ก่อนอื่นเลยครับ ต้องขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ ในห้องบลูที่ทำให้ผมได้สืบเสาะหาข้อมูลก่อนการเดินทางในทุกครั้ง ผมเที่ยวแบบสบาย ๆ ไม่เน้นต้องไปให้ทั่ว และต้องไปให้ครบทุกจุดหมายที่ใคร ๆ ก้อต้องไป เลยทำให้ไม่เหนื่อยมากในทุกครั้งที่ไป ผมเน้นเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง สบายบ้าง ลำบากบ้าง ตามแต่ที่มันจำเป็นจะต้องเป็น ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยความชอบล้วน ๆ และไม่คิดว่าจะเที่ยวญี่ปุ่นแค่ครั้ง หรือสองครั้งก้อพอ จึงทำให้ไปในที่ซ้ำ ๆ แบบไม่เบื่อ ลองดูนะครับว่าสิ่งที่ผมพบเจอพอจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่น ๆ บ้างรึป่าว มาแชร์ข้อมูลที่อัพเดทล่าสุดกันนะครับ เพื่อท่านอื่น ๆ จะได้คำตอบ แล้วลุยไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงสิ้นปีนี้ และต่อไปยังปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงกันครับ
- ผมเลือกที่จะบินเข้าที่สนามบินฮาเนดะ เพราะเดินทางเข้าเมืองโตเกียวง่ายที่สุด นั่งรถโมโนเรล ต่อ JR Yamanote หรือจะต่อใต้ดิน สะดวกรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด เต็มที่ไม่น่าจะเกิน 800 เยน
- เลือกที่พักย่าน Ueno ผมว่าสะดวกที่สุดในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเรื่องกิน ร้านอาหารเพียบ อร่อยทุกร้าน, เดินทางสะดวกถ้าจะมาจากฮาเนดะ หรือจะมาจากนาริตะก้อมีรถไฟวิ่งตรงเข้าที่นี่ โรงแรมที่พักมีให้เลือกมากมาย ถูก แพง ตามแต่สะดวก และแหล่งช้อปปิ้ง ไม่ต้องพูดถึง สุโค่ยมาก ๆ
- Sim Card ซิมการ์ดโทรศัพท์ เน้น Data Sim เป็นที่รู้กัน ผมใช้ So Net ของทางโซนี่ เครือข่าย Docomo เน็ทแรง 4G แท้ ๆ โหลด Youtube ดูแก้เซ็ง คุยไลน์ VDO ไม่มีกระตุก ผมเลือกแบบ 3GB เน้น ๆ แพงนิดนึง 5,000 Yen แต่เอาไว้แชร์ Laptop ทำงานด้วย ถือว่าคุ้มค่า อันนี้ซื้อหาได้ที่สนามบินทุกแห่ง แนะนำว่าคันไซ กดจากตู้ราคาไม่มีชาร์จ แต่ที่ ฮาเนดะ และก้อที่ชิโตเสะ ( Hokkaido ) แอบแพง เพราะ Shop Mobile Centre เค้าบวกนิดหน่อย แต่ถ้าลืมซื้อที่สนามบิน ไม่ต้องห่วงครับที่ Bic Camera และที่ Yodobashi มีขาย เยอะแยะมากมาย เลือกเอาที่เราคุ้ม และก้อทำ Registered ไม่ยาก บอกเลยว่าแบบที่จะต้องสั่งซื้อแล้วให้ส่งมา เสียเวลาครับ ลุ้นลำบากคนอื่นให้รอรับของให้ด้วย ผมไม่แนะนำเลยจริง ๆ และก้อสำหรับ Pocket Wifi ก้อตามแต่คนชอบ สะดวกเหมือนกัน อันนี้ก้อแล้วแต่คนถนัดนะครับ ผมชอบแบบซิมของใครของมันมากกว่าครับ
