[CR] #น่านไงกูบอกแล้ว ทริปเร่งด่วน! 3 วัน 2 คืน EXCLUSIVE and UNSEEN ความทรงจำดีๆที่ 'น่าน'

กระทู้รีวิว
"น่าน ๆ แบบเนิบ ๆ"

10/12/15 - 12/12/15
all photos were taken by: Fuji X-E2, 18-55mm
#cupidoct
#น่านไงกูบอกแล้ว
**ขอความกรุณาอย่านำรูปในกระทู้นี้ไปใช้ที่อื่นนะครับ
หรือถ้าต้องการจะใช้จริงๆ ให้ติดต่อที่เพจ cupidoct ในเฟซบุ๊คนะครับ**



สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิปทุกคนนะครับ ผมยืมไอดีเพื่อนมาครับ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมตั้งกระทู้รีวิวท่องเที่ยว รูปอาจจะไม่สวยเท่าไหร่ ฝากด้วยนะครับ
ทริปนี้เป็นทริปที่จัดขึ้นแบบลวก ๆ มาก ๆ และเร่งด่วนมาก ๆ เพราะเวลาของสมาชิกเพิ่งว่างตรงกัน นาน ๆ ทีจะว่างตรงกันน่ะครับ พวกเราก็เลยคิดว่าจะไปเที่ยวสักที่ที่มีธรรมชาติสวย ๆ ให้ได้ ตอนแรกพวกเราคิดจะไปเที่ยวที่จังหวัดสุราษณ์กันแต่น่าเสียดายที่ช่วงนั้นมีมรสุมเข้า พวกเราเลยเปลี่ยนจุดหมายไปที่ -จังหวัดน่าน- แทนครับ พวกผมจึงเริ่มจองตั๋วก่อนเลย  

Air-asia ครับ เที่ยวบินที่ FD3554 จากท่าอากาศยานดอนเมือง ไป ท่าอากาศยานจังหวัดน่าน 10/12/15 ช่วง7.30-8.40 น.
และขากลับ FD3557 ขากลับ ท่าอากาศยานจังหวัดน่าน ไป ท่าอากาศยานดอนเมือง 12/12/15 ช่วง 16.45-17.55 น.
เนื่องด้วยพวกเราจองกันแบบกระชั้นมาก ๆ ทำให้พลาดเที่ยวบินที่ลดราคา ค่าตั๋วพวกเราเลยพุ่งไปถึง 3,190 บาท ;__;

หลังจากนั้นพวกเราจึงเริ่มค้นหาที่พัก เลยลองเซิชกูเกิ้ลดูแล้วก็ไปเจอกับ บ้านมณีพฤกษ์รีสอร์ท อยู่บนดอยผาผึ้ง จึงได้ทำการโทรจองที่พักกัน 1 คืน แล้วพวกเราจึงโทรไปจองรถตู้ 3 วัน แล้วก็รอถึงวันเดินทางเลยครับ 5555


เราไปถึงที่น่านเวลาประมาณ 9 โมงเช้า พวกเราก็เจอกับพี่ใหญ่คนขับรถตู้ที่ได้โทรจองไว้ เราเลยให้พี่ใหญ่พาไปทานอาหารกันก่อนเลยครับ ร้านที่เราไปก็คือ ร้านข้าวซอยต้นน้ำชื่อดัง ข้าวซอยเนื้อ อร่อยมากครับบรรยากาศร้านครับ
ทานกันอิ่มแล้ว พวกเราก็เดินเล่นบริเวณใกล้ๆ ถนนคนเมือง

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วพวกเราก็ไปยังวัดภูมินทร์
มีน้องๆมาบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาด้วยครับ เก่งมาก ๆ

หลังจากชมความสวยงามของวัดเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็เดินทางไปโลตัสครับ พวกเราวางแผนไว้ว่าจะขึ้นไปทำอาหารกินกันบนดอย เราเลยซื้อเนื้อหมูบด เครื่องเทศ เครื่องปรุง เตาแก๊สพกพา และอุปกรณ์ต่างๆให้เพียบพร้อม แล้วพวกเราก็พร้อมที่จะเดินทางไปยังภูผาผึ้งที่พวกเราจองไว้แล้วครับ การเดินทางจากตัวเมืองไปยังดอยผาผึ้งใช้เวลานานมาก 3.30 ชั่วโมงโดยประมาณ เส้นทางที่ไปไปได้ทางเดียวครับ ไปทางไหนกลับทางนั้น ระหว่างทางเต็มไปด้วยหลุมและทางคดเคี้ยว พวกเราบางคนก็คลื่นไส้กันไปไม่น้อยเลย 5555

และเราก็มาถึงแล้วครับ  เวลา15.50 น. เชื่อไหมครับว่าที่นั่นมีนักท่องเที่ยวอยู่แค่กลุ่มผม 5 คน กับอีกกลุ่มนึง 4 คน เท่านั้นเอง อากาศเย็นสบายประมาณ20 องศา กำลังดี แต่สัญญาณโทรศัพท์เข้าไม่ถึงนะครับ 555
พวกเราก็เจอกับท่านรองกล้วย เจ้าของของที่นั่นครับ เค้าก็ต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี แล้วก็ให้พวกเราเก็บของเข้าที่พักแล้วมาเจอกันที่ส่วนกลางตอนเวลา 16.30 เพื่อที่รองกล้วยจะพาพวกเราไปชมสวนกาแฟที่รองกล้วยปลูกเองกับมือ และพาไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่บ้านพักของเค้าครับ
กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลา 18.30 แล้วครับ รองกล้วยก็พาพวกเรากลับที่พัก พวกเราจึงเริ่มทำอาหารท่ามกลางอากาศที่หนาว 15 องศา อาหารที่ทำมื้อเย็นวันนี้เป็นเมนู Meat ball ครับ หั่นผัก เครื่องเทศ แล้วก็บดรวมกับหมู ค่อยเอามาปั้นเป็นก้อนสอดไส้ชีสครับจากนั้นก็ใส่น้ำและซอสมะเขือเทศลงไป ปิดฝารอให้สุกก็จะได้ที่และพร้อมทานได้เลย อร่อยมาก ๆ ครับ
ส่วนนี่เป็นท้องฟ้ายามค่ำคืนครับ ด้วยความสามารถของผมและกล้องที่มีเลยถ่ายมาได้แค่นี้ครับ ของจริงสวยกว่านี้มากๆครับ เห็นดาวนับไม่ถ้วนแบบชัดมากๆเลย

วันต่อมาพวกเราตื่นเช้ามากๆ เตรียมตัวที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ยอดดอยผาผึ้ง รองกล้วยเป็นคนพาไปอีกเช่นเคยครับ

แน่นอน พวกเราขนอุปกรณ์ทำอาหารมาอีกเหมือนเดิม 5555 เช้านี้เราจะทำ Shakshuka อาหารตูนีเซียครับ ทานกับขนมปังครับ
อร่อยและฟินมากๆเลย นักท่องเที่ยวกลุ่มเดียวที่อยู่บนดอย กับอาหารอร่อยๆ ท่ามกลางวิวบนยอดดอยที่เห็นทั้งดวงอาทิตย์ขึ้นทั้งทะเลหมอก เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำจริงๆครับ
มื้อเช้าที่งดงามแบบนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือกาแฟ พวกผมนำเมล็ดกาแฟที่รองกล้วยให้มาไปบดและต้มดื่มกันเองด้วยครับ Privileged สุดๆ
รองกล้วยก็ใจดีนะครับ ที่ให้ความกรุณาพวกผมได้เก็บบรรยากาศบนนั้นจนพอใจ

พอเสร็จ รองกล้วยก็พาพวกผมไปที่หมู่บ้านมณีพฤกษ์ เป็นหมู่บ้านเดียวที่อยู่บนภูนั้น เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่น่ารัก ทุกๆ คนดูมีความสุข
รองกล้วยพาพวกเราเข้าไปนั่งจิบกาแฟฝีมือของเค้าข้างในบ้านครับ อร่อยกลมกล่อมมากๆ
รองกล้วยบอกกับพวกเรานะครับว่าอยากให้ทุกๆคนได้ลองลิ้มรสของกาแฟ และธรรมชาติของที่นี่ อยากให้ทุกๆคนท่องเที่ยวในไทย เที่ยวแบบธรรมชาติและ ให้อนุรักษ์สิ่งเหล่านั้นไว้ให้คนรุ่นต่อๆไปได้สัมผัสครับ

