ผมทำเรื่องกู้ SME รอบแรกผ่าน 200000 เพื่อเปิดร้านอาหาร โดยใช้ที่ดินหลักทรัพค้ำประกัน (วงเงินที่เขาประเมิณให้ 2.5ล้าน) โดยกู้รอบแรกเข้าแจ้งว่าสามารถขอเพิ่มได้เพราะวงเงินประเมินหลักทรัพย์ยังไม่แต็ม แต่พอจะทำเรื่องกู้รอบสองเพื่อมาลงธุรกิจร้านขายเครื่องสำอาง ทางธนาคารกลับแจ้งว่าวงเงินที่กู้ไปรอบแรกนั่นเพียงพอแล้วสำหรับร้านอาหารไม่อณุมัติ ซึ่งผมไม่เข้าใจหลักการประเมิณของธนาคารทำไมเขาถึงแจ้งมาแบบนั่นในเมื่อกู้รอบสอง เราส่งเอกสารยืนยันไปแล้วว่าเอามาทำร้านเมคอัพซึ่งมันคนละธุรกิจกับตัวเดิมที่กู้ผ่านไปรอบแรก ปัญหามันอยู่ที่ก่อนที่ผมจะเริ่มลงทำร้านขายเครื่องสำอางนั่น ได้สอบถามกับพี่ธนาคารคนทีเขาดูแลเรื่องกู้ของผมในตอนแรก ซึ่งเขาก็แจ้งว่าสามารถกู้ได้และอณุมัติแน่นอน ผมแลยเอาเงินทุนของตัวเองเพื่อไปจ่ายค่ามัดจำร้านและ จ่ายค่าจ้างงานช่างไปบางส่วนเผื่อจะได้เริ่มต้นทำร้านขายเครื่องสำอาง หลังจากส่งเอกสารไปกู้รอบสองผลปรากฎว่ามันไม่ผ่าน พี่ที่ธนาคารเขาแลยบอกให้ลองยื่นไปอีกรอบ แล้วพาผมไปกู้นอกระบบเพื่อมาสำรองเงินค่าช่างอีกโดยใช้ที่ดินอีกโฉนดนึง จนผ่านมาถึงตอนนี้ ผมเสียเงินค่าเช่าร้านไปฟรีๆ 3 เดือนโดยที่ร้านก็ยังทำไม่เสร็จ แถมยังโดนธนาคารปฎิเสธไม่ให้กู้อีก ผมควรทำอย่างไรดีครับ มีใครพอจะแนะนำอะไรได้บ้าง การกระทำของธนาคารในลักษณะนี้มันเหมือนเป็นการหลอกลวงเรารึเปล่าครับ หลอกให้เราไปกู้นอกระบบให้กลายเป็นหนี้เสีย และหลอกให้เราเสียโอกาศทางธุรกิจ เพราะก่อนที่ผมจะลงทำก็มีการสอบถามอย่างแน่ชัดแล้วว่าถ้ากู้เพิ่มจะอนุมัติได้ไม่ซึ่งเขาแจ้งมาว่ามันได้แน่นอน แต่ผลปรากฏว่าไม่ใช่ แถมยังให้เราไปเป็นหนี้นอกระบบอีก
มีปัญหาเงินกู้ SME กสิกร