เปรียบเทียบหนัง 1984 กับประเทศไทย

กระทู้สนทนา
ขอออกตัวก่อนเลยนะครับ ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังกระเเสนิยมอะไร ใครไม่เคยดู จะเล่าให้ฟังเเบบย่อๆครับ

อันนี้เป็นตัวภาพยนตร์ครับ ไม่เเน่ใจว่ามีเเบบพากษ์ไทยไหม อังกฤษล้วนครับ ฟังๆเอา สำหรับคนอยากดูนะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
โอเค เเต่ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาดู มา ผมจะสรุปเรื่องคร่าวๆให้ฟัง

เรื่องมีอยู่ว่า ในยุคปี 1984 ได้มีการรวมประเทศเข้ามาเป็นรัฐใหญ่ๆ สามรัฐด้วยกัน  โดยที่สามรัฐนี้จะทำสงครามไปๆมาๆ คล้ายๆสามก๊กนั่นเเหละครับ
เเต่ว่าตามเรื่องนี้ จะไปโฟกัสที่รัฐนึงๆ อารมณ์คล้ายๆลอนดอนในสมัยนั้นเลยครับ โดยที่รัฐนั้น จะมีผู้นำใหญ่สุดเรียกว่า Big Brother ไม่มีใครเคยเห็นหน้าครับ  เเต่ว่าเขาเป็นคนควบคุมทุกๆอย่างในรัฐนี้ โดยซึ่งชีวิตประจำวันของคนในรัฐนี้ จะมีความเเตกต่างตรงที่ ทุกๆวัน จะมี Hate time คือ ช่วงเวลาเเห่งความเกลียด โดยที่ จะมีการเปิดเสียงของตัว Big เองออกมาพูดโจมตี ว่าร้าย ให้คนเกลียดอีกสองรัฐที่เหลือ ซึ่งประชาชนก็จะเเสดงความเกลียดชัง เเละเห็นด้วยกับตัว Big เอง ซึ่งถ้าใครไม่ทำ หรือเเสดงตัวผิดเเปลก จะถูกจับเข้าไปที่ๆนึงครับ เเละในทุกๆบ้าน หรือทุกๆที่ จะมีกล้องคอยสอดส่องคนที่ทำนอกเหนือสิ่งที่คนทั่วไปทำกัน เช่น เเบบ คนเราจะมีความรักไม่ได้ เเต่จะเเต่งงานกันเพื่อนมีลูกเท่านั้น โดยรัฐจะจัดหาเลือกคู่ให้เอง เรียกง่ายๆก็ superคลุมถุงชน โดยที่ตัวพระเอกเอง เขาเเค่มีความรู้สึกว่า เราทำสงครามกันจริงหรอ เพราะไม่มีการรับรู้ว่ากำลังทำสงคราม หรือว่าตัว Big เป็นคนโกหก กุเรื่องมา เเละเขาก็ดันพบรักกับสาวคนนึง เเอบไปอยู่ด้วยกัน เรียกว่าเเหกเเทบทุกกฏเเหละครับ เเล้วเรื่องก็เข้าหูถึงตำรวจ จับเขาเเละตัวผู้หญิงไปล้างสมอง คือทรมานด้วยความกลัว ให้กลายเป็นคนไม่มีความคิด ให้คิดเเค่เท่าที่รัฐอยากให้คิด เเล้วเรื่องก็จบ อะไรประมาณนี้

จากเท่าที่ผมสรุปเรื่อง เเล้วเอามาเทียบกับประเทศเราในตอนนี้ครับ

Big Brother = ท่านผู้นำของเรานั่นไง จะใครหล่ะ -3-

ช่วงเวลา hate time ที่จะมีมาทุกวัน = เรารู้นะว่าพวกนายนึกถึงอะไร คืนความสุขให้ประชาชนไงหล่ะ เพียงเเค่ว่า เขาอาจไม่ได้ออกมาพูดให้เราไปเกลียดอะไรใครก็จริง เเต่ว่า มันมีความคล้ายคลึงกัน เหมือนถูกยัดเยียดอะไรลงสมอง เปิดไปช่องไหนก็เจอ ตลกดีนะ

การล้างสมอง = เอาจริงๆ ผมว่ามันใกล้เคียงกับการเรียกตัว หรือควบคุมตัวเพื่อไปปรับทัศนคติเลยนะ จริงๆเเล้ว คำว่าทัศนคติ คือ การที่คนคนนึงจะมีความคิดเรื่องใดๆก็ตาม เป็นของตัวเอง เป็นมุมมองส่วนบุคคล การโดนปรับทัศนคติ ก็อาจจะคล้ายๆการยัดเยียดความคิดของอีกคนนึง มาให้อีกคนนึงก็เป็นได้ จริงไหม???

ทำอะไรผิดเเปลก เราจะโดนจับ = อย่างข่าวเมื่อไม่นานนี้เลยครับ ทั้ง social Facebook Twitter หรืออะไรต่างๆ ต่างตามข่าวเรื่องอุทยานราชภักดิ์กันอย่างใกล้ชิด  โดยมีนักศึกษากลุ่มนึง สงสัยว่าจะมีการโกงกันเกิดขึ้นในการสร้างอุทยาน เลยเเค่จะเดินทางไปตรวจสอบ ในฐานะประชาชนที่มีส่วนเสียภาษีเเละมีสิทธิ์ที่จะไปยังอุทยานที่เพิ่งเปิดให้คนเข้าชม เเต่กลับถูกจับตัว เนื่องจาก เกรงว่าทำให้ชาติไม่มันคง... WHAT!!!!!!! ไม่ make sense เลยสักนิดนะเว้ยยยยยย!!! (ผมไม่ได้โมโหนะ ผมเเค่พูดเสียงดังเฉยๆ!! กำ)

การมีกล้อองตรวจจับทุกที่ = กรณีที่เพิ่งผ่านมาเลยครับ น้อง Single Gateway ของเรานั่นเอง ซึ่งถ้าเกิดโครงการนี้ดั๊นนนน ผ่านมาได้จริง เเบบที่ท่านทั้งหลายจะดื้อดึงจะนำมาใช้กัน เเหม่ เราคงไม่ต่างอะไรกับการมีกล้องติดตามตัวกันเลยหล่ะครับ เสรีภาพของเราก็มีเเค่เท่าที่เขาให้

อ่าาา เท่าที่นึกได้ มีราวๆนี้ รู้สึกมาสักพักละว่ามันเหมือนกันจังว้าาา นี่ท่านบริหารประเทศตามหนังปะเนี่ยยย = =

สำหรับเรื่องย่อผม มันอาจจะงงๆนะ ดูมาเป็นปีละลืม ใครอยากอ่านเร่องย่อ เข้าลิ้งค์นี้เลยครับ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=zhivago&month=15-12-2008&group=6&gblog=37


สุดท้ายนี้ คิดเห็นอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้ จริงเท็จอย่างไร ผมน้อมรับครับ ต้องการสุภาพชนมา discuss กันครับ
ขอบคุณมา ณ ที่นี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่