"เสรี" อัด "นิพิฏฐ์" หยุดอวดฉลาด ขวางเลิกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แจง ข้อเสนอยกเลิกการยื่นซักฟอก เพื่อปิดช่องทางรัฐบาลเอื้อประโยชน์ ส.ส. แนะ เปลี่ยนใช้วิธีถอดถอนเพื่อเอาผิดทางกฎหมายแทน
วันที่ 13 ธ.ค. นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงกรณี นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คัดค้านข้อเสนอการยกเลิกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า นายนิพิฏฐ์ คงฟังมาครึ่งๆ กลางๆ ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอามากระเดียด ขอให้เลิกโวยวาย อวดฉลาด กล่าวหาให้คนอื่นเสียหาย การที่ตนเสนอให้ยกเลิกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากที่ผ่านมา ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ใช้กระบวนการเกื้อกูลหาผลประโยชน์ให้กัน เพื่อให้ได้เสียงในสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด ก่อให้เกิดระบบโควตา ใครมี ส.ส. 10 คน ได้รัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง ต้องหาผลประโยชน์ดูแล ส.ส.ในสภา แต่วิธีการให้ ส.ส.เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เป็นวิธีที่ไม่ได้ผล ทำให้การเมืองขาดเสถียรภาพ หลายครั้งที่รัฐบาลอยู่ไม่ได้ แต่ใช้วิธียุบสภา ทั้งที่สภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ทำผิด จึงควรแยกอำนาจ โดย ส.ส.ไม่ควรอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ไม่ควรมีอำนาจยุบสภา เพื่อให้ต่างฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองให้ครบวาระ หากใครกระทำผิดให้ใช้การอภิปรายแสดงพยานหลักฐาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการถอดถอนออกจากตำแหน่ง หรือดำเนินคดีอาญาคนทุจริต แต่ ส.ส.รุ่นเก่าไม่ต้องการวิธีนี้ เพราะทำให้ขาดผลประโยชน์ที่ฝ่ายรัฐบาลคอยหาผลประโยชน์ให้ ส.ส.หาเงินเข้าพรรค เป็นทุนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
นายเสรี กล่าวว่า ขอให้เข้าใจว่า การอภิปรายในสภายังคงมีอยู่ต่อไป การขุดคุ้ยหาพยานหลักฐานนำมาแสดงก็ยังคงมีอยู่ต่อไป แต่เป็นการตรวจสอบ หรือเสนอหลักฐานเพื่อถอดถอน หรือดำเนินคดีอาญากับฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารที่ทำผิด เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร แยกอำนาจหน้าที่กันแล้ว รัฐบาลไม่จำเป็นต้องไปเลี้ยงดู หาผลประโยชน์ให้ ส.ส. เพื่อให้ได้คะแนนเสียงมาค้ำจุนรัฐบาล แต่ ส.ส.ทั้งสภา คือ คนที่มีหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล โดยไม่ต้องมี ส.ส.ในสภาอีกส่วนหนึ่งมาคอยช่วยเหลือรัฐบาล จะทำให้การตรวจสอบรัฐบาลมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
http://www.thairath.co.th/content/548596
แล้วท่านทั้งหลายมีความเห็นอย่างไร....
เสรี อัด นิพิฏฐ์ หยุดอวดฉลาด ขวางเลิกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รบ.
วันที่ 13 ธ.ค. นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงกรณี นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คัดค้านข้อเสนอการยกเลิกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า นายนิพิฏฐ์ คงฟังมาครึ่งๆ กลางๆ ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอามากระเดียด ขอให้เลิกโวยวาย อวดฉลาด กล่าวหาให้คนอื่นเสียหาย การที่ตนเสนอให้ยกเลิกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากที่ผ่านมา ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ใช้กระบวนการเกื้อกูลหาผลประโยชน์ให้กัน เพื่อให้ได้เสียงในสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด ก่อให้เกิดระบบโควตา ใครมี ส.ส. 10 คน ได้รัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง ต้องหาผลประโยชน์ดูแล ส.ส.ในสภา แต่วิธีการให้ ส.ส.เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เป็นวิธีที่ไม่ได้ผล ทำให้การเมืองขาดเสถียรภาพ หลายครั้งที่รัฐบาลอยู่ไม่ได้ แต่ใช้วิธียุบสภา ทั้งที่สภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ทำผิด จึงควรแยกอำนาจ โดย ส.ส.ไม่ควรอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ไม่ควรมีอำนาจยุบสภา เพื่อให้ต่างฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองให้ครบวาระ หากใครกระทำผิดให้ใช้การอภิปรายแสดงพยานหลักฐาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการถอดถอนออกจากตำแหน่ง หรือดำเนินคดีอาญาคนทุจริต แต่ ส.ส.รุ่นเก่าไม่ต้องการวิธีนี้ เพราะทำให้ขาดผลประโยชน์ที่ฝ่ายรัฐบาลคอยหาผลประโยชน์ให้ ส.ส.หาเงินเข้าพรรค เป็นทุนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
นายเสรี กล่าวว่า ขอให้เข้าใจว่า การอภิปรายในสภายังคงมีอยู่ต่อไป การขุดคุ้ยหาพยานหลักฐานนำมาแสดงก็ยังคงมีอยู่ต่อไป แต่เป็นการตรวจสอบ หรือเสนอหลักฐานเพื่อถอดถอน หรือดำเนินคดีอาญากับฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารที่ทำผิด เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร แยกอำนาจหน้าที่กันแล้ว รัฐบาลไม่จำเป็นต้องไปเลี้ยงดู หาผลประโยชน์ให้ ส.ส. เพื่อให้ได้คะแนนเสียงมาค้ำจุนรัฐบาล แต่ ส.ส.ทั้งสภา คือ คนที่มีหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล โดยไม่ต้องมี ส.ส.ในสภาอีกส่วนหนึ่งมาคอยช่วยเหลือรัฐบาล จะทำให้การตรวจสอบรัฐบาลมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
http://www.thairath.co.th/content/548596
แล้วท่านทั้งหลายมีความเห็นอย่างไร....