ซีซาร์นำทัพโรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 200,000 คน

.

มีการขุดค้นพบสนามรบที่ Julius Caesar
ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ Germanics 2 เผ่า
คาดว่ามีคนตายราว 200,000 คน
ในเขต Brabant ที่เป็นสนามรบ
ที่เมือง Kessel ใน Netherlands
Nico Roymans นักโบราณคดี
VU University ใน Amsterdam
ระบุว่ามีพยานหลักฐานจากอาวุธ/กระดูก
ฝังอยู่ในพื้นที่ขุดค้นทางโบราณคดี
ที่บริเวณแม่น้ำ Waal กับ Meuse
สถานที่เกิดสงครามนองเลือด
.
.

.
กระดูกที่ขุดค้นพบในสนามรบ
© http://goo.gl/c6ryZH
.
.

Nico Roymans ได้รายงานผลการขุดค้นกับสื่อมวลชน
ที่ Allard Pierson Museum ใน Amsterdam
" มีการขุดค้นพบ กระดูก ดาบ หัวหอก หมวกนักรบ
พยานหลักฐานที่มีการตรวจสอบควบคู่กับ
ข้อมูลประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยา
จากหลักฐานดังกล่าวบ่งชี้ได้ชัดว่า
พื้นที่แห่งนี้มีเผ่าพันธุ์มนุษย์ถูกสังหารจำนวนมาก
ในช่วงราว ๆ 1 ปีก่อนคริสตศักราช
จากการสำรวจด้วย Radiocarbon "
.
.

.
กระโหลกศีรษะสตรีที่ถูกสังหาร
โดยกองทัพ Caesar 
©  http://goo.gl/c6ryZH
.
.

ในระหว่างการขุดค้นขากรรไกร/ฟันของคน
พบตะขอเข็มขัดของชาว Germanics
ในช่วงยุคเหล็กตอนปลายกับเศษซากอาวุธ
ทั้งยังพบกระโหลกศีรษะสตรีวัยรุ่น
ที่มีรูบนหน้าผากเหมือนถูกอาวุธแหลมคมเจาะเข้าไปที่หน้าผาก

Caesar ได้เขียนบรรยายอย่างยืดยาว
เกี่ยวกับชัยชนะเหนือชนเผ่า Tencteri
กับชนเผ่า Usipetes ใน Book IV
ชื่อ Commentarii de Bello Gallico
หรือ The Gallic Wars ระบุว่าเหตุการณ์นี้
เกิดขี้นในปี 55 ก่อนคริสตศักราช
ที่รู้จักกันล่าสุดว่าสงครามบนแผ่นดิน Dutch
ชนเผ่าทั้งสองถูกขับไล่ให้ถอยร่นออกจากพื้นที่ทำกิน
จากพื้นที่ทางด้านตะวันออกของลุ่มแม่น้ำ Rhine
โดยชนเผ่า Germanic Suebi
.
.

.
กระดูกขากรรไกร/ฟัน ที่พบในหลุม
ขุดค้นโบราณคดี © http://goo.gl/c6ryZH
.
.

Caesar เขียนว่า ชนเผ่า Tencteri กับ Usipetes
มีผู้คนราว 400,000 กว่าคนถูกขับไล่ออกมา
จากดินแดนด้านตะวันออกของแม่น้ำ Rhine
โดยชนเผ่า Germanics Suebi
ในช่วงตอนปลายฤดูหนาวในปีนั้น
ชนเผ่าทั้งสองนี้ได้หลบหนีมาถึงปากแม่น้ำ Rhine
แล้วเผชิญหน้ากับการต่อต้านจากชนเผ่า Ubii ในพื้นที่

