ปัญหาการจับการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงที่เปิดจาก YouTube ในร้านอาหาร ที่ไม่ได้มีไว้เพื่อการค้า

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังและขอคำปรึกษา ภรรยาผมเปิดร้านอาหารอยู่ เป็นร้านอาหารไทย ขายกับข้าว และซีฟู้ด มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขาย ขอใบอนุญาตถูกต้อง ผมได้ยินเรื่องจับลิขสิทธิ์เพลงไทยของค่ายนึง มาบ้างพอสมควร ทางร้านจึงไม่ได้เปิดค่ายนี้เลย และให้เปิดเป็นเพลงสากลถ้าจะฟังจริงๆ แต่ปกติก็ไม่ค่อยจะเปิดเพลงกันอยู่แล้ว

ที่นี้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2558 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00น. มีพนักงานมาขอตรวจสอบลิขสิทธิ์ ซึ่งขณะนั้นก็เปิดเป็นเพลงสากล อะไรสักอย่างจากยูทูป และให้มันรันไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่มีใครสนใจนักหรอก เพราะกำลังรับลูกค้าอยู่ โดยปกติคอมพิวเตอร์ที่ทางร้านใช้จะเปิดหน้าจอโปรแกรมร้านอาหารไว้ตลอด ทางคนที่มาก็ขอให้ลดหน้าจอโปรแกรมนี้ลง และถ่ายรูปหน้าจอไป แล้วเชิญภรรยาผมไปให้ปากคำที่โรงพัก เพราะมีตำรวจพร้อมไปบันทึกการแจ้งความมาพร้อม

ผมอยู่บ้านก็นั่งแท๊กซี่ตามไปที่หลัง ในกลุ่มคนที่มาจับนี้ มีหัวหน้าหลักๆ อยู่สามคน

คนแรก ชายเสื้อแดง หัวหน้าใหญ่มีบัตรพนักงานของค่ายเพลง (โชว์ให้ดูแว็บๆ) แล้วภรรยา ผมเลยถามว่าไหนพี่บอกพี่เป็นตำรวจ ชายเสื้อแดงนี้ก็โชว์บัตรตำรวจให้ดูด้วย คือเป็นทั้งพนักงานบริษัทเอกชน และเป็นข้าราชการด้วยว่างั้น

คนที่สอง ชายเสื้อฟ้า เป็นพนักงานขายลิขสิทธิ์เพลงของค่ายเพลง

คนที่สาม ชายเสื้อน้ำเงิน เป็นหัวหน้าในส่วนการคิดค่าปรับ

ผมตามไปถึง เจอร้านที่โดนจับมาด้วยกันหลายร้านอยู่ ก็ทักทาย และก็ไปตุยกับคนที่มาจับ คนแรกที่คุยด้วยคือชายเสื้อแดง หัวหน้าใหญ่ ผมก็ถามว่าพี่มีบัตรหรือเปล่า หรือเอกสารตัวแทนไหม เค้าก็บอกว่ามี นั้นผมขอดูหน่อย เค้าบอกรอสักพัก ผมก็ถามอีกว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วยรึเปล่า เขาก็บอกว่ามี ผมก็บอกโอเค ผมงั้นผมขอถ่ายรูปบัตรพี่ไว้ก่อน เขาก็บอกให้รอสักพัก เจ้าหน้าตำรวจที่ไปจับด้วยก็มา เค้าก็โชว์บัตรค่ายเพลง (แว๊บๆ) แล้วเอาเอกสารให้

ขณะผมนั่งอ่านอยู่ชายเสื้อน้ำเงินก็เค้ามาคุย ผมถามว่าผมอ่านเจอว่าเราไม่ได้เก็บเงินจากการเปิดเพลง และเราก็เปิดเพลงจากยูทูป ซึ่งก็เป็นเพลงสากล และร้านไม่ใช่เป็นร้านเหล้า หรือร้านคาราโอเกะ ในร้านมีลำโพงตัวเล็กๆสองตัว อยู่ที่หน้าคอม ลูกค้าจะได้ยินแค่เสียงคลอๆเท่านั้น ผมผิดอะไร เค้ามีฎีกาว่าไม่ผิดไม่ใช่เหรอ เขาก็ไม่พอใจหาว่าผมหัวหมอ ว่าฎีกาที่ไม่ผิดมันมาตรา 31 แต่นี่ผมฟ้องคุณทำผิดมาตรา 29 คุณไม่ต้องงมาหัวหมอ ผมไม่ใช่นักบินนะ ผมมาถูกกฏหมายครับ ผมเป็นฝ่ายโดนละเมิด คุณเป็นฝ่ายผิด คุณจะเอาอะไร ผมก็ไม่ค่อยพอใจแล้ว

