เถาสวาท ตอนที่ 3 สักขีพยาน (โดย ศักดิ์ศรี)

กระทู้สนทนา
“นั่นใครนะ มายืนทำอะไรริมรั้วนั่น” เสียงหญิงวัยกลางคนที่ค่อยๆ เดินมาหยุดตรงริมรั้วฝั่งตรงข้ามกับนางทาส

“เอ็งเป็นทาสเรือนพระยาธำรงรักษ์หรือ” ตำลึงพยักหน้า “แล้วใยเอ็งไม่เข้าไปอยู่ในงานนั่นเล่า” หญิงคนนั้นจับกิริยาท่าทางของตำลึงได้ เพราะกิริยาที่ทาสคนนี้แสดงออกมานั้นเหมือนกับตนเมื่อสิบปีก่อนไม่มีผิด ทาสสาวที่เฝ้าชะเง้อมองหาท่านเจ้าคุณ หญิงคนนั้นยิ้มในใจ

“ไม่อยากให้เขาเคียงคู่กัน ใยไม่ขัดขวางเสียเล่า” หญิงคนนั้นเอ่ยถาม “ข้าไม่ได้คิดอะไรเยี่ยงนั้น คุณช้อยเธอเลี้ยงดูฉันมาตั้งแต่ยังเล็ก ข้าทำอย่างนั้นไม่ได้ดอก”

“หมายความว่าถ้าเขาไม่ได้เลี้ยงเอ็งมา เอ็งก็จะทำอย่างนั้นรึ” หญิงสาวตอกกลับ ทาสสาวได้แต่นิ่งเงียบ “ฉันชื่อนิด เมื่อก่อนข้าก็เป็นขี้ข้าเหมือนกับเอ็งนี่แหละ แต่ตอนนี้ข้าเป็นเมียเอกของท่านเจ้าคุณฤทธิไกร เอ็งรู้จักใช่หรือไม่” ตำลึงพยักหน้ารับ

ทั่วคุ้งคลองนี้ใครเล่าจะไม่รู้จักเจ้าคุณฤทธิไกร ผู้ขึ้นชื่อลือชาเรื่องเมีย มีเมียนับสิบคน แต่ระยะหลังมานี่ได้ข่าวว่าออกจากราชการแล้วเก็บตัวอยู่แต่ในเรือน มีเมียเอกคนเดียวที่เป็นทาส ไม่ยักรู้ว่าทาสคนนั้นคือ คุณนิดคนนี้

“ฉันจะบอกอะไรให้นะ บุญคุณก็ส่วนบุญคุณ ความรักก็ส่วนความรัก เอ็งลองคิดดูสิว่าหากเอ็งได้พ่อหนุ่มนั่นมาทำผัว ชีวิตเอ็งจะสุขสบายขนาดไหน ดูอย่างข้าสิ มีกินมีใช้ พ่อแม่รึก็สุขสบาย จะมาตรากตรำทำงานเป็นขี้ข้าเขาอยู่ใยเล่า” คุณนิดยิ้ม

“เป็นเมียทาสใช่ว่าจะสบายนะเจ้าคะ ดูอย่างแม่ของตำลึงสิ เป็นเมียพระยาก็ยังถูกใช้งานเยี่ยงทาส สุดท้ายก็ต้องเป็นรองเมียเอกของท่านอยู่ดี จนถึงวันสิ้นใจแม่ฉันก็หาได้มีความสุขเฉกเช่นเมียท่านคนอื่นๆ ไม่”

นวล แม่ของตำลึงเป็นเมียทาสของพระยาธำรงรักษ์ ถูกคุณหญิงแช่มใส่ร้ายว่าคบชู้กับบ่าวในเรือน ทั้งที่จริงแล้วทั้งใจของนวลมีเพียงท่านพระยาธำรงรักษ์ หากแต่ท่านพระยาเป็นคนหูเบาใครเป่าอะไรก็เข้าหูไปเสียทุกสิ่ง จึงสั่งเฆี่ยนจนตายคาหวาย

