Chiang Khan | ใช้ชีวิตช้าช้า มาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่’เชียงคาน’


          สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผม ตั้งใจสมัครมาเขียนเรื่องนี้โดยเฉพาะ โอ้วว..ดูจริงจังไปไหมครับ หัวเราะ  ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ การไปเชียงคานครั้งนี้ผมไปกับรูมเมท 2 คนครับ คิดกันมาตั้งนานแล้วว่าอยากไปสักครั้ง โดยไม่ได้กำหนดว่าจะไปช่วงไหน บังเอิญมีอยู่วันนึงเราเห็นเพื่อนๆใน Facebook ไปเที่ยว เลยอยากไปมั่ง หันมองหน้ากัน ผมชวนก็รูมเมทเลย เห้ย!! ไปเที่ยวกันไหม เธอตอบกลับมาว่า จะไปที่ไหนล่ะ เชียงคานไหม ไปๆๆ ในใจนี่นาทีนี้ไปไหนก็ได้หมด ประกอบกับนานๆทีเธอถึงจะได้หยุด อยู่กรุงเทพฯก็เบื่อ อยากไปพักผ่อนด้วย เชียงคานก็เชียงคานวะ ป่ะ!! ไปโลด...
           เริ่มจากจะไปยังไง คือที่รู้จากการอ่านรีวิวของเพื่อนๆมา มี 2 ทาง คือ ไปเครื่องกับรถทัวร์ แต่จากการคิดพิจารณาดูแล้ว เราคิดว่าไปรถทัวร์คงเหมาะสมกับเรามากกว่า อีกอย่างนึง รถทัวร์เข้าไปจอดที่เชียงคานเลย ไม่ต้องต่อรถ แต่ถ้านั่งเครื่องต้องต่อรถเข้าไปอีก ทริปนี้เราตั้งใจกันว่าจะพักที่เชียงคาน 2 คืน เราตกลงกันได้ว่าเป็นวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2558
           พอถึงวันจองตั๋วเราจองตั๋ว ป.1 ราคาคนละ 430 บาท จองผ่านไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จ่ายเงินรับตั๋วที่เมเจอร์ได้เลย เสียค่าธรรมเนียมนิดหน่อย ได้ตั๋วแล้วทีนี้มาหาที่พักกันต่อ เปิดเว็บ Search หาที่พักเชียงคาน เชื่อไหมครับ โทรไปกี่ที่ก็เต็มหมด ผมมาคิดในใจ โอ้โห..เมืองนี้แสดงว่าดีจริงๆ คนถึงไปเที่ยวกันเยอะมาก เยอะจนไม่มีที่พักเลยอ่ะ เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขามีคอนเสิร์ตเชียงคาน 2 คืน 3 วัน โดด มัน ฮา แต่พวกเราไม่ได้สนใจ เพราะเราตั้งใจว่าจะมาเที่ยวเชียงคานอย่างเดียวเลย เปลี่ยนกันโทรระหว่างผมกับรูมเมท โทรหาที่พักกันอยู่นาน จนรูมเมทบอกว่าฉันได้ละนะที่เฮือนไม้แฮกดี แต่ได้คืนเดียวนะ ราคา 800 บ. อีกคืนเธอหานะ ฉันหาได้แล้ว อ้าวๆๆ เอาแล้วไง ผลักมาให้เราซะงั้น ผมหาจนมาได้ที่เฮาฮักเชียงคาน ที่นี่ราคา 1200 เป็นห้องใหญ่ นอนได้ 5-6 คน เจ้าของเค้าเห็นใจ เห็นว่ามากัน 2 คน เลยลดราคาให้เหลือ 1100 บ. ผมตกลงเอาที่นี่กลัวไม่มีที่นอน จัดการโอนเงินจองที่พักทั้ง 2 ที่เรียบร้อยภายในวันนั้นเลย ที่พักทั้ง 2 ที่อยู่ซอย 5 ครับ ใกล้ๆกัน
            ได้ตั๋วรถได้ที่พักกันแล้วก็รอเวลาอีก 1 เดือน จนจะลืมไปละว่าจะได้ไปเที่ยว พอถึงวันไปจริงๆก็ตื่นเต้น หลังเลิกงานวันที่ 26 พ.ย. 58 เราก็ไปขึ้นรถทัวร์ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหมอชิต รอจนรถออก 21.30 น. ยาวไปเลยครับพี่ พูดในใจนะ ที่ไหนได้ รถมีปัญหา เบาะผู้โดยสารคนนึงเอนไม่ได้ ซ่อมกันอยู่นาน กว่าจะออกจากกรุงเทพฯก็เกือบ 5 ทุ่ม
            
