
ในฐานะที่เคยแอบอ่านหนังสือสตาร์วอร์สในชั่วโมงคณิตศาสตร์เป็นประจำ และไปเช่าวิดีโอเทปมาดูจนนับครั้งไม่ถ้วน การได้ดูการกลับมาของ EPISODE VII ไม่แตกต่างการกลับมาพบเจอเพื่อนเก่า ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มให้เสมอ ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านเลยไปแค่ไหน ความรู้สึกมันไม่เคยเก่าเลย
หนังภาคนี้กลับมาโดยผู้กำกับ J.J. Abrams ผู้ปลุกชีพ STAR TREK ให้กลับมาติดลมบน เข้ากับยุคกับสมัย และ หากินไปได้อีกนาน ซึ่งทีมอำนวยการสร้าง STAR WARS ก็คงอยากให้ออกมาตามแนวนั้น
หนังภาคนี้เลยยึดแนวการนำเสนอแบบ STARWARS EPISODE IV : A NEW HOPE เป็นต้นแบบ ซึ่งการวางโครงเรื่องแบบนี้นอกจากจะไปต่อได้เป็นไตรภาคแล้ว ยังมีช่องว่างให้ย้อนกลับมาเล่าเรื่องช่วงเวลาก่อนกำเนิดตัวละครใน Generation ปัจจุบันได้อีก ซึ่งไม่ได้ต่างกันเลยกับการนำเสนอลุ๊ค สกายวอคเกอร์ ใน EPISODE IV เพียงแต่เปลี่ยนมาเป็น เรย์ ซึ่งรับบทโดย Daisy Ridleyในภาคนี้
[CR] ไปดูแล้วมารีวิว : STAR WARS : THE FORCE AWAKENS (SPOIL)
ในฐานะที่เคยแอบอ่านหนังสือสตาร์วอร์สในชั่วโมงคณิตศาสตร์เป็นประจำ และไปเช่าวิดีโอเทปมาดูจนนับครั้งไม่ถ้วน การได้ดูการกลับมาของ EPISODE VII ไม่แตกต่างการกลับมาพบเจอเพื่อนเก่า ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มให้เสมอ ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านเลยไปแค่ไหน ความรู้สึกมันไม่เคยเก่าเลย
หนังภาคนี้กลับมาโดยผู้กำกับ J.J. Abrams ผู้ปลุกชีพ STAR TREK ให้กลับมาติดลมบน เข้ากับยุคกับสมัย และ หากินไปได้อีกนาน ซึ่งทีมอำนวยการสร้าง STAR WARS ก็คงอยากให้ออกมาตามแนวนั้น
หนังภาคนี้เลยยึดแนวการนำเสนอแบบ STARWARS EPISODE IV : A NEW HOPE เป็นต้นแบบ ซึ่งการวางโครงเรื่องแบบนี้นอกจากจะไปต่อได้เป็นไตรภาคแล้ว ยังมีช่องว่างให้ย้อนกลับมาเล่าเรื่องช่วงเวลาก่อนกำเนิดตัวละครใน Generation ปัจจุบันได้อีก ซึ่งไม่ได้ต่างกันเลยกับการนำเสนอลุ๊ค สกายวอคเกอร์ ใน EPISODE IV เพียงแต่เปลี่ยนมาเป็น เรย์ ซึ่งรับบทโดย Daisy Ridleyในภาคนี้