http://www.so-net.ne.jp/prepaid/en/#buy
- ที่พักในโตเกียว หรือในหลาย ๆ เมืองที่ได้ผ่านไป ผมเลือกใช้โรงแรมในเครือ Dormy Inn ของเค้าดีจริง ๆ อุปกรณ์ในห้องครบครัน ครบจริง ๆ อันนี้ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นมาตรฐานเดียวกันของโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือที่ญี่ปุ่นน่าจะเรียกว่า Business Hotel และที่ทำให้ผมหลงรักเครือโรงแรมนี้คือมีออนเซนอยู่ทุกสาขา สำหรับคุณผู้หญิงอาจจะไม่ชิน ไม่ถนัด แต่สำหรับท่านชาย ผมเชื่อว่าชอบทุกคน ผมคนนึงหล่ะครับที่ไม่พลาดไม่ช่วงเช้า ก้อช่วงดึก ที่การแช่น้ำร้อนมันช่างสบาย คลายเมื่อยจริง ๆ ยังไม่จบนะครับสำหรับโรงแรมในเครือนี้ 3 ทุ่ม - 5 ทุ่ม มีราเมนน้ำโชยุร้อน ๆ ให้ทาน อร่อยล้ำมาก ๆ ครับ บอกเลยว่าห้ามดูถูกของฟรีเด็ดขาด แปะลิ้งค์ให้ลองเข้าไปชมครับ
http://www.hotespa.net/dormyinn/en/
- ตกหลุมรักอาหารราคาประหยัดจริง ๆ ครับ พวก Matsuya , Sukiya ,Yoshinoya มันแวะทานได้เรื่อย ๆ ผมไม่แน่ใจว่าทุกร้าน ทุกสาขาเปิด 24 ชั่วโมง รึ
ป่าวนะครับ แต่บอกเลยว่า เนื้อวัว หรือจะเนื้อหมูผัดซ๊อส โป๊ะ ๆ ราดข้าว มันอร่อยสุดติ่งจริง ๆ แถมไข่ออนเซน ต้นหอมซอย สั่งเพิ่มราดหน้าลงไปเพิ่ม
อิ่มนี้ไม่เกิน 600 Yen เป็นเงินไทยไม่เกิน 200 บาท โอเคไม๊ครับ ลองคลิ๊กเข้าไปดูนะครับ
http://www.matsuyafoods.co.jp/english/
http://www.sukiya.jp/
- ร้านอาหารไหน ๆ ก้ออร่อย ผมไม่เรื่องเยอะ ไม่เลือกมาก และถ้าพอมีเวลาตามลายแทงไปร้านอาหารอร่อย ก้อตามไปชิมด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวมือใหม่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ต้องซีเรียสนะครับ ว่าจะไปหาร้านนั้นร้านนี้ไม่เจอ อย่าต้องบังคับตัวเองว่าต้องไปกินร้านนั้นให้ได้ ทานร้านนี้ให้ได้ เชื่อผมครับร้านไหนก้ออร่อย ต้องยอมรับมาตรฐานคนญี่ปุ่นจริง ๆ ว่าเค้าตั้งใจทำอาหารให้ออกมามีคุณภาพมาก ๆ จริง ๆ
- ว่าถึงเรื่องช้อปปิ้ง สำหรับโตเกียว ของฝาก ของจุกจิก ร้านค้าเยอะแยะมากมาย ผมฟันธงเลยครับว่าไปที่ตึกม่วง Takeya ร้านเดียวจบจริง ๆ ถึงแม้ว่าผมจะลองสำรวจเทียบราคากับร้านอื่น ๆ แล้วก้อตาม บางอย่างตึกม่วงก้อแพงกว่านิดหน่อย แต่โดยรวมกับของทั้งหมดที่ซื้อ เพื่อไม่ให้เสียเวลา และสำหรับคนที่มีเวลาน้อย ตึกม่วงคือคำตอบสุดท้ายจริง ๆ ครับ
