รีวิวหนัง : Point Break เส้นทางที่เราเลือก



Point Break 2015 เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นทริลเลอร์ที่รีเมคมาจากหนังชื่อเดียวกันเมื่อปี 1991 ซึ่งแจ้งเกิดให้กับ เคอานู รีฟส์ ในบท จอห์นนี่ ยูทาห์ ตำรวจหนุ่มที่แฝงตัวเข้าไปในแก๊งคนร้าย ซึ่งเขาแสดงร่วมกับ แพทริก สเวซี ที่เล่นเป็น โบห์ดี้ หัวหน้าแก๊ง เวอร์ชั่นเก่า รีฟส์ หัวดำ สเวซี หัวทอง มาเวอร์ชั่นนี้กลับกัน ลุค เบรซี่ ผู้รับบท จอห์นนี่ ยูทาห์ หัวทอง และ เอ็ดการ์ รามิเรซ ที่แสดงเป็น โบห์ดี้ หัวดำ

ตำแหน่งผู้กำกับเป็น อีริคสัน คอร์ ผู้กำกับภาพจากหนัง Invincible และ The Fast and the Furious ที่ทุ่มทุนไปกับโปรเจคนี้มหาศาลทั้งการถ่ายทำในสถานที่จริงแทนที่จะใช้เทคนิคภาพพิเศษ โดยทีมงานต้องเดินทางไปถ่ายทำในกว่า10ประเทศทั่วโลก แถมยังมีฉากบ้าระหํ่าสุดอันตรายมากมาย กองถ่ายมีอุบัติเหตุบาดเจ็บกันบ้างเล็กน้อย เคราะห์ดีที่ไม่มีใครพลาดท่าจนถึงขั้นเสียชีวิต

ตัวหนังเกี่ยวกับ จอห์นนี ยูทาห์ เจ้าหน้าที่ FBI ฝึกหัดซึ่งเคยเป็นนักมอเตอร์ไซด์วิบากมาก่อน เขาหันหลังให้สิ่งที่ตัวเองชอบเพราะฝังใจกับอุบัติเหตุที่ทำให้เพื่อนสนิทต้องจากไป จอห์นนี ได้รับโอกาสให้แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มนักเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ถูกสงสัยว่าเป็นแก๊งค์อาชญากรซึ่งทำการปล้นแบบอุกอาจในหลายประเทศ

โบห์ดี้ หัวหน้าแก๊งค์รู้สึกถูกชะตาจึงชักชวน จอห์นนี เข้ากลุ่ม พวกเขาเชื่อในแนวคิดการพิชิตภารกิจ8ข้อของ โอซากิ ที่เกี่ยวข้องกับการเคารพนับถือธรรมชาติ โดยแต่ละข้อล้วนเป็นการกระทำที่ค่อนข้างบ้าบิ่น ยากเกินกว่าขีดจำกัดของมุนษย์ธรรมดา ซํ้ามันยังพาผู้ปฏิบัติให้เข้าไปใกล้กับความตายมากๆ ต่อมา โบห์ดี้ กับพวกยอมให้ จอห์นนี เข้าร่วมในการปล้นครั้งใหม่ จอห์นนี ที่เริ่มมีความใกล้ชิดกับคนร้ายจะเลือกเส้นทางไหนระหว่าง มิตรภาพ กับ ความถูกต้อง

แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ไม่สามารถเลี่ยงการถูกเอาไปเปรียบเทียบกับต้นฉบับได้ ซึ่งก็ดูด้อยกว่าในหลายส่วน ทั้งบทภาพยนตร์ที่ไม่หนักแน่น เดินเรื่องแบบสูตรสำเร็จ เดาทางได้หมด คล้ายกับเป็นการผสมผสานของ xXx กับ Fast and the Furious (ตรวจแฝงตัวมาสืบคดี ซีนล้อมวงจับมือก่อนกินข้าว) หนังเน้นขายฉากเสี่ยงตายกับโลเคชั่นสวยๆในหลายเมืองทั่วโลก ซึ่งก็ยอมรับว่าน่าตืนตาตื่นใจในระดับหนึ่ง ทว่าหนังควรจะให้ความสำคัญกับพาร์คคดีอาชญากรรมหรือดราม่าความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่า

ตัวละครน่าเสียดายที่เกือบทุกคนแบนราบ ไร้มิติ ลุค เบรซี่ มีดีที่หุ่น ขณะที่รอยสักบางคนมองว่าสวดีย บางคนมองว่าดูปลอมๆ แต่โดยรวมเขายังขาดเสน่ห์ที่จะครองใจคนดูส่วนใหญ่ ด้าน เอ็ดการ์ รามิเรซ แสดงได้เด่นกว่า บุคลิกแบดบอยของเขาเท่ห์ น่าหลงใหลพอที่จะทำให้ผู้ชมแอบลุ้นเอาใจช่วย ข้ามมาฝั่งผู้หญิง เทเรซา พาล์มเมอร์ ในบท แซมซาร่า สาวคนเดียวในกลุ่ม คาแร็กเตอร์เธอน่าสนใจมาก ติดตรงบทไม่ค่อยส่งเท่าไหร่ ยืนยันอีกครั้งว่าเธอเหมือนฝาแฝด คริสเท่น สจ๊วร์ต จริงๆ

ใน Point Break โอซากิ 8 ที่ฟังคล้ายๆ มรรค 8 ของศาสนาพุทธ กับแนวคิดธรรมชาตินิยม ตอบแทนสังคม ปล้นคนรวยมาช่วยคนจน ดูเป็นนามธรรมเกินไปหน่อย มันสุดโต่งชนิดไม่มีทางสายกลางเลย โดยเฉพาะการเข้าสู่นิพพานด้วยการปฏิบัติให้ครบ8ข้อ ส่วนตัวชอบแค่คำพูดของ โบห์ดี้ ที่ใช้ปลอบ จอห์นนี่ ประเด็นรู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้เพื่อนตายว่า เราทุกคนต่างเลือกเส้นทางของตัวเอง

คะแนน 6.5/10

โดย นกไซเบอร์

เครดิต https://www.facebook.com/cyberbirdmovie

ตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/209035/?link=4
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่