ความรู้เบื้องต้น จนถึง กลางๆ สำหรับผ้าดิบ (denim ยีนส์)

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หรือแฟน และ พ่อ แม่หรือ ผู้ปกครอง ทุกท่านะครับ
เอาหละ ครับเข้าเรื่องกันเลย เนื่องด้วยหลายคนในช่วง ปีนี้
ได้ มา มรู้จักกับยีนส์ผ้า ดิบ มา บ้าง ก็คือยีนส์ที่แข็งๆ นั้นแหละ แล้วทำไม
ลูกๆหรือ แฟน ของเราจึงบอกว่าห้ามซัก ห้ามยุ่ง ใส่นานมากกว่าจะซัก
ห้ามลงเครื่องซัก ผ้าทำไมต้องใส่ให้เฟด แบบนี้ถึงจะสวย
ผ้ายีนส์ น้ำหนัก จัดปลายขายังไงดี โดนฝนแล้วเป็นอะไรไหม แช่ทำความสอาดยีนส์ต้องทำยังไง
ซักยีนส์ต้องทำยังไง
ทำไม เค้าต้องใส่ แต่ชุดเดิมๆ ไม่เปลี่ยนซักที
กระทู้นี้จะแบ่งเป็น
Part นะครับ ถ้ารู้แล้วก็ข้ามไปก็ได้ แต่ อ่านเพิ่มเติมก็ได้นะครับ
PART 1 ทำไมถึงห้ามซักกางเกงยีนส์ก่อน 6เดือน
PART 2 ทรง ของกางเกงมีอะไรบ้าง แล้ว เราจะต้อง เลือกทรงไหน
PART 3 ผ้ายีนส์ Oz คืออะไร
PART 4 ใส่ยีนส์ไปนานๆ แล้ว กลิ่นแรง หรือ เหนียวขา
PART 5 ผ้า unsanforized และsanforizedคืออะไร
PART 6 แช่ยีนส์ ยังไงดีครับแล้วต้องแช่ตอนไหนครับ
PART 7 อยากเฟดเทพเหมือนคนอื่นๆต้องทำไงบ้าง
PART 8 ปัจจัยที่ทำให้เป้า แตกไว หรือ ยีนส์ขาดก่อน 6เดือน
ถ้าสงสัย อันนี้เป็น facebook ส่วนตัวของผมครับถามกันมาได้เลยฮะ
https://www.facebook.com/dtmr.vach
https://www.facebook.com/DenimSiam/?fref=ts

Part 1 ทำไม ถึงห้ามซักยีนส์ ผ้าดิบก่อนเวลาอันควร
ถ้าย้อนกลับไปในสมัยปี ค.ศ.1860 ช่างตัดเสื้อชื่อ นายจาคอบ เดวิส (Jacob Davis) จากรัฐเนวาดาได้ตอกหมุดตามมุมกระเป๋ากางเกงของคนงานเหมือง เพื่อให้บริเวณนั้นที่มักขาดเสมอแข็งแรงขึ้น สเตราส์นำวิธีการตอกหมุดมาใช้กับกางเกงเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าหนาของเขาและตั้งชื่อว่า “ลีวาย” (Levi’s) ในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ.1873 สเตราส์ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรขึ้น ถือเป็นวันกำเนิดกางเกงยีนส์ลีวายที่นิยมใช้ทั่วโลกขณะนี้ นายlevies ได้คิดค้นยีนส์ขึ้นมาเพื่อให้ชาวเหมือง หรือ ผู้ที่ต้องใช้แรงงาน ใส่ กันเพื่อป้องกันเศษหิน หรือ ป้องกันร่างกาย นั้นเอง ซี่งตอนแรกก็ไม่ได้ทำสี
ยีนส์หรอก ตอนแรกที่ทำทำมาจากผ้าใบเรือ
http://www.pantown.com/board.php?id=37136&area=4&name=board4&topic=24&action=view
ประวัติแบบเต็มๆ
ที่มาทำสียีนส์หรือสีที่เรียกว่า (indigo)เพราะการ บ่มเพาะ ใบชนิดนี้ของเป็นระยะ เวลาหนึ่ง ทำให้ได้สีน้ำเงินที่เข็มหรืออ่อนตามแต่ผ็ย้อมจะต้องการเลย
ยีนส์เมื่มีความแข็ง อยู่ในตัว เวลาเราใส่จะเกิด ริ้วรอย การยับ ตรง หลังเข่า หรือ ตรงหน้าขาและเป้า ซึ่งรอยยับแต่ละตันั้น เรียกได้ว่ามีตัวเดียวในโลกเลยเพราะ สรีระของคนเราทุกคน ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น รอยยับที่ออกมาไม่มีทางที่จ้ะเหมือนกัน 100 %
และ ยีนส์ที่แข็งๆ จ้ะมี การย้อม สี indigo ลงไปในเส้นใยของ ผ้า ซึ่งแต่ละรุ่นของกางเกงนั้นก็จะมีการย้อมที่ไม่เหมือนกัน
