เล่นห้อง.....ราชดำเนิน......จนต้องเสียคนรัก

กระทู้สนทนา
เมื่อตอนประมาณมีนาคม ปีนี้

(ก่อนหน้าจะมีเรื่องนัดยิงกันในบอร์ดนี้)

ภรรยาคนที่ 3 ได้แนะนำเพื่อนคนหนึ่งให้รู้จัก หน้าตาก็สวย น่ารักดี

ช่วงนั้น ภรรยาคนที่ 3 ต้องกลับบ้านต่างจังหวัดเพื่อไปดูแลพ่อที่ป่วยหนัก

(ไม่เรียก พ่อตา เพราะอายุมากกว่า จขกท แค่ 2 ปี) จึงถามภรรยาไปว่า

จะกลับไปอยู่บ้านตั้งหลายเดือน แล้วมาแนะนำเพื่อนให้ ไม่กลัว "ฝากปลาย่างไว้กับแมวหรือ"

ภรรยา ตอบว่า "คนนี้เฮียจีบไม่ติดหรอก เขามีแฟนแล้ว"

จขกท ..... แล้วถ้าเกิดจีบติดล่ะ

ภรรยา......จีบติดก็ยกให้

จขกท......(พูดเล่นๆ) ตกลงตามนี้



เวลาผ่านไปเดือนนึง ช่วงราวสงกรานต์ ความสัมพันธ์ก็พัฒนาขึ้นเร็วมาก

เวลาอยู่ด้วยกัน จขกท มักจะเล่าประสบการณ์ในอดีต กับเรื่องราวทางการเมืองที่เกิดขึ้น

กับเอากระทู้ที่เขียนลงในพันทิปในชื่อ "cnck3" ให้อ่าน (มารู้ทีหลังว่าที่เขาปลื้ม เริ่มต้นมาจากข้อเขียนนี่เอง)

ในที่สุดเพื่อนภรรยาก็เลิกกับแฟน มาอยู่กับ จขกท


เมื่อมาอยู่ด้วยกันใหม่ๆ ยอมรับว่า หลงในตัวภรรยาคนที่ 4 ค่อนข้างมาก ด้วยความที่เธอเป็นคนสุภาพ มีน้ำใจ

และใจบุญพอสมควร จึงทำให้ช่วงเวลานั้น จขกท มีความสุขมาก ประกอบกับห้องราชดำเนินไม่มีดราม่า

กระทู้ที่เพื่อนๆสมาชิกเขียนก็น่าอ่าน ทั้งเรื่องการเมือง ประวัติศาสตร์ จึงถือว่า

เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในรอบปีของห้องราชดำเนิน และของ จขกท


เวลาผ่านไปถึง วันที่ 2 ตุลาคม ปีนี้ ห้องราชดำเนินที่เคยสงบ ก็เริ่มตั้งเค้าพายุดราม่าลูกใหม่

เมื่อมีพวกชอบแส่เรื่องชาวบ้าน มาตั้งกระทู้ถามหาความรับผิดชอบจาก จขกท

ซึ่งช่วงเวลานั้น จขกท กำลังมีความรัก จึงโต้ตอบแต่พอสมควร แต่แทนที่คนกลุ่มนั้นจะหยุด

เพื่อความสงบสุขของห้อง กลับตั้งประเด็น เหน็บแนม จขกท ตลอดเวลา

บางคน (เป็นทหารหรือไม่ ส่งรูปไปเช็คแล้ว อีกไม่นานรู้กัน) บังอาจจะตบ จขกท บางคนก็ท้าทายให้มาเจอกัน

(แต่พอไป กลับ หนีกลับก่อน)
บางคนก็ปากดี เสียดสีต่างๆนานา จน จขกท เริ่มหมดความอดทน


ช่วงนั้น จากเดิมที่พาภรรยาคนที่ 4 ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไปต่างประเทศ ไปทานอาหารดีๆ ช็อปปิ้ง