ในฤดูใบไม้ผลิ ทั้งสองชนเผ่าได้เสนอ
ขอลี้ภัย/ขอความคุ้มครองจาก Caesar
โดยจะยินยอมยกกองทัพให้อยู่ภายใต้การนำทัพของ Caesar
เพื่อแย่งชิงดินแดนของชนเผ่า Ubii
กลับมาเป็นของทั้งสองชนเผ่า
แล้วทั้งสองชนเผ่าจะยอมเป็นเมืองขึ้นโรมัน
แต่ Caesar ปฏิเสธข้อเสนอนี้
เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นของชนเผ่า Germanic Ubii อีกชนเผ่าหนึ่ง
ที่มีปัญหาสู้รบแย่งชิงดินแดนกับชนเผ่า Germanic Suebi อยู่แล้ว

Caesar สั่งให้กองทัพจำนวน 8 กองทัพกับทหารม้าโจมตีทันที
เหยื่อที่ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มีราว 200,000 คน
ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ๆ ตามประมาณการนักโบราณคดี

ตามหนังสือรายงานของ Caesar
Caesar ได้ยื่นเงื่อนไขให้ชนเผ่า Tencteri กับ Usipetes
ยอมจำนนและขึ้นกับชนเผ่า Ubii
ที่กำลังทำสงครามอยู่กับชนเผ่า Suebi
แต่เมื่อทั้งสองชนเผ่าขอเวลาพักรบสามวัน
และพิจารณาว่าจะยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวหรือไม่

Caesar จึงสั่งให้กองทัพโจมตีทั้งสองชนเผ่าทันที
ด้วยการใช้กองทัพกับทหารม้าล้อมรอบชนเผ่า Tencteri กับ Usipetes
(Usipetes นักขี่ม้าฝีมือดี Tencteri ผู้ซื่อตรง)
ก่อนเข้าโจมตีตามยุทธการของโรมัน
ด้วยการใช้กองทัพบุกเข้าไปก่อน
ตามด้วยทหารม้าวิ่งอ้อมไปโจมตีตามหลัง

ในหนังสือ Gallic Wars เล่มที่ 4 4-15
Caesar ได้คุยโวโอ้อวดไว้ในรายงานว่า
พวก The Germans ได้ยินเสียงร้องโหยหวนมาจากทางด้านหลัง
นั่นคือ ลูกเมียของพวกมันกำลังถูกฆ่าตาย
พวกมันโยนอาวุธทิ้งแล้ววิ่งหนีออกจากค่ายเลย
เมื่อพวกมันหลบหนีมาถึงแม่น้ำ Meuse กับ Rhine
ที่ไหลมาบรรจบพบกัน
พวกมันก็พบว่าหมดทางสู้แล้ว
พวกมันจำนวนมากถูกสังหารทิ้งท้นที
อีกจำนวนหนึ่งจมน้ำตายในแม่น้ำ
ด้วยความตื่นตระหนกและอ่อนล้า
จากกระแสน้ำที่ไหลอย่างเชี่ยวกราก
ทหารของเรากลับมาอย่างปลอดภัยทุกคน
Caesar De Bello Gallico เล่มที่ 4 14-15
.
.

.
แบบจำลองหมวกนักรบในยุคกลาง
ศตรวรรษที่ 1 BC © V http://goo.gl/c6ryZH
.
.

" ทั้งชนเผ่า Tencteri กับ Usipetes
ขอเวลา 3 วันพักรบเพื่อพิจารณาข้อเสนอของ Caesar
แต่ Caesar แม่ทัพและรัฐบุรุษโรม
ปฎิเสธข้อเสนอทั้งหมด พร้อมกับสั่งให้กองทัพ
บุกเข้าโจมตีทั้งสองเผ่าทันทีอย่างโหดร้ายทารุณ
ดังพยานหลักฐานทางโบราณคดีที่ขุดค้นพบในสถานที่แห่งนี้
น่าจะเป็นประจักษ์พยานถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้เป็นอย่างดี "
นักโบราณคดี Nico Roymans กล่าวสรุปรายงานการขุดค้น
.
.

.
แผนที่บริเวณขุดค้น ©  http://goo.gl/c6ryZH
.
.

