พ่อแม่ไม่มีเงินเก็บ แล้วต้องมาเป็นภาระลูกหลาน มันคือสิ่งที่ควรจะเป็นหรอ?

กระทู้คำถาม
ตอบคำถามของหลายๆความเห็นไว้ตอนท้ายนะคะ
คือขอเล่าที่มาที่ทำให้เกิดคำถามนี้ขึ้นมาในใจ แบบย่อนะคะ

คือเราถูกเลี้ยงมาโดยแม่คนเดียว  ค่าใช้จ่ายของเราทุกอย่าง แม่เราเป็นคนออก
ส่วนพ่อเรา แทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย ตั้งแต่เด็กพ่อกลับดึก(เราหลับแล้ว)  ตอนเช้าเราออกไปรร.(พ่อยังไม่ตื่น)
จนช่วงเวลาเข้ามหาลัย ได้เรียนคณะที่นิยมเป็นอันดับต้นๆของมหาลัยชั้นแนวหน้า  แล้วเราก็ได้เงินมรดกจากย่าประมาน 40000บาท
เราเอาเงินไปลงทุนกองทุน ก็ได้กำไรจากการลงทุนมาพอสมควร ส่วนหนึ่งเราก็ให้แม่ อีกส่วนเรากะจะเก็บไว้ต่อยอดการลงทุน
แต่พ่อเราเห็นเราให้เงินแม่ ก็มาขอเงินเรามั่ง เราก็ลังเลนะ แต่ก็ให้ไป สุดท้ายเราไม่เหลือเงินหมุนที่จะเอาไว้ลงทุนต่อ การลงทุนของเราจึงจบลง
และพ่อก็มักจะพูดกรอกหูเราเสมอว่า ตอนพ่อแก่ต้องเลี้ยงพ่อนะ (เหมือนจะฝากปั้นปลายชีวิต ไว้กับเรา)
พ่อ : พ่ออยากมีบ้านที่ต่างจังหวัด
เรา : เอาเงินที่ไหนซื้ออะ
พ่อ : เอาเงินลูกไง
เรา : ....

ความรู้สึกเราคือคุณไม่ได้เลี้ยงดูเรามา เรารู้สึกว่าเราไม่ได้รับความรักจากคุณ เรารู้สึกว่าคุณแตกต่างจากพ่อคนอื่น เราเจอหน้าคุณน้อยมาก เราต้องให้เงินคุณใช้หรอ??

คำถามที่เราอยากถามชาวพันทิปคือ
การที่พ่อแม่อายุ 50-60แล้ว  ยังไม่มีเงินเก็บ  ยังไม่มีเงินที่จะใช้บั้นปลายชีวิต  แล้วต้องมาเป็นภาระลูกหลาน มันคือสิ่งที่ควรจะเป็นหรอ?
ทำไมถึงไม่เป็นแบบว่ามีเงินเก็บไม่ต้องรบกวนลูกหลาน  ให้ลูกหลานได้ใช้เงินที่หามาได้สร้างเนื้อสร้างตัวเอง
คือเราคิดว่าคำถามนี้มองได้หลายแง่ งดดราม่าแรงๆนะ แค่อยากฟังมุมมอง

ส่วนตัวเราสำหรับแม่ เราพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณ ไม่ว่าจะเรื่องเงินหรือเรื่องอะไรก็ตาม
แต่สำหรับพ่อ ยังเป็นปัญหาอยู่ในใจเราว่าควรทำอย่างไงดี เราจะกำลังเรียนจบแล้ว อีกหน่อยก็มีเงินเดือน  แต่เราไม่รู้เลยว่าควรแบ่งให้เค้ามั้ย?

ตอบความเห็น
สำหรับพ่อเรารู้สึกว่าในเมื่อเค้าไม่ได้ให้อะไรเราเลย ทำไมไม่เงินเก็บ ยังมาขอเราอีก

แม่เราเป็นคนพูดเองค่ะ  ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมด แม่เป็นคนออก พ่อไม่เคยช่วยอะไรเลย เราคิดว่าแม่อาจจะเหนื่อยเลยหลุดปากออกมา

พ่อเรามีการมีงานทำ มีเงินเดือน แต่เราไม่รู้ว่าเงินเดือนไปไหนหมด
สำหรับเราแล้ว พ่อไม่ได้ทำหน้าที่พ่อเลยค่ะ ทำอย่างเดียวคือให้เกิดมา
ส่วนเรื่องที่พ่อออกไปนอกบ้าน  เค้าบอกค่ะว่าไปทำงาน แต่เราจับได้ว่าเค้าไม่ได้ไปทำงานจริงๆ ลายละเอียดขอไม่พูดนะคะ มันจะยาว