ก็กลับเริ่มต้นพาไปสนามซ้อมยิงปืนเกือบทุกวัน



แม้กระทั่งงานวัด การละเล่นอย่างเดียวที่ จขกท ทำคือยิงปืนลม (คนขายยืน งง)




ในช่วงต้นเดือน พ.ย จขกท มีธุระต้องไปที่ พนมเปญ และเมื่อเสร็จธุระ ก็บอกเพื่อนให้พาไป ทุ่งสังหาร

ที่เรียกว่า คุก s 21 หรือที่รู้จักกันในนาม Tual sleng ซึ่งเดิมเป็นโรงเรียน ต่อมาเมื่อเขมรแดง

บุกยึดกรุงพนมเปญได้ ก็กวาดต้อนนักการเมือง ประชาชน ส่วนหนึ่งเข้ามาคุมขัง

ด้วยความโหดเหี้ยมของเขมรแดง ทำให้มีคนตายจำนวนมากที่นี่

รายละเอียด คุกตวลสเลง

http://www.unigang.com/Article/13030

รูปถ่ายความโหดเหี้ยมบางส่วน











ช่วงเวลาที่ไป ทุ่งสังหาร เป็นเวลาที่ฝนตกค่อนข้างหนัก ท้องฟ้ามืดครื้ม ทำให้บรรยากาศเริ่มวังเวง

ภรรยาคนที่ 4 เริ่มมีความกลัว สังเกตุมือที่จับเย็นยะเยือก
กระซิบบอก จขกท ให้กลับ

แต่ จขกท บอกขอดูอีกหน่อย


ที่อยากไปทุ่งสังหาร เพราะตอนแรกอยากจะดูว่า "ทำไมคนเราถึงโหดเหี้ยมกับเพื่อนร่วมชาติได้ขนาดนี้"

แต่เมื่อตอนอยู่ที่หน้าบอร์ดผู้เสียชีวิตแล้ว อยู่ๆ หน้าผู้เสียชีวิตนั้นกลับกลายเป็นหน้าพวกสลิ่มในห้องราชดำเนิน


จขกท จึงถามตัวเองว่า "ถ้าขณะนั้น จขกท เป็นเขมรแดงจะกล้าทำแบบนี้หรือไม่

คำตอบในใจก็คือ "ได้แน่นอน" ขณะที่ จขกท คิดเช่นนั้น ภรรยาคนที่ 4 ก็เป็นลมไปในทันที

และนี่อาจจะนับเป็นรอยร้าวครั้งแรกของความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน


เมื่อกลับถึงเมืองไทย ภรรยาก็ล้มป่วยเป็นไข้อยู่ 2 วัน และทุกครั้งที่ จขกท คิดเรื่องจะทำร้ายคนอื่น

ก็มักมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นกับ จขกท
เช่น มือถือตก หน้าจอแตก



หรือรถที่ จขกท ขับ 10 ปีหลัง ไม่เกิดชนเลย (ขับอยู่ 4-5 คัน) ทั้งๆที่เป็นคนขับรถเร็วมาก

แต่วันเดียวรถถูกชนถึง 3 ครั้ง รวมถึง จขกท ถอยชนแท่งปูนอย่างไม่น่าเชื่อ


คลิป ขับรถด้วยความเร็ว 220 ก.ม /ช.ม


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นอกจากพาไปสนามยิงปืน และ ทุ่งสังหารแล้ว เกือบทุกคืนในวันจันทร์ - ศุกร์

ก็เริ่มพาเธอไปสนามมวยทั้งที่ ราชดำเนิน และ ลุมพินี ถี่ขึ้น และทุกครั้งที่ไป

จะมีคนติดตาม จขกท อย่างน้อย 4 คน ไม่นับรวมกับ บรรดา ส.ห สนามทั้งสองแห่ง

ที่คุ้นเคยกับ จขกท เป็นอย่างดี

ที่ประจำ จขกท ในสนามมวย



โดยปกติแล้ว ในสนามมวย นอกจากพวกขาใหญ่แล้ว จะไม่มีใครมีที่ประจำ

และวันที่เกิดเรื่องขึ้นเป็นวันที่ 30 พ.ย จขกท ก็พาภรรยาไปสนามมวย ราชดำเนิน

แต่วันนั้น ปรากฏว่า มีคนหนึ่งมานั่งที่ประจำของ จขกท คนติดตาม จขกท ก็ไปบอกให้คนนั้น

