รูดม่านปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีค 2015 แชมป์ได้แก่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 1 ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างราบคาบ ด้วยแต้มและยิงประตูที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ (84 แต้ม, 98 ประตู)
การมาของ "ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้" และ "กิลแบร์โต้ มาเชน่า" คู่หูแซมบ้า ช่วงต้นฤดูกาลแทนที่ของ 2 ตัวหลักเลือดสแปนิชในปีก่อนอย่าง คาร์เมโล กอนซาเลซ และ ฮาเวียร์ ปาตินโญ่ ทำให้แฟนๆมีข้อสงสัย ว่าจะแทนที่ได้มากน้อยขนาดไหน เพราะผลงานของคู่ดูโอ้สแปนิชนั้นดีเหลือเกิน
33 ประตู ของดิโอโก้ และ 20 ประตู ของมาเชน่า เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้บุรีรัมย์แข็งแกร่ง ยิงประตูคู่แข่งได้อย่างถล่มทลาย ขณะที่บรรดานักเตะไทย เป็นอีกปีที่นักเตะอย่าง สุเชาว์ นุชนุ่ม, จักรพันธ์ แก้วพรม, ธีราธร บุญมาทัน, กรวิทย์ นามวิเศษ รวมไปถึงอนาวิน จูจีน ที่มาแรงในช่วงหลัง ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในสนามและการรักษาสภาพความฟิต ผสมผสานกับแกนหลักในแนวรับอย่าง อันเดรส ตูนเญซ ปราการหลังทีมชาติเวเนซุเอลา กองกลางตัวคุมเกมทั้งรุกและรับอย่าง โก ซุล กิ ทำให้บุรีรัมย์ทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา ทำให้ไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งฤดูกาล และบรรดาเหล่านักเตะดาวรุ่งเริ่มฉายแววมากขึ้นในฤดูกาลนี้ ว่าพวกเขาแทนที่รุ่นพี่ได้ไม่เลวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ และนฤบดินทร์ วีรวัฒนโนดม
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่เห็นอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง คือ ทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยม ผู้เล่นทุกคนเข้าใจเกม เข้าใจแทคติคเป็นอย่างดี การจ่ายบอลสั้นยาว ทะลุช่อง มีให้เห็นจากสไตล์แซมบ้าของทั้งกุนซืออย่าง อเล็กซานเดร กาม่า รวมถึงนักเตะไทยและต่างชาติ ทำให้เกมรุกหลากหลาย เกมรับเหนียวแน่น
น่าสนใจว่าในฤดูกาลหน้า การมาของ 2 นักเตะดีกรีสูงอย่าง "เอมิเลียโน อัลฟาโร" กองหน้าชาวอุรุกวัย จากลาซิโอ ในศึกกัลโช ซีเรียอา ของอิตาลี และ "อังเดร โมริตซ์" มิดฟิลด์ชาวบราซิลจาก โปฮัง สตีลเลอร์ ในศึกเคลีค ของเกาหลีใต้ จะทำให้โควต้านักเตะต่างชาติที่ลงตัวอยู่แล้ว เปลี่ยนแปลงไปในทางใด น่าหนักใจแทนคุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร และกาม่า เฮดโค้ช ว่าจะส่งชื่อใคร และตัดใครออก มีข่าวว่ามาเชน่าจะไม่ได้อยู่ต่อ แต่จากปีที่ผ่านมาเราเห็นแล้วว่า ดิโอโก้ จะเล่นดีขึ้นอีกเมื่อมีมาเชน่า เช่นเดียวกันเมื่อมีดิโอโก้อยู่ในสนาม มาเชน่าก็เล่นดี
รวมถึงการมาของมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดคนนึงในไทยอย่าง อดุลย์ หละโสะ แน่นอนว่าจะทำให้แนวรับของบุรีรัมย์ แข็งแกร่งขึ้นไปอีก พร้อมจะต่อสู้กับคู่แข่งขันที่แข็งแกร่งในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีค อย่างเอฟซี โซล ของเกาหลีใต้ และซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า แชมป์เจลีคจากญี่ปุ่น
รอติดตามชมในฤดูกาลหน้า 2016 พร้อมความคาดหวังของแฟนๆบุรีรัมย์ ที่หวังจะให้ทีมโปรด ไปได้ไกลกว่ารอบแบ่งกลุ่มในบอลถ้วยใหญ่เอเชีย ปีหน้าจะเป็นบทพิสูจน์ชั้นดีเยี่ยมของปราสาทสายฟ้า ว่าทีมนั้นอยู่ในระดับใดของทวีปเอเชีย! และรอลุ้นว่า บุรีรัมย์จะกวาดแชมป์ทุกถ้วยในประเทศได้หมดหรือไม่ 20 ธ.ค.นี้ ชิงแม่โขงคัพกับบองเกต ของกัมพูชา และช้างเอฟเอคัพ 26 ธ.ค.นี้กับ เอสซีจีเมืองทอง ยูไนเต็ด !!!!
