ประเดิมกระทู้แรกของพันทิปโดยกระทู้ท่องเทียวเวียดนาม ไปคนเดียว แต่ไม่เดียวดาย ได้ใช้ชีวิตในถิ่นแบ็คแพ็กเกอร์ที่พัก นอนในโฮสเตลโดมเฉพาะผู้หญิง และประสบการณ์การนั่งรถไฟจากใต้ขึ้นเหนือในถิ่นเมืองญวน บรรยากาศที่จะไม่มีวันลืม
เริ่มต้นความคิดของการเที่ยวคงเหมือนหลาย ๆ คน ชอบในความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ส่วนตัวแล้วดิฉันชอบสถานที่ที่มีเรื่องราว ชอบเรียนประวัติศาสตร์ หลังจากลงเรียนวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศ.19-ปัจจุบัน ก็เกิดแรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง Indochina ซึ่งเป็น 1 ในกิจกรรมของวิชานี้ นอกจากนั้นยังมีเรื่อง The Lover เรื่องราวของเด็กน้อยฝรั่งเศสกับเศรษฐีเวียดนาม และไม่นานนี้ยังมีเรื่อง Big Father, Small Bother And Other Stories ที่เข้าชิงรางวัลมากมายในปีที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นแค่เหตุผลมีน้ำหนัก ความจริงแล้ว อยากตามคนคนหนึ่งไปเที่ยวเท่านั้นเอง เอาเป็นมาทริปนี้เป็นทริปตาม ๆ กันไปละกันนะคะ
ทริปนี้ไปคนเดียวกลับคนเดียว แต่ปลายทาง เราไปเพื่อเจอมิตรภาพที่ดี
ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาดิฉันไปเที่ยวที่เกาะกูดคนเดียว ได้เจอเพื่อนชายคนหนึ่งมาจากเยอรมัน สูง หล่อ หุ่นนายแบบเลยละค่ะ ตอนแรกนึกว่าเป็นเกย์พอคุยแล้วก็มีเสน่ห์ใช่ย่อยเลย เราสองคนมีเวลาเหลือในเกาะแค่คนละ 1 วันเลยพูดติดตลกว่า งั้นเราไปเจอกันสักที่เถอะ เขาเลยบอกว่า เขาจะไปเวียดนาม ดิฉันก็เลยตกลงปลงใจ ตามเขาไปที่เวียดนาม

นัดเจอกับเพื่อนเยอรมันที่โฮจิมิน เมืองที่มีแต่เสียงแตรรถทั้งวันทั้งคืน พักในย่านที่เป็นถิ่นแบ็คแพคเกอร์จริง ๆ งูเหลาอะไรสักอย่าง เนื้อหาแน่นมาก กระทู้นี้เน้นภาพละกันเน้อะ

เมืองนี้ดูเผิน ๆ เหมือนสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ สโลว์ไลฟ์ แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่เลย คนที่นี้ดูใจร้อน อย่าเดินไปชนใครโดยเฉพาะเด็ก คำขอโทษอาจจะสื่อสารไปไม่ถึง ดิฉันโดนเด็กแตะกลับแบบไม่ทันตั้งตัวเลย
จากนั้นก็ตัดสินใจขึ้นไปดานังและฮานอยโดยรถไฟกันค่ะ ใช้ชีวิตอยู่บนรถไฟสาย โฮจิมิน - ดานังรวมแล้วเกือบ 1 วันนอนตื่นแล้วก็ยังไม่ถึงที่หมาย แต่ก็ได้เจอป้า กับลุงที่พยายามสื่อสารด้วยภาษามือ เวลามีน้ำ เวลาบอกให้ดูวิวทิวทัศน์
วันแรกที่ถึงดานังก็ไม่ได้หยุดเที่ยวที่นั้นเลย ตรงมาที่ฮอยอัน มาเจอบรรยากาศตอนเย็น ๆ ไฟสีสวย ๆ คนไม่เยอะมาก นึกย้อนไปสมัยที่ติดละครเรื่องฮอยอันฉันรักเธอ ก็ชอบถิ่นนี้แบบบอกไม่ถูก มีทั้งความเป็นฝรั่ง ผสมกัจีนและญี่ปุ่นผสมกัน

มีหมู่บ้านประมงอยู่แถว ๆ นั้น วิถีชีวิตของคนฮอยอัน ก็เป็นคนน้ำ อาหารทะเลก็ขึ้นชื่อ