- โอซาก้า ตามแหล่งท่องเที่ยวย่านนัมบะ Namba และ Dotonbori ซื้อได้หมดแหละครับ ราคาจะต่างกันก้อนิดเดียว ไม่มาก ไม่ต้องเดินย้อนกลับไปให้เสียเวลา เชื่อสิครับ แต่ที่ร้านดองกี้คนเยอะจริง ๆ ผมยอมแพ้ครับ
- ซัปโปโร ผมไปจบที่ร้านดองกี้ครับ ไม่แน่นมาก เน้นไปเดินหลังเที่ยงคืน สบาย ๆ เพราะเปิด 24 ชั่วโมง และก้ออีกจุดนึงที่มีหลังคาคลุม ย่านทานุคิโคจิก้อถือว่าครบ และที่ JR ซัปโปโร อาคารหลักในละแวกนั้น รวมตึก Esta มี Bic Camera ที่ก้อได้ของครบ และยังมีแหล่งราเมนอร่อย ๆ อีกด้วย
- เพิ่มเติมเรื่องอาหารการกินในห้าง ตามชั้นใต้ดิน ของกิน ของทานเล่น อร่อย ๆ เพียบ อันนี้ไม่ต้องคิดมาก ใช้สายตาความชอบส่วนตัว ของใคร ของมันเลือกไปเลย เชื่อว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
- ว่าด้วยเรื่องขนม ของฝาก หากเจอที่ไหน ถ้าชอบก้อจัดไปเลยครับ ผมเทียบราคาในหลาย ๆ แห่ง ต่างกันน้อยมาก ๆ แทบจะไม่มีที่ไหนขายตัดราคากันเลย อันนี้ผมขอชมเชยจริง ๆ ครับ มีจรรยาบรรณในการค้าขายดีมาก ๆ ทำให้คนซื้อเองก้อไม่ต้องคิดมากครับ ว่าจะไปซื้อที่ไหนดี
- ของฝากที่สนามบินได้ไม๊ อันนี้ตอบเลยว่าเยอะอีกเช่นเดียวกัน เผื่อเก็บตก ยัดลงกระเป๋าโหลดไม่ได้แล้ว ก้อมาเน้นแบกขึ้นเครื่องกลับบ้านก้อแล้วกันนะครับ อันนี้ทุกสนามบินจริง ๆ ไม่ต้องห่วง ยืนยันว่ามีครบแทบจะทุกสิ่งที่อยากได้ ฟันธงครับผม
- การทำ Tax Refund ของรับประทาน ขนมของฝากต้องซื้อเกินกว่า 5 พันเยน เครื่องสำอางค์ และของใช้แล้วหมดไป ก้อ 5 พันเยน บางที่รวมกันได้ ก้อมั่วถั่วกันไป อันนี้ไม่ได้ชี้ชัดนะครับ ว่ารวมกันได้ แต่ผมเจอบางที่ก้อหยวน ๆ รวม ๆ กันไป ส่วนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า กระติกน้ำร้อน ของใช้ต่าง ๆ อันนี้ต้องเกิน 1 หมื่นเยนนะครับ ที่ร้านทำลด 8% ให้เลยครับ จ่ายบัตรก้อคืนเป็นเงินสดให้ครับ แต่ถ้าในห้างต้องไปทำที่แผนก Customer Services ครับ ท่านไหนช้อปเยอะ พาสปอร์ตหนาเต๊อะเลยครับ เย็บแม๊กติดเอกสารซะแทบพรุน
- บางร้านค้าเค้าไม่รู้เรื่องการทำคืนภาษี ก้อไม่ต้องไปว่าเค้านะครับ เพราะบางร้านเค้าไม่ได้เข้าร่วมโครงการ เราอยากซื้อของเค้า ก้อยอม ๆ กันไป ผมเห็นพี่ไทยบางคนไปยืนถามซะพนักงานร้านหน้าจ๋อยกันไปเลยครับ
