บทความข้างต้น เป็นรับสั่งของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
วันหนึ่งสมเด็จฯลงเดินตรวจบริเวณวัด ทรงเห็นว่าเจ้าจุด(หมาขี้เรื้อนภายในวัดบวร) หายไป จึงตรัสถามลูกศิษย์ พอลูกศิษย์ทูลตอบว่ามันถูกจับไป พระองค์จึงรับสั่งให้นำมันกลับมา ก็มีคนทูลค้านว่า มันจะทำให้วัดบวรฯ สกปรก ไม่น่าดู ทั้งหมาขี้เรื้อน ทั้งมูลถ่าย
สมเด็จฯท่านก็รับสั่งตอบว่า "หมาขี้เรื้อนน่ารังเกียจ แต่ขี้เรื้อนในใจไม่รังเกียจ"
คำพูดที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง อยากให้ทุกคนน้อมนำคำสอนไปปฏิบัติใช้ในชีวิต ถึงช่วยเหลือมันไม่ได้ ก็อย่าได้คิดร้าย ทำลายกันเลย
หมาขี้เรื้อน น่ารังเกียจแค่เพียงผิวกาย แต่ขี้เรื้อนในใจคน น่ารังเกียจยิ่งกว่า
"หมาขี้เรื้อนน่ารังเกียจ แต่ขี้เรื้อนในใจไม่รังเกียจ"
วันหนึ่งสมเด็จฯลงเดินตรวจบริเวณวัด ทรงเห็นว่าเจ้าจุด(หมาขี้เรื้อนภายในวัดบวร) หายไป จึงตรัสถามลูกศิษย์ พอลูกศิษย์ทูลตอบว่ามันถูกจับไป พระองค์จึงรับสั่งให้นำมันกลับมา ก็มีคนทูลค้านว่า มันจะทำให้วัดบวรฯ สกปรก ไม่น่าดู ทั้งหมาขี้เรื้อน ทั้งมูลถ่าย
สมเด็จฯท่านก็รับสั่งตอบว่า "หมาขี้เรื้อนน่ารังเกียจ แต่ขี้เรื้อนในใจไม่รังเกียจ"
คำพูดที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง อยากให้ทุกคนน้อมนำคำสอนไปปฏิบัติใช้ในชีวิต ถึงช่วยเหลือมันไม่ได้ ก็อย่าได้คิดร้าย ทำลายกันเลย
หมาขี้เรื้อน น่ารังเกียจแค่เพียงผิวกาย แต่ขี้เรื้อนในใจคน น่ารังเกียจยิ่งกว่า