เรื่องนี้เริ่มต้นประมาณ ปี 56 ช่วงนั้น
ตัวผมเองมักจะชอบไปเล่นเกมบ้านเพื่อนอยู่บ่อยๆ ซึ่งทำให้ทุกครั้งที่ไปจะต้องกลับดึกเสมอๆ บอกก่อนเลยว่า บ้านผมเองมีคอมแต่ไม่มีเน็ตให้ใช้ ระยะทางระหว่างบ้านผมกะเพื่อน ก็บ้านผมอยู่แถวปากเกร็ดส่วนเพื่อนผมอยู่ในเมืองทอง วิธีเดินทางก็รถเมล์บ้างรถตู้บ้างตามปกติ
ก็เป็นเหมือนทุกวันครับ ผมออกจากบ้านช่วงเย็นถึงบ้านเพื่อน เล่นเกมตามปกติ ประมาณซัก 5 ทุ่มผมก็เริ่มออกจากบ้านเพื่อน (ผมเดินเอาน่ะ)ครับประมาณซัก10-15นาทีก็ถึงหน้าเมืองทอง ป้ายก่อนถึง ปัญญาภิวัฒน์ ระหว่างที่รอรถตรงป้ายรถเมล์ก็มีผมคนเดียวครับ รออยู่นานประมาณ 30นาที ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีรถเมล์หรือรถตู้ผ่าน ( คือผมคิดว่าน่าจะมีหลงๆมาบ้าง ซักคันตอนนั้นคือมีเงินติดตัวแค่ 20 บาทครับ ) ซักพักก็มีรถตู้สาย อนุสาวรีย์ผ่านก็คนเต็มครับ ไม่จอดป้ายที่ผมยืน ก็รอต่อไปครับ มีรถตู้สายหนึ่งผ่านมาครับ เปิดไฟข้างในสีออกฟ้า (แต่ไม่ใช่ฟ้าแบบทั่วไปครับฟ้าแบบมนๆ) ก็เลยเห็นคนข้างในรถครับ มีประมาณ 5-6คน ก็ ดูแล้วว่างเลยโบกครับ พอรถจอดเปิดประตูปุ๊บ ขึ้นเบาะหน้าที่นั่งด้านหลังคนขับครับ แต่อ้าวข้างในมีแค่ 2 คนเอง อีก 3-4คนที่เห็นไม่เจอครับ ก็ไม่ได้สนใจคิดว่า มันไกลอาจมองไม่ชัดเท่าไร
อธิบายตำแหน่งดังนี้ครับ ผมนั่งหลังคนขับพอดี ถัดจากเบาะที่ผมนั่ง คือ ผู้หญิงวัยรุ่น 2 คน นั่งคู่กัน ไฟสีฟ้าที่ว่านี้ เปิดเฉพาะตรงโซนที่ผมนั่งครับ 2แถวหลังสุดจะมืดเลย
พอขึ้นรถปิดประตู ผมนั่งชิดริมหน้าต่างเลยสบายๆ (ไฟสีฟ้าเปิดอยู่ตลอดน่ะครับ) รถออกตัวครับ คนขับมองผมผ่านกระจกมองหลังครับ รถผ่านป้าย ปัญญาภิวัฒน์ รถเริ่มเคลื่อนตัวช้าลง ซักพัก คนขับเริ่มพูดบางอย่างขึ้นมาครับ
คนขับ : มาวันหลังเหอะน้องวันนี้มืดแล้วมองไม่เห็นหรอก (แต่มองกระจกหลังมาที่ผมตลอด)
ตัวผม : ฮ่ะ.... ผมหรอ
คนขับ : มาวันหลังเถอะเชื่อพี่วันนี้ไม่เห็นหรอก
ตัวผม : เห็นอะไรครับพี่
คนขับ : เชื่อพี่มาวันหลังวันนี้มืดแล้ว
จากนั้นคนขับก็เริ่มสวดอะไรบางอย่าง ฟังไม่รู้เรื่องครับ รถตู้ตอนนี้อยู่ประมาณ เซนทรัลแจ้งวัฒนะ แต่เคลื่อนตัวช้ามาก ระหว่างนี้คนขับก็สวดงืมๆงัมๆ พร้อมกับพูดว่า มาวันหลังๆ กับมืดๆ มองไม่เห็น ซ้ำๆ และทุกครั้งที่พูดแกบอกหน้าผมผ่านกระจกหลังตลอด
ผมก็เริ่มชักจะงงและว่า คือเฮ้ยคุยกะใครหว่า เพราะผมก็เพิ่งขึ้นมายังไม่ได้พูดอะไรเลย บอกเลยครับว่าไม่ได้กลัวอะไรเพราะทุกอย่าง ก็ปกติมาก ยกเว้นคนขับที่ดูเหมือนเมายาหรืออะไรซักอย่าง ผมเริ่มหันไปหาผู้หญิง2คนข้างหลัง แล้วก็ทำหน้าแบบ “ เฮ้ย ทุกคนพี่เค้าเป็นอะไรหว่า รู้สึกเหมือนกันไหม ”
แต่สิ่งที่ผมได้รับคือสีหน้าจากผู้หญิง2คนครับ ประมาณว่า “คุณนั่นและอะไร” คือมองหน้าผมแบบเหมือนผมผิดที่เค้าพูดด้วยแล้วไม่ยอมพูด ( เค้าทำสีหน้าแบบเค้าพูดกะคุณอยู่น่ะประมาณนั้น ) ผมก็เฮ้ยนี่มันแปลกมากล่ะ คือหรือเค้าเป็นแบบนี้มาตลอดทาง แล้วถ้าเป็นแบบนั้นระหว่างที่มาทำไมผู้หญิง 2คน นี้ไม่ลงจากรถล่ะดูอันตรายอย่างกับคนเมายา ( คืองงว่านั่งมาจากไหนเพราะรถตู้สายนี้นี้วิ่งระยะไกลครับ )
ระหว่างนั้นคนขับก็ยังสวดอยู่และพูดเหมือนเดิมตลอดทาง ผมเริ่มงงกับสถานการณ์คือใจนึงก็กลัวว่าน้องผู้หญิง2คนนี้จะเป็นอะไรหรือป่าวอีกอย่างจะลงก็ไม่กล้าเพราะถ้าลงแถวนี้คงกลับบ้านไม่ได้แน่มันไกลกว่าจะถึงบ้านครับ
ระหว่างที่งงอยู่ คนขับก็เริ่มเงียบลงตรงก่อนถึงแถวหมู่บ้านสายลม ผมก็ดีใจครับใกล้จะ ป้าย Big c (ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนเป็นBig c หรือยัง ) พอรถมาถึงป้าย Big c จอดครับ ที่ป้ายปิดไฟมืดไม่มีคนยืนรอรถและไม่มีรถอะไรจอดแถวนั้นเลย แต่คนขับจอดครับ แล้วเปิดกระจกข้างคนขับลง พร้อมตะโกนออกไปครับว่า
“ เอ้าไอ้หนูจะไปไหมนี่ จะไปก็ขึ้นมา “
ผมแบบเฮ้ยใครที่ไหนอะไร ป้ายว่างๆครับ แกตะโกนต่ออีก “ ถ้าไม่ไปจะไปและน่ะ “ (พูดแบบหงุดหงิดๆ)
ผมเห็นถ้าไม่ดีครับ แต่ป้ายหน้าถึงบ้านผมล่ะผมหันไปมอง ผู้หญิง2คนข้างหลัง ประมาณว่า “ ท่าไม่ดีแล้วลงไหมยังไงอะไรแบบนี้ “ แต่ผู้หญิง2คนนั้นก็มองผมแบบสีหน้าสงสัยเหมือนเดิม ผมก็ตัดสินบอกคนขับครับ ป้ายหน้าจอดด้วย
พอเท่านั้นล่ะคนขับจอดตรงป้าย และบอกผมว่า
คนขับ : เอ้า!! ไอ้หนุ่ม ไม่ไปจนถึงหรอ ?
ผม : ถึงไหนครับผมลงป้ายนี้ (สายนี้เข้าปากเกร็ดครับ ผมนึกว่าเค้าถามว่าไม่เข้าปากเกร็ดหรือ)
คนขับ : เฮ้ย!! เอ็งไม่ใช่หรอ เอ้า!!แล้วขึ้นมาทำไม
ผม : ใช่อะไรครับ.... พร้อมกับยื่นตังให้ และยืนงง พร้อมปิดประตูก่อนปิดได้ยินเสียง เอ้าไม่ใช่และขึ้นทำไมแบบหงุดหงิด แล้วขับรถออกตัวเร็วเลยครับ ผมก็ยืนมองรถออกตัวไปครับเห็นในรถ เฮ้ย คนเต็มรถเลย
ก็เล่าเรื่องนี้ให้หลายคนครับว่า คือยังไงกันแน่ ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้
เรื่องเล่าบนรถตู้
ตัวผมเองมักจะชอบไปเล่นเกมบ้านเพื่อนอยู่บ่อยๆ ซึ่งทำให้ทุกครั้งที่ไปจะต้องกลับดึกเสมอๆ บอกก่อนเลยว่า บ้านผมเองมีคอมแต่ไม่มีเน็ตให้ใช้ ระยะทางระหว่างบ้านผมกะเพื่อน ก็บ้านผมอยู่แถวปากเกร็ดส่วนเพื่อนผมอยู่ในเมืองทอง วิธีเดินทางก็รถเมล์บ้างรถตู้บ้างตามปกติ
ก็เป็นเหมือนทุกวันครับ ผมออกจากบ้านช่วงเย็นถึงบ้านเพื่อน เล่นเกมตามปกติ ประมาณซัก 5 ทุ่มผมก็เริ่มออกจากบ้านเพื่อน (ผมเดินเอาน่ะ)ครับประมาณซัก10-15นาทีก็ถึงหน้าเมืองทอง ป้ายก่อนถึง ปัญญาภิวัฒน์ ระหว่างที่รอรถตรงป้ายรถเมล์ก็มีผมคนเดียวครับ รออยู่นานประมาณ 30นาที ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีรถเมล์หรือรถตู้ผ่าน ( คือผมคิดว่าน่าจะมีหลงๆมาบ้าง ซักคันตอนนั้นคือมีเงินติดตัวแค่ 20 บาทครับ ) ซักพักก็มีรถตู้สาย อนุสาวรีย์ผ่านก็คนเต็มครับ ไม่จอดป้ายที่ผมยืน ก็รอต่อไปครับ มีรถตู้สายหนึ่งผ่านมาครับ เปิดไฟข้างในสีออกฟ้า (แต่ไม่ใช่ฟ้าแบบทั่วไปครับฟ้าแบบมนๆ) ก็เลยเห็นคนข้างในรถครับ มีประมาณ 5-6คน ก็ ดูแล้วว่างเลยโบกครับ พอรถจอดเปิดประตูปุ๊บ ขึ้นเบาะหน้าที่นั่งด้านหลังคนขับครับ แต่อ้าวข้างในมีแค่ 2 คนเอง อีก 3-4คนที่เห็นไม่เจอครับ ก็ไม่ได้สนใจคิดว่า มันไกลอาจมองไม่ชัดเท่าไร
อธิบายตำแหน่งดังนี้ครับ ผมนั่งหลังคนขับพอดี ถัดจากเบาะที่ผมนั่ง คือ ผู้หญิงวัยรุ่น 2 คน นั่งคู่กัน ไฟสีฟ้าที่ว่านี้ เปิดเฉพาะตรงโซนที่ผมนั่งครับ 2แถวหลังสุดจะมืดเลย
พอขึ้นรถปิดประตู ผมนั่งชิดริมหน้าต่างเลยสบายๆ (ไฟสีฟ้าเปิดอยู่ตลอดน่ะครับ) รถออกตัวครับ คนขับมองผมผ่านกระจกมองหลังครับ รถผ่านป้าย ปัญญาภิวัฒน์ รถเริ่มเคลื่อนตัวช้าลง ซักพัก คนขับเริ่มพูดบางอย่างขึ้นมาครับ
คนขับ : มาวันหลังเหอะน้องวันนี้มืดแล้วมองไม่เห็นหรอก (แต่มองกระจกหลังมาที่ผมตลอด)
ตัวผม : ฮ่ะ.... ผมหรอ
คนขับ : มาวันหลังเถอะเชื่อพี่วันนี้ไม่เห็นหรอก
ตัวผม : เห็นอะไรครับพี่
คนขับ : เชื่อพี่มาวันหลังวันนี้มืดแล้ว
จากนั้นคนขับก็เริ่มสวดอะไรบางอย่าง ฟังไม่รู้เรื่องครับ รถตู้ตอนนี้อยู่ประมาณ เซนทรัลแจ้งวัฒนะ แต่เคลื่อนตัวช้ามาก ระหว่างนี้คนขับก็สวดงืมๆงัมๆ พร้อมกับพูดว่า มาวันหลังๆ กับมืดๆ มองไม่เห็น ซ้ำๆ และทุกครั้งที่พูดแกบอกหน้าผมผ่านกระจกหลังตลอด
ผมก็เริ่มชักจะงงและว่า คือเฮ้ยคุยกะใครหว่า เพราะผมก็เพิ่งขึ้นมายังไม่ได้พูดอะไรเลย บอกเลยครับว่าไม่ได้กลัวอะไรเพราะทุกอย่าง ก็ปกติมาก ยกเว้นคนขับที่ดูเหมือนเมายาหรืออะไรซักอย่าง ผมเริ่มหันไปหาผู้หญิง2คนข้างหลัง แล้วก็ทำหน้าแบบ “ เฮ้ย ทุกคนพี่เค้าเป็นอะไรหว่า รู้สึกเหมือนกันไหม ”
แต่สิ่งที่ผมได้รับคือสีหน้าจากผู้หญิง2คนครับ ประมาณว่า “คุณนั่นและอะไร” คือมองหน้าผมแบบเหมือนผมผิดที่เค้าพูดด้วยแล้วไม่ยอมพูด ( เค้าทำสีหน้าแบบเค้าพูดกะคุณอยู่น่ะประมาณนั้น ) ผมก็เฮ้ยนี่มันแปลกมากล่ะ คือหรือเค้าเป็นแบบนี้มาตลอดทาง แล้วถ้าเป็นแบบนั้นระหว่างที่มาทำไมผู้หญิง 2คน นี้ไม่ลงจากรถล่ะดูอันตรายอย่างกับคนเมายา ( คืองงว่านั่งมาจากไหนเพราะรถตู้สายนี้นี้วิ่งระยะไกลครับ )
ระหว่างนั้นคนขับก็ยังสวดอยู่และพูดเหมือนเดิมตลอดทาง ผมเริ่มงงกับสถานการณ์คือใจนึงก็กลัวว่าน้องผู้หญิง2คนนี้จะเป็นอะไรหรือป่าวอีกอย่างจะลงก็ไม่กล้าเพราะถ้าลงแถวนี้คงกลับบ้านไม่ได้แน่มันไกลกว่าจะถึงบ้านครับ
ระหว่างที่งงอยู่ คนขับก็เริ่มเงียบลงตรงก่อนถึงแถวหมู่บ้านสายลม ผมก็ดีใจครับใกล้จะ ป้าย Big c (ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนเป็นBig c หรือยัง ) พอรถมาถึงป้าย Big c จอดครับ ที่ป้ายปิดไฟมืดไม่มีคนยืนรอรถและไม่มีรถอะไรจอดแถวนั้นเลย แต่คนขับจอดครับ แล้วเปิดกระจกข้างคนขับลง พร้อมตะโกนออกไปครับว่า
“ เอ้าไอ้หนูจะไปไหมนี่ จะไปก็ขึ้นมา “
ผมแบบเฮ้ยใครที่ไหนอะไร ป้ายว่างๆครับ แกตะโกนต่ออีก “ ถ้าไม่ไปจะไปและน่ะ “ (พูดแบบหงุดหงิดๆ)
ผมเห็นถ้าไม่ดีครับ แต่ป้ายหน้าถึงบ้านผมล่ะผมหันไปมอง ผู้หญิง2คนข้างหลัง ประมาณว่า “ ท่าไม่ดีแล้วลงไหมยังไงอะไรแบบนี้ “ แต่ผู้หญิง2คนนั้นก็มองผมแบบสีหน้าสงสัยเหมือนเดิม ผมก็ตัดสินบอกคนขับครับ ป้ายหน้าจอดด้วย
พอเท่านั้นล่ะคนขับจอดตรงป้าย และบอกผมว่า
คนขับ : เอ้า!! ไอ้หนุ่ม ไม่ไปจนถึงหรอ ?
ผม : ถึงไหนครับผมลงป้ายนี้ (สายนี้เข้าปากเกร็ดครับ ผมนึกว่าเค้าถามว่าไม่เข้าปากเกร็ดหรือ)
คนขับ : เฮ้ย!! เอ็งไม่ใช่หรอ เอ้า!!แล้วขึ้นมาทำไม
ผม : ใช่อะไรครับ.... พร้อมกับยื่นตังให้ และยืนงง พร้อมปิดประตูก่อนปิดได้ยินเสียง เอ้าไม่ใช่และขึ้นทำไมแบบหงุดหงิด แล้วขับรถออกตัวเร็วเลยครับ ผมก็ยืนมองรถออกตัวไปครับเห็นในรถ เฮ้ย คนเต็มรถเลย
ก็เล่าเรื่องนี้ให้หลายคนครับว่า คือยังไงกันแน่ ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้