จบจากทริปฮอยอัน ก็กลับไปดานัง ขึ้นรถไฟไปฮานอยเพื่อที่จะบินกลับกรุงเทพฯ ได้เพื่อนในระหว่างทาง ทั้งอยู่ที่ฮานอยและโฮจิมิน ทั้งคนท้องถิ่นและคนต่างชาติ เวลาเราได้ท่องเที่ยว ความกล้าที่จะเจอผู้คนใหม่มันจะมาจากสัญชาตญาณ ที่ตัดสินใจเลือกรถไฟเป็นโดยสารนั้น ก็เพราะทิวทัศน์ ทัศนียภาพของประเทศเวียดนามนั้นสวยแบบทุกคนต้องมายล โดยเฉพาะสายดานัง - เหว้ ทั้งภูเขา ทั้งทะเล ทั้งท้องฟ้าลำธาร
แล้วก็ถึงฮานอยตั้งแต่ตี 4 เลยค่ะ เช้ามาก ๆ ถึงปุ๊บก็ต้องจิบกาแฟเวียดนาม คนฮานอยดูน่ารัก สดใส เมืองน่าอยู่สะอาด มองไปตรงไหนเช้า ๆ แบบนี้ก็เจอแต่อาม่า อากงมาออกกำลังกาย
บอกเลยว่าเวียดนามเป็นการเดินทางจากบ้านคนเดียวครั้งแรก คนเดียวแต่ไม่เดียวดาย เพื่อนเยอรมันดูแลเราดีมากๆ รู้สึกปลอดภัยมีเซ้นส์ของความเป็นนักเดินทาง แถมยังรูปหล่อชนิดว่าใครเดินผ่านต้องมองตามหลัง ก่อนกลับก็ขอบคุณเขาที่พาเราเที่ยว แนะนำการเดินทางตลอด
จบทริปนี้ก็เริ่มคิดแล้วว่าจะไปไหนต่อ จะเรียนจบแล้วค่ะ ต้องให้รางวัลกับตัวเอง คงไม่ขออะไรมาก ขอแค่เงินในกระเป๋าสักนิด ๆ แล้วก็ตั๋วเครื่องบินสักใบ แต่ต้องหาแรงบันดาลใจก่อนนะคะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกัน กระทู้แรกมันดู งง ไปหมด เรื่องแท็กด้วย
ปล.ภาพถ่ายตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วค่ะ รายละเอียดลืม ๆ บ้าง เช่นราคาตั๋วเครื่องรถไฟ ตั๋วเครื่องบิน เพราะไม่ได้ตั้งใจจะมาทำรีวิวเลยในตอนที่เที่ยว
เมื่อฉันตามเขาไปเที่ยวเวียดนาม โฮจิมินห์-ฮอยอัน-ฮานอย
เริ่มต้นความคิดของการเที่ยวคงเหมือนหลาย ๆ คน ชอบในความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ส่วนตัวแล้วดิฉันชอบสถานที่ที่มีเรื่องราว ชอบเรียนประวัติศาสตร์ หลังจากลงเรียนวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศ.19-ปัจจุบัน ก็เกิดแรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง Indochina ซึ่งเป็น 1 ในกิจกรรมของวิชานี้ นอกจากนั้นยังมีเรื่อง The Lover เรื่องราวของเด็กน้อยฝรั่งเศสกับเศรษฐีเวียดนาม และไม่นานนี้ยังมีเรื่อง Big Father, Small Bother And Other Stories ที่เข้าชิงรางวัลมากมายในปีที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นแค่เหตุผลมีน้ำหนัก ความจริงแล้ว อยากตามคนคนหนึ่งไปเที่ยวเท่านั้นเอง เอาเป็นมาทริปนี้เป็นทริปตาม ๆ กันไปละกันนะคะ
ทริปนี้ไปคนเดียวกลับคนเดียว แต่ปลายทาง เราไปเพื่อเจอมิตรภาพที่ดี
ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาดิฉันไปเที่ยวที่เกาะกูดคนเดียว ได้เจอเพื่อนชายคนหนึ่งมาจากเยอรมัน สูง หล่อ หุ่นนายแบบเลยละค่ะ ตอนแรกนึกว่าเป็นเกย์พอคุยแล้วก็มีเสน่ห์ใช่ย่อยเลย เราสองคนมีเวลาเหลือในเกาะแค่คนละ 1 วันเลยพูดติดตลกว่า งั้นเราไปเจอกันสักที่เถอะ เขาเลยบอกว่า เขาจะไปเวียดนาม ดิฉันก็เลยตกลงปลงใจ ตามเขาไปที่เวียดนาม
