ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม....มีแต่เสียง 14/12/2015.../sao..เหลือ..noi

กระทู้คำถาม


***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***

กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม....แต่มีเสียง.........

ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ


1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกัน
    แล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม





วันนี้พี่สาว....รับหน้าที่เป็น MC และเชิญชวนเพื่อนๆย้อนอดีตมารู้จักกับ
นักต่อสู้เพื่อประชาธปไตยเมื่อวันวาน กันค่ะ



จิระนันท์ พิตรปรีชา



จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จิระนันท์ พิตรปรีชา

เกิด    จิระนันท์ พิตรปรีชา
25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 (60 ปี)
จังหวัดตรัง ประเทศไทย
สัญชาติ    ไทย
อาชีพ    นักเขียน, ผู้จัดทำบทบรรยายภาพยนตร์
เป็นที่รู้จักจาก    อดีตผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
คู่สมรส    เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
บุตร    แทนไท ประเสริฐกุล   วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล

ดอกเตอร์ จิระนันท์ ประเสริฐกุล หรือเป็นที่รู้จักในชื่อสกุลเดิมว่า จิระนันท์ พิตรปรีชา (เกิด 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498)
เป็นอดีตผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลา ปัจจุบันเป็นนักเขียน และผู้จัดทำบทบรรยายภาพยนตร์ ได้รับรางวัลซีไรต์
พ.ศ. 2532 จากกวีนิพนธ์เรื่อง ใบไม้ที่หายไป  

.... จากกวีซีไรท์ วันนี้ คุณจีรนันท์มาในบทบาทใหม่ค่ะ  เยี่ยม



จากความหลงใหลในการถ่ายภาพ โดยเฉพาะภาพถ่ายในรูปแบบ Photojournalist (ภาพถ่ายที่บันทึกเหตุการณ์จริง
โดยไม่มีการจัดฉาก) จิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์ นักเขียน และช่างภาพอิสระ จึงได้ชักชวนเพื่อนสนิทมิตรสหายในแวดวงการ
ถ่ายภาพ อาทิ คุณเกรียงไกร ไวยกิจ คุณธีรภาพ โลหิตกุล และคุณเพ็ญพัฒน์ มรกตวิศิษฏ์ ร่วมมือกันจัดตั้ง ชุมชนฅนถ่ายภาพในนาม
‘สห + ภาพ’ เพื่อสร้างคุณค่าของ ‘ภาพ 1 ภาพ’ ให้มีคุณค่ามากกว่าการบันทึกเหตุการณ์ แต่เป็นการผลักดัน ‘ภาพถ่าย’
ให้มีคุณค่าเพื่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม



เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2551) ทางกลุ่มได้รวมรวมภาพถ่ายจากช่างภาพ 21 ท่าน โดยตั้งโจทย์ ‘ตลาด’ เป็นหัวข้อแรก
สาเหตุที่เลือก ‘ตลาด’ มาเป็นตัวเปิดโครงการ ก็เพราะ ‘ตลาด’ มีความหมายในเชิงชุมชนและสังคม แม้รูปแบบของ
ตลาดทั้งในหรือต่างประเทศจะเหมือนกันหรือแตกต่างกันบ้าง แต่ตลาดก็เปรียบเสมือนกับการเชื่อมต่อผู้คนในชุมชน หรือ
สังคมนั้นๆ ในเบื้องต้น เราได้ให้ช่างภาพไปหาภาพที่ตนเองมีอยู่ จากนั้นทำการรวบรวมภาพต่างๆ เหล่านั้นมาจัดแสดง
นิทรรศการภาพถ่ายภายใต้ชื่อ ‘ตลาดยังไม่วาย’ โดยจัดแสดงครั้งแรกที่ ตลาดร้อยปีสามชุก ซึ่งเป็นการจัดแสดงภาพถ่าย
‘ตลาด’ ในตลาดที่เก่าแก่



ในปี พ.ศ. 2552 ทีมงานได้เดินทางไปจังหวัดน่าน และได้พบกับคุณวีรวิทย์ วิวัฒนาวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านในสมัยนั้น
ท่านพูดว่า “ไม่ค่อยมีคนมาเที่ยวเมืองน่านเลย ผมอยากให้น่านเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์” ด้วยแนวคิดนี้ เปรียบเสมือน
กับตัวจุดประกายที่ทำให้ทีมงานตัดสินใจทำโครงการภาพถ่ายเสนอจังหวัด โดยให้ ‘ภาพ’ ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวเล่าตำนาน
ของจังหวัดน่าน ในครั้งนั้นได้ระดมช่างภาพกว่า 50 ชีวิต เดินทางไปทุกพื้นที่ของจังหวัด และใช้เวลา 3 วันในการบันทึกภาพ
จากนั้นทำการคัดเลือกภาพ แล้วพิมพ์เพื่อจัดแสดงนิทรรศการในวันรุ่งขึ้น ภายใต้ชื่อ ‘น่านนิรันดร์ 100 ภาพฝัน บันทึกแผ่นดิน’