             27-11-58 “เวลา 8 นาฬิกา โปรดเตรียมตัวเคารพธงชาติ” เอ้ย!! ไม่ใช่ละ ถึงเชียงคานแล้วค้าบบบ ลงรถมาก็ งง สิครับ แล้วจะไปไหนยังไงเนี่ย เดินมาที่ตลาดสดเชียงคาน ถามคนแถวนั้นเขาบอกว่าที่ตลาดเนี่ย ซอย 9 น้องเดินขึ้นไปข้างบนนะ นับย้อนไปเรื่อยๆ ซอย 5 เราก็เดินไปกันครับ เดินผ่านร้านสุวรรณรามา สวยมากชอบเลย เห็นเค้ามีไข่กระทะกับกาแฟขาย เราสองคนก็เลยอยากลอง แต่คนขายไม่อยู่ เลยเดินผ่านไปก่อนกะว่าเดี๋ยวจะมากินให้ได้

พอถึงที่พักคืนแรก เฮือนไม้แฮกดี พี่เจ้าของใจดีมาก เป็นกันเอง บอกเราว่าฝากของไว้ก่อนนะ พอดีแขกยังไม่เช็คเอาท์ เราก็โอเคฝากของ กะจะเดินเล่นแถวนั้นไปก่อน เหลือบไปเห็นจักรยานบ้านข้างๆ ไม่รอช้าครับ เช่าจักรยานคันละ 50 บาท 2 คัน

อันดับแรกปั่นไปร้านสุวรรณรามาก่อนเลยครับ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง สั่งไข่กระทะ เพราะไม่เคยกิน แต่ก็อร่อยดีครับ ชอบๆ

อิ่มแล้วก็ปั่นไปแถวริมแม่น้ำโขง เจออะไรที่คิดว่าสวยก็ถ่ายรูปเก็บไว้(ผมคิดเองนะ 55)

ปั่นเล่นแถวนั้นสักพัก ผมเกิดไอเดีย เธอๆ เราไปปั่นไปแก่งคุดคู้กันไหม อ่านรีวิวมาเค้าว่าไม่ไกล ปั่นกันไปสักพักเริ่มเมื่อย อีกไกลไหมเนี่ย หันไปมองหน้ากัน ยิ้มๆ เห็นข้างทางมีร้านขายผลไม้เลยแวะถาม พี่เค้าบอกว่าถึงตรงนี้ก็ไม่ไกลละครับอีกนิดเดียว ป้ายแก่งคุดคู้อยู่ซ้ายมือ เราขอบคุณพี่เค้าเสร็จก็ปั่นกันไปต่อ
ในที่สุดก็ถึงแก่งคุดคู้ >> ไม่รอช้าครับ >> พักเหนื่อยกันก่อนเลย 555

มานั่งคุยกัน เธอๆเราปวดเข่าว่ะ รูมเมทบอก ชั้นก็ปวดเหมือนกัน เป็นไงล่ะ อยากปั่นมาแก่งคุดคู้ เธอหัวเราะเยาะเย้ย 5555 สักพักเราก็เดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

ได้รูปจนพอได้แล้วไม่อยากคิดฉากต่อไป >> ปั่นกลับครับ ถอนหายใจก่อนออกตัว ยิ้มยิ้ม

ขากลับเราแวะเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ตรงข้ามร้านลุก โภชนา ซอย 14 ก่อน เพื่อที่จะขับไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอก แต่ต้องรอไปรับรถตอนเย็นเพราะมีคนเช่ายังไม่เอากลับมาคืน จ่ายค่าเช่าไป 250 บาท ก็ปั่นเลียบแม่น้ำโขงไปที่พัก พอถึงที่พัก พี่เค้าบอกเอากระเป๋าเข้าไปเก็บให้ในห้องเรียบร้อยแล้วนะ ดีจังเลย เราก็อาบน้ำ ของีบสักพักก่อน #บ่ไหวแล่ว 555 ตกเย็นตื่นมาก็ไปเดินเล่นริมแม่น้ำโขง ซึ่งไม่ไกลจากที่พัก เก็บภาพบบรรยากาศริมแม่น้ำโขงและพระอาทิตย์ตก