แต่ก็นั่งอ่านเอกสารไปเรื่อยๆ และก็มีคุยโต้ตอบกันบ้าง แล้วเค้าก็ถามขึ้นมาว่าคุณรู้ไหม CD แผ่นนึงมีกี่เพลง ผมบอกผมไม่รู้ ผมไม่ได้ซื้อ CD เพลงมาฟังนานแล้ว ผมซื้อแต่ MP3 ของแท้ที่เค้ารวมเพลงมาให้ตามเซเว่นฟัง ก็แล้วแต่ว่าเค้าจะให้มากี่เพลง เขาก็ถามอีกว่า CD แผ่นนึงมีกี่เพลง ผมก็บอกผมไม่รู้ ผมไม่ตอบแล้วกัน ทำไมผมต้องตอบด้วยในเมื่อผมไม่รู้ แล้วคุณจะมาบังคับให้ผมตอบทำไม เหมือนเค้าคิดว่าผมจะกวน เขาเลยดึงเอกสารที่ผมกำลังอ่านไปเฉยๆ ซะอย่างนั้น แล้วเดินไป พร้อมบอกกวนทีน ไม่ต้องอ่านมันแล้วถามดีๆไม่ตอบ ในเมื่อผมไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย แล้วทางคนที่มาจับกุมก็ไม่ได้อธิบายอะไร ผมเลยบอกนั้นพี่รวบรวมหลักฐานสั่งฟ้องละกัน ร้านผมเลยเป็นร้านแรก ที่เข้าห้องสอบสวน

เข้ามาในห้องสอบสวน มีผม ภรรยา ร้อยเวร และทีมงานของทางเขาคนนึง ผมก็ขอดูหลักฐานที่เขาถ่ายมาว่าร้านผมทำผิดจริง เพลงที่ผมเปิดเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่นรูปถ่าย หรือวีดีโอ ลูกน้องคนนึงในทีมงาน ก็บอกว่าให้ไม่ได้ ให้ไปสู้กันในชั้นศาล  

ผมก็ถามร้อยเวรว่าแล้วผมต้องใช้เงินประกันตัวเท่าไร ร้อยเวรบอกว่า หนึ่งแสนบาท ถ้าไม่ประกันก็ต้องถูกขังอยู่ในคุก ซึ่งชื่อที่ถูกฟ้องเป็นชื่อภรรยาผม แล้วถ้าหาไม่ได้ล่ะครับผมถาม พนักงานก็บอกว่าต้องขังไปเรื่อยๆ จนกว่าจะผลัดฟ้อง ซึ่งติดวันหยุด จะผลัดฟ้องก็คือวันที่ 11 ซึ่งยังไม่ได้ฟ้องนะ ต้องผลัดฟ้องไปเรื่อยๆ แต่จะไปฝากขังที่อื่น จนกว่าเอกสารจะเสร็จถึงจะไปศาลได้

ผมเลยอยากให้เปลี่ยนผู้ต้องหา เพราะว่าผมก็เป็นเจ้าของร้านด้วย แต่ทางร้อยเวรบอกไม่ได้ ผมถามว่าทำไมไม่ได้ เพราะผมก็เป็นเจ้าของร้าน ร้อยเวรบอกเขาฟ้องภรรยาผม แต่ตอนไปตรวจคนที่มาตรวจบอกว่าให้ใครมาก็ได้ แต่ภรรยาผมมาถึงก่อนแล้วตำรวจที่ลงบันทึกประจำวันก็ขอบัตรประชาชนของภรรยาผมไป เธอจึงเป็นผู้ต้องหา คดีลิขสิทธิ์นี่มันช่างดีจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่