หลังจากความสำเร็จของโครงการนี้ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาต่อยอด จากการร้อยเรียงภาพถ่ายของจังหวัดสู่การเรียงร้อยอมตธรรม
คำสอนควบคู่ไปกับภาพถ่าย จัดทำเป็นหนังสือภาพ ‘พิศเจริญ’ (Pictorial Photographs) เล่ม 1 และ
เล่ม 2 ในวาระ 100 ปี ชาตกาลหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ และ 105 ปี ชาตกาลท่านพระพุทธทาสภิกขุ ผลลัพธ์ที่ได้ดีเกินคาด
เพราะหนังสือสามารถขายหมดอย่างรวดเร็ว และขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง Best Seller ในร้านสะดวกซื้อ 7-11 นอกจากนี้
‘สห + ภาพ’ ยังจัดนิทรรศการภาพถ่าย ‘น้ำใต้ น้ำตา น้ำใจ’ โดยรวบรวมภาพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ กรุงชิง จังหวัด
นครศรีธรรมราช ในงานนี้สามารถระดมเงินช่วยเหลือและส่งต่อถึงผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญช่างภาพที่ไปเก็บภาพยัง
ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ผู้บันทึกเหตุการณ์แต่ยังทำหน้าที่หน่วยกู้ภัยในการช่วยเหลือผู้คนในชุมชนด้วย



‘ภาพ 1 ภาพ’ อาจทำหน้าที่บันทึกช่วงเวลาแห่งความสุข ภาพบางภาพอาจบันทึกความทรงจำในอดีต และภาพบางภาพ
อาจบันทึกช่วงเวลาแห่งความเศร้า แต่สำหรับคุณจิระนันท์ พิตรปรีชา หนึ่งภาพที่ถูกลั่นชัตเตอร์ หนึ่งเหตุการณ์ที่ถูกบันทึก
ไม่ได้ทำหน้าที่เก็บความทรงจำเพียงเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่บันทึกเหตุการณ์ ณ เวลานั้นเข้าไปด้วย และนี่คือ ‘สห + ภาพ’
ชุมชนฅนถ่ายภาพที่สร้างสรรค์สังคมจากภาพถ่าย จากอาชีพที่หลายคนมองข้าม ให้กลายเป็นพลังในการขับเคลื่อนชุมชน สังคม
และสิ่งแวดล้อม และล่าสุดกับโครงการที่กำลังร่วมมือกับทางจังหวัดหนองคาย ในการผลักดันให้จังหวัดแห่งนี้ให้เป็นมากกว่า ‘
ทางผ่าน’

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ งานของคุณเธอเต็มๆ  ตาม link นี้  ได้เลยค่ะ

http://www.creativemove.com/interview/jiranan-fotounited/

อ่านผลงานใหม่แล้ว  ก็ต้องมาฟังผลงานเก่าที่วันนี้ กลายเป็นเพลงอมตะไปแล้ว

ดอกไม้จะบาน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=ecYSxITDOaA

คำร้อง: จิระนันทน์ พิตรปรีชา
ทำนอง: ดร.วีรพจน์ ลือประสิทธิ์กุล

ดอกไม้ ดอกไม้จะบาน
บริสุทธิ์กล้าหาญ จะบานในใจ
สีขาว หนุ่มสาวจะใฝ่
แน่วแน่แก้ไข จุดไฟศรัทธา
เรียนรู้ ต่อสู้มายา
ก้าวไปข้างหน้า เข้าหามวลชน
ชีวิต อุทิศยอมตน
ฝ่าความสับสน เพื่อผลประชา
ดอกไม้ บานให้คุณค่า
จงบานช้าๆ แต่ว่ายั่งยืน
ที่นี่ และที่อื่นๆ
ดอกไม้สดชื่น ยื่นให้มวลชน...