บางรุ่น 10รอบ บางรุ่น 20รอบ เทคนิคการย้อมก็จะไม่เหมือนกัน
เวลาใส่ไปนานๆ เสียดสี กัน ตรงรอยยับ ก็จะสีตก สิ้งนั้น เรียกว่า (FADE) หรือที่หลายคนอยากให้เฟดมาเวลาใส่ยีนส์ไปนานๆ เพราะกว่าที่สีมันจะตกได้ มันจะต้องผ่านการใส่ ถึง6เดือน แต่มันก็มีวิธีที่จะทำให้ เราใส่ได้นานโดย กางเกงยีนส์ของเรา ไม่เหม็นและเชื้อโรคไม่เยอะ เดี่ยวจะ อธิบายๆไว้ใน Part 4 นะครับ
ถ้า เราเอายีนส์ไปซัก สีที่ย้อม มา มันจะค่อยๆ ตก ลงจนเป็นสีขาวครับ คือในที่นี้จะซีดลงทั้งตัว
ถ้ารอยยับ ตรงหลังเข่าไม่ขมด้วยแล้ว จะสีตกไปพร้อมกัน ทั้งตัวเลย เรียกได้ว่า เป็นอารมณ์ของ USA levies ที่เก่าๆ สีซีดๆ นั้นคือซักบ่อยครับ
Part 2 เลือกทรงกางเกงยังไง
http://www.pigerworks.com/webboard/index.php?topic=169.0 <<<
เข้าดูอันนี้ประกอบนะครับ
ขอยึด แบรน์ หมูเสือ มาเป็นทรงทางเลือก ให้กับ ทุกท่านนะครับ
เพราะ คิดว่าแบรน์นี้น่าจะเผป็นตัวเลือก ที่ ครบที่สุด ของ การมีทรงให้เลือก
No.3 , No.4 for women , No.4
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823283444312&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
ก็ทรง นี้จะเหมาะ สำหรับ คนที่ตนขา เล้ก หรือ ชอบเดฟ แบบรัด ค่อนข้างกระชับ ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะบอกว่า ชอบโชว์ สัดส่วนของตัว เอง ซึ้ง จริงๆ คนที่ ต้น ขาใหญ่สามารถใส่ได้ไหม ขอตอบว่า ได้แต่ จะ ทำให้ขาเราเหมือนน่องไก่ ข้างบน อวบๆ ข้างล่าง เล็กๆ
ผ้าที่ ใช้ทำทรงนี้ ส่วนมากจะใช้น้ำหนัก ไม่มาก และไม่ได้มีความหนา ของเนื้อ ผ้า มาก
เพราะ ทรงเล็กขนาดนี้ เวลานั้ง จะต้องมีรอยยับ ถ้าใช้ ผ้าที่หนามากเกินไป จะทำให้ผู้ใส่เกิดอาการบาดเจ็บ หรือเลือดไม่ลงขา หรือ เกิดรอย ไหม้ ๆ เพราะผ้าที่หนาเกินไป เสียดสีที่ หลังเข่าหรือเอวได้ ครับ
ทรงพวกนี้ในแบรน์ต่างๆ ได้แก่
Nudie thin fin nudie high kai nudie tape ted ironheart 777 ironheartดpin3dc >> จะเป็นผ้ายืดซะส่วนใหญ่
Indigoskin skinny
รูปตัวอย่างกรณีที่เอากางเกงทรงกระบอกเล็ก ผ้า Cotton 100% มาลดไซส์ลงไปเยอะๆเพื่อจะให้ได้ทรงแบบ Skinny
Cr .milanstar
No.5S , No.5 , No.6L
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823243444316&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
ทรง 5 นี้ เป็นกระบอก ตรงครับ เหมาะกับคนที่ต้นขาใหญ่ๆ คนที่ชอบใช่บูส หรือ แต่งตัวเป็นวินเทจ ขาอาจจะไม่กองมาก หรือพับขา 1-2 ทบ เพื่อโชวริม ก็ได้
ส่วน 5s จะเป็นกระบอกเล็กครับ ซึ้ง จะต่างกับ 5 ตรงที่ ทุกส่วนจะแคบกว่า 0.25-0.5
ทรงนี้คนไทยชอบครับ เกือบจะเดฟ แต่ว่า กำลังดี
ที่มีขายแล้ว Hit กัน TFH05 PINani7 pinxhs 666
ส่วน 6 L นี้ปลายขาจะค่อนข้าง กว้าง เพื่อ เหมาะสำหรับ คนใส่บูสโดย เฉพาะเลยครับ
ส่วนใหญ่จะใช้รหัส L นะ ที่เห็นๆ อยู่
No.6 , No.7 , No.8
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823263444314&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
เป็นกระบอก ใหญ่ สำหรับ คนที่ชอบแต่ง แบบนี้ ซึ่ง ผมว่ามันไม่เหมือนใคร
ถ้าคุณกล้าที่จะแตกต่าง ต้องเอาให้สุด แค่มีความสุขกับการสวมใส่ ก็ พอแล้วครับ
Part 3 วันนี้ เรามาพูด ถึง จำนวน oz ของผ้ากัน
หลายๆท่าน น่าจะเคยได้ยินมาบ้าง
หลายท่านสงสัย oz เยอะจะดีหรอ
ผมคิดว่าเป็นเอกลักษณ์ของผ้าแต่ละชนิด อยู่ที่เราชอบแบบไหนมากกว่า
oz มันวัด จากอะไร
การวัดง่ายก็คือ
ตัดผ้ายีนส์ขนาด 90X90 เซนติเมตร มาชั่งหน่วยเป็นกรัม
พอได้น้ำหนักเป็นกรัมแล้วก็หารด้วย 28.35 ครับ จะได้น้ำหนักผ้ายีนส์หน่วยเป็นออนซ์แล้วครับ
ซึ่งทางผู้ผลิตจะวัดมาให้นะครับ
ส่วนถ้าใครอยาก ดูแล้วรู้เลย อันนี้ต้องไปจับยรนส์บ่อยๆ
Oz เยอะ กับ Oz น้อยต่างกันยังไง
Oz น้อยจะใส่สบาย กว่า Oz เยอะ ผมไม่ได้บอกว่าอันไหนดีกว่านะครับ อยู่ที่แนวทางที่คนชอบ ozน้อยส่วนใหญ่ 10-13 จะผสมผ้สยืด ทำให้เรา สามารถลด size ได้ 1-2 sizeขึ้นอยู่กับ เรา. แต่มันก็จะทำให้เป้ากางเ ขาดได้ง่ายเช่นกัน เพราะ เราเสียดสีมันมากๆ อยากให้มันเดฟขนาดไหน
ร่องรอยเฟดที่ได้ จะเป็นลักษณะถี่ๆ เหมือน เบียดๆ กะน เพราะมันอยุ่ชิดขาเรามาก
(การผสมผ้า ที่เป็นผ้ายืดส่วนใหญ่จะทำ ใน ช่วย Oz น้อยๆ ทั้งหมดแต่ ส่วนน้อยที่ Oz น้อยแต่ Cotton 100% ก็มีนะครับ )
Oz เยอะ 14-18 เป็นทั้วไปที่จะทำ cotton 100% เป็นผ้าเพียวๆ แต่การผลิตนั้นก็ยังแยกต่อไปอีกว่า ผ้าแบบนี้จะทอแน่น หรือทอหลวม หรือใช้เส้นใยที่ใส่แลัวสบายตัวขึ้น นุ่มขึ้น การปั้นด้ายขึ้นมา ลักษณะเฟดที่ได้ จะเป็นช่องห่างๆ ขึ้นอยู่กับความนิ่มของผ้า และ ทรงด้วย ยิ่งกระบอกใหญ่ ยิ่งเป็นรังผึ้ง น้อยๆ ผ้าในช่วย Oz นี้ เป็นที่นิยม ที่สุดเพราะไม่ บางและไม่หนาจนเกินไป และการสวมใส่สบาย เหมาะกับเมืองร้อน อย่างประเทศไทย
Oz เยอะมากๆ 19-32 พวกนี้ถ้าใส่ในไทย ก็จะร้อนหน่อย เหมาะสำหรับ คนที่ทำงานลุย แต่ผมชอบ นะ ด้วยเฟดและการอยู่ทรงของกางเกง ขับมอไซก็ปลอกภัย มีตัวช่วยsave ไว้อีกระดับหนึ่ง ลักษณะ เฟดพวกนี้จะเป็นเส้นใหญ่ๆคม มีช่องรังผึ้งกว้าง และไม่ค่อยขาดตรงเป้า ยกเว้นคนที่เดินขาเบียดกันหรือเจ้าเนื้อ และคนที่เหงื่อออกเยอะ อาจจะเป็นสีฟ้าได้ๆ และเป้าขาดก่อนวัยอันควรได้
มีไม่กี่แบรน์ที่ทำozหนาได้ๆ เพราะ ถ้าเรานึกถึงก่รเย็บยีน จะใช้ เป็นเครื่องจักรวินเทจ ยิ่งหนามาก เข็มก็ต้องใหญ่ ด้ายก็จะใหญ่ต่ม แทกกิ้ง หูกางเกฃ การห่อ โพิงข้างใน การประกบ ต้องใช้คนดันเครื่องจักรซึ้ง ถ้าไม่ได้โมเครื่องจักรมา ก็ใช้ยากมากๆครับ
ในรูป จะเรียงเป็น
1-fade 10-13oz
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823220110985&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
2- fade 14-18oz
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823203444320&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
3-fade 19-32oz
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823210110986&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
ความชัด อยุ่ที่ตัวบุคคลใส่ เป็นแนวทางเฉยๆนะครับ และอย่า ลืม สรีระของแต่ละท่าน มีผลต่อการเฟดทั้งสิ้น
อยากใส่ ให้เฟด เร็วไม่ยากครับ ก็แค่ ใส่อย่างต่ำแค่วันละ 24-8 =12 ชม
ยิ่งขยับเยอะ ยิ่งเฟดไว
เฟด คือการเสียด สี ยิ่งเหงื่อออก เยอะ ยิ่งมา
อดทนเข้าไว้ และจะได้พบกับสิ่งที่ คุ้มค่าการรอคอยครับ 555
Part 4 กางเกงเหม็น หรือ กลิ่น แรง กลิ่นเหงื่อ เต็มทำไงดีครับ
เรามาเริ่มทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมกางเกงเราถึงมีกลิ่นเหม็น
เราใส่กันปกติ เหงื่อ ออก คราบ ฝุ่นละออง และการสะสม
ทำให้ตัวกางเกง เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
วิธี แก้ มีได้หลายแบบ
1 แช่ตู่เย็นช่องฟิต >>>> (พับกางเกงในถุงซิบ แล้วปิด ฝาถุงในสนิท)
วิธีนี้ทำให้แบคทีเรีย หยุดการจะเรริญเติบโต หรือตายในอุณภูมิต่ำ
แต่ต้องซีนถุงซิบล้อคด้วยนะครับ ไม่งั้น กางเกงยีนส์ของท่านอาจจะชื้นได้
2 ตากพัดลม >>>>
(อันนี้จะทำให้เหงื่อ ไม่สะสมและ เป้ากางเกง ไม่เปื่อยง่าย อาจช่วยลดกลิ่นได้บ้าง )
ระยะเวลาก็ 2-3 ชม หรือ จะตากไว้ทั้งคือก็ได้ครับ
3 ฉีดน้ำยาดับกลิ่น และฆ่าเชื้อโรค >>>> วิธีนี้ แนะนำให้ฉีดทั้งสองด้าน และก่อนฉีด สบัดๆ
กางเกงยีนส์ของท่าน ให้ฝุ่นออก ไปสะก่อน หรือ ตบๆ เอาก้ได้ครับ
หาซือ้ได้ตาม ห้าง 7-11 หรือ แบรนืที่ขาย น้ำยาแบบนี้ได้ทั่วไปครับ
มาฉีดด้านนอกก่อน แล้วตากพัดลม ถ้าใส่ แล้วยังเหนียว อยู่ฉีดด้านในซำ้อีกรอบ
ฉีดอัด ตรงระหว่าง หลังเข่า หน้าขา เป้า ได้ทั้งตัว แต่ใช้ชุ่มพอหมาดๆนะครับ
4 ตากแดด >>>> วิธีนี้หลาย คนใช่ในการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งจริงๆไม่ผิดครับฃ
เพียงแต่ ธรรมชาติของสีที่ย้อมมา หรือ Indigo ไม่ชอบแดด จัดๆ ถ้าตากแดดที่แรงมากๆ
อาจทำให้สีด่างขึ้นด้าย และเส้นใยฝ้ายที่ พันกันอยู่เป็นเกลียวๆ อาจจะถูกทำลายนจากความร้อน
EX ตาก ตอน 11.00 ที่ แดด แรงมากๆ ( ไม่ควรครับ )
แนะนำ แดดตอนเช้า หรือ ตากแค่ลมอ่อนๆ พอครับ
5 วิธีนี้ผมใช้แล้ว>>>> รู้สึกเห็นผลที่ สุด คือการใช้หลายวิธีรวมกันครับ
นั้นก็คือ กลับมา จากการลุยมาทั้งวัน ผมจะ ถอดกางเกงยีนส์ตากพัดลมไว้ 2ชม เบอร์ 3
พัดลมหน้า 16 นิ้ว เสร็จแล้ว ผมจะ ฉีด น้ำยาดีบกลิ่น ทั้ง ด้านนอกกางเกง และด้านในกางเกง
ให้ฉุ่มบริเวณที่ เหงื่อออก เยอะ เช่น เป้า หลังเข่า หน้าเข่า
แล้ว ตากไว้ในที่แดดอ่อนๆ 2 ชม หรือที่ร่ม และก็เก็บครับ (ตากแบบ กลับด้านกางเกงข้างในออก)
เพิ่มเติม ถ้าทำทุกวิธีแล้ว กางเกง เหนียว อยู่ หรอืเหม็นอยู่ก็แช่ ก็ได้ครับ
คำถาม : แล้วจะดูยังไง ว่า กางเกงผมควรจะต้องทำความสอาดแล้ว
ถ้าลอง ขยำกางเกง ใหม่ดู จะพบว่าผ้าที่เราขยำนั้นคืนตัวอยู่
แต่ถ้าเป็นกางเกงที่เราใส่ลุยมาแล้ว ถ้าขยำแล้วไม่คืนรูป
นั้นแหละครับ ควรจะซักหรือแช่ ได้แล้ว
รูป ตัวอย่าง การดับกลิ่นนน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823186777655&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823300110977&set=a.1265823153444325.1073741867
ความรู้ยีนส์ เบื้องต้น เฟด สำหรับคนเล่นกางเกงยีนส์ และพ่อ แม่ แฟน เพื่อน
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หรือแฟน และ พ่อ แม่หรือ ผู้ปกครอง ทุกท่านะครับ
เอาหละ ครับเข้าเรื่องกันเลย เนื่องด้วยหลายคนในช่วง ปีนี้
ได้ มา มรู้จักกับยีนส์ผ้า ดิบ มา บ้าง ก็คือยีนส์ที่แข็งๆ นั้นแหละ แล้วทำไม
ลูกๆหรือ แฟน ของเราจึงบอกว่าห้ามซัก ห้ามยุ่ง ใส่นานมากกว่าจะซัก
ห้ามลงเครื่องซัก ผ้าทำไมต้องใส่ให้เฟด แบบนี้ถึงจะสวย
ผ้ายีนส์ น้ำหนัก จัดปลายขายังไงดี โดนฝนแล้วเป็นอะไรไหม แช่ทำความสอาดยีนส์ต้องทำยังไง
ซักยีนส์ต้องทำยังไง
ทำไม เค้าต้องใส่ แต่ชุดเดิมๆ ไม่เปลี่ยนซักที
กระทู้นี้จะแบ่งเป็น Part นะครับ ถ้ารู้แล้วก็ข้ามไปก็ได้ แต่ อ่านเพิ่มเติมก็ได้นะครับ
PART 1 ทำไมถึงห้ามซักกางเกงยีนส์ก่อน 6เดือน
PART 2 ทรง ของกางเกงมีอะไรบ้าง แล้ว เราจะต้อง เลือกทรงไหน
PART 3 ผ้ายีนส์ Oz คืออะไร
PART 4 ใส่ยีนส์ไปนานๆ แล้ว กลิ่นแรง หรือ เหนียวขา
PART 5 ผ้า unsanforized และsanforizedคืออะไร
PART 6 แช่ยีนส์ ยังไงดีครับแล้วต้องแช่ตอนไหนครับ
PART 7 อยากเฟดเทพเหมือนคนอื่นๆต้องทำไงบ้าง
PART 8 ปัจจัยที่ทำให้เป้า แตกไว หรือ ยีนส์ขาดก่อน 6เดือน
ถ้าสงสัย อันนี้เป็น facebook ส่วนตัวของผมครับถามกันมาได้เลยฮะ
https://www.facebook.com/dtmr.vach
https://www.facebook.com/DenimSiam/?fref=ts
Part 1 ทำไม ถึงห้ามซักยีนส์ ผ้าดิบก่อนเวลาอันควร
ถ้าย้อนกลับไปในสมัยปี ค.ศ.1860 ช่างตัดเสื้อชื่อ นายจาคอบ เดวิส (Jacob Davis) จากรัฐเนวาดาได้ตอกหมุดตามมุมกระเป๋ากางเกงของคนงานเหมือง เพื่อให้บริเวณนั้นที่มักขาดเสมอแข็งแรงขึ้น สเตราส์นำวิธีการตอกหมุดมาใช้กับกางเกงเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าหนาของเขาและตั้งชื่อว่า “ลีวาย” (Levi’s) ในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ.1873 สเตราส์ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรขึ้น ถือเป็นวันกำเนิดกางเกงยีนส์ลีวายที่นิยมใช้ทั่วโลกขณะนี้ นายlevies ได้คิดค้นยีนส์ขึ้นมาเพื่อให้ชาวเหมือง หรือ ผู้ที่ต้องใช้แรงงาน ใส่ กันเพื่อป้องกันเศษหิน หรือ ป้องกันร่างกาย นั้นเอง ซี่งตอนแรกก็ไม่ได้ทำสี
ยีนส์หรอก ตอนแรกที่ทำทำมาจากผ้าใบเรือ
http://www.pantown.com/board.php?id=37136&area=4&name=board4&topic=24&action=view
ประวัติแบบเต็มๆ
ที่มาทำสียีนส์หรือสีที่เรียกว่า (indigo)เพราะการ บ่มเพาะ ใบชนิดนี้ของเป็นระยะ เวลาหนึ่ง ทำให้ได้สีน้ำเงินที่เข็มหรืออ่อนตามแต่ผ็ย้อมจะต้องการเลย
ยีนส์เมื่มีความแข็ง อยู่ในตัว เวลาเราใส่จะเกิด ริ้วรอย การยับ ตรง หลังเข่า หรือ ตรงหน้าขาและเป้า ซึ่งรอยยับแต่ละตันั้น เรียกได้ว่ามีตัวเดียวในโลกเลยเพราะ สรีระของคนเราทุกคน ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น รอยยับที่ออกมาไม่มีทางที่จ้ะเหมือนกัน 100 %
และ ยีนส์ที่แข็งๆ จ้ะมี การย้อม สี indigo ลงไปในเส้นใยของ ผ้า ซึ่งแต่ละรุ่นของกางเกงนั้นก็จะมีการย้อมที่ไม่เหมือนกัน
บางรุ่น 10รอบ บางรุ่น 20รอบ เทคนิคการย้อมก็จะไม่เหมือนกัน
เวลาใส่ไปนานๆ เสียดสี กัน ตรงรอยยับ ก็จะสีตก สิ้งนั้น เรียกว่า (FADE) หรือที่หลายคนอยากให้เฟดมาเวลาใส่ยีนส์ไปนานๆ เพราะกว่าที่สีมันจะตกได้ มันจะต้องผ่านการใส่ ถึง6เดือน แต่มันก็มีวิธีที่จะทำให้ เราใส่ได้นานโดย กางเกงยีนส์ของเรา ไม่เหม็นและเชื้อโรคไม่เยอะ เดี่ยวจะ อธิบายๆไว้ใน Part 4 นะครับ
ถ้า เราเอายีนส์ไปซัก สีที่ย้อม มา มันจะค่อยๆ ตก ลงจนเป็นสีขาวครับ คือในที่นี้จะซีดลงทั้งตัว
ถ้ารอยยับ ตรงหลังเข่าไม่ขมด้วยแล้ว จะสีตกไปพร้อมกัน ทั้งตัวเลย เรียกได้ว่า เป็นอารมณ์ของ USA levies ที่เก่าๆ สีซีดๆ นั้นคือซักบ่อยครับ
Part 2 เลือกทรงกางเกงยังไง
http://www.pigerworks.com/webboard/index.php?topic=169.0 <<<
เข้าดูอันนี้ประกอบนะครับ
ขอยึด แบรน์ หมูเสือ มาเป็นทรงทางเลือก ให้กับ ทุกท่านนะครับ
เพราะ คิดว่าแบรน์นี้น่าจะเผป็นตัวเลือก ที่ ครบที่สุด ของ การมีทรงให้เลือก
No.3 , No.4 for women , No.4
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823283444312&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
ก็ทรง นี้จะเหมาะ สำหรับ คนที่ตนขา เล้ก หรือ ชอบเดฟ แบบรัด ค่อนข้างกระชับ ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะบอกว่า ชอบโชว์ สัดส่วนของตัว เอง ซึ้ง จริงๆ คนที่ ต้น ขาใหญ่สามารถใส่ได้ไหม ขอตอบว่า ได้แต่ จะ ทำให้ขาเราเหมือนน่องไก่ ข้างบน อวบๆ ข้างล่าง เล็กๆ
ผ้าที่ ใช้ทำทรงนี้ ส่วนมากจะใช้น้ำหนัก ไม่มาก และไม่ได้มีความหนา ของเนื้อ ผ้า มาก
เพราะ ทรงเล็กขนาดนี้ เวลานั้ง จะต้องมีรอยยับ ถ้าใช้ ผ้าที่หนามากเกินไป จะทำให้ผู้ใส่เกิดอาการบาดเจ็บ หรือเลือดไม่ลงขา หรือ เกิดรอย ไหม้ ๆ เพราะผ้าที่หนาเกินไป เสียดสีที่ หลังเข่าหรือเอวได้ ครับ
ทรงพวกนี้ในแบรน์ต่างๆ ได้แก่
Nudie thin fin nudie high kai nudie tape ted ironheart 777 ironheartดpin3dc >> จะเป็นผ้ายืดซะส่วนใหญ่
Indigoskin skinny
รูปตัวอย่างกรณีที่เอากางเกงทรงกระบอกเล็ก ผ้า Cotton 100% มาลดไซส์ลงไปเยอะๆเพื่อจะให้ได้ทรงแบบ Skinny
Cr .milanstar
No.5S , No.5 , No.6L
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823243444316&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
ทรง 5 นี้ เป็นกระบอก ตรงครับ เหมาะกับคนที่ต้นขาใหญ่ๆ คนที่ชอบใช่บูส หรือ แต่งตัวเป็นวินเทจ ขาอาจจะไม่กองมาก หรือพับขา 1-2 ทบ เพื่อโชวริม ก็ได้
ส่วน 5s จะเป็นกระบอกเล็กครับ ซึ้ง จะต่างกับ 5 ตรงที่ ทุกส่วนจะแคบกว่า 0.25-0.5
ทรงนี้คนไทยชอบครับ เกือบจะเดฟ แต่ว่า กำลังดี
ที่มีขายแล้ว Hit กัน TFH05 PINani7 pinxhs 666
ส่วน 6 L นี้ปลายขาจะค่อนข้าง กว้าง เพื่อ เหมาะสำหรับ คนใส่บูสโดย เฉพาะเลยครับ
ส่วนใหญ่จะใช้รหัส L นะ ที่เห็นๆ อยู่
No.6 , No.7 , No.8
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823263444314&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
เป็นกระบอก ใหญ่ สำหรับ คนที่ชอบแต่ง แบบนี้ ซึ่ง ผมว่ามันไม่เหมือนใคร
ถ้าคุณกล้าที่จะแตกต่าง ต้องเอาให้สุด แค่มีความสุขกับการสวมใส่ ก็ พอแล้วครับ
Part 3 วันนี้ เรามาพูด ถึง จำนวน oz ของผ้ากัน
หลายๆท่าน น่าจะเคยได้ยินมาบ้าง
หลายท่านสงสัย oz เยอะจะดีหรอ
ผมคิดว่าเป็นเอกลักษณ์ของผ้าแต่ละชนิด อยู่ที่เราชอบแบบไหนมากกว่า
oz มันวัด จากอะไร
การวัดง่ายก็คือ
ตัดผ้ายีนส์ขนาด 90X90 เซนติเมตร มาชั่งหน่วยเป็นกรัม
พอได้น้ำหนักเป็นกรัมแล้วก็หารด้วย 28.35 ครับ จะได้น้ำหนักผ้ายีนส์หน่วยเป็นออนซ์แล้วครับ
ซึ่งทางผู้ผลิตจะวัดมาให้นะครับ
ส่วนถ้าใครอยาก ดูแล้วรู้เลย อันนี้ต้องไปจับยรนส์บ่อยๆ
Oz เยอะ กับ Oz น้อยต่างกันยังไง
Oz น้อยจะใส่สบาย กว่า Oz เยอะ ผมไม่ได้บอกว่าอันไหนดีกว่านะครับ อยู่ที่แนวทางที่คนชอบ ozน้อยส่วนใหญ่ 10-13 จะผสมผ้สยืด ทำให้เรา สามารถลด size ได้ 1-2 sizeขึ้นอยู่กับ เรา. แต่มันก็จะทำให้เป้ากางเ ขาดได้ง่ายเช่นกัน เพราะ เราเสียดสีมันมากๆ อยากให้มันเดฟขนาดไหน
ร่องรอยเฟดที่ได้ จะเป็นลักษณะถี่ๆ เหมือน เบียดๆ กะน เพราะมันอยุ่ชิดขาเรามาก
(การผสมผ้า ที่เป็นผ้ายืดส่วนใหญ่จะทำ ใน ช่วย Oz น้อยๆ ทั้งหมดแต่ ส่วนน้อยที่ Oz น้อยแต่ Cotton 100% ก็มีนะครับ )
Oz เยอะ 14-18 เป็นทั้วไปที่จะทำ cotton 100% เป็นผ้าเพียวๆ แต่การผลิตนั้นก็ยังแยกต่อไปอีกว่า ผ้าแบบนี้จะทอแน่น หรือทอหลวม หรือใช้เส้นใยที่ใส่แลัวสบายตัวขึ้น นุ่มขึ้น การปั้นด้ายขึ้นมา ลักษณะเฟดที่ได้ จะเป็นช่องห่างๆ ขึ้นอยู่กับความนิ่มของผ้า และ ทรงด้วย ยิ่งกระบอกใหญ่ ยิ่งเป็นรังผึ้ง น้อยๆ ผ้าในช่วย Oz นี้ เป็นที่นิยม ที่สุดเพราะไม่ บางและไม่หนาจนเกินไป และการสวมใส่สบาย เหมาะกับเมืองร้อน อย่างประเทศไทย
Oz เยอะมากๆ 19-32 พวกนี้ถ้าใส่ในไทย ก็จะร้อนหน่อย เหมาะสำหรับ คนที่ทำงานลุย แต่ผมชอบ นะ ด้วยเฟดและการอยู่ทรงของกางเกง ขับมอไซก็ปลอกภัย มีตัวช่วยsave ไว้อีกระดับหนึ่ง ลักษณะ เฟดพวกนี้จะเป็นเส้นใหญ่ๆคม มีช่องรังผึ้งกว้าง และไม่ค่อยขาดตรงเป้า ยกเว้นคนที่เดินขาเบียดกันหรือเจ้าเนื้อ และคนที่เหงื่อออกเยอะ อาจจะเป็นสีฟ้าได้ๆ และเป้าขาดก่อนวัยอันควรได้
มีไม่กี่แบรน์ที่ทำozหนาได้ๆ เพราะ ถ้าเรานึกถึงก่รเย็บยีน จะใช้ เป็นเครื่องจักรวินเทจ ยิ่งหนามาก เข็มก็ต้องใหญ่ ด้ายก็จะใหญ่ต่ม แทกกิ้ง หูกางเกฃ การห่อ โพิงข้างใน การประกบ ต้องใช้คนดันเครื่องจักรซึ้ง ถ้าไม่ได้โมเครื่องจักรมา ก็ใช้ยากมากๆครับ
ในรูป จะเรียงเป็น
1-fade 10-13oz
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823220110985&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
2- fade 14-18oz
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823203444320&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
3-fade 19-32oz
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823210110986&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
ความชัด อยุ่ที่ตัวบุคคลใส่ เป็นแนวทางเฉยๆนะครับ และอย่า ลืม สรีระของแต่ละท่าน มีผลต่อการเฟดทั้งสิ้น