Caesar กับกองทัพยังได้ข้ามแม่น้ำ Rhine
เพื่อค้นหาและไล่ล่าฆ่าผู้ที่รอดตายและหนีไปได้
บางคนหลบหนีลี้ภัยไปอยู่กับเผ่า Sugambri
Caesar ระบุว่าได้ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน
ในการเผาทำลายหมู่บ้านต่าง ๆ
และเก็บเกี่ยวพืชผลไว้เป็นเสบียงกองทัพ
ส่วนที่เก็บเกี่ยวไม่ได้ก็ให้เผาทิ้งทั้งหมด
(พวกนักรบมงโกลก็ทำแบบนี้เช่นกัน)

ในการเผชิญหน้ากับชนเผ่าที่ 4 เผ่า Eburones
ที่หาญกล้ารบพุ่งกับกองทัพโรมัน
Caesar ไล่ล่าสังหารชนเผ่านี้ทั้งหมด
ในหนังสือของ Caesar ได้บรรยายว่า

พวกนักรบผู้ชาย Eburones จำนวนมาก
จะต้องถูกฆ่าทิ้งให้หมดสิ้นทั้งชนเผ่า
เพื่อเป็นการลงโทษอาชญากรรมที่พวกมันทำขึ้นมา
และตอนนี้ทุกภาคส่วนของดินแดน Eburones
ถูกกวาดล้างไปจนหมดสิ้นแล้ว
พร้อมกับลบชื่อพวกมันออกจากประวัติศาสตร์

(อิหร่านก็เคยประกาศว่าจะลบชื่อ
อิสราเอลออกจากแผนที่โลกเช่นกัน)

อย่างไรก็ตามยังมีชนเผ่า Sugambri
ที่ยังกระด้างกระเดื่องสู้รบกับกองทัพโรม
ในช่วง 17 ปีก่อนคริสตศักราช
หลังจากทศวรรษของการฆ่าสังหารอย่างเลือดเย็น
โรมได้เนรเทศชนเผ่า Sugambri จำนวน 40,000 คน
ให้อพยพไปอยู่ทางด้านตะวันตกของแม่น้ำ Rhine

50 ปีต่อ ระหว่างที่โรมทำสงครามที่ Wales ตอนใต้
ตามบันทึกของ Tacitus ระบุว่า
" ยังมีผู้ต่อต้านและกระด้างกระเดื่องที่นำทัพโดย Silures
ซึ่งยังโกรธแค้นจากการที่ถูกเนรเทศขับไล่
ออกมาจากดินแดนเดิมของพวกมัน
ตามคำบอกเล่าของแม่ทัพโรม
ด้วยการนำชนเผ่า Sugambri เข้าโจมตีโรม
แล้วหนีไปอยู่กับพวก Gauls
ชื่อของมัน Silures จะต้องถูกลบหายไป "
แต่การตายของแม่ทัพโรม
ทำให้ Silures รอดตายจากการไล่ล่าสังหาร
.
.

.
ดาบที่ขุดได้ที่ Kessel © http://goo.gl/Kze1jn
.
.

ตั้งแต่ปี 1975
ดาบเหล็ก หมวกนักรบ หัวหอก เข็มขัด และ
เศษชิ้นส่วนโลหะเหล็กหลายอย่างในยุคเหล็ก
ถูกขุดค้นพบจำนวนมากในเขต Brabant เมือง Kessel
เป็นการยืนยันว่าสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้
เป็นที่ Caesar มีชัยชนะเหนือพวก Gauls ในยุคนั้น

นักโบราณคดี Nico Roymans ระบุว่า
" จากบันทึกการรบของ Caesar
คาดว่า Caesar อาจจะไม่ได้ตั้งใจ
ที่จะทำลายล้างเผ่าพันธุ์ Germanic

แต่แน่นอนมันก็รับรู้อยู่แล้วว่า
ยุทธการนี้มีผลทางพฤตินัยอย่างแน่นอนคือ
การทำลายล้างชนเผ่าเหล่านี้ลงจำนวนหนึ่ง