แม่จะบ่นเป็นประจำว่าพ่อยืมเงินแล้วยังไม่คืน

พ่อไม่ได้กินเหล้าเมายาค่ะ แต่ด่าทอแม่ก็มีบ้าง ไม่ถึงกับทุบตี

ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่ากินอยู่อีก  ซื้อทีวี ซ่อมบ้าน ซื้อรถ  ถ้าพ่อคุณออกในส่วนนี้ละ????  --> ขอตอบว่าไม่ออกค่ะ

ย่ากับปู่ เคยบ่นเรื่องลูกชาย (พ่อของคุณ) เรื่องเงินทอง ค่าใช้จ่ายหรือไม่??  --> ไม่เคยบ่นค่ะ ปู่ตายแล้ว ย่าให้เช่าตึกและทำโรงจอดรถกับพี่น้องย่า  บางครั้งก็มาขอยืมเงินเรา เราก็ให้ไป และได้คืน

เราเก็บเงิน ขายของ แล้วก็ลงทุนกับพวกกองทุนบ้างค่ะ ถือพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง

ตอบครั้งที่2นะคะ
พ่อเราเป็นข้าราชการค่ะ ทำงานตามเวลาราชการ  แต่ที่บอกว่าไม่รู้ว่าทำไปทำอะไร กะใครที่ไหน คือหมายถึงหลังเลิกงานค่ะ ราชการเลิกงาน16.30น. เมื่อก่อนเราเรียนมัธยมเค้าจะกลับบ้าน23.00++
แม่เรารายได้ประมาน 50000 บาทต่อเดือน และเหมือนจะมีหนี้อยู่ ส่วนนี้แม่ไม่ยอมบอกว่าเท่าไหร่  น่าจะไม่อยากให้เรากังวล
เวลาเราให้เงินแม่ แม่เราจะบอกว่าให้เก็บไว้ใช้  แต่เราก็บอกว่าให้แม่เก็บ จะใช้เดียวขอเอง ต่างกับพ่อ ที่ออกปากขอเงินเราบ่อยมาก

จริงๆที่อยากให้โฟกัสคือคำถามที่ว่า
ในเมื่อคุณยินดีที่จะมีลูก เข้าใจค่ะว่าการเลี้ยงลูกมันเหนื่อย  แต่คุณมีลูกเพื่อหวังจะให้ลูกเลี้ยงตอนแก่หรอ?

จากคห.-64
ค่ะ ยอมรับว่าเล่าไม่หมด แล้วก็อาย
เราไม่แน่ใจนะคะว่าเรียกว่าสถานะอะไร
คือเค้าเคยแต่งงานกับป้า(เราเรียกว่าแบบนั้น)
แล้วที่เรารับรู้มาตั้งแต่เด็กคือเค้าเลิกกันแล้ว ค่อยมาแต่งกับแม่
แม่กับพ่อมีงานแต่ง แม่ได้สินสอด แม่เราสนิทกันดีกับย่า
แต่เราเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเค้าไม่ได้เลิกกันเด็ดขาด ยังไปมาหาสู่กัน เพิ่งมารู้ตอนมัธยม ยอมรับว่าช็อคมากค่ะ
เค้าคงเอาเงินของเค้าไปให้บ้านนั้นมั้งค่ะ เราก็ไม่ทราบเหมือนกัน
แต่ลูกของป้า(พี่เรา)เรียนไม่จบ อายุประมาน25-26 แล้วก็เหมือนจะไม่ได้ทำงานอะไรจริงจัง (ส่วนนี้เราไม่ค่อยแน่ใจนะคะ เพราะไม่สนิทกัน)
เค้าคงจะมาฝากผีฝากไข้กับเราแทนมั้ง เราเดาเอานะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 45
จขกท.เป็นลูก พอคุณพูดแบบนี้ออกมามันเลยดูไม่ดีสำหรับสังคมไทย ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะคิดตรงข้ามกับคุณ เพราะคนเราถูกกรอกหูและใส่สมองมาตั้งแต่เด็กในเรื่องความกตัญญู มันแทรกอยู่ในบทเรียน ในทีวีและสิ่งแวดล้อม

ส่วนตัวเราอายุก็น่าจะเป็นแม่คุณได้ เราเห็นด้วยกับคุณ และเข้าใจว่าคุณรู้สึกยังไง คนเราปลูกพืชอย่างไรก็ได้ผลแบบนั้น
พ่อคุณทำให้คุณเกิดมาแต่ไม่ได้ให้ความรักความใส่ใจใส่ปุ๋ย จะมาหวังให้คุณรักและเคารพก็คงจะหวังมากไปหน่อย