- ไปถีงที่สนามบินทำ Tax กันยังไง ผมบอกตามที่ผมเจอมา 3 ครั้งหลังสุดนะครับ ที่นาริตะ เจ้าหน้าที่ตม. ตรวจลงตรา ผมก้อถามว่าแล้วไอ้ที่ติด ๆ ในพาสปอร์ตผมหล่ะ เค้าก้อทำมือปัด ๆ ไปเรื่อยเปื่อย แนวว่าไม่ต้องสนใจ แต่เผอิญผมเหลือบไปเห็นพนักงานศุลกากรด้านหลัง ก้อเลยขอแว้บไปถาม เค้าก้อบอกว่าฉีก ๆ ใส่ลงตระกร้ามาก้อแล้วกัน สรุปไม่มีการตรวจของ ส่วนที่ฮาเนดะ แสตมป์ลงตราขาออกให้ผม แต่ไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่มาเก็บเอกสารส่วนของ Tax Refund เลย เอาละสิผมชักงง ไม่ได้ ด้วยความอยากรู้ และเราเองก้อไปลุยมาแทบจะทั่ว อะไรยังไงกัน ผมเลยไปถามเจ้าหน้าที่ 2 ท่าน ท่านนึงคือเจ้าหน้าที่ตม. อีกท่านนึงเป็นเจ้าหน้าที่ของสนามบิน พอพูดอังกฤษกันได้ ถือว่าเก่งทีเดียว ทั้ง 2 ท่าน ให้ข้อมูลประมาณว่า เอกสารนี้ร้านค้าทำเอกสารถูกต้อง ส่งเข้าแผนก Tax เรียบร้อยครบถ้วนดี ที่ติดให้กับลูกค้า ก้อเพื่อความถูกต้อง ทางการเองก้อไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะต่างก้อไว้ใจนักท่องเที่ยว เอาเงินตราเข้าประเทศอยู่แล้ว ประเภทที่ว่าคนในประเทศจะทำคืนภาษี เค้าเชื่อใจว่าไม่น่าจะมี ประหนึ่งเขียนเสือให้วัวกลัว นักท่องเที่ยวก้อจะตั้งใจ พยายามถามหาเจ้าหน้าที่เพื่อคืนเอกสาร แล้วก้ออยากจะโชว์สินค้า อันนี้ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ผมว่าอีกไม่นานก้ออาจจะเข้มงวดรึป่าว เราต้องมาดูกันครับ แต่ช่วงนี้และต่อ ๆ ไป ก้อขอให้เราทำตามกฏเกณฑ์ที่ถูกต้องก้อแล้วกันนะครับ
ทั้งหมดที่เขียนแนะนำ เป็นประสบการณ์ที่ผมเจอะเจอมานะครับ ผิดตกตรงไหนไปบ้างก้อขออภัยด้วยนะครับ และถ้าใครมีข้อมูลดี ๆ มาเขียนแบ่งปันกันนะครับ ข้อมูลของผมนี้ขอบันทึกเป็นประสบการณ์ในปี 2015 / 2558 นะครับ ใครเข้ามาอ่านถือว่าอัพเดทที่สุดแล้วครับ
จากประสบการณ์ไปเที่ยวญี่ปุ่น 5 ครั้งใน 3 ปี จึงอยากแชร์ประสบการณ์แบบฟันธงให้กับทุกคนที่กำลังจะไปเที่ยวกันครับ
- ผมเลือกที่จะบินเข้าที่สนามบินฮาเนดะ เพราะเดินทางเข้าเมืองโตเกียวง่ายที่สุด นั่งรถโมโนเรล ต่อ JR Yamanote หรือจะต่อใต้ดิน สะดวกรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด เต็มที่ไม่น่าจะเกิน 800 เยน
- เลือกที่พักย่าน Ueno ผมว่าสะดวกที่สุดในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเรื่องกิน ร้านอาหารเพียบ อร่อยทุกร้าน, เดินทางสะดวกถ้าจะมาจากฮาเนดะ หรือจะมาจากนาริตะก้อมีรถไฟวิ่งตรงเข้าที่นี่ โรงแรมที่พักมีให้เลือกมากมาย ถูก แพง ตามแต่สะดวก และแหล่งช้อปปิ้ง ไม่ต้องพูดถึง สุโค่ยมาก ๆ
