http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1449717486
ผมไม่สงสัยนะครับเรื่องใครจะล้วงลูกหรือล้วงพ่อใคร แต่ที่ผมสงสัยนั้น เป็นคำพูดของคุณสมชัยเสียมากกว่า “เมื่อทำงานไม่สำเร็จจะให้อยู่ในตำแหน่ง กินเดือนสูงๆทำไม”
นั่นสิครับ แล้ว กกต. ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้สำเร็จ ทำไมยังกินเงินเดือนสูงๆและอยู่ในตำแหน่งทำไมกันครับ หรือ การเป็น กกต. นั้นไม่มีใครประเมินอย่างเลขาฯที่เป็นข้าราชการหรือเปล่า ผมสงสัย
คุณสมชัยอาจอ้างเรื่องมีคนขัดขวางการเลือกตั้ง จนทำให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงหรอกครับ เพราะคุณสมชัยคงได้อ่านคำวินิจฉัยของศาลท่าน ไม่ปรากฏมีการขัดขวางการเลือกตั้ง และยังเป็นการชุมนุมที่สงบ ดังนั้น กกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้ลุล่วง จึงเป็นการทำงานไม่สำเร็จ จะให้อยู่ในตำแหน่ง กินเงินเดือนสูงๆทำไม ผมสงสัย
และที่น่าเกียจยิ่งกว่านั้น แม้จะกินเงินเดือนของคนไทยทั้งประเทศ แต่หนึ่งใน กกต. กลับกล้ายอมรับว่าตัวเองเอียง เพื่อหวังทำงานใหญ่ ซึ่งงานที่ว่าจะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากงานของคนฝ่ายเดียวกันมอบให้ ดังนั้นคุณสมชัยคิดว่า คนประเภทนี้ควรอยู่เพื่อทำงานให้กับคนทั้งประเทศหรือเปล่าครับ ผมสงสัย
แล้วที่คุณภุชงค์พูดถึง กกต.4 ใน 5 คน ทำงานแค่สัปดาห์ละ 1 วัน นอกนั้นใช้เวลาไปกับการเรียนหรืออบรมที่จัดขึ้นโดยวิทยาลัยหรือสถาบันต่างๆ คุณสมชัยทำไมไม่ตอบล่ะครับว่า จริงหรือเปล่า ผมสงสัย
แล้วคุณภุชงค์ยังบอกอีกว่า ใช้เวลาไปกับการดูงานต่างประเทศนับสิบครั้ง ใช้เงินไม่น้อยกว่า 15-20 ล้านบาท ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้ติดตามอีก 5-10 คน ให้ที่ปรึกษานั่งชั้นบิสสิเนสคลาส ซึ่งทั้งหมดเป็นงบประมาณของ กกต. แล้วงบประมาณของ กกต.มาจากไหน ถ้าไม่ใช่ภาษีของประชาชน อย่างนี้แล้วคุณสมชัยไม่คิดออกมาแก้ข้อสงสัยให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของงบประมาณทราบบ้างหรือครับ ผมสงสัย
สุดท้ายเมื่องานใหญ่ของคุณสมชัยยังมาไม่ถึง การเลือกตั้งก็ยังไม่รู้จะมีขึ้นอีกเมื่อไหร่ แล้วสมควรหรือไม่ที่ กกต.ทุกคน จะต้องมีทีปรึกษา 1 คน ผู้เชี่ยวชาญ 3 คน เลขาประจำตัว 1 คน รองเลขาฯประจำตัวอีก 2 คน ทั้งๆที่บ้านเมืองกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ
ข้อสำคัญที่ผมสงสัยเป็นอย่างยิ่ง การถ่ายรูปในสถานที่ต่างๆ การแต่งโคลงกลอนแบบนิราศนั้น ต้องใช้ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ เลขาและรองเลขามากขนาดนั้นเชียวหรือครับคุณสมชัย