ขนาดเรามีแม่ที่เลี้ยงเรามาแต่ก็ไม่หวังให้ลูกคนไหนมาเลี้ยง แม่เราแค่แอบภูมิใจเวลาลูกไม่ดื้อและมีงานดีเลี้ยงตัวเองได้
เราโตมาแบบนี้เราเลยคิดไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน (แต่เหมือนคุณ) เราว่าการให้กำเนิดไม่ใช่บุญคุณแบบที่ชอบทวง ๆ กัน
แต่เป็นการตัดสินใจของผัวเมียว่าจะมีลูก ที่จะได้ดูแลกันและต่างคนต่างรักกันดีต่อกัน แน่นอนเค้าต้องอยู่ในฐานะที่พร้อมจะมีด้วย
ไม่ใช่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินหรืออดก้อนกินเกลือเพื่อหามาให้ลูกเรียน ซึ่งพอลูกจบก็หมดแรงหมดตัวต้องรอลูกมาเลี้ยงต่อ
เราว่ามันจะดูดีมีค่าถ้ามันไม่ได้มาในรูปแบบชดใช้กันแบบนี้

สำหรับเรานั้นคิดอยู่ตลอด (สมัยสาว ๆ) ว่าถ้ามีลูกและเค้าโตขึ้น เราจะไม่พึ่งอะไรลูก และจะไม่ทำตัวงอแงขี้ใจน้อยต้องมีลูกหลานมาห้อมล้อม
หรือเข้าไปล้ำเส้นอะไรในชีวิตเค้า ที่สำคัญเราจะไม่ทุ่มเทเงินจนหมดตัวเพื่อลูก คือต่อให้เรามีเงินก็จะไม่ซื้อของเล่นแพง ๆ หรือทูนหัวให้ทุกอย่าง
อย่างที่เราเห็นพ่อแม่สมัยนี้มีเท่าไหร่ให้ลูกหมดจนเด็กมีนิสัยติดหรู เพราะเราก็มีชีวิตของเราเหมือนกัน ที่ต้องดูแลและให้รางวัลตัวเองยามแก่
ความคิดเห็นที่ 68
นี่คือความล้มเหลวของระบบสวัสดิการสังคมของประเทศเรา
คนสูงอายุไม่มีเงินบำนาญ ไม่มี pension plan ต้องรอหวังพึ่งลูกหลานให้เลี้ยงดู
แบบนี้หรือเปล่า ประเทศเราถึงต้องมีการสะกดจิตเรื่องบุญคุณอันยิ่งใหญ่มหาศาลของบุพการี
ว่ามันยิ่งใหญ่เหลือคณานับ ทดแทนกันไม่มีวันหมดสิ้นทั้งชาตินี้และชาติหน้า
รัฐบาลก็ช่วยประโคมค่านิยมนี้ เพราะไม่อยากจะรับภาระดูแลผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้ง  

จริงอยู่พ่อแม่มีบุญคุณมหาศาล แต่การมีลูกและเลี้ยงลูกให้ดีตามสมควรนั้นเป็นหน้าที่ และความผิดชอบ
และเป็นสิงที่พ่อแม่เต็มใจทำเพราะความรัก  

ในประเทศตะวันตก การมีลูกถือเป็นการเติมเต็มชีวิตครอบครัว เขามองว่าการมีลูก  คือการที่ได้อยู่เป็นครอบครัว
มีความสุขร่วมกันแบบพ่อแม่ลูกไประยะหนึ่ง จนลูกโต แล้วก็ต้องปล่อยให้ลูกมีชีวิตของเขาเองต่อไป  
การย้ายออกจากบ้านเพื่อไปเรียนมหาวิทยาลัยถึงเป็นโมเมนต์ที่สำคัญมาก บางทีร้องไห้กันเสียมากมาย
เพราะมันเป็นสัญญานว่า ลูกจะไปแล้วนะ

คู่พ่อแม่เมื่อลูกไม่อยู่แล้ว ก็จะมีแผนว่าเกษียณอายุแล้วจะทำอะไร. ไปเที่ยวไหน จะใช้จ่ายอย่างไร
ให้มีชีวิตต่อไปได้อย่างสุขสบายตามสมควร และมีศักดิ์ศรี โดยไม่ต้องเป็นภาระให้คนอื่น
เขาไม่ได้หวังให้ลูกมาสร้างบ้านหรือให้เงินใช้กันไปตลอดชีวิตเพื่อทดแทนบุญคุณ.
พูดแบบนี้หลายคนอาจจะบอกว่า สังคมตะวันตกนั้นเย็นชา ไม่ดูแลกัน แต่ถ้าคุณได้มาอยู่จริงๆ
คุณก็จะเห็นว่า จริงๆแล้วเขาก็ดูแลกันตามสมควร พบปะสังสรรค์กัน มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นเหมือนเรา
(บางครอบครัวจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยที่แพงแสนแพงให้ลูกด้วยซ้ำ เพราะไม่อยากให้ลูกเป็นหนี้ ลำบาก)
เพียงแต่โดยทั่วไปเมื่อโตแล้ว ลูกก็ไม่เป็นภาระให้พ่อแม่ และพ่อแม่ก็ไม่เป็นภาระให้ลูก