หลังจากที่พวกเราได้นั่งจิบกาแฟในบ้านรองกล้วยแล้วก็เป็นเวลาประมาณ 10 โมง รองกล้วยบอกว่าเป็นเวลาที่พอดีกับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่จะส่องเข้าถ้ำ เค้าก็เลยพาพวกเราไปลุยถ้ำ ใช้คำว่าลุยนะครับ เพราะมันค่อนข้างจะแอดเวนเจอร์5555
ถ้ำแรกที่พวกเราไปกันก็คือ ถ้ำผาผึ้ง รถกระบะขับถึงแค่ถนนตรงหน้าแต่ต้องเดินเข้าไปอีกนิดหน่อย ด้วยอากาศที่หนาวและชื้น ดินและหินแถวๆนั้นก็เปียกและลื่นมากครับ
ยังดีที่ชาวบ้านเค้าทำทางให้เดินไว้บ้าง

ส่วนนี่เป็นบรรยากาศภายในถ้ำครับ น่าเสียดายที่วันนี้ดวงอาทิตย์เดินเร็วไปหน่อยเลยทำให้ภายในค่อนข้างมืด
หลังจากที่พวกเราลุยถ้ำแรกกันเสร็จแล้ว ประมาณ12.00 น. พวกเราก็กลับที่พักครับ ทางชาวบ้านก็ทำกับข้าวเป็นข้าวไข่เจียวให้ทานกัน อิ่มท้องมาก มีเด็กๆมานั่งเล่นด้วยน่ารักมาก
อากาศเริ่มร้อนขึ้นแล้วครับ ประมาณ 22 องศา ลมยังเย็นแต่แดดแรงมากพวกเราเลยไปเปลี่ยนชุดกันพร้อมจะลุยต่อช่วงบ่ายครับ

ในช่วงบ่าย ตอนแรกรองกล้วยจะพาเราไปที่ถ้ำตาปี ที่น้ำตกจะไหลเข้าถ้ำ แต่ด้วยเพราะอากาศชื้นมากเส้นทางเลยจะลำบากเดินจนไม่ได้ เค้าเลยให้ชาวบ้านพาไปยังถ้ำอีกถ้ำนึงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก เดินถึงครับ เค้าบอกว่านักท่องเที่ยวไม่ค่อยไปกัน พวกเราเลยไหนๆก็มาถึงที่แล้วเลยตกลงไป จำชื่อถ้ำไม่ได้ต้องขอโทษด้วยนะครับ นี่เป็นบรรยากาศระหว่างทางไปถ้ำ

ก่อนถึงถ้ำจะเจอทุ่งผักครับ
มีเด็กน้อยมายืนเป็นแบบให้พวกเราด้วยครับ

พอผ่านโซนทุ่งผักไป ของจริงแล้วครับ ลุยหนักกว่าถ้ำแรกอีกไม่มีการทำทางให้เดินใดๆ ต้องลุยโคลนปีนป่ายก้อนหินลื่นๆ กันจนเหนื่อยครับ ดีที่มีชาวบ้านนำทางนะครับไม่งั้นคงหลงอยู่ในนั้นแล้ว 5555
ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเพราะมันทรงตัวยากมากครับ ต้องเก็บกล้องก่อน
ภายในถ้ำมืดและชันและลึกมากๆ พวกผมก็บ้าจี้ใช้แฟลชไอโฟนลุยลงไป เกือบไม่รอด 555 สภาพดูไม่ได้เลยครับ 5555

นี่ถ่ายออกมาจากจุดที่พอเห็นแสงในถ้ำครับ

ตอนขากลับเดินออกมา พี่ชาวบ้านบอกให้ระวังต้นไม้ต้นนี้
ชื่อสินค้า:   น่าน ดอยผาผึ้ง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่