั้ง อีกข้อมูลหนึ่งที่มีความเป็นไปได้สูงว่าก็คือ ทั้ง AIS และ JAS เป็นคอการเมืองเดียวกัน เพราะรุ่นพ่อเคยเป็นรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลทักษิณ ยิ่งทำให้มีเส้นมีสาย และความสัมพันธ์ทางใจกันมานาน ทั้งการร่วมงานทางธุรกิจ และทางด้านการเมืองกันมานาน  ส่วนรุ่นลูกที่มาบริหารงานต่อจากพ่อ ก็คงต้องอาศัยบารมีของพ่ออยู่บ้างในดำเนินธุรกิจภายในประเทศ ส่วนตัวเองก็ได้ไปสร้างบารมีใหม่โดยเน้นไปในแนวธุรกิจต่างประเทศ

ดังนั้น หากรวมเอาบารมีของพ่อ - ลูกตระกูลโพธารามิก ทั้งสองคนมาเสริมกันก็ยิ่งทำให้มีความเป็นไปได้ว่า AIS อาจจะเทคฯ JAS ก็ได้

อย่างไรแล้ว คงจะต้องจับตาดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคมนี้ ว่าทาง JAS และ True จะออกมาแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนจะเกิดการผลิกโผอะไรอีกหรือไม่ รวมถึงหุ้นสื่อสารไทยที่ดิ่งตกอย่างน่ากลัวในช่วงที่มีการประมูลคลื่น 900 ว่าจะแรงดันให้มีราคาสูงขึ้นหรือไม่หลังจากจบการประมูลไปแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่