แต่บ้านเรามันกลายเป็นว่า ผู้สูงอายุต้องรอหวังพึ่งลูกหลาน. ไม่สามารถอยู่ได้เองอย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งเราว่ามันสำคัญมากนะสำหรับมนุษย์ทุกคน
เพราะเราก็อยากรู้สึก ภาคภูมิใจ และมีคุณค่า ไม่ใช่ ลูกหลานเห็นแล้วต้องเบือนหน้าหนีว่ามาขอเงินอีกแล้ว
ลูกหลานที่เต็มใจเลี้ยงก็ดีไป แต่ที่ไม่เต็มใจก็ต้องอดทน จะทำไงได้คำว่า"บุญคุณมหาศาล" มันค้ำคออยู่
ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งเมืองไทยจะมีระบบสวัสดิการ และ pension plans ที่มีประสิทธิภาพ ให้ผู้คนเลี้ยงดูตัวเองได้จริง
เพราะไอ้ที่มีอยู่ทุกวันนี้มันพอแค่ซื้อเกลือคลุกกับเข้ากินเท่านั้น
(เก็บภาษีเยอะๆก็ได้ ขอให้เมื่อแก่เฒ่าประชาชนในชาติได้อยู่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องเครียด และกังวลว่าจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร)
ความคิดเห็นที่ 14
พ่อผมเสียไปแล้วครับ

ผมอยากให้พ่อผมฟื้นขึ้นมา
...ฟื้นขึ้นมาเพื่อเป็นภาระของผมไปจนกว่าผมจะตาย

แม่ผมยังอยู่
ผมอยากมีภาระนี้ตลอดไป ถ้าเป็นไปได้
ความคิดเห็นที่ 29
มีน้อยให้น้อยค่ะ เรื่องบ้าน ไม่ต้องเก็บมาคิด มีกำลังก็ทำ ไม่มีก็ไม่ต้อง
แต่ขออนุญาตนอกเรื่องนิดนึง อ่านไปแล้วก็คิดนะคะว่า ในขณะที่ลูกโตแล้วเห็นว่าพ่อแม่เป็นภาระ หาเงินได้ทำไมต้องแบ่งให้พ่อแม่ จะมีพ่อแม่คนไหนมั้ยนะ ที่อยากย้อนเวลากลับไป ตอนลูกเด็ก จะหาให้กินแค่ท้องอิ่ม ขนมฟุ่มเฟือยไม่ต้องซื้อ ของเล่นไม่ต้อง เสื้อผ้าแค่พอปิดกาย เรื่องเรียนคงไม่ต้องระบุตามที่ลูกชอบ แค่มีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำในสถาบันที่ค่าเล่าเรียนถูกที่สุด จะได้เก็บเงินไว้เลี้ยงตัวตอนแก่ไม่ต้องเป็นภาระลูก ส่วนชีวิตลูกอนาคตของลูก ก็ให้ลูกไปสร้างเอาเอง ถึงตอนนั้นจะมีลูกมาตั้งกระทู้มั้ย ว่าพ่อแม่เห็นแก่ตัว
ความคิดเห็นที่ 4
เราเป็นผู้ใหญ่เหมือนกับพ่อแม่จขกท. และอายุคงมากกว่าด้วย... เราอ่านกระทู้ปัญหาการเงินของคนสูงวัยในไทยมาหลายกระทู้ ที่คนส่วนมากมีปัญหาตรงไม่มีเงินเก็บ และจัดการเงินน้อยๆไม่ได้ ส่วนมากไปหากู้มาใช้ มาโปะหนี้ทบหนี้ หรือไปซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยคือมือถือ แท้บเบล็ท ฯลฯ

เราอยู่ต่างแดน เคยมีงานประจำทำ แต่หลังจากมีลูกๆเราลาออกมาเป้นแม่ฟูลทาม และต่อมามีงานทำแบบฟรีแล้นส์ สลับกับงานประจำมาได้สามปี และเพิ่งหยุดงาน ปัจจุบันว่างงาน... เราเก็บสะสมเงินที่หามาได้เผื่อใช้ฉุกเฉิน เราจำกัดงบประมาณการใช้จ่ายมาหลายปี... ทำให้เรามีเงินเก็บไว้จ่ายส่วนตัวและมีพอเพียงที่ช่วยลูกๆเราบ้าง เราไม่ใีมือถือรุ่นล่าสุด เราใช้มือถือที่ลูกเราโละไอโฟนเก่าให้เรามาใช้... ผู้ใหญ่ในไทยควรเปลี่ยนความคิดการปกครองตัวเองใหม่ ในเรื่องการจัดการเงิน ถึงแม้ว่ามีน้อยก็ควรใช้น้อย อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่มีมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่