ย้ายไปนั่งที่อื่น (พูดอย่างสุภาพ) แต่ชายคนนั้น กลับมองมาที่ จขกท (ซึ่งยืนอยู่กับภรรยา)

พร้อมกับด่าว่า "ไอ้....ตรูจะนั่งตรงนี้ มีไรเปล่า" ผู้ติดตามจึงตบบ้องหูไป 1 ที ตามด้วยเตะเข้าไปที่ท้อง

ชายคนนั้นจึงรีบวิ่งออกไป  วินาทีนั้น จขกท มองไปที่หน้าภรรยา ซึ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ตลอดการดูมวยวันนั้น (ประมาณ 3 ชั่วโมง ) ภรรยา นั่งเงียบ ไม่พูดกับ จขกท แม้แต่คำเดียว



มาถึงวันที่ 2 ธันวาคม เป็นวันเกิด จขกท ซึ่งตอนแรกนัดกันว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน

แต่ตลอดวันนั้น จขกท ไม่สามารถติดต่อภรรยาคนนี้ได้เลย จนล่วงเข้าวันที่ 3

จึงติดต่อได้ ขณะที่ จขกท กำลังจะต่อว่า เธอก็เป็นฝ่ายขอเลิก ด้วยเหตุผลที่ว่า

"สองเดือนนี้ เฮียเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนจนหนูกลัว เฮียรู้ไม๊ แม้แต่แววตาของเฮียก็เปลี่ยน

หลังๆเฮียไม่เคย กอด หนูเลย เฮียคิดแต่เรื่องจะทำร้ายคน บอกตรงๆ หนูกลัวจริงๆ"


ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น อาจจะยอมรับปากผู้หญิง เลิกจองเวร อาฆาต

แต่สำหรับ จขกท แล้ว เรื่องครั้งนี้ต้องยุติอย่างเด็ดขาด ชนิดที่ไม่มีวันมาตอแย จขกท ได้อีก

(จขกท อาจพลาดท่าก็ได้ แต่พร้อมจะรับชะตากรรม หากพลาดท่าจริงๆ)



นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ภรรยาคนที่ 4 ก็ไม่ติดต่อกับมาอีกเลย

ซึ่งเป็นสิ่งที่ จขกท เสียใจมาก ภรรยาคนที่ 1 กับ 3 อาสาจะไปกล่อมให้

แต่ จขกท บอกถ้ามีเงื่อนไขว่า ให้เลิกอาฆาตคน ก็ต้องปล่อยเธอไป

เพราะคราวนี้ จขกท จะไม่มีวันปล่อยพวกหอกข้างแคร่มากวนอารมณ์อีกต่อไป

(ที่มาบอกตรงนี้ เพราะไม่เคยทำคนลับหลัง แต่บอกให้ตรงข้ามรู้ตัว จะได้สู้กันแบบแฟร์ๆ)


ป.ล  เพื่อนสนิทในนี้หลายคน ยืนยันบทความในกระทู้นี้ได้

ป.ล 2 ถ้าใครบางคนได้อ่านกระทู้นี้ ขอโอกาส จขกท เคลียร์ปัญหาครั้งนี้ ครั้งเดียว

เมื่อเรื่อง จบ แล้ว (จะแพ้ ชนะ ก็ตาม) จขกท จะเลิกเข้าสถานที่ที่เธอไม่ชอบอีกตลอดกาล

ป.ล 3 เรื่องเดียวที่อยากถาม ตลอดเวลา 8 เดือนที่อยู่ด้วยกัน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่