นี่คือเหตุผลอย่างหนึ่งในรายงานการรบของ Caesar
(ที่บันทึกอย่างไร้ยางอาย/พวกหน้าด้านใจดำอย่างแรง)
ในการให้รายละเอียดเกี่ยวกับการฆ่าฟันอย่างโหดร้าย
กับพวกชนเผ่า Gallics กับ Germanics
ที่ต่อต้านและกระด้างกระเดื่องกับการพิชิตของ Roman ”

เรียบเรียง/ที่มา

http://goo.gl/c6ryZH
http://goo.gl/Kze1jn
http://goo.gl/4uIsQ9
https://goo.gl/mtFps2
.
.

เรื่องเล่าไร้สาระ

การรบของซีซาร์มีการวิเคราะห์กันว่า
เป็นการรบแบบแบ่งแยกแล้วทำลาย
หรือรบแบบแบ่งแยกแล้วปกครอง
เป็นแบบฉบับการรบที่หลายชาติในยุโรป
เลียนแบบ/เจริญรอยตามกันมาถึงทุกวันนี้

Cesarean คือ การคลอดลูกแบบผ่าเปิดหน้าท้อง
ตามตำนานเล่าว่า ซีซาร์เป็นคนแรกที่คลอดแบบนี้
ส่วนเมืองไทยมีบางครอบครัวจะไปหาหมอดู/หมอผี
ดูดวงชะตาลูกในท้องเพื่อกำหนดวันเวลาคลอดด้วยการผ่าออกมา
จะได้มีฤกษ์ดีมีชัยไม่เป็นกาลกิณีกับตนเอง/ครอบครัว

แต่ฤกษ์วันตายไม่มีคนสนใจจะดู
.
.

ซีซาร์ มีคำประกาศชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ว่า
Veni Vedi Veci ข้ามา ข้าเห็น ข้าชนะ

ตอนที่ซีซาร์ถูกลูกเลี้ยงแทงตายคารัฐสภา
ซีซาร์เงยหน้าขึ้นมาเห็นหน้าลูกเลี้ยงพร้อมด่าว่า Et tu, Brute ?
มึxด้วยหรือ ไอ้บรุตุส
ชื่อนี้เลยไม่ค่อยมีใครนิยมนำมาตั้งชื่อลูก ชื่อจริง ชื่อเล่น
พอ ๆ กับชื่อ Judas Hitler วันทอง พิมพิลาไลย กากี ...ทอง

การตายของซีซาร์มีการฆ่าล้างโคตร
พวกไพร่/พวกทาสที่ร่วมก่อการ
ส่วนพวกขุนนางหรือชนชั้นสูง
ทางสภาโรมให้ทางเลือกคือ
ให้ฆ่าตัวตายด้วยยาพิษ
หรือให้เอามีดกรีดเส้นเลือดใหญ่
ที่ข้อมือตนเองจนเลือดไหลไม่หยุดแล้วตาย
ทรัพย์สินมรดก ลูกเมียจะได้ไม่ถูกยึด
แต่ถ้าไม่ยอมยังขืนต่อสู้อีกจะถูกฆ่าล้างโคตรทั้งหมด
พร้อมกับยึดทรัพย์สมบัติข้าทาสเป็นของหลวง

จีน ฮ่องเต้จะให้ยาพิษหรือผ้าพันคอ
ให้ฆ่าตัวตายแทนการสังหารหมู่/แบบทรมาน
หรือส่งขันทีนำผ้ามารัดคอให้ตายไปเลย
สำหรับชนชั้นสูง/ราชวงศ์ที่ยังปราณีอยู่
ไม่ลงโทษแบบประหารชีวิตเจ็ดชั่วโคตร

ที่ญี่ปุ่นจะให้ผู้แพ้ลงมือเซ็ปปุกุ/ฮาราคีรีตนเอง
ยิ่งคว้านท้องตนเองตายช้าเท่าใด
ยิ่งแสดงถึงความอดทน/ความกล้าหาญเท่านั้น

