ผมทำงานมาแล้วสิบกว่าปีตั้งแต่เรียนจบ แต่ผมไม่เคยถูกเลิกจ้าง จนกระทั่งได้ทำงานเป็นพนักงานฝ่ายขายที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
ในเดือนพฤษภาคม 2558 (อายุงานประมาณ 2ปีครึ่ง) ทางบริษัทได้รับหนังสืออายัดเงินเดือนของผมจากกรณีหนี้บัตรเครดิต ซึ่งทางหัวหน้าก็มีเรียกไปคุยให้รับทราบว่าบริษัทต้องหักเงินเดือนนะ แรก ๆ ก็ไม่มีอะไร ก็เหมือนจะดี แต่...ต่อมาไม่นาน ผมโดนเรียกไปคุยว่าจะมีการประเมินงานตอนอายุงาน 3 ปี (อันนี้ไม่มีระบุในกฎบริษัทนะครับ) และถามว่า ถ้าให้เลือกระหว่างไล่ออก กับลาออก จะเลือกอันไหน ซึ่งผมตอบไปว่า ถ้าให้เลือก ผมเลือกไล่ออกครับ เพราะยังไงก็ได้เงินก้อน (อายุงานครบ 3 ปี กฎหมายระบุให้ชดเชยการเลิกจ้างเป็นเงินค่าจ้าง 6 เดือน)
แต่.....ผิดคาดครับ ผมโดนไล่ออก (เลิกจ้าง) โดยไม่มีความผิด !! ตอนอายุงาน 2 ปี 11 เดือน (จงใจไล่ออกโดยไม่มีความผิดก่อนอายุงานครบ 3 ปี เพื่อจะได้จ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้างน้อยลง หรือ จ่ายแค่ 3 เดือน) ยิ่งกว่านั้น ในหนังสือเลิกจ้าง ระบุวันที่บนหัวจดหมายย้อนหลังไปเกือบหนึ่งเดือนและเขียนวันที่ในช่องลายเซ็นของผมย้อนไปเกือบหนึ่งเดือน (จริงๆ คนเซ็นต้องเขียนวันที่ ที่ลงลายมือเอง แต่นี่ทางบริษัทเขียนวันที่แบบย้อนหลังใส่มาให้แล้ว) คือกะไม่ให้ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือน !!!! ทั้งที่ ผมทำยอดขายในปี 2557 ได้ตามเป้าที่กำหนดและการขาดลามาสายก็น้อยกว่าหลายๆ คนในแผนก ไม่เคยก่อความเสียหายร้ายแรง ไม่เคยทิ้งงาน
ผมไม่ยอมเซ็นเอกสารนั้นและไปคุยกับหัวหน้า ซึ่งหัวหน้าบอกว่า นึกว่าคุยเข้าใจกันแล้ว (คุยอะไร เข้าใจอะไรแล้ว !?) งั้นจะแก้ไขเอกสารให้
ขอโทษนะครับ ถ้าผมเผลอเซ็นเอกสารไป บริษัทก็ไม่จ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าสินะครับ จงใจกลั่นแกล้ง เอาเปรียบกับพนักงานแบบนี้เลยหรือครับ
กรณีนี้ผมรู้สึกเหมือนว่า ทางบริษัทจงใจไม่จ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้า มันเหมือนกับ คนขโมยของหยิบของใส่กระเป๋า พอโดนจับได้ก็บอกว่าลืมและจ่ายเงินให้ละกัน..จบนะ ถ้าอย่างนั้นโลกนี้ไม่ต้องมีตำรวจมั้งครับ ทำผิดแล้วโดนจับได้ ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยังครับ.... ยังไม่พอ ผมมีวันลาพักร้อนเหลือ ทางบริษัทไม่ยอมจ่ายค่าแรงของวันลาพักร้อนที่เหลือ แต่บังคับใช้ลาพักร้อนและห้ามไม่ให้เข้าไปทำงานในวันถัดไป (โทรมาบอกผม ตอน 17.00 น. ให้เวลาเก็บของส่วนตัวทั้งหมดและห้ามไปทำงานในวันรุ่งขึ้น)
ยังครับ....... ยังมีอีก หัวหน้าบอกพนักงานคนอื่นๆ ว่า ผมลาออก !!!!!!! กลายเป็นคนอื่นได้รับข้อมูลว่า ผมลาออกแบบทิ้งงาน โยนภาระให้คนอื่น ทั้งที่ความจริงคือผมโดนไล่ออกมีผลทันที ไม่มีเวลาให้เคลียงาน,ไม่ได้แจ้งผู้ร่วมงาน,ไมได้แจ้งลูกค้าและให้เวลาผมเก็บของส่วนตัว 30 นาที (โทรบอกให้เก็บของตอน 17.00 น. เวลาเลิกงาน 17.30 น.)