- Sim Card ซิมการ์ดโทรศัพท์ เน้น Data Sim เป็นที่รู้กัน ผมใช้ So Net ของทางโซนี่ เครือข่าย Docomo เน็ทแรง 4G แท้ ๆ โหลด Youtube ดูแก้เซ็ง คุยไลน์ VDO ไม่มีกระตุก ผมเลือกแบบ 3GB เน้น ๆ แพงนิดนึง 5,000 Yen แต่เอาไว้แชร์ Laptop ทำงานด้วย ถือว่าคุ้มค่า อันนี้ซื้อหาได้ที่สนามบินทุกแห่ง แนะนำว่าคันไซ กดจากตู้ราคาไม่มีชาร์จ แต่ที่ ฮาเนดะ และก้อที่ชิโตเสะ ( Hokkaido ) แอบแพง เพราะ Shop Mobile Centre เค้าบวกนิดหน่อย แต่ถ้าลืมซื้อที่สนามบิน ไม่ต้องห่วงครับที่ Bic Camera และที่ Yodobashi มีขาย เยอะแยะมากมาย เลือกเอาที่เราคุ้ม และก้อทำ Registered ไม่ยาก บอกเลยว่าแบบที่จะต้องสั่งซื้อแล้วให้ส่งมา เสียเวลาครับ ลุ้นลำบากคนอื่นให้รอรับของให้ด้วย ผมไม่แนะนำเลยจริง ๆ และก้อสำหรับ Pocket Wifi ก้อตามแต่คนชอบ สะดวกเหมือนกัน อันนี้ก้อแล้วแต่คนถนัดนะครับ ผมชอบแบบซิมของใครของมันมากกว่าครับ
http://www.so-net.ne.jp/prepaid/en/#buy
- ที่พักในโตเกียว หรือในหลาย ๆ เมืองที่ได้ผ่านไป ผมเลือกใช้โรงแรมในเครือ Dormy Inn ของเค้าดีจริง ๆ อุปกรณ์ในห้องครบครัน ครบจริง ๆ อันนี้ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นมาตรฐานเดียวกันของโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือที่ญี่ปุ่นน่าจะเรียกว่า Business Hotel และที่ทำให้ผมหลงรักเครือโรงแรมนี้คือมีออนเซนอยู่ทุกสาขา สำหรับคุณผู้หญิงอาจจะไม่ชิน ไม่ถนัด แต่สำหรับท่านชาย ผมเชื่อว่าชอบทุกคน ผมคนนึงหล่ะครับที่ไม่พลาดไม่ช่วงเช้า ก้อช่วงดึก ที่การแช่น้ำร้อนมันช่างสบาย คลายเมื่อยจริง ๆ ยังไม่จบนะครับสำหรับโรงแรมในเครือนี้ 3 ทุ่ม - 5 ทุ่ม มีราเมนน้ำโชยุร้อน ๆ ให้ทาน อร่อยล้ำมาก ๆ ครับ บอกเลยว่าห้ามดูถูกของฟรีเด็ดขาด แปะลิ้งค์ให้ลองเข้าไปชมครับ http://www.hotespa.net/dormyinn/en/
- ตกหลุมรักอาหารราคาประหยัดจริง ๆ ครับ พวก Matsuya , Sukiya ,Yoshinoya มันแวะทานได้เรื่อย ๆ ผมไม่แน่ใจว่าทุกร้าน ทุกสาขาเปิด 24 ชั่วโมง รึ
ป่าวนะครับ แต่บอกเลยว่า เนื้อวัว หรือจะเนื้อหมูผัดซ๊อส โป๊ะ ๆ ราดข้าว มันอร่อยสุดติ่งจริง ๆ แถมไข่ออนเซน ต้นหอมซอย สั่งเพิ่มราดหน้าลงไปเพิ่ม
อิ่มนี้ไม่เกิน 600 Yen เป็นเงินไทยไม่เกิน 200 บาท โอเคไม๊ครับ ลองคลิ๊กเข้าไปดูนะครับ http://www.matsuyafoods.co.jp/english/
http://www.sukiya.jp/
- ร้านอาหารไหน ๆ ก้ออร่อย ผมไม่เรื่องเยอะ ไม่เลือกมาก และถ้าพอมีเวลาตามลายแทงไปร้านอาหารอร่อย ก้อตามไปชิมด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวมือใหม่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ต้องซีเรียสนะครับ ว่าจะไปหาร้านนั้นร้านนี้ไม่เจอ อย่าต้องบังคับตัวเองว่าต้องไปกินร้านนั้นให้ได้ ทานร้านนี้ให้ได้ เชื่อผมครับร้านไหนก้ออร่อย ต้องยอมรับมาตรฐานคนญี่ปุ่นจริง ๆ ว่าเค้าตั้งใจทำอาหารให้ออกมามีคุณภาพมาก ๆ จริง ๆ
- ว่าถึงเรื่องช้อปปิ้ง สำหรับโตเกียว ของฝาก ของจุกจิก ร้านค้าเยอะแยะมากมาย ผมฟันธงเลยครับว่าไปที่ตึกม่วง Takeya ร้านเดียวจบจริง ๆ ถึงแม้ว่าผมจะลองสำรวจเทียบราคากับร้านอื่น ๆ แล้วก้อตาม บางอย่างตึกม่วงก้อแพงกว่านิดหน่อย แต่โดยรวมกับของทั้งหมดที่ซื้อ เพื่อไม่ให้เสียเวลา และสำหรับคนที่มีเวลาน้อย ตึกม่วงคือคำตอบสุดท้ายจริง ๆ ครับ
- โอซาก้า ตามแหล่งท่องเที่ยวย่านนัมบะ Namba และ Dotonbori ซื้อได้หมดแหละครับ ราคาจะต่างกันก้อนิดเดียว ไม่มาก ไม่ต้องเดินย้อนกลับไปให้เสียเวลา เชื่อสิครับ แต่ที่ร้านดองกี้คนเยอะจริง ๆ ผมยอมแพ้ครับ
- ซัปโปโร ผมไปจบที่ร้านดองกี้ครับ ไม่แน่นมาก เน้นไปเดินหลังเที่ยงคืน สบาย ๆ เพราะเปิด 24 ชั่วโมง และก้ออีกจุดนึงที่มีหลังคาคลุม ย่านทานุคิโคจิก้อถือว่าครบ และที่ JR ซัปโปโร อาคารหลักในละแวกนั้น รวมตึก Esta มี Bic Camera ที่ก้อได้ของครบ และยังมีแหล่งราเมนอร่อย ๆ อีกด้วย
- เพิ่มเติมเรื่องอาหารการกินในห้าง ตามชั้นใต้ดิน ของกิน ของทานเล่น อร่อย ๆ เพียบ อันนี้ไม่ต้องคิดมาก ใช้สายตาความชอบส่วนตัว ของใคร ของมันเลือกไปเลย เชื่อว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
- ว่าด้วยเรื่องขนม ของฝาก หากเจอที่ไหน ถ้าชอบก้อจัดไปเลยครับ ผมเทียบราคาในหลาย ๆ แห่ง ต่างกันน้อยมาก ๆ แทบจะไม่มีที่ไหนขายตัดราคากันเลย อันนี้ผมขอชมเชยจริง ๆ ครับ มีจรรยาบรรณในการค้าขายดีมาก ๆ ทำให้คนซื้อเองก้อไม่ต้องคิดมากครับ ว่าจะไปซื้อที่ไหนดี
- ของฝากที่สนามบินได้ไม๊ อันนี้ตอบเลยว่าเยอะอีกเช่นเดียวกัน เผื่อเก็บตก ยัดลงกระเป๋าโหลดไม่ได้แล้ว ก้อมาเน้นแบกขึ้นเครื่องกลับบ้านก้อแล้วกันนะครับ อันนี้ทุกสนามบินจริง ๆ ไม่ต้องห่วง ยืนยันว่ามีครบแทบจะทุกสิ่งที่อยากได้ ฟันธงครับผม
- การทำ Tax Refund ของรับประทาน ขนมของฝากต้องซื้อเกินกว่า 5 พันเยน เครื่องสำอางค์ และของใช้แล้วหมดไป ก้อ 5 พันเยน บางที่รวมกันได้ ก้อมั่วถั่วกันไป อันนี้ไม่ได้ชี้ชัดนะครับ ว่ารวมกันได้ แต่ผมเจอบางที่ก้อหยวน ๆ รวม ๆ กันไป ส่วนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า กระติกน้ำร้อน ของใช้ต่าง ๆ อันนี้ต้องเกิน 1 หมื่นเยนนะครับ ที่ร้านทำลด 8% ให้เลยครับ จ่ายบัตรก้อคืนเป็นเงินสดให้ครับ แต่ถ้าในห้างต้องไปทำที่แผนก Customer Services ครับ ท่านไหนช้อปเยอะ พาสปอร์ตหนาเต๊อะเลยครับ เย็บแม๊กติดเอกสารซะแทบพรุน
- บางร้านค้าเค้าไม่รู้เรื่องการทำคืนภาษี ก้อไม่ต้องไปว่าเค้านะครับ เพราะบางร้านเค้าไม่ได้เข้าร่วมโครงการ เราอยากซื้อของเค้า ก้อยอม ๆ กันไป ผมเห็นพี่ไทยบางคนไปยืนถามซะพนักงานร้านหน้าจ๋อยกันไปเลยครับ
- ไปถีงที่สนามบินทำ Tax กันยังไง ผมบอกตามที่ผมเจอมา 3 ครั้งหลังสุดนะครับ ที่นาริตะ เจ้าหน้าที่ตม. ตรวจลงตรา ผมก้อถามว่าแล้วไอ้ที่ติด ๆ ในพาสปอร์ตผมหล่ะ เค้าก้อทำมือปัด ๆ ไปเรื่อยเปื่อย แนวว่าไม่ต้องสนใจ แต่เผอิญผมเหลือบไปเห็นพนักงานศุลกากรด้านหลัง ก้อเลยขอแว้บไปถาม เค้าก้อบอกว่าฉีก ๆ ใส่ลงตระกร้ามาก้อแล้วกัน สรุปไม่มีการตรวจของ ส่วนที่ฮาเนดะ แสตมป์ลงตราขาออกให้ผม แต่ไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่มาเก็บเอกสารส่วนของ Tax Refund เลย เอาละสิผมชักงง ไม่ได้ ด้วยความอยากรู้ และเราเองก้อไปลุยมาแทบจะทั่ว อะไรยังไงกัน ผมเลยไปถามเจ้าหน้าที่ 2 ท่าน ท่านนึงคือเจ้าหน้าที่ตม. อีกท่านนึงเป็นเจ้าหน้าที่ของสนามบิน พอพูดอังกฤษกันได้ ถือว่าเก่งทีเดียว ทั้ง 2 ท่าน ให้ข้อมูลประมาณว่า เอกสารนี้ร้านค้าทำเอกสารถูกต้อง ส่งเข้าแผนก Tax เรียบร้อยครบถ้วนดี ที่ติดให้กับลูกค้า ก้อเพื่อความถูกต้อง ทางการเองก้อไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะต่างก้อไว้ใจนักท่องเที่ยว เอาเงินตราเข้าประเทศอยู่แล้ว ประเภทที่ว่าคนในประเทศจะทำคืนภาษี เค้าเชื่อใจว่าไม่น่าจะมี ประหนึ่งเขียนเสือให้วัวกลัว นักท่องเที่ยวก้อจะตั้งใจ พยายามถามหาเจ้าหน้าที่เพื่อคืนเอกสาร แล้วก้ออยากจะโชว์สินค้า อันนี้ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ผมว่าอีกไม่นานก้ออาจจะเข้มงวดรึป่าว เราต้องมาดูกันครับ แต่ช่วงนี้และต่อ ๆ ไป ก้อขอให้เราทำตามกฏเกณฑ์ที่ถูกต้องก้อแล้วกันนะครับ
ทั้งหมดที่เขียนแนะนำ เป็นประสบการณ์ที่ผมเจอะเจอมานะครับ ผิดตกตรงไหนไปบ้างก้อขออภัยด้วยนะครับ และถ้าใครมีข้อมูลดี ๆ มาเขียนแบ่งปันกันนะครับ ข้อมูลของผมนี้ขอบันทึกเป็นประสบการณ์ในปี 2015 / 2558 นะครับ ใครเข้ามาอ่านถือว่าอัพเดทที่สุดแล้วครับ