คาดการณ์ 11 คนแรก บุรีรัมย์ 2016
ผู้รักษาประตู: ศิวรักษ์
กองหลัง: ตูนเญซ, กรวิทย์, สุรีย์ (ผู้เล่นใหม่)
กองกลาง: โก ซุล กิ, สุเชาว์ (อดุลย์), จักรพันธ์, ธีราธร, อนาวิน (นฤบดินทร์)
กองหน้า: ดิโอโก้, โมริตซ์ (อัลฟาโร่)
บทสรุปไทยลีค 2015 ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 1 ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างราบคาบ ด้วยแต้มและยิงประตูที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ (84 แต้ม, 98 ประตู)
การมาของ "ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้" และ "กิลแบร์โต้ มาเชน่า" คู่หูแซมบ้า ช่วงต้นฤดูกาลแทนที่ของ 2 ตัวหลักเลือดสแปนิชในปีก่อนอย่าง คาร์เมโล กอนซาเลซ และ ฮาเวียร์ ปาตินโญ่ ทำให้แฟนๆมีข้อสงสัย ว่าจะแทนที่ได้มากน้อยขนาดไหน เพราะผลงานของคู่ดูโอ้สแปนิชนั้นดีเหลือเกิน
33 ประตู ของดิโอโก้ และ 20 ประตู ของมาเชน่า เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้บุรีรัมย์แข็งแกร่ง ยิงประตูคู่แข่งได้อย่างถล่มทลาย ขณะที่บรรดานักเตะไทย เป็นอีกปีที่นักเตะอย่าง สุเชาว์ นุชนุ่ม, จักรพันธ์ แก้วพรม, ธีราธร บุญมาทัน, กรวิทย์ นามวิเศษ รวมไปถึงอนาวิน จูจีน ที่มาแรงในช่วงหลัง ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในสนามและการรักษาสภาพความฟิต ผสมผสานกับแกนหลักในแนวรับอย่าง อันเดรส ตูนเญซ ปราการหลังทีมชาติเวเนซุเอลา กองกลางตัวคุมเกมทั้งรุกและรับอย่าง โก ซุล กิ ทำให้บุรีรัมย์ทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา ทำให้ไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งฤดูกาล และบรรดาเหล่านักเตะดาวรุ่งเริ่มฉายแววมากขึ้นในฤดูกาลนี้ ว่าพวกเขาแทนที่รุ่นพี่ได้ไม่เลวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ และนฤบดินทร์ วีรวัฒนโนดม
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่เห็นอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง คือ ทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยม ผู้เล่นทุกคนเข้าใจเกม เข้าใจแทคติคเป็นอย่างดี การจ่ายบอลสั้นยาว ทะลุช่อง มีให้เห็นจากสไตล์แซมบ้าของทั้งกุนซืออย่าง อเล็กซานเดร กาม่า รวมถึงนักเตะไทยและต่างชาติ ทำให้เกมรุกหลากหลาย เกมรับเหนียวแน่น
น่าสนใจว่าในฤดูกาลหน้า การมาของ 2 นักเตะดีกรีสูงอย่าง "เอมิเลียโน อัลฟาโร" กองหน้าชาวอุรุกวัย จากลาซิโอ ในศึกกัลโช ซีเรียอา ของอิตาลี และ "อังเดร โมริตซ์" มิดฟิลด์ชาวบราซิลจาก โปฮัง สตีลเลอร์ ในศึกเคลีค ของเกาหลีใต้ จะทำให้โควต้านักเตะต่างชาติที่ลงตัวอยู่แล้ว เปลี่ยนแปลงไปในทางใด น่าหนักใจแทนคุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร และกาม่า เฮดโค้ช ว่าจะส่งชื่อใคร และตัดใครออก มีข่าวว่ามาเชน่าจะไม่ได้อยู่ต่อ แต่จากปีที่ผ่านมาเราเห็นแล้วว่า ดิโอโก้ จะเล่นดีขึ้นอีกเมื่อมีมาเชน่า เช่นเดียวกันเมื่อมีดิโอโก้อยู่ในสนาม มาเชน่าก็เล่นดี
รวมถึงการมาของมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดคนนึงในไทยอย่าง อดุลย์ หละโสะ แน่นอนว่าจะทำให้แนวรับของบุรีรัมย์ แข็งแกร่งขึ้นไปอีก พร้อมจะต่อสู้กับคู่แข่งขันที่แข็งแกร่งในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีค อย่างเอฟซี โซล ของเกาหลีใต้ และซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า แชมป์เจลีคจากญี่ปุ่น
รอติดตามชมในฤดูกาลหน้า 2016 พร้อมความคาดหวังของแฟนๆบุรีรัมย์ ที่หวังจะให้ทีมโปรด ไปได้ไกลกว่ารอบแบ่งกลุ่มในบอลถ้วยใหญ่เอเชีย ปีหน้าจะเป็นบทพิสูจน์ชั้นดีเยี่ยมของปราสาทสายฟ้า ว่าทีมนั้นอยู่ในระดับใดของทวีปเอเชีย! และรอลุ้นว่า บุรีรัมย์จะกวาดแชมป์ทุกถ้วยในประเทศได้หมดหรือไม่ 20 ธ.ค.นี้ ชิงแม่โขงคัพกับบองเกต ของกัมพูชา และช้างเอฟเอคัพ 26 ธ.ค.นี้กับ เอสซีจีเมืองทอง ยูไนเต็ด !!!!
คาดการณ์ 11 คนแรก บุรีรัมย์ 2016
ผู้รักษาประตู: ศิวรักษ์
กองหลัง: ตูนเญซ, กรวิทย์, สุรีย์ (ผู้เล่นใหม่)
กองกลาง: โก ซุล กิ, สุเชาว์ (อดุลย์), จักรพันธ์, ธีราธร, อนาวิน (นฤบดินทร์)
กองหน้า: ดิโอโก้, โมริตซ์ (อัลฟาโร่)