*กรณีนี้อาจมีบางคนสงสัยนะว่าทำไมผมไม่ค้านในตอนนั้น ผมไม่เคยโดนเลิกจ้างและในตอนนั้นผมก็กลัวนะครับ ถ้าบริษัทเล่นแง่ กลั่นแกล้งอะไรผมมากกว่านี้ล่ะ..ผมจะทำยังไง ขนาดผมไม่ได้ไปต่อต้านอะไร ยังโดนขนาดนี้และผมก็แค่ลูกจ้างคนนึงที่พยายามทำงานหาเงินเพื่อใช้ชีวิต
ผมอยากทราบว่า ผมสามารถทำอะไรกับบริษัทแบบนี้และบริษัทนี้เรียกว่ามีคุณธรรม-จริยธรรมบ้างมั้ยครับ
*อยากเตือนคนที่จะเข้าทำงานบริษัทแบบนี้ อยากให้ระวังด้วยนะครับ ไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ยังโดนไล่ออก
ก่อนไปทำงานที่ไหน เช็คข้อมูลบริษัทดีๆ อย่าดูแค่ภาพลักษณ์สวยหรู เพราะอาจโดนแทงข้างหลังเหมือนผม
ปล. ก่อนเซ็นเอกสารคุยกับหัวหน้า ผมขอสำเนาเอกสารทุกรายการ ตอนแรกหัวหน้าก็บอกจะให้ แต่พอเซ็นเอกสารแล้วกลับไม่ให้อะไรเลยครับ
ดราม่าหนักมาก เมื่อถูกบริษัทเลิกจ้างและทำแบบนี้
ในเดือนพฤษภาคม 2558 (อายุงานประมาณ 2ปีครึ่ง) ทางบริษัทได้รับหนังสืออายัดเงินเดือนของผมจากกรณีหนี้บัตรเครดิต ซึ่งทางหัวหน้าก็มีเรียกไปคุยให้รับทราบว่าบริษัทต้องหักเงินเดือนนะ แรก ๆ ก็ไม่มีอะไร ก็เหมือนจะดี แต่...ต่อมาไม่นาน ผมโดนเรียกไปคุยว่าจะมีการประเมินงานตอนอายุงาน 3 ปี (อันนี้ไม่มีระบุในกฎบริษัทนะครับ) และถามว่า ถ้าให้เลือกระหว่างไล่ออก กับลาออก จะเลือกอันไหน ซึ่งผมตอบไปว่า ถ้าให้เลือก ผมเลือกไล่ออกครับ เพราะยังไงก็ได้เงินก้อน (อายุงานครบ 3 ปี กฎหมายระบุให้ชดเชยการเลิกจ้างเป็นเงินค่าจ้าง 6 เดือน)
แต่.....ผิดคาดครับ ผมโดนไล่ออก (เลิกจ้าง) โดยไม่มีความผิด !! ตอนอายุงาน 2 ปี 11 เดือน (จงใจไล่ออกโดยไม่มีความผิดก่อนอายุงานครบ 3 ปี เพื่อจะได้จ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้างน้อยลง หรือ จ่ายแค่ 3 เดือน) ยิ่งกว่านั้น ในหนังสือเลิกจ้าง ระบุวันที่บนหัวจดหมายย้อนหลังไปเกือบหนึ่งเดือนและเขียนวันที่ในช่องลายเซ็นของผมย้อนไปเกือบหนึ่งเดือน (จริงๆ คนเซ็นต้องเขียนวันที่ ที่ลงลายมือเอง แต่นี่ทางบริษัทเขียนวันที่แบบย้อนหลังใส่มาให้แล้ว) คือกะไม่ให้ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือน !!!! ทั้งที่ ผมทำยอดขายในปี 2557 ได้ตามเป้าที่กำหนดและการขาดลามาสายก็น้อยกว่าหลายๆ คนในแผนก ไม่เคยก่อความเสียหายร้ายแรง ไม่เคยทิ้งงาน
ผมไม่ยอมเซ็นเอกสารนั้นและไปคุยกับหัวหน้า ซึ่งหัวหน้าบอกว่า นึกว่าคุยเข้าใจกันแล้ว (คุยอะไร เข้าใจอะไรแล้ว !?) งั้นจะแก้ไขเอกสารให้
ขอโทษนะครับ ถ้าผมเผลอเซ็นเอกสารไป บริษัทก็ไม่จ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าสินะครับ จงใจกลั่นแกล้ง เอาเปรียบกับพนักงานแบบนี้เลยหรือครับ
กรณีนี้ผมรู้สึกเหมือนว่า ทางบริษัทจงใจไม่จ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้า มันเหมือนกับ คนขโมยของหยิบของใส่กระเป๋า พอโดนจับได้ก็บอกว่าลืมและจ่ายเงินให้ละกัน..จบนะ ถ้าอย่างนั้นโลกนี้ไม่ต้องมีตำรวจมั้งครับ ทำผิดแล้วโดนจับได้ ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยังครับ.... ยังไม่พอ ผมมีวันลาพักร้อนเหลือ ทางบริษัทไม่ยอมจ่ายค่าแรงของวันลาพักร้อนที่เหลือ แต่บังคับใช้ลาพักร้อนและห้ามไม่ให้เข้าไปทำงานในวันถัดไป (โทรมาบอกผม ตอน 17.00 น. ให้เวลาเก็บของส่วนตัวทั้งหมดและห้ามไปทำงานในวันรุ่งขึ้น)
ยังครับ....... ยังมีอีก หัวหน้าบอกพนักงานคนอื่นๆ ว่า ผมลาออก !!!!!!! กลายเป็นคนอื่นได้รับข้อมูลว่า ผมลาออกแบบทิ้งงาน โยนภาระให้คนอื่น ทั้งที่ความจริงคือผมโดนไล่ออกมีผลทันที ไม่มีเวลาให้เคลียงาน,ไม่ได้แจ้งผู้ร่วมงาน,ไมได้แจ้งลูกค้าและให้เวลาผมเก็บของส่วนตัว 30 นาที (โทรบอกให้เก็บของตอน 17.00 น. เวลาเลิกงาน 17.30 น.)
*กรณีนี้อาจมีบางคนสงสัยนะว่าทำไมผมไม่ค้านในตอนนั้น ผมไม่เคยโดนเลิกจ้างและในตอนนั้นผมก็กลัวนะครับ ถ้าบริษัทเล่นแง่ กลั่นแกล้งอะไรผมมากกว่านี้ล่ะ..ผมจะทำยังไง ขนาดผมไม่ได้ไปต่อต้านอะไร ยังโดนขนาดนี้และผมก็แค่ลูกจ้างคนนึงที่พยายามทำงานหาเงินเพื่อใช้ชีวิต
ผมอยากทราบว่า ผมสามารถทำอะไรกับบริษัทแบบนี้และบริษัทนี้เรียกว่ามีคุณธรรม-จริยธรรมบ้างมั้ยครับ
*อยากเตือนคนที่จะเข้าทำงานบริษัทแบบนี้ อยากให้ระวังด้วยนะครับ ไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ยังโดนไล่ออก
ก่อนไปทำงานที่ไหน เช็คข้อมูลบริษัทดีๆ อย่าดูแค่ภาพลักษณ์สวยหรู เพราะอาจโดนแทงข้างหลังเหมือนผม
ปล. ก่อนเซ็นเอกสารคุยกับหัวหน้า ผมขอสำเนาเอกสารทุกรายการ ตอนแรกหัวหน้าก็บอกจะให้ แต่พอเซ็นเอกสารแล้วกลับไม่ให้อะไรเลยครับ