ว่าด้วยเรื่อง การโกหก ทางลัดในการเข้าสังคมของออย

หลังจากดูฮอร์โมนส์ตอนนี้จบ เราได้แต่จุกไปกับความรู้สึกหลากหลายที่มันเอ่อล้นอยู่ข้างใน
เราเข้าใจว่าทีมเขียนบทคงทำการบ้านในเรื่องวิธีคิดและการรับมือกับปัญหาที่ตัวละครออยจะต้องพบเจอไว้ไม่น้อยอยู่แล้ว
ซึ่งเป็นอันรู้กันอยู่แล้วว่า ฮอร์โมนส์ตอนนี้เป็นตอนที่ใช้อธิบายความรู้สึกของตัวละครขนมปังเป็นหลัก
แต่ทว่ามันกลับทำให้เรารู้สึกสะเทือนไปในทุกๆ อารมณ์ที่ออยต้องเผชิญ

เราไม่รู้ว่าเรื่องราวการย้ายโรงเรียนก่อนหน้านี้ของออยเกิดขึ้นจากปัญหาอะไร
แต่ปัญหาของออยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มันเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่เรียกว่า การโกหก
สำหรับบางคนอาจมองว่า การโกหกไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะหลายต่อหลายครั้งที่คำโกหกเพียงเล็กน้อยกลับสร้างความเสียหายได้อย่างใหญ่หลวง

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า สำหรับบางคน การโกหกนั้นก็เป็นทางลัดในการเข้าสังคมที่แสนจะสะดวก ตราบเท่าที่คำโกหกนั้นยังคงไม่ถูกลดทอนอำนาจลง
ซึ่ง ออย ก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้ การโกหก เป็นตัวเร่งพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับ"เพื่อนสนิท"อย่าง ขนมปัง

แรกเริ่ม ออยอาจจะโกหกเพียงเพื่อปกปิดสิ่งที่ออยคิดว่ามันเป็นจุดบกพร่องของตัวเอง อย่างเรื่องครอบครัวที่ออยไม่ได้รู้สึกภูมิใจกับมันอย่างที่ควรจะเป็น
และเมื่อลองได้โกหกครั้งหนึ่งแล้ว ก็เหมือนกับการลองเอาเท้าแหย่ลงไปในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยครั้งแรก
พอได้ข้ามพ้นเขตแดนนั้นมาแล้วก้าวหนึ่ง เราก็จะรู้สึกว่ามันปลอดภัย จึงทำให้ก้าวต่อๆ มานั้นไม่ได้เป็นเรื่องยากสำหรับเราอีกต่อไป

ดังนั้น ทุกครั้งที่ออยถูกขนมปังตั้งคำถามหรือมีบทสนทนาที่เชื่อมโยงไปยังคำโกหกที่ออยได้เคยสร้างไว้
ออยก็จะไม่หลบเลี่ยงที่จะพูดถึงมันหรือรู้สึกผิดกับคำโกหกที่เคยเกิดขึ้น
ทว่ากลับจะไปแต่งเติมเสริมเรื่องราวให้คำโกหกครั้งก่อนดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก
นั่นเพราะว่าออยเชื่อว่า การโกหก จะช่วยรักษาความมั่นคงของสถานะทางสังคมที่มีอยู่เดิมให้ยืนยาวนั่นเอง

ยิ่งการโกหกไต่ขั้นบันไดสูงขึ้นไปเท่าใด การก้าวลงมาพบกับความจริงก็ยิ่งทวีความยากมากขึ้นเท่านั้น
ซึ่งไม่ต่างไปจากวันที่ขนมปังรู้ว่าออยโกหกเธอ ทั้งที่ออยก็รู้ว่าขนมปังมีท่าทีแปลกไป ราวกับจะรับรู้ความจริงเบื้องหลังคำโกหกเหล่านั้น
แต่ออยก็ไม่กล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับมัน เพราะออยกลัวว่าสถานะทางสังคมของเธอจะต้องเปลี่ยนไป
และออยเองก็ไม่รู้ว่า ถ้าหากหลุดออกมาจากสังคมที่เธอคุ้นชินแล้ว เธอจะสามารถกลับเข้าไปอยู่ในสังคมนั้นได้อีกหรือไม่

ยิ่งไปกว่านั้นคือ ถ้าหาก การโกหก คือวิธีการเข้าสังคมที่ผิด แล้วเธอจะยังได้รับโอกาสให้ใช้วิธีการเข้าสังคมรูปแบบอื่นอยู่อีกไหม

แน่นอนว่า ไม่มีใครนิยมชมชอบการโกหก
ฉะนั้น ผู้ที่ถูกจับได้ว่าโกหกมักได้รับบทลงโทษบางอย่างจากสังคมไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ
เหมือนอย่างเช่น ออย ที่ได้รับบทลงโทษจากการตัดขาดความสัมพันธ์จากทั้งแฟนและ"เพื่อนสนิท" ตลอดจนวาจาตัดรอนจากพ่อแม่ในเวลาเดียวกัน

เมื่อประตูการเข้าสังคมถูกปิดลง สัตว์สังคมอย่างมนุษย์ย่อมเผลอรู้สึกไปว่า ตัวเองช่างไร้ค่าเกินกว่าที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
จนทำให้การเลือกที่จะอำลาสังคมโลกไปอย่างเงียบๆ จึงกลายเป็นทางออกทึ่ดีที่สุด ณ เวลานั้น
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เรายังไม่ได้อยากจากมันไปเสียหน่อย

เป็นที่เข้าใจตรงกันว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจที่พังทลายลงไปแล้ว ยากเกินกว่าที่จะกลับมาประสานให้เหมือนดังเดิม
แต่คนที่ทำผิดพลาดไปแล้ว ก็ยังอยากจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความหวังอีกครั้ง แล้วสังคมจะไม่เหลือพื้นที่ให้คนเหล่านั้นอีกแล้วงั้นหรือ

บางทีถ้าหากคำโกหกของออยได้รับการให้อภัย และคนโกหกอย่างออยได้รับการให้โอกาสใหม่อีกครั้ง
สุดท้าย ชีวิตของออยอาจจะไม่ต้องพบกับจุดจบอันน่าเวทนาอย่างนี้ก็เป็นได้

แต่ทั้งนี้ ออยจะต้องยืนอยู่บนพื้นฐานการยอมรับความจริงและกล้าเผชิญหน้ากับ การโกหก ให้ได้เสียก่อน
จึงจะสามารถก้าวข้ามเขตแดนออกมาได้อีกครั้ง ที่อาจจะทุลักทุเลกว่าครั้งก่อน แต่เพื่อก้าวต่อๆ ไปที่มั่นคงของออยนั่นเอง

ป.ล. เราพิมพ์ไปแบบเบลอๆ ด้วยความง่วงนอน จึงอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้
ถึงอย่างไรก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่