วันนี้  ไหน ไหนพี่สาวแนะนำ หญิงแกร่ง นักต่อสู้  เพื่อประชาธิปไตยกันแล้ว
ก็ขอชักชวนเพื่อนๆ  มาเปิดเพลงเพื่อชีวิต  กันสักวันนะคะ   ใครนึกถึงเพลงอะไร
ก็เอามาเปิด  ให้เพื่อนๆ ได้ร่วมระลึกเพื่อ รอวันประชาธิปไตยเบ่งบานกันหน่อย
อมยิ้ม16

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ดอกไม้ให้คุณ - คาราวาน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=3g7kTZ2sn2E

สาวแว่น
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 22
เพลงเพื่อชีวิตอีกเพลง

เธอผู้เสียสละ by MC มาริโอ้

..รุ่งเช้าวันหนึ่งแจ่มใส  เธอพาดวงใจของเธอก้าวมา
แผ่วเบาเหมือนดังลมพา เธอเริ่มแสวงหาในสิ่งที่หวน
เธอยังใหม่ในศึกษา ได้ปราถนาศึกษาโซ่ตรวน...

https://www.youtube.com/watch?v=gWmVQGwPf6o
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
สวัสดีค่ะ MC พี่สาว และเพื่อนๆ ทุกคน

วันนี้ธีมเพลงเพื่อชีวิต งั้นหนูขอเปิดเพลงนี้ค่ะ ไม่รู้เรียกเพื่อชีวิตไหม


คนเก็บฟืน (ต้นฉบับ) - คาราบาว

..เบื้องบน เป็นแผ่นฟ้ากว้าง
เบื้องล่าง เป็นธารน้ำใส
ตัว ฉันมีกาน้ำ หนึ่งใบ
กับกอง ฟืน ที่วางอยู่เรียงราย

https://www.youtube.com/watch?v=rsPDZnYf9Yw
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ชอบประโยคนี้จัง
...เราคบกันใต้ดวงตะวันรอน ยามเธอนอนฉันจะกล่อมนิทรา... ดูอบอุ่นมาก


ส่วนท่อน

...เราคบกันแล้วพากันก้าวไป ไปเก็บไม้เก็บฟืนมาต้มกา
น้ำเดือดเรามาแบ่งกันกิน ฟืนหมดเราช่วยกันเก็บฟืน
...

มีคนบอกว่า (เราไม่ได้คิดเองนะ เคยอ่านเจอในเนต มันเป็นอารมณ์ของพวกค่ายอาสา)

เก็บไม้ เก็บฟืน       = ไปเก็บฝันและใฝ่
ต้มกา                    = มาหลอมรวมกัน
น้ำเดือด                 = เมื่อความรักมันเกิด
แบ่งกันกิน             = เราก็แบ่งปันสู่โลก
ฟืนหมด                 = เมื่อมันจางลง
เราช่วยกันเก็บฟืน   = เราก็จะสร้างมันขึ้นมาใหม่


ปล. เพลงนี้เค้าว่ากันว่าเป็นผลผลิตของวรรณกรรมจีนเรื่องนึง ที่ตัวเอกสมถะ สันโดษ คนคิดว่าเขาบ้า แต่ความจริงเขาบรรลุธรรม
ไม่ยึดติด หรือยินดียินร้ายอะไร อยู่กับธรรมชาติ

หัวใจหัวใจหัวใจ
ความคิดเห็นที่ 12
วันนี้แจมด้วยเพลง กระแต อาร์สยามครับ

"ยิ่งถูกทิ้ง ยิ่งต้องสวย (Stay Cool!)"

อยู่อยู่ก็เสียหลัก โดนคนรักกันมาหลอก ก็มันทั้งช้ำมันทั้งช๊อคน้ำตาก็แตกกระจาย
ก็คนมันช้ำหนัก ต้องหลบไปพักใจ ก็เฮิร์ทนี่หว่าโดนทิ้งนี่หน่าจะให้ลั้นลา­อย่างไร
เป็นอะไรอ่ะ ยิ้มเข้าสิ แคร์ไปอะไรคนไม่รักดี กลัวอะไรอ่ะ ลุกขึ้นสิ ทำให้เขาเสียดายเซ่ เซ่

* ยิ่งถูกทิ้งยิ่งต้องสวยไม่ต้องแคร์อะไร เพรียวเพรียวเข้าไว้เป๊ะรอไว้ก่อน
ยิ่งถูกทิ้งยิ่งต้องเซี๊ยะไม่ต้องเพลียอะไ­ร เอาให้แซ่บเข้าไว้สวยอย่าไปยอมพักผ่อน

ต้องเอาให้เริ่ดค่ะ ทั้งหน้าและทรงผม ต้องสวยให้สาสวยให้สมน้ำหน้าที่ทิ้งไป
ก็อย่าไปเสียหลัก ไม่รักก็ไปไป๊ ก็เรื่องของเข เรื่องของเขาเดี๋ยวเราก็มีใหม่
เป็นอะไรล่ะ ยิ้มเข้าสิ แคร์ไปทำไมคนไม่รักดีอ่ะ กลัวอะไรอ่ะ ลุกขึ้นสิ ทำให้เค้าเสียดายเซ่เซ่

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แจมด้วยสาวอีกละครับ ในงานโฟโตแฟร์ครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่