บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม
ในครั้งที่แล้วผมได้อธิบายถึงจังหวะของการเข้าซื้อหุ้นภายใต้เขตปลอดภัยของการซื้อขาย (Safety zone) ที่เราได้กำหนดขึ้นมา ซึ่งจะอยู่ในจังหวะที่ RSI = 40 , RSI = 50 และ RSI = 60 ตามลำดับ
ท่านสามารถติดตามอ่านบทความก่อนหน้าได้จาก facebook หรือ blog ของผมได้ครับ
ในบทความนี้เราจะมาว่ากันต่อครับ ว่าเราจะใช้สัญญาณการเคลื่อนตัวของ RSI เป็นตัวจับสัญญาณการซื้อขายได้อย่างไร โดยจะเน้นไปที่จังหวะของการ “ขาย” ภายใต้เขต Safety zone ที่เราได้กำหนดขึ้นมา
จากภาพด้านบนเมื่อเส้นสัญญาณ RSI ที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่เหนือเขต Safety zone กลับเปลี่ยนทิศทางปักหัวต่ำลงมาจนเข้าสู่เขต Safety zone ก็ให้ท่านทำการขายหุ้นที่ได้ซื้อไว้ เราจะมาไล่ดูกันไปเป็นจุดๆนะครับ และเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ผมจะอ้างอิงน้ำหนักการลงทุน (ซื้อ) ด้วยปริมาณการซื้อดังนี้ครับ
ซื้อ 20% เมื่อ RSI = 40
ซื้อ 50% เมื่อ RSI = 50
ซื้อ 30% เมื่อ RSI = 60
และจากภาพด้านบนเราจะทำการซื้อขายตามจุดต่างๆดังนี้ครับ
จุดที่ 1 : เมื่อเส้น RSI เคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่า 60 ลักษณะการขายอาจเป็นไปได้ 2 กรณี คือ
1.1 ขาย 30% (RSI = 60)
1.2 ขาย 80% (RSI = 60 จำนวน 30% และ RSI = 50 จำนวน 50%) หากประเมินแล้วว่าเส้น RSI น่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่ำกว่า 50
จุดที่ 2 : เมื่อเส้น RSI เคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่า 50 ลักษณะการขายอาจเป็นไปได้ 2 กรณี คือ
2.1 ขายเพิ่มอีก 50% (RSI = 50) หากจุดที่ 1 ขายแค่ 30% (ขาย RSI = 60 เท่านั้น)
2.2 ขายเพิ่มอีก 70% (RSI = 50 จำนวน 50% และ RSI = 40 จำนวน 20%) หากประเมินแล้วว่าเส้น RSI น่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่ำกว่า 40
จุดที่ 3 : เมื่อเส้น RSI กลับตัวขึ้นมามากกว่า 50 ก็ให้ท่านทำการซื้อกลับ ซึ่งอาจเป็นไปได้ 2 กรณี คือ
3.1 ซื้อเพิ่มอีก 50% (RSI = 50) หากยังไม่ได้ขายหุ้นที่เคยซื้อไว้เมื่อครั้งที่ RSI = 40
3.2 ซื้อเพิ่มอีก 70% (RSI = 50 จำนวน 50% และ RSI = 40 จำนวน 20%) หากได้ทำการขายหุ้นที่เคยซื้อไว้เมื่อครั้งที่ RSI = 40 ไปแล้ว
จุดที่ 4 : เมื่อเส้น RSI เคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่า 50 ลักษณะการขายอาจเป็นไปได้ 2 กรณี คือ
4.1 ขายเพิ่มอีก 50% (RSI = 50) หากจุดที่ 3 ซื้อเพิ่มเพียง 50%
4.2 ขายเพิ่มอีก 70% (RSI = 50 จำนวน 50% และ RSI = 40 จำนวน 20%) หากประเมินแล้วว่าเส้น RSI น่ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่ำกว่า 40
จุดที่ 5 : เมื่อเส้น RSI เคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่า 40 ขาย 20% ที่เหลือทั้งหมด (หากยังไม่ได้ทำการขายในจุดที่ 4)
และเมื่อนำจังหวะการซื้อและจังหวะการขายมารวมกัน จะได้จังหวะการซื้อขายตามภาพด้านล่างนี้
สิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านต้องปฏิบัติตามให้ได้นั่นก็คือการมีวินัยในการซื้อขายอย่างเคร่งครัด!! เมื่อถึงจังหวะซื้อก็ต้องซื้อและเมื่อถึงจังหวะขายก็ต้องขาย จะต้องมีวินัยในการซื้อขายครับจึงจะประสบความสำเร็จ และในครั้งหน้าเราจะมาว่าเรื่อง RSI นี้กันต่อครับ
ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตาม หากไม่รังเกียจกรุณาช่วยกด Like facebook หรือช่วยแชร์ ส่งต่อสิ่งดีๆเหล่านี้ให้กับสังคมด้วยนะครับ และขอเชิญมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ..สังคมเล็กๆที่อบอุ่น เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆคืนให้กับสังคมต่อไป.
บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม
จับสัญญาณซื้อขายด้วย RSI ตอนที่ 5 : โดย คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม
ในครั้งที่แล้วผมได้อธิบายถึงจังหวะของการเข้าซื้อหุ้นภายใต้เขตปลอดภัยของการซื้อขาย (Safety zone) ที่เราได้กำหนดขึ้นมา ซึ่งจะอยู่ในจังหวะที่ RSI = 40 , RSI = 50 และ RSI = 60 ตามลำดับ
ท่านสามารถติดตามอ่านบทความก่อนหน้าได้จาก facebook หรือ blog ของผมได้ครับ
ในบทความนี้เราจะมาว่ากันต่อครับ ว่าเราจะใช้สัญญาณการเคลื่อนตัวของ RSI เป็นตัวจับสัญญาณการซื้อขายได้อย่างไร โดยจะเน้นไปที่จังหวะของการ “ขาย” ภายใต้เขต Safety zone ที่เราได้กำหนดขึ้นมา
จากภาพด้านบนเมื่อเส้นสัญญาณ RSI ที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่เหนือเขต Safety zone กลับเปลี่ยนทิศทางปักหัวต่ำลงมาจนเข้าสู่เขต Safety zone ก็ให้ท่านทำการขายหุ้นที่ได้ซื้อไว้ เราจะมาไล่ดูกันไปเป็นจุดๆนะครับ และเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ผมจะอ้างอิงน้ำหนักการลงทุน (ซื้อ) ด้วยปริมาณการซื้อดังนี้ครับ
ซื้อ 20% เมื่อ RSI = 40
ซื้อ 50% เมื่อ RSI = 50
ซื้อ 30% เมื่อ RSI = 60
และจากภาพด้านบนเราจะทำการซื้อขายตามจุดต่างๆดังนี้ครับ
จุดที่ 1 : เมื่อเส้น RSI เคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่า 60 ลักษณะการขายอาจเป็นไปได้ 2 กรณี คือ
1.1 ขาย 30% (RSI = 60)
1.2 ขาย 80% (RSI = 60 จำนวน 30% และ RSI = 50 จำนวน 50%) หากประเมินแล้วว่าเส้น RSI น่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่ำกว่า 50
จุดที่ 2 : เมื่อเส้น RSI เคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่า 50 ลักษณะการขายอาจเป็นไปได้ 2 กรณี คือ
2.1 ขายเพิ่มอีก 50% (RSI = 50) หากจุดที่ 1 ขายแค่ 30% (ขาย RSI = 60 เท่านั้น)
2.2 ขายเพิ่มอีก 70% (RSI = 50 จำนวน 50% และ RSI = 40 จำนวน 20%) หากประเมินแล้วว่าเส้น RSI น่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่ำกว่า 40
จุดที่ 3 : เมื่อเส้น RSI กลับตัวขึ้นมามากกว่า 50 ก็ให้ท่านทำการซื้อกลับ ซึ่งอาจเป็นไปได้ 2 กรณี คือ
3.1 ซื้อเพิ่มอีก 50% (RSI = 50) หากยังไม่ได้ขายหุ้นที่เคยซื้อไว้เมื่อครั้งที่ RSI = 40
3.2 ซื้อเพิ่มอีก 70% (RSI = 50 จำนวน 50% และ RSI = 40 จำนวน 20%) หากได้ทำการขายหุ้นที่เคยซื้อไว้เมื่อครั้งที่ RSI = 40 ไปแล้ว
จุดที่ 4 : เมื่อเส้น RSI เคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่า 50 ลักษณะการขายอาจเป็นไปได้ 2 กรณี คือ
4.1 ขายเพิ่มอีก 50% (RSI = 50) หากจุดที่ 3 ซื้อเพิ่มเพียง 50%
4.2 ขายเพิ่มอีก 70% (RSI = 50 จำนวน 50% และ RSI = 40 จำนวน 20%) หากประเมินแล้วว่าเส้น RSI น่ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่ำกว่า 40
จุดที่ 5 : เมื่อเส้น RSI เคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่า 40 ขาย 20% ที่เหลือทั้งหมด (หากยังไม่ได้ทำการขายในจุดที่ 4)
และเมื่อนำจังหวะการซื้อและจังหวะการขายมารวมกัน จะได้จังหวะการซื้อขายตามภาพด้านล่างนี้
สิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านต้องปฏิบัติตามให้ได้นั่นก็คือการมีวินัยในการซื้อขายอย่างเคร่งครัด!! เมื่อถึงจังหวะซื้อก็ต้องซื้อและเมื่อถึงจังหวะขายก็ต้องขาย จะต้องมีวินัยในการซื้อขายครับจึงจะประสบความสำเร็จ และในครั้งหน้าเราจะมาว่าเรื่อง RSI นี้กันต่อครับ
ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตาม หากไม่รังเกียจกรุณาช่วยกด Like facebook หรือช่วยแชร์ ส่งต่อสิ่งดีๆเหล่านี้ให้กับสังคมด้วยนะครับ และขอเชิญมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ..สังคมเล็กๆที่อบอุ่น เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆคืนให้กับสังคมต่อไป.
บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม