Stars War 7 ดูจบปุ๊บ วิพากษ์ปั๊บ (แน่นอน Spoil เต็มที่)


ด้วยความเป็นติ่งตาวอ  ตัวจริงคนนึง ดูEP4 (ภาคแรก) ตั้งแต่ ม.ต้น  เรื่องราวต่างๆในมหากาพย์ลิเกไซไฟนี้ จึงค่อนข้างรู้จักที่มาที่ไปของมันดีในระดับนึง  วันนี้ EP 7 ฉายวันแรก  รีบพุ่งไปโรงหนังด้วยความตื่นเต้น และดีใจ ที่จะได้ดูชีวิตของเหล่าเจไดกับพวกจักรวรรดิที่จองล้างจองผลาญกันต่อ  ถือเป็นการไปดูหนังที่เมเจอร์ เซ็นทรัล อีสท์วิลล์เป็นครั้งแรกด้วย (ขอบอกว่าห้องน้ำสวย น่าปลดทุกข์มาก)

เข้ามาที่ตัวหนังกันเลย  เจ เจ อับรามส์ ผู้กำกับที่ดิสนีย์วางใจให้มายกเครื่องหนังมหากาพย์เรื่องนี้  คงมีอะไรต่อมิอะไรที่อยากเล่า อยากปู ให้คนดูหนังยุคใหม่ ได้เข้าไปซึมซับและติดตาม เรื่องราวในจักรวาลตาวอ  ให้เหมือนกับที่คนยุคแก ได้สัมผัส สมัยยุค 70  ไหนจะต้องปูตัวละครหนุ่มสาวยุคใหม่ ไหนจะต้องเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวละครชุดเก่าที่ข้ามเวลา(ในหนัง)มาหลายสิบปี  ไหนจะต้องตีโจทย์เรื่องฉากตื่นตา ตื่นใจ อีกมากมาย ที่พึงมีตามขนบ หนังระดับบ๊อกออฟฟิศของ ฮอลลีวู้ด ยิ่งดิสนีย์ถึงขนาดวางแผนทำภาคต่อ ภาคแยก อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย ไหนจะสวนสนุกธีมตาวอ ที่กำลังปั้น รับเด็กๆยุคใหม่อีก

หนังมันก็เลยออกมา ค่อนข้างขาดๆเกินๆ สำหรับติ่งตาวออย่างผมอยู่ หลายประเด็น  หนักสุดคือเรื่องความสัมพันธ์ของ ฮาน โซโล  เจ้าหญิงเลอา  และลูกทรพี ไคโลเรน ที่ปูมาเบาบาง จนฉากที่ลูกแทงพ่อเพื่อให้บรรลุด้านมืด มันแผ่วเบาไร้พลัง ไม่สมชื่ออุบัติการแห่งพลังเอาเสียเลย ฉากเปิดตัวลุคสกายวอล์คเกอร์ ที่ยืนซึมกระทือ เหมือนกำลังจะโดดผาตายตอนจบเรื่อง ก็ดูไม่ยิ่งใหญ่ สมกับเป็นอัศวินเจได ที่ใครต่อใครเขาตามหากันให้ควั่ก

ขณะที่ความสดใหม่ของหนัง สำหรับผม ค่อนข้างจะคาดหวังไว้สูงกว่านี้  ฉากแอคชั่นมาครบตามมาตรฐาน ทั้งการขี่ยานไล่ล่า การวิ่งหนีสัตว์ประหลาด การดวลดาบเลเซอร์  แต่กับหนังยุคนี้ แค่นี้ยังไม่พอครับ  หนังที่บิ๊กเนมขนาดนี้
น่าจะมาพร้อมวิช่วลที่น่าตื่นตา ตื่นใจมากกว่านี้อีกหลายเท่า จำความรู้สึกที่เห็นฉาก หยุดกระสุนในเดอะ แมตทริกซ์ ภาคแรกเป็นครั้งแรกได้ไม๊ครับ  หรือฉากแอคชั่นใน The Inception ที่ถูกคิดและดีไซน์มาอย่างแปลก สด และใหม่ ไม่มีครับ แม้แต่การดวลดาบท้ายเรื่องของเรย์กับไคโลเรน ก็ไม่ได้ลุ้นระทึกอะไรเลย

มาถึงส่วนที่ชอบของหนัง คือเรื่องราวของตัวละครหนุ่มสาว รุ่นใหม่ ของเรื่อง ที่มีเสน่ห์ น่าติดตาม และหวังว่าในภาคต่อไป จะขยายที่มาและรายละเอียดของคาแรคเตอร์ที่ (หวังว่า) คงจะซ่อนอยู่ให้น่าติดตามไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นที่มาของเรย์ อัศวินเจไดสาว หรือความเป็นมาของฟินน์ ว่าทำไมถึงกลายเป็นสตรอมทรูเปอร์นอกคอกเพียงคนเดียวตัวร้ายที่ชื่อสโน๊คเป็นใคร  ทำไมถึงหลอกลวง หลานของยอดเจได ให้ไปเข้าด้านมืดได้

สรุปว่างานนี้ ไม่ถึงกับเสียดายเงินครับ ยังมีอะไรดีกว่า EP 2 (ที่ว่ากันว่าแย่ที่สุด) อีกมาก ถือเป็นการเริ่มต้น ยุคใหม่ของตาวอได้ดีพอใช้ และหวังอย่างยิ่งว่าในภาคแปดที่จะฉายในอนาคต จะสนุกกว่านี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่