"พุทธศาสนา ไม่ได้สอนให้กลัวกรรม"
" .. พระพุทธศาสนาสอนให้เข้าใจในกรรมนั้น
"ไม่ได้สอนให้คนกลัวกรรม เป็นทาสกรรม"
หรือ "อยู่ใต้อำนาจกรรม
แต่สอนให้รู้จักกรรม" ให้ควบคุมกรรมของตนในปัจจุบัน
"คนมีอำนาจเหนือกรรม อาจควบคุมกรรมของตนได้" แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า
"จะต้องควบคุมจิตเจตนาของตนได้ด้วย" โดยตั้งมั่นแน่วแน่อยู่ในธรรม
เช่น เมตตา สติ ปัญญา เป็นต้น อันเป็นส่วนจิตและศีล
อันหมายถึง
ตั้งเจตนาเว้นการที่ควรเว้น ทำการที่ควรทำให้ขอบเขตอันควร
ทางพระพุทธศาสนา สอนให้ทุก ๆ คนพิจารณาหลักกรรมเนือง ๆ
เพื่อเป็นผู้ไม่ประมาท
"พยายามละกรรมชั่ว ประกอบแต่กรรมดี"
การที่ยังปฏิบัติดังกล่าวไม่ได้ ก็เพราะยังประมาท
มิได้พิจารณาในหลักกรรมและไม่เชื่อกรรม ไม่เชื่อในผลของกรรม
ต่อเมื่อเป็นผู้ไม่ประมาทและมีศรัทธาเชื่อดังกล่าว
จึงจะละกรรมชั่ว ทำกรรมดีได้ตามสมควร .. "
"อำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งกรรม"
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=9926
พุทธศาสนา ไม่ได้สอนให้กลัวกรรม (สมเด็จพระญาณสังวร)
"พุทธศาสนา ไม่ได้สอนให้กลัวกรรม"
" .. พระพุทธศาสนาสอนให้เข้าใจในกรรมนั้น "ไม่ได้สอนให้คนกลัวกรรม เป็นทาสกรรม"
หรือ "อยู่ใต้อำนาจกรรม แต่สอนให้รู้จักกรรม" ให้ควบคุมกรรมของตนในปัจจุบัน
"คนมีอำนาจเหนือกรรม อาจควบคุมกรรมของตนได้" แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า
"จะต้องควบคุมจิตเจตนาของตนได้ด้วย" โดยตั้งมั่นแน่วแน่อยู่ในธรรม
เช่น เมตตา สติ ปัญญา เป็นต้น อันเป็นส่วนจิตและศีล
อันหมายถึง ตั้งเจตนาเว้นการที่ควรเว้น ทำการที่ควรทำให้ขอบเขตอันควร
ทางพระพุทธศาสนา สอนให้ทุก ๆ คนพิจารณาหลักกรรมเนือง ๆ
เพื่อเป็นผู้ไม่ประมาท "พยายามละกรรมชั่ว ประกอบแต่กรรมดี"
การที่ยังปฏิบัติดังกล่าวไม่ได้ ก็เพราะยังประมาท
มิได้พิจารณาในหลักกรรมและไม่เชื่อกรรม ไม่เชื่อในผลของกรรม
ต่อเมื่อเป็นผู้ไม่ประมาทและมีศรัทธาเชื่อดังกล่าว
จึงจะละกรรมชั่ว ทำกรรมดีได้ตามสมควร .. "
"อำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งกรรม"
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้