“ที่แม่เอ็งเป็นแบบนั้นเพราะไม่ใช่เมียคนเดียว แต่ถ้าเอ็งได้ขึ้นเป็นเมียคนเดียวของพ่อศักดิ์เขาเมื่อไร คราวนั้นแหละเอ็งจะสุขสมไม่รู้ลืมเลยละ ตำลึง” เมียท่านเจ้าคุณฤทธิไกรพูดก่อนจะจากไป

ทาสสาวได้แต่กลับมานั่งครุ่นคิด ครั้นจักแย่งคุณศักดิ์มาจากคุณช้อย ตัวรึเป็นได้แต่เพียงทาส ลูกเจ้าคุณอย่างเขามีรึจะเหลียวแล อีกทั้งคุณช้อยก็ยังมีบุญคุณสุดจะคณานับ

“บุญคุณก็ส่วนบุญคุณ ความรักก็ส่วนความรัก” ตำลึงนึกถึงคำพูดของคุณนิดที่กล่าวไว้ “หากวันหนึ่งฉันได้เป็นเมียคุณศักดิ์บ้าง คุณช้อยจะเป็นอย่างไร” ตำลึงคิด

จวนพลบค่ำ ได้เวลาเข้าห้องหอของคุณช้อยกับคุณศักดิ์ ห้องนอนสุดแสนจะธรรมดาหากแต่คืนนี้ถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้ที่บานแย้มส่งกลิ่นหอมราวกับจะร่วมแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่ แสงจันทร์นวลส่องลอดหน้าต่างไม้ที่ถูกเปิดออกเพื่อให้ลมพัดโชยเข้ามา ยิ่งส่งให้กลิ่นดอกรักที่คุณช้อยสั่งให้ตำลึงเก็บมาเตรียมไว้ร้อยพวงมาลัยใส่บาตรวันพรุ่งหอมขึ้นมา

“แม่ช้อย พี่ดีใจเหลือเกิน ที่วันนี้พี่จักได้ร่วมเรียงเคียงหมอนกับเจ้า” ชายหนุ่มก้มลงหมายจะสูดกลิ่นหอมจากหญิงสาวแทนกลิ่นหอมจากดอกไม้ คุณช้อยเอียงหน้าหนี สองแก้มแดงฉ่าด้วยความอาย

“อย่าเพิ่งเจ้าค่ะคุณพี่” คุณช้อยยืนมือดันตัวคุณศักดิ์ออกไป หากแต่ผู้หญิงบอบบางอย่างเธอจะสู้แรงชายหนุ่มอย่างคุณศักดิ์ได้

“ทำไมละแม่ช้อย หรือว่าแม่ช้อยไม่รักฉัน” ชายหนุ่มเบือนหน้าหนี คุณช้อยยื่นมือขาวจับใบหน้าอันคมของชายตรงหน้าให้หันมาทางตน “ฉันรักคุณพี่เจ้าค่ะ”
สิ้นคำคุณช้อย คุณศักดิ์ค่อยๆ ประทับรอยจูบลงบนหน้าผากขาวของผู้เป็นดวงใจ แสงจันทร์ส่องกระทบร่างของทั้งคู่ราวกับเป็นสักขีพยานรักของทั้งคู่ ไม่ได้มีเพียงดวงเดือนเท่านั้นที่เป็นสักขีพยานรักครั้งนี้ ยังมีทาสสาวคนหนึ่งที่แอบมองความรักของคนทั้งคู่ แต่หาได้เป็นพยานรัก หากแต่หมายจะเป็นคนรักของคุณศักดิ์

“วันนี้คุณศักดิ์อาจจะเป็นของคุณช้อย หากแต่วันหน้าคุณศักดิ์ต้องเป็นของตำลึง” ทาสสาวมองภาพตรงหน้าด้วยความครุกรุ่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่