เพราะ ชนะ คือ ราชา แพ้ คือ ขี้ข้า

การตายซีซาร์เป็นหัวข้อศึกษาทางการเมืองว่า
การเมืองไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูที่ถาวร
การเมืองไม่มีพ่อแม่ลูก สามีภริยา
ลุงป้าน้าอา เพื่อนสนิทมิตรสหาย
เพื่อนพ้องน้องพี่ สหายศึกร่วมรบ
อาจารย์กับลูกศิษย์ ลูกศิษย์กับอาจารย์
ต่างคนต่างพร้อมจะทรยศ
เพื่อแย่งชิงอำนาจทางการเมืองได้

ทางอินเดียมีในหนังสือ มหาภารตะยุทธ์
พี่ฆ่าน้อง น้องฆ่าพี่ หลานฆ่าอา
ลุงฆ่าหลาน ลูกศิษย์ฆ่าอาจารย์
เพื่อนฆ่าเพื่อน ญาติฆ่าญาติ
ตายกันแบบยกโคตรแทบจะสูญพันธุ์

มีถ้อยคำอมตะที่ปลุกใจให้อรชุนร่วมสู้รบว่า

" รบเถิด อรชุน หากท่านตายในสนามรบ
สวรรค์ยังรอท่านอยู่ ยังเปิดประตูรอผู้ปราชัย
แม้นหากว่าท่านชนะ ความเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้
ทุกพงพื้นปฐพีรอให้ท่านเข้ามาครอบครอง "

©  http://goo.gl/WjAEyZ

ซีซาร์เคยได้คลีโอพัตราเป็นภริยาอีกคน
มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนถูกฆ่าทิ้งในภายหลัง
ต่อมาคลีโอพัตราได้เป็นภริยาของแม่ทัพมาร์ค แอนโทนี่
มีลูกชายลูกสาวฝาแฝดคู่หนึ่งกับลูกสาวคนหนึ่ง
ก่อนที่เรือรบทั้งคู่จะรบแพ้อ็อตตาเวียนจากกรุงโรม
มาร์ค แอนโทนี่ ฆ่าตัวตายด้วยมีดดาบ
ส่วนคลีโอพัตราฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพิษ
แต่บางตำนานว่าพระนางให้งูพิษอียิปต์ฉกตาย
ส่วนลูกทั้งสามคนถูกนำส่งตัวกลับกรุงโรม
โดยภริยาของอ็อตตาเวียนเป็นผู้ดูแล

บางตำนานว่าคลีโอพัตรามีเชื้อสายกรีก-มาซิโดเนีย
เชื้อสายแม่ทัพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์
บางตำนานชาตินิยมท้องถิ่นระบุว่าพระนางมีเชื้อสาย
เป็นพวกอัฟริกันผิวดำนูเบียจากซูดาน
ที่มีร่องรอยว่าน่าจะเป็นพวกยิวผิวดำมาจากเอธิโอเปีย
เคยยึดครองอาณาจักรอียิปต์
ยิวเคยนำเชื้อสายยิวผิวดำกลับประเทศยิว
ภายใต้ปฏิบัติการโมเสส/โซโลมอน

ยิวผิวดำ ปิรามิดที่ถูกลืมในซูดาน

ส่วนคำว่า ซีซาร์ มีข้อสันนิษฐานว่า
มีการนำมาใช้นำหน้าราชันย์
เช่น ซาร์ ชาห์ ปาชา ราชะ ราชา จาย่า

กรุงโรมก่อนแตกชอบจ้างทหารรับจ้าง
ไว้คุ้มครองมหานครกับทำการรบ
ทำให้พ่ายแพ้ในที่สุดกับชนเผ่านอก
เพราะทหารรับจ้างรบเพื่อเงิน รบเพื่อมีชีวิตรอด
ไม่มีใครยอมตายถวายหัวให้นายจ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่