นัดเจอกับเพื่อนเยอรมันที่โฮจิมิน เมืองที่มีแต่เสียงแตรรถทั้งวันทั้งคืน พักในย่านที่เป็นถิ่นแบ็คแพคเกอร์จริง ๆ งูเหลาอะไรสักอย่าง เนื้อหาแน่นมาก กระทู้นี้เน้นภาพละกันเน้อะ
เมืองนี้ดูเผิน ๆ เหมือนสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ สโลว์ไลฟ์ แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่เลย คนที่นี้ดูใจร้อน อย่าเดินไปชนใครโดยเฉพาะเด็ก คำขอโทษอาจจะสื่อสารไปไม่ถึง ดิฉันโดนเด็กแตะกลับแบบไม่ทันตั้งตัวเลย
จากนั้นก็ตัดสินใจขึ้นไปดานังและฮานอยโดยรถไฟกันค่ะ ใช้ชีวิตอยู่บนรถไฟสาย โฮจิมิน - ดานังรวมแล้วเกือบ 1 วันนอนตื่นแล้วก็ยังไม่ถึงที่หมาย แต่ก็ได้เจอป้า กับลุงที่พยายามสื่อสารด้วยภาษามือ เวลามีน้ำ เวลาบอกให้ดูวิวทิวทัศน์
วันแรกที่ถึงดานังก็ไม่ได้หยุดเที่ยวที่นั้นเลย ตรงมาที่ฮอยอัน มาเจอบรรยากาศตอนเย็น ๆ ไฟสีสวย ๆ คนไม่เยอะมาก นึกย้อนไปสมัยที่ติดละครเรื่องฮอยอันฉันรักเธอ ก็ชอบถิ่นนี้แบบบอกไม่ถูก มีทั้งความเป็นฝรั่ง ผสมกัจีนและญี่ปุ่นผสมกัน
มีหมู่บ้านประมงอยู่แถว ๆ นั้น วิถีชีวิตของคนฮอยอัน ก็เป็นคนน้ำ อาหารทะเลก็ขึ้นชื่อ
จบจากทริปฮอยอัน ก็กลับไปดานัง ขึ้นรถไฟไปฮานอยเพื่อที่จะบินกลับกรุงเทพฯ ได้เพื่อนในระหว่างทาง ทั้งอยู่ที่ฮานอยและโฮจิมิน ทั้งคนท้องถิ่นและคนต่างชาติ เวลาเราได้ท่องเที่ยว ความกล้าที่จะเจอผู้คนใหม่มันจะมาจากสัญชาตญาณ ที่ตัดสินใจเลือกรถไฟเป็นโดยสารนั้น ก็เพราะทิวทัศน์ ทัศนียภาพของประเทศเวียดนามนั้นสวยแบบทุกคนต้องมายล โดยเฉพาะสายดานัง - เหว้ ทั้งภูเขา ทั้งทะเล ทั้งท้องฟ้าลำธาร
แล้วก็ถึงฮานอยตั้งแต่ตี 4 เลยค่ะ เช้ามาก ๆ ถึงปุ๊บก็ต้องจิบกาแฟเวียดนาม คนฮานอยดูน่ารัก สดใส เมืองน่าอยู่สะอาด มองไปตรงไหนเช้า ๆ แบบนี้ก็เจอแต่อาม่า อากงมาออกกำลังกาย
บอกเลยว่าเวียดนามเป็นการเดินทางจากบ้านคนเดียวครั้งแรก คนเดียวแต่ไม่เดียวดาย เพื่อนเยอรมันดูแลเราดีมากๆ รู้สึกปลอดภัยมีเซ้นส์ของความเป็นนักเดินทาง แถมยังรูปหล่อชนิดว่าใครเดินผ่านต้องมองตามหลัง ก่อนกลับก็ขอบคุณเขาที่พาเราเที่ยว แนะนำการเดินทางตลอด
จบทริปนี้ก็เริ่มคิดแล้วว่าจะไปไหนต่อ จะเรียนจบแล้วค่ะ ต้องให้รางวัลกับตัวเอง คงไม่ขออะไรมาก ขอแค่เงินในกระเป๋าสักนิด ๆ แล้วก็ตั๋วเครื่องบินสักใบ แต่ต้องหาแรงบันดาลใจก่อนนะคะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกัน กระทู้แรกมันดู งง ไปหมด เรื่องแท็กด้วย
ปล.ภาพถ่ายตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วค่ะ รายละเอียดลืม ๆ บ้าง เช่นราคาตั๋วเครื่องรถไฟ ตั๋วเครื่องบิน เพราะไม่ได้ตั้งใจจะมาทำรีวิวเลยในตอนที่เที่ยว