อยากใส่ ให้เฟด เร็วไม่ยากครับ ก็แค่ ใส่อย่างต่ำแค่วันละ 24-8 =12 ชม
ยิ่งขยับเยอะ ยิ่งเฟดไว
เฟด คือการเสียด สี ยิ่งเหงื่อออก เยอะ ยิ่งมา
อดทนเข้าไว้ และจะได้พบกับสิ่งที่ คุ้มค่าการรอคอยครับ 555
Part 4 กางเกงเหม็น หรือ กลิ่น แรง กลิ่นเหงื่อ เต็มทำไงดีครับ
เรามาเริ่มทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมกางเกงเราถึงมีกลิ่นเหม็น
เราใส่กันปกติ เหงื่อ ออก คราบ ฝุ่นละออง และการสะสม
ทำให้ตัวกางเกง เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
วิธี แก้ มีได้หลายแบบ
1 แช่ตู่เย็นช่องฟิต >>>> (พับกางเกงในถุงซิบ แล้วปิด ฝาถุงในสนิท)
วิธีนี้ทำให้แบคทีเรีย หยุดการจะเรริญเติบโต หรือตายในอุณภูมิต่ำ
แต่ต้องซีนถุงซิบล้อคด้วยนะครับ ไม่งั้น กางเกงยีนส์ของท่านอาจจะชื้นได้
2 ตากพัดลม >>>>
(อันนี้จะทำให้เหงื่อ ไม่สะสมและ เป้ากางเกง ไม่เปื่อยง่าย อาจช่วยลดกลิ่นได้บ้าง )
ระยะเวลาก็ 2-3 ชม หรือ จะตากไว้ทั้งคือก็ได้ครับ
3 ฉีดน้ำยาดับกลิ่น และฆ่าเชื้อโรค >>>> วิธีนี้ แนะนำให้ฉีดทั้งสองด้าน และก่อนฉีด สบัดๆ
กางเกงยีนส์ของท่าน ให้ฝุ่นออก ไปสะก่อน หรือ ตบๆ เอาก้ได้ครับ
หาซือ้ได้ตาม ห้าง 7-11 หรือ แบรนืที่ขาย น้ำยาแบบนี้ได้ทั่วไปครับ
มาฉีดด้านนอกก่อน แล้วตากพัดลม ถ้าใส่ แล้วยังเหนียว อยู่ฉีดด้านในซำ้อีกรอบ
ฉีดอัด ตรงระหว่าง หลังเข่า หน้าขา เป้า ได้ทั้งตัว แต่ใช้ชุ่มพอหมาดๆนะครับ
4 ตากแดด >>>> วิธีนี้หลาย คนใช่ในการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งจริงๆไม่ผิดครับฃ
เพียงแต่ ธรรมชาติของสีที่ย้อมมา หรือ Indigo ไม่ชอบแดด จัดๆ ถ้าตากแดดที่แรงมากๆ
อาจทำให้สีด่างขึ้นด้าย และเส้นใยฝ้ายที่ พันกันอยู่เป็นเกลียวๆ อาจจะถูกทำลายนจากความร้อน
EX ตาก ตอน 11.00 ที่ แดด แรงมากๆ ( ไม่ควรครับ )
แนะนำ แดดตอนเช้า หรือ ตากแค่ลมอ่อนๆ พอครับ
5 วิธีนี้ผมใช้แล้ว>>>> รู้สึกเห็นผลที่ สุด คือการใช้หลายวิธีรวมกันครับ
นั้นก็คือ กลับมา จากการลุยมาทั้งวัน ผมจะ ถอดกางเกงยีนส์ตากพัดลมไว้ 2ชม เบอร์ 3
พัดลมหน้า 16 นิ้ว เสร็จแล้ว ผมจะ ฉีด น้ำยาดีบกลิ่น ทั้ง ด้านนอกกางเกง และด้านในกางเกง
ให้ฉุ่มบริเวณที่ เหงื่อออก เยอะ เช่น เป้า หลังเข่า หน้าเข่า
แล้ว ตากไว้ในที่แดดอ่อนๆ 2 ชม หรือที่ร่ม และก็เก็บครับ (ตากแบบ กลับด้านกางเกงข้างในออก)
เพิ่มเติม ถ้าทำทุกวิธีแล้ว กางเกง เหนียว อยู่ หรอืเหม็นอยู่ก็แช่ ก็ได้ครับ
คำถาม : แล้วจะดูยังไง ว่า กางเกงผมควรจะต้องทำความสอาดแล้ว
ถ้าลอง ขยำกางเกง ใหม่ดู จะพบว่าผ้าที่เราขยำนั้นคืนตัวอยู่
แต่ถ้าเป็นกางเกงที่เราใส่ลุยมาแล้ว ถ้าขยำแล้วไม่คืนรูป
นั้นแหละครับ ควรจะซักหรือแช่ ได้แล้ว
รูป ตัวอย่าง การดับกลิ่นนน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823186777655&set=a.1265823153444325.1073741867.100000499568907&type=3&theater
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1265823300110977&set=a.1265823153444325.1073741867