ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า นับแต่เริ่มประมูลคลื่น 900 MHz ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) จัดขึ้นตั้งแต่เวลา 9.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. ลากยาวมาถึง 26 ชั่วโมงแล้ว
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า เหตุที่การเคาะราคาคลื่น 900 MHz ยืดยื้อจนทำให้ราคาประมูลขึ้นไปถึง 33,794 ล้านบาทต่อใบอนุญาต หรือเท่ากับ 210% ของมูลค่าคลื่นแล้ว รวม 2 ใบอนุญาต มีรายได้เข้ารัฐแล้ว 67,588 ล้านบาท
เนื่องจาก กทค. โดยเลขาธิการ กสทช.ได้เสนอให้เปลี่ยนแนวทางการชำระเงินค่าประมูลให้ต่างจากการประมูลคลื่น 1800 MHz คือแทนที่จะแบ่งจ่ายปีแรก 50% ปีที่ 2 และ 3 ปีละ 25% ของเงินที่ชนะประมูล
แต่คลื่น 900 MHz จะแบ่งการจ่ายเงินเป็น 4 งวดแทน คืองวดแรกภายใน 90 วันหลังได้รับแจ้งเป็นผู้ชนะเป็นเงิน 8,040 ล้านบาท (50% ของมูลค่าคลื่น) ปีที่ 2 และ 3 ปีละ 4,020 ล้านบาท (25% ของมูลค่าคลื่น) ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะจ่ายในปีที่4
"ด้วยเงื่อนไขการชำระเงินแบบนี้จึงไม่เป็นภาระต่อกระแสเงินสดของบริษัท แม้ว่าจะมีการประมูลคลื่นในราคาที่สูงมากเพราะในช่วง 3 ปีแรกจะจ่ายหลักพันล้านบาทเท่านั้น"
ดังนั้นในการเสนอราคาของคลื่น 900 MHz จึงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่มีหยุดพักช่วงเหมือนการประมูลคลื่น 1800 MHz ที่ผ่านมา
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
เวปไซต์ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1450239298
กสทช. ชี้เงื่อนไขชำระเงินประมูลปีแรกแค่ 8,040 ล้านดันราคาประมูลพุ่ง
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า นับแต่เริ่มประมูลคลื่น 900 MHz ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) จัดขึ้นตั้งแต่เวลา 9.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. ลากยาวมาถึง 26 ชั่วโมงแล้ว
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า เหตุที่การเคาะราคาคลื่น 900 MHz ยืดยื้อจนทำให้ราคาประมูลขึ้นไปถึง 33,794 ล้านบาทต่อใบอนุญาต หรือเท่ากับ 210% ของมูลค่าคลื่นแล้ว รวม 2 ใบอนุญาต มีรายได้เข้ารัฐแล้ว 67,588 ล้านบาท
เนื่องจาก กทค. โดยเลขาธิการ กสทช.ได้เสนอให้เปลี่ยนแนวทางการชำระเงินค่าประมูลให้ต่างจากการประมูลคลื่น 1800 MHz คือแทนที่จะแบ่งจ่ายปีแรก 50% ปีที่ 2 และ 3 ปีละ 25% ของเงินที่ชนะประมูล
แต่คลื่น 900 MHz จะแบ่งการจ่ายเงินเป็น 4 งวดแทน คืองวดแรกภายใน 90 วันหลังได้รับแจ้งเป็นผู้ชนะเป็นเงิน 8,040 ล้านบาท (50% ของมูลค่าคลื่น) ปีที่ 2 และ 3 ปีละ 4,020 ล้านบาท (25% ของมูลค่าคลื่น) ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะจ่ายในปีที่4
"ด้วยเงื่อนไขการชำระเงินแบบนี้จึงไม่เป็นภาระต่อกระแสเงินสดของบริษัท แม้ว่าจะมีการประมูลคลื่นในราคาที่สูงมากเพราะในช่วง 3 ปีแรกจะจ่ายหลักพันล้านบาทเท่านั้น"
ดังนั้นในการเสนอราคาของคลื่น 900 MHz จึงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่มีหยุดพักช่วงเหมือนการประมูลคลื่น 1800 MHz ที่ผ่านมา
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
เวปไซต์ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1450239298