คุณสมชัยครับ ผมอ่านข่าวนี้แล้ว ผมเกิดความสงสัยครับ---------ทวดเอง
ผมไม่สงสัยนะครับเรื่องใครจะล้วงลูกหรือล้วงพ่อใคร แต่ที่ผมสงสัยนั้น เป็นคำพูดของคุณสมชัยเสียมากกว่า “เมื่อทำงานไม่สำเร็จจะให้อยู่ในตำแหน่ง กินเดือนสูงๆทำไม”
นั่นสิครับ แล้ว กกต. ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้สำเร็จ ทำไมยังกินเงินเดือนสูงๆและอยู่ในตำแหน่งทำไมกันครับ หรือ การเป็น กกต. นั้นไม่มีใครประเมินอย่างเลขาฯที่เป็นข้าราชการหรือเปล่า ผมสงสัย
คุณสมชัยอาจอ้างเรื่องมีคนขัดขวางการเลือกตั้ง จนทำให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงหรอกครับ เพราะคุณสมชัยคงได้อ่านคำวินิจฉัยของศาลท่าน ไม่ปรากฏมีการขัดขวางการเลือกตั้ง และยังเป็นการชุมนุมที่สงบ ดังนั้น กกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้ลุล่วง จึงเป็นการทำงานไม่สำเร็จ จะให้อยู่ในตำแหน่ง กินเงินเดือนสูงๆทำไม ผมสงสัย
และที่น่าเกียจยิ่งกว่านั้น แม้จะกินเงินเดือนของคนไทยทั้งประเทศ แต่หนึ่งใน กกต. กลับกล้ายอมรับว่าตัวเองเอียง เพื่อหวังทำงานใหญ่ ซึ่งงานที่ว่าจะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากงานของคนฝ่ายเดียวกันมอบให้ ดังนั้นคุณสมชัยคิดว่า คนประเภทนี้ควรอยู่เพื่อทำงานให้กับคนทั้งประเทศหรือเปล่าครับ ผมสงสัย
แล้วที่คุณภุชงค์พูดถึง กกต.4 ใน 5 คน ทำงานแค่สัปดาห์ละ 1 วัน นอกนั้นใช้เวลาไปกับการเรียนหรืออบรมที่จัดขึ้นโดยวิทยาลัยหรือสถาบันต่างๆ คุณสมชัยทำไมไม่ตอบล่ะครับว่า จริงหรือเปล่า ผมสงสัย
แล้วคุณภุชงค์ยังบอกอีกว่า ใช้เวลาไปกับการดูงานต่างประเทศนับสิบครั้ง ใช้เงินไม่น้อยกว่า 15-20 ล้านบาท ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้ติดตามอีก 5-10 คน ให้ที่ปรึกษานั่งชั้นบิสสิเนสคลาส ซึ่งทั้งหมดเป็นงบประมาณของ กกต. แล้วงบประมาณของ กกต.มาจากไหน ถ้าไม่ใช่ภาษีของประชาชน อย่างนี้แล้วคุณสมชัยไม่คิดออกมาแก้ข้อสงสัยให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของงบประมาณทราบบ้างหรือครับ ผมสงสัย
สุดท้ายเมื่องานใหญ่ของคุณสมชัยยังมาไม่ถึง การเลือกตั้งก็ยังไม่รู้จะมีขึ้นอีกเมื่อไหร่ แล้วสมควรหรือไม่ที่ กกต.ทุกคน จะต้องมีทีปรึกษา 1 คน ผู้เชี่ยวชาญ 3 คน เลขาประจำตัว 1 คน รองเลขาฯประจำตัวอีก 2 คน ทั้งๆที่บ้านเมืองกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ
ข้อสำคัญที่ผมสงสัยเป็นอย่างยิ่ง การถ่ายรูปในสถานที่ต่างๆ การแต่งโคลงกลอนแบบนิราศนั้น ต้องใช้ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ เลขาและรองเลขามากขนาดนั้นเชียวหรือครับคุณสมชัย