เรื่องวินัยจราจรนี่แหละ เทียบกับสมัยก่อนเอาแค่ย้อนหลังไป6-7ปีก็พอ สมัยนั้นรถก็เยอะรถติดน้อยกว่าปัจจุบันไม่เท่าไหร่
แต่ที่แตกต่างกันชัดๆคือเรื่องมารยาทในการขับรถของคนที่แย่ลงไปมากๆ นักขับรุ่นใหม่"บางคน" มันสักแต่ขับได้
แต่จริงๆคือขับไม่เป็น ไม่รู้กฎจราจรหรือรู้แต่ก็จงใจฝ่าฝืน เมื่อ10ปีที่แล้วไม่ใช่ไม่มีคนที่ฝ่าฝืนกฎนะ มันก็มี
แต่ไม่ได้เยอะขนาดนี้ประมาณร้อยคันจะเจอสักคัน แต่ปัจจุบันเจอง่ายมากสิบคันจะเจอคันนึง
เอาที่เจอง่ายๆเลย
สะพานลอยข้ามแยก - คอสะพานเส้นทึบ เราจะเห็นพวกชอบแทรกชอบปาดบริเวณคอสะพานเยอะมาก
เมื่อก่อนไม่ค่อยมีแต่เดี๋ยวนี้สะพานไหนไม่มีพวกนี้มาจ่อถือว่าเป็นเรื่องแปลก
รถอะไรที่เขาห้ามขึ้นก็แห่กันขึ้นไป มอเตอร์ไซค์ขึ้นไปบางคันก็เจียมตัวพยายามชิดซ้ายที่สุดก็พอหยวนๆ
แต่บางคันขี่ตีคู่หนักสุดก็เรียงหน้ากระดานกันซะงั้น
ตามแยกไฟแดง - พวกเข้าผิดเลนพอเลนนึงได้ไฟเขียวแต่ไปไม่ได้เพราะเจอพวกเข้าผิดเลนมากั๊กไว้
บีบแตรก็ไม่สนเป็นทองไม่รู้ร้อนต้องรอมันได้ไฟเขียวเลนมันมันถึงจะไป แต่เราจะไปก็ไม่ได้แล้วโดนไฟแดงสัส
บางทีก็เจอทางเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดแต่ก็มีพวกจะตรงไปมากั๊กไว้เลี้ยวไม่ได้ต้องรอมันได้ไฟเขียวถึงจะเลี้ยวได้
ข้างหลังรอเลี้ยวติดเป็นขบวน
หน้าห้าง - ถนนสองหรือสามเลน คนมาเที่ยวห้างซ้ายสุดรถรอเข้าห้าง บางทีมันยาวพวกเวรบางคนไม่อยากต่อแถวเลนซ้าย
ออกมาเลนถัดไปแล้วก็ไปปาดหน้าทางเข้า ปาดไม่ได้มันก็จอดรอกั๊กเลนนอกนั่นแหละคนที่ไม่ได้เข้าห้างก็ตรงไปไม่ได้สิหร่าเอ๊ย
ตำรวจกับรปภ.ห้างก็แก้ด้วยการเอากรวยมากั้นเลนซ้ายไว้ก่อนทางเข้าห้าง50เมตร ก็กลายเป็นว่าแมร่งไปเบียดก๊กกันตรงหัวกรวยนั่นแหละ
แทนที่จะสำนึกว่าเขาบีบให้ต่อคิวเข้าห้างนี่กลายเป็นเลื่อนจุดรถติดออกไป50เมตร ไม่ใช่เมืองไทยทำไม่ได้นะครับ
บนทางด่วน - มีปัญหามากเรื่องการใช้ความเร็วที่เหมาะสมบางคันมันคิดว่าเก่ง ขับจี้ขับเร็วขับมุดปาด มุดไปเรื่อยพอพลาดชนกัน
เมิงก็ไม่ต้องไปไหนเลย บางคนกินลมชมวิวเลนขวาคือถ้าไม่รู้ว่าเลนขวามีไว้ทำไมก็อย่าเข้าไปเลยจะดีกว่า
บางทีเจอรถบรรทุกโง่ๆ เลนซ้ายสิบล้อวิ่ง40 เลนกลางบรรทุกหนักน้อยหน่อยแต่ใจร้อนอยากแซงอะวิ่งกลาง50
หัวลากรถพ่วงเครื่องแรงมากทน2เลนซ้ายกับกลางไม่ไหวมั่นใจเครื่องแรงงั้นออกขวาแมร่งเลยวิ่งไป 60
กลายเป็นรถบรรทุกสามคันวิ่งตีแถวหน้ากระดานเหลื่อมๆกันนิดหน่อย ข้างหลังคลานตามกันมายาวเป็นกิโลเมตร
พอหลุดไอ้สามคันนี่ไปได้นี่แมร่งโครตโล่งลงไปนอนเต้นแร๊พได้เลย นี่คือเรื่องจริงบนทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์
ที่คนใช้ประจำต้องเจอแทบทุกวัน
การใช้สัญญาณไฟ - ไฟเลี้ยวเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครเปิดแล้วนึกจะเลี้ยวก็เลี้ยว นึกจะเปลี่ยนเลนก็โฉบเข้าเลย
ข้างหลังเบรคกันตัวโก่ง ดังนั้นอย่าแปลกใจทำไมสถิติรถเฉี่ยวชน5ปีหลังสุดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ไฟตัดหมอกหน้าและหลังไม่มีหมอกแต่เปิดหาหอกทำไมก็ไม่รู้ บางคันไม่แสบตาเท่าไหร่แต่บางคันนี่โครตทิ่มตาเลย
ไฟซีน่อนเถื่อนก็ติดกันจังทิ่มตารถสวนมันก็ไม่สน มันหาเหตุผลควายๆมาอ้างได้เรื่อยๆ
บางคันดีหน่อยครอบโปรเจคเตอร์กดแสงไม่ให้ฟุ้งก็โอเคดี แต่บางคันครอบลูกแก้วจีนแดงแสงแมร่งพุ่งทิ่มตากว่าเดิม
ไหล่ทางและฟุตบาท - มอเตอร์ไซค์ยึดครองไปแล้ว ทั้งย้อนศร ทั้งแย่งทางคนเดิน ด้วยข้ออ้างเดิมๆว่าใครๆก็ทำ
ตำรวจยังทำเลย สิ้นหวังแล้วเพื่อนเอ๊ย
ขับรถไปทำอย่างอื่นไป - บางคันขับไปคุยโทรศัพท์ไปยังพอทน บางคันหนักกว่าขับไปจิ้มโทรศัพท์ไป ตาไม่มองถนน
ส่ายไปส่ายมาบางทีบนทางด่วนยังกล้าทำ เมื่อวันก่อนเจอแบบโหดสัสขับช้าๆคร่อมเลนขวากับเลนกลางบนทางด่วน
คันที่ตามหลังมาจะแซงก็แซงไม่ได้บีบแตรกันมันก็ไม่หลบแถมส่ายเป็นช่วงๆ พอดีได้จังหวะแซงไปได้แอบเหลือบไปดู
โห แม่สาวน้อย มือซ้ายถือพวงมาลัย ในมือขวามีโทรศัพท์กำลังจิ้มๆอยู่แถมในอ้อมกอดแขนขวามีตุ๊กตาลูกเทพ
เอาที่เธอสบายใจเลย เพราะถนนเมืองไทยแมร่งคนดีๆเริ่มอยู่ยากแล้ว