สักพักก็ไปรับมอเตอร์ไซค์

ตกเย็นหิว ก็ไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน ชมบรรยากาศของเชียงคาน ที่นี่เติมไปด้วยบรรยากาศเก่าๆ วินเทจๆ ใครชอบแนวนี้รับรองไม่ผิดหวัง เดินเล่นแป๊บนึง เราก็รีบกลับเข้าที่พัก เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปดูทะเลหมอกที่ภูทอก

             28-11-58 ตื่นตี 5 ขับมอเตอร์ไซด์ไปภูทอก ทางไปภูทอกเป็นเส้นทางเดียวกันกับแก่งคุดคู้ แต่เลยไปอีกนิดนึง ถึงแล้วก็จอดรถไว้ที่ด้านล่าง แล้วไปนั่งรถ 2 แถวขึ้นไปบนภู เสียค่ารถคนละ 25 บาท จะลงตอนไหนก็ได้ ขึ้นมายังมืดอยู่เลย รอพระอาทิตย์ขึ้น คนข้างบนนี้แน่นพอสมควร เราก็รีบไปจับจองพื้นที่พร้อมกางขาตั้งกล้องไว้รอเลย วันนี้หมอกไม่ค่อยเยอะครับ

ครั้งแรกในชีวิตที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ที่ผ่านมา เรามัวไปทำอะไรอยู่นะ เพิ่งเคยเห็นก็วันนี้นี่แหละ^^ ลงจากภูทองเราก็มากินข้าวข้างล่างตรงข้ามกับที่จอดรถ จำชื่อร้านไม่ได้ อิ่มแล้วก็แว้นไปที่พระพุทธบาทควายเงิน ขึ้นมาสูงเหมือนกันนะกว่าจะถึง


ไหว้รอยพระพุทธบาทเสร็จ เราก็มาให้อาหารกระต่าย ที่นี่มีกระต่ายเยอะมาก

กลับจากพระพุทธบาทควายเงิน ระหว่างทางเห็นเป็นทุ่งทานตะวัน แวะสิครับ ตอนนั้นประมาณ 10 โมงกว่าๆ แดดร้อนมาก แต่ใจสู้ครับ จอดรถเดินเข้าไปถ่ายรูปกับดอกทานตะวัน ไม่เหลือครับ ไปเอาป่านนั้น คอตกหมดทุกดอก 555 ที่นี่เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาทนะครับ


จากนั้นเราก็ขับกลับไปที่พัก เก็บกระเป๋าเช็คเอาท์ แล้วไปเช็คอินต่อที่ เฮาฮักเชียงคาน เอามอเตอร์ไซค์ไปคืน แล้วก็ย้อนกลับมาที่พัก นั่นละครับท่านผู้ชม งีบอีกตามสไตล์ครับ 55 ชิลๆกันไป จะรีบไปไหน ตื่นมาอีกทีก็เย็นเลยวันนี้ แล้วก็ไปเดินถนนริมโขง ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก แต่วันนี้มีนกมาเข้าฉากให้ด้วยครับ


สักพักก็ไปเดินถนนคนเดินต่อ หาของกินเหมือนกับวันแรก แต่วันนี้เราใช้เวลาที่นี่ค่อนข้างนาน เดินจนสุดถนนคนเดินแล้วก็เดินกลับมา เจอร้านขายเบียร์แวะจิบกันสักหน่อยเนอะ เดินกันจนขาลากแล้วเราก็กลับเข้าที่พัก เพราะพรุ่งนี้จะต้องตื่นเช้า ขึ้นรถ 7 โมงครึ่งกลับกรุงเทพฯ


             จบแล้วครับ กระทู้แรกในชีวิตของผม ขอบคุณมากๆนะครับที่เข้ามาอ่าน ถือว่าเล่าสู่กันฟังนะครับ หวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่จะไปเที่ยวเชียงคานไม่มากก็น้อยนะครับ สวัสดีพี่น้องชาวพันทิป
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่