สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆ ชาว pantip ทุกๆท่าน ผมจะมาเล่าเรื่องราวและการเดินทางตามสไตล์ของผมให้ทุกท่านได้ชมกันนะครับ
ผมเองก็เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่ชอบการเดินทางและการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ประกอบกับช่วงนี้ชีวิตของผมกำลังวุ่นวายกับหลายๆเรื่อง
และ กำลังมีเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จึงนั่งจ้องปฎิทิน ดูวันหยุดยาว กำหนดสถานที่ แล้วออกเดินทางไปพักผ่อนกันเลยครับ
ใช้กล้อง Fuji XA2 กับ Sony xperia Z1 ตลอดทริป
เช้าวันเสาร์ที่ 5 เวลา ตี 5 ตรง ออกเดินทางจากบ้านย่านราษฎร์บูรณะ กับสก๊อยประจำตัวครับ
ผมใช้เส้นทาง บางบัวทอง-สุพรรณบุรี บางเลน ตอนเช้าๆ รถไม่เยอะ วิ่งสบายๆครับ
แวะพักที่แรก ปตท ไทรน้อย เติมน้ำมัน หาอะไรรองท้องครับ
สังเกตุจากหน้าตาคนขับ เหมือนยังไม่ตื่น อิอิ
จากนั้นวิ่งมาเรื่อยๆ บางเลน กำแพงแสน และ ถึงจุดหมายตอนเวลา 8 โมงเช้าครับ ถึงไวเกิน
เมื่อถึงไวเกิน ก็แวะเที่ยวสักหน่อยครับ สะพานข้ามแม่น้ำแคว คนเยอะมากครับ
แวะทานเข้าเช้ากันครับ หิวมากๆ
มีแรงแล้วก็เที่ยวกันต่อ จุดต่อไปคือ พิพิธภัณฑ์สงคราม
ครั้งสุดท้ายผมมาที่นี่คือ ประมาณปี 2544 และตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะมากทำเอาผมแปลกใจไปเลย
หลังจากเที่ยวและกินกันจนเต็มอิ่มแล้วก็ได้เวลา 10 โมง จึงออกเดินทางต่อครับ
จุดหมายต่อไปคือ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จุดชมวิวป้อมปี่ครับ
พยายามประคองรถให้ถึง ปตท. ทองผาภูมิ สุดท้ายก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว จอดเติมพลังให้น้องชายครับ
ถึงปั้ม ปตท ทองผาภูมิ ตอนเที่ยงพอดี จัดเติมน้ำมันใส่ถังสำรอง ซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นแล้วต้องรีบออกเดินทางกันต่อ
เพราะปั้มนี้คนเยอะมาก จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย ขอตัดมาที่จุดชมวิวป้อมปี่เลยนะกันนะครับ
สังเกตุจากหน้าผมตอนทานข้าว ม่ายหวายแล้วววววววว
จากนั้นขนของลงจากรถแล้วรีบจองที่กางเต๊นกันเลย กลัวจะได้ที่วิวไม่สวย คนเยอะ พอสมควร แฮะๆ
สังเกตุตาลุงที่นั่งข้างๆเต๊นนะครับ เหนื่อยลิ้นห้อยเลย อิอิ
บ่ายสองโมงแล้ว ไปถ่ายรูปเล่นกันดีกว่าครับ
ถึงเวลาพระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้วจ้าแต่เมฆเยอะบังหมดอดได้รูปสวยๆเลย อย่างนี้ต้องมาซ่อมอีกครั้ง อิอิ
ขอรูปคู่สักหน่อย อิอิ
จากนั้นก็ถ่ายเล่นไปเรื่อย วิวพระอาทิตย์หมดไปแล้วอะ
หลังจากนั้นเวลา 6 โมงเย็น ถึงเวลาทำกับข้าวกินกันแล้ว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ลมพัดมาแรงมาก หลังจากนั้นฝนตก อ่านไม่ผิดหรอกครับ "ฝนตกแรงมาก"
นี่มันหน้าหนาวนะเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เซงสุดชีวิต น้ำซึมเข้าเต๊นหลายจุดจนนอนไม่ได้
จึงตัดสินใจบอกสก๊อยให้เก็บของ แล้วผมจะขนไปไว้ที่จุดบริการนัดท่องเที่ยว
ซึ่งไม่ใช่แค่เต๊นผมเต๊นเดียวที่เจอแบบนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ ที่ต้องขนของมาไว้ที่นี่
บางท่านนำรถยนต์มาก็ขนของไปเก็บที่รถยนต์ บางท่านนอนรอในรถยนต์
ส่วนผมนนั้น ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจาก "รอ" ให้ฝนหยุดอย่างเดียว เล่นลูกแมวรอไปละกัน
จริงดังคำที่ว่า "ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ" เวลา 21.00 น. หรือ สามทุ่ม ฝนได้อ่อนกำลังลงและหยุดตกในที่สุด
ผมจึงปรึกษากับเจ้าหน้าที่อุทยานเรื่องขอเช่าเต๊นมานอน
เจ้าหน้าที่จึงออกมากางเต๊นให้กับผม และไม่คิดค่าใช้จายเพิ่ม ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ในวันนั้นทุกๆท่านนะครับ
ถ้าไม่ได้พวกท่าน คืนนั้นผมคงไม่ได้นอน ขอบคุณจากใจจริงครับ ทำให้ผมได้หลับสนิทตลอดทั้งคืน....จบวันแรกครับ
