[CR] กระบี่ 4 วัน 3 วัน ...... ฉันจะไม่ลืมเธอ

ปล. รูปทั้งหมด ถ่ายด้วยกล้องมือถือ Samsung Galaxy Note 5 ด้วย Mode Auto และ Pro บ้างบาง shot ไม่ได้ผ่านการ Re-touch ใดๆ เว้นแต่ Resize เท่านั้น
ปล. 2 ตั้งใจไม่ถือกล้องไป เพราะจะดูว่า Note 5 RAM 32 GB ทั้งถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว มันจะไหวไม๊
ปล. 3 รูปเยอะหน่อยนะครับ

สวัสดีทุกท่านครับ

ผมได้มีโอกาสไปกระบี่ เมื่อปลายเดือน พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา ด้วยโปรหางแดง 0 บาท ออกจากดอนเมือง 8.30 ถึง กระบี่ 9.45





ถึงกระบี่ ไม่ต้องเข้าโรงแรมหล่ะครับ ออกทะเลทันที มีรถตู้มารับถึงสนามบิน ไปส่งที่ท่าเรือ หาดนพรัตน์ธารา สนนราคา 500 บาท




จองเหมาเรือกันไป เกาะห้อง / เกาะไร่ / เกาะผักเบี้ย / ลากูน และดำน้ำดูปะการังที่เกาะแดง สนนราคา 3,000 บาท จะออกจากท่าเรือกี่โมงไม่ทราบ แต่ต้องกลับถึงฝั่งภายในเวลา 16.00 น.











ภาพ 360 องศา ภายในลากูนที่เงียบสงัด



ภาพ 270 องศา ที่เกาะห้องครับ







เตรียมข้าวกลางวันขึ้นไปทานด้วย ซื้อจากร้านค้า แถวท่าเรือ ผมแนะนำ ว่าถ้ามีเวลาไปซื้อมาจากที่อื่นดีกว่าครับ บอกตามตรง รสชาติ กับ ราคา สวนทางกันอย่างแรง



ด้วยความที่เหมาลำกันไป เที่ยวกันพอสมควรแล้ว ก็กลับเข้าฝั่ง คนเรือใจดีมาก พาเราไปส่งถึงโรงแรมที่พักเลย

โรงแรมที่พักครับ ibis Styles Krabi Ao Nang ห้อง Family













เราไปถึงกันวันลอยกระทง พอดี เลยซื้อ dinner ที่โรงแรม พร้อมกันลอยกระทงในสระน้ำ



วันรุ่งขึ้น ไป พี พี ครับ มีรถมารับถึงโรงแรม    เห็นสภาพรถแล้ว อื้อ ฮือ จะไปถึงไม๊เนี่ย



พากันเดินเท้าไปที่ชายหาด เพื่อไปขึ้น Speed Boat เราไปกันเป็นทัวร์กรุ๊ป ผู้ใหญ่ คนละ 1,200 บาท เด็ก 800 บาท ครับ มีน้ำ และ อาหารกลางวันให้ครับ







เกาะมาหยา ถึงแล้วต้องร้อง ไอ๋หยาาาาา ทำไมคนถึงได้เยอะขนาดนี้



แต่ทรายที่นี่เหมือนแป้งจริงๆ ทั้งนุ่ม ทั้งละเอียด





ด้านหลังจะมีห้องน้ำสะอาดๆ ให้เข้าครับ



เดินถัดจากห้องน้ำไป จะมีอ่าว โลซะมะ เป็นหน้าผาชันๆ ครับ











ภาพกว้างครับ จะเห็นว่าคนเยอะมากกกกกก







สถานที่ยอดนิยมอีกหนึ่งแห่ง ถ้ำไวกิ้ง



Monkey Island





หลังจากที่กลับขึ้นฝั่ง รถคันเดิม ก็พาเรากลับไปส่งที่โรงแรมครับ

อาบน้ำอาบท่าน ก็ออกมาเรียกรถไปทานอาหารกันที่ วังทราย ซีฟู้ด เรียกรถคล้ายๆ กะป๊อ ที่กรุงเทพนี่แหละครับ เค้าเรียก 60 บาท รีบกระโดดขึ้นเลย ต้องขอโทษด้วยครับ ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู เพราะหิวมาก แต่บอกเลยว่าไม่ได้เลิศเลอ อย่างที่ผมหาข้อมูลใน Net ที่แนะนำร้านนี้กัน แต่ผมทานเลยเฉยๆ เหมือนไปทานแถวๆ อ่างศิลาเลยครับ

ระหว่างทางที่เดินกลับ มีร้านค้ามากมาย



ร้านอยู่ไกลจากที่พักประมาณ กิโลกว่า ๆ เดินกลับมาได้เกือบกิโล เจ้าลูกสาว งอแง จะนั่งรถกลับ เรียกรถมอเตอร์ไซค์ พ่วงข้าง คิดคนละ 30 บาท 3 คน ก็ 90 บาท อุ๊บ๊ะ แพงกว่าขามาอีก

ระหว่างทางที่เดินกลับ ก็โทรติดต่อโรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ บีช ที่เราจะเปลี่ยนที่พักกันในวันรุ่งขึ้น ว่าเราจะไปที่พักได้อย่างไร ก็ได้ความว่า รถโรงแรมจะมารับเราจาก ibis ไปส่งที่ท่าเรือ เพราะนั่งเรือ speed boat ไปยังโรงแรม ซึ่งเป็นการเดินทางทางเดียวที่แขกที่จะมาพักที่นี่ จะเดินทางไปได้ครับ

วันรุ่งขึ้น รถโรงแรมเซ็นทารามารับเราตรงเวลามาก 12.00 น. เป๊ะ และไปส่งเราที่ท่าเรือ หาดนพรัตน์ธารา เรือออกจากท่าเรือเวลา 12.30 น. ระหว่างที่รอเรือ ก็มีสาวน้อย เดินมาถามว่าไปพักที่ไหน จะไปเที่ยวไหนไม๊ กลับกรุงเทพเมื่อไหร่ ต้องการรถไม๊ ก็ประมาณมาขายทัวร์นั่นแหละ

ก็เลยปรึกษากับแฟนว่า งั้นเย็นนี้เราไปเที่ยวถนนคนเดิน ในเมืองดีกว่า ซึ่งมีงานลอยกระทง วันสุดท้ายด้วย ซึ่งปกติ เหมารถตู้เที่ยวเดียวเข้าเมือง ราคา 600 บาท แต่น้องน้อยหน่า ให้ราคาเราไปกลับ คือไปส่ง แล้วก็นัดคนขับ มารับ ในสนนราคา 800 บาท ซึ่งก็พอรับได้ และแฟนผมไปคุยราคาค่ารถไปส่งที่สนามบินในวันรุ่งขึ้น ไว้ราคา 500 บาท ซึ่งผมไม่ทราบว่ามีการตกลงราคากันไว้ (ค้างเรื่องไว้แค่นี้ก่อนนะ)

หลังจากนั้น ก็ออกเรือไปยังโรงแรมครับ













ภายในห้องพักหรูหรา ตามสไตล์ เซ็นทารา























ระหว่างที่รอเรือมารับไปขึ้นที่ท่าเรือ





ตกเย็นนัดเวลารถตู้มารับที่ท่าเรือ น้องน้อยหน่า ก็มารับเองเลย พร้อมกับรถตู้ เพื่อเดินทางไปในเมือง

ถึงถนนคนเดิน อย่าได้รอช้า หาที่ทานอาหารทันที











หอยแครงตัวใหญ่มาก




ทานกำลังจะเสร็จ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก



ฝนหยุดก็เดินต่อครับ

เดินออกไปด้านหน้า มีห้างชื่อ โวค เลยไปหน่อยนึง ตามลายแทงที่หาไว้ในพันทิป จะมีร้านโรตีชื่อดังอยู่

นั่นไงเจอแล้ว