3 วัน 2 คืน ที่กาญจนบุรี ไปกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อเลย
ผมเองก็เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่ชอบการเดินทางและการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ประกอบกับช่วงนี้ชีวิตของผมกำลังวุ่นวายกับหลายๆเรื่อง
และ กำลังมีเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จึงนั่งจ้องปฎิทิน ดูวันหยุดยาว กำหนดสถานที่ แล้วออกเดินทางไปพักผ่อนกันเลยครับ
ใช้กล้อง Fuji XA2 กับ Sony xperia Z1 ตลอดทริป
เช้าวันเสาร์ที่ 5 เวลา ตี 5 ตรง ออกเดินทางจากบ้านย่านราษฎร์บูรณะ กับสก๊อยประจำตัวครับ
ผมใช้เส้นทาง บางบัวทอง-สุพรรณบุรี บางเลน ตอนเช้าๆ รถไม่เยอะ วิ่งสบายๆครับ
แวะพักที่แรก ปตท ไทรน้อย เติมน้ำมัน หาอะไรรองท้องครับ
สังเกตุจากหน้าตาคนขับ เหมือนยังไม่ตื่น อิอิ
จากนั้นวิ่งมาเรื่อยๆ บางเลน กำแพงแสน และ ถึงจุดหมายตอนเวลา 8 โมงเช้าครับ ถึงไวเกิน
เมื่อถึงไวเกิน ก็แวะเที่ยวสักหน่อยครับ สะพานข้ามแม่น้ำแคว คนเยอะมากครับ
แวะทานเข้าเช้ากันครับ หิวมากๆ
มีแรงแล้วก็เที่ยวกันต่อ จุดต่อไปคือ พิพิธภัณฑ์สงคราม
ครั้งสุดท้ายผมมาที่นี่คือ ประมาณปี 2544 และตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะมากทำเอาผมแปลกใจไปเลย
หลังจากเที่ยวและกินกันจนเต็มอิ่มแล้วก็ได้เวลา 10 โมง จึงออกเดินทางต่อครับ
จุดหมายต่อไปคือ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จุดชมวิวป้อมปี่ครับ
พยายามประคองรถให้ถึง ปตท. ทองผาภูมิ สุดท้ายก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว จอดเติมพลังให้น้องชายครับ
ถึงปั้ม ปตท ทองผาภูมิ ตอนเที่ยงพอดี จัดเติมน้ำมันใส่ถังสำรอง ซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นแล้วต้องรีบออกเดินทางกันต่อ
เพราะปั้มนี้คนเยอะมาก จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย ขอตัดมาที่จุดชมวิวป้อมปี่เลยนะกันนะครับ
สังเกตุจากหน้าผมตอนทานข้าว ม่ายหวายแล้วววววววว
จากนั้นขนของลงจากรถแล้วรีบจองที่กางเต๊นกันเลย กลัวจะได้ที่วิวไม่สวย คนเยอะ พอสมควร แฮะๆ
สังเกตุตาลุงที่นั่งข้างๆเต๊นนะครับ เหนื่อยลิ้นห้อยเลย อิอิ
บ่ายสองโมงแล้ว ไปถ่ายรูปเล่นกันดีกว่าครับ
ถึงเวลาพระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้วจ้าแต่เมฆเยอะบังหมดอดได้รูปสวยๆเลย อย่างนี้ต้องมาซ่อมอีกครั้ง อิอิ
ขอรูปคู่สักหน่อย อิอิ
จากนั้นก็ถ่ายเล่นไปเรื่อย วิวพระอาทิตย์หมดไปแล้วอะ
หลังจากนั้นเวลา 6 โมงเย็น ถึงเวลาทำกับข้าวกินกันแล้ว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ลมพัดมาแรงมาก หลังจากนั้นฝนตก อ่านไม่ผิดหรอกครับ "ฝนตกแรงมาก"
นี่มันหน้าหนาวนะเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เซงสุดชีวิต น้ำซึมเข้าเต๊นหลายจุดจนนอนไม่ได้
จึงตัดสินใจบอกสก๊อยให้เก็บของ แล้วผมจะขนไปไว้ที่จุดบริการนัดท่องเที่ยว
ซึ่งไม่ใช่แค่เต๊นผมเต๊นเดียวที่เจอแบบนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ ที่ต้องขนของมาไว้ที่นี่
บางท่านนำรถยนต์มาก็ขนของไปเก็บที่รถยนต์ บางท่านนอนรอในรถยนต์
ส่วนผมนนั้น ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจาก "รอ" ให้ฝนหยุดอย่างเดียว เล่นลูกแมวรอไปละกัน
จริงดังคำที่ว่า "ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ" เวลา 21.00 น. หรือ สามทุ่ม ฝนได้อ่อนกำลังลงและหยุดตกในที่สุด
ผมจึงปรึกษากับเจ้าหน้าที่อุทยานเรื่องขอเช่าเต๊นมานอน
เจ้าหน้าที่จึงออกมากางเต๊นให้กับผม และไม่คิดค่าใช้จายเพิ่ม ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ในวันนั้นทุกๆท่านนะครับ
ถ้าไม่ได้พวกท่าน คืนนั้นผมคงไม่ได้นอน ขอบคุณจากใจจริงครับ ทำให้ผมได้หลับสนิทตลอดทั้งคืน....จบวันแรกครับ