ละครจบ อารมณ์ยังไม่จบ555
อยากชวนแฟนละครและชาวติ่งคุยกันเรื่อง(คุณ) ป้าสร้อยค่ะ
(ความเห็นของดิชั้นอาจจะเหมือนและแตกต่างจากแฟนละคร แฟนนิยาย ข้อมูลก็อาจมีจุดบกพร่อง พูดคุยติชมได้นะคะ)
(ไม่ได้แท็กจีน่า กรรณนะคะ เพราะอาจจะไม่เกี่ยวโดยตรงนัก)
(จขกท.มีอัพเดตอยู่ด้านท้ายกระทู้ เป็นข้อความจากป้าสร้อยนะคะ)
นอกจากท่านดนัยวัฒนาหรือนายเล็กที่รับบทโดยคุณกรรณ สวัสดิวัตน์ และบทท่านหญิงรัตนาวดี ที่รับบทโดยน้องจีน่า ญีนา ซาลาส ที่โดดเด่นในเรื่องและได้รับการชื่นชมแล้ว ยังมีอีกบทหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันในเรื่อง (เพราะเดินเรื่องกัน 3 คน) คือ
บทของป้าสร้อย พี่เลี้ยงที่ตามเสด็จท่านหญิง จนเปรียบเสมือนเป็นเงาตามตัวท่านหญิงตลอดเรื่อง ท่านหญิงอยู่ไหนก็มีป้าสร้อยอยู่ที่นั่น ถ้าจะตีเป็นตัวเลขก็ราว 80-90 เปอร์เซ็นต์ของละครต้องมีป้าสร้อยในฉากด้วยไม่ว่าจะออกไปเที่ยว ทานขนมอาหาร งีบหลับในรถ หรือนอนหลับข้างท่านหญิง
จากที่ดิชั้นได้มีโอกาสชมละครเวอร์ชั่นก่อนคือ เวอร์ชั่น 2531คุณขวัญฤดี-เกรียงไกร ผ่านทางยูทูปผ่านๆแบบไม่ละเอียดนัก แต่เชื่อว่าผู้ที่ได้ชมจะเห็นถึง
ความแตกต่างของตัวละครจากทั้งสองเวอร์ชั่น เช่นกัน
(จขกท.ขออกตัวว่าไม่ได้มุ่งโจมตีละครในอดีต เพียงแต่อยากนำมาเปรียบเทียบให้เห็นความเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ถ้าทำให้แฟนๆรู้สึกไม่ดีต้องขออภัย)
สิ่งที่ดิชั้นคิดว่าทั้งสองเวอร์ชั่น
เหมือนกันคือ
บทบาทหน้าที่หลักในการรักษาพระเกียรติท่านหญิง คอยเตือน คอยปรามท่านหญิงไม่ให้ลืมองค์
แต่สิ่งที่
ต่างกัน คือ
บุคลิกของตัวละคร
ป้าสร้อยเวอร์ชั่นเก่า ดูเหมือนเป็นคุณป้า “
ไทยโบราณ” (เป็นคำที่พระเอกเวอร์ชั่นก่อนคุณเกรียงไกรอธิบายตอนเขียนจดหมายถึงท่านพจน์) เหมือนสร้างให้เป็นหญิงสูงวัยที่ดูต้องให้การดูแลหรือเป็นห่วง ทำตัวเปิ่นๆ ปนขำขันแทรก(เช่น ฟังฝรั่งทักทายว่าบองชู เป็นหาว่าฝรั่งว่าแกว่า ชู้ๆ บอกนายเล็กว่าจะไปแจ้งตำรวจ) เวลาบ่นจะบ่นแบบที่ภาษาวัยรุ่นสมัยนี้เรียกว่า มาม่าหรือลำไย เช่น ตอนต้องเดินเพราะนายวิศาลแกล้งดูดน้ำมันไป (เวอร์ชั่นก่อนและในบทประพันธ์ไม่ได้ขี่หลังนายเล็ก) ป้าสร้อยก็เดินโอดโอยปวดขาไปตลอดทาง พอไปถึงก็บ่นกระปอดกระแปดยาวว่าทำไมต้องมานอนในโรงนามีวัวมีควาย นอนฟางแข็งๆ(ไม่อยากนอน) และดูค่อนข้างเข้ากี้เจ้าการ เช่น เวลาให้นายเล็กไปเดินดูดอกไม้เป็นเพื่อนท่านหญิง ก็บอกกับนายเล็กว่าจะนั่งจับตาดูนายเล็กจากตรงเก้าอี้นี้ (คือดูเวอร์ชั่นเดิม ดิชั้นแทบอยากจะเหมาไวน์ทั้งถังโอ๊คให้ป้าเมาจนหลับไปนานๆ)
(ดิชั้นขออกตัวอีกว่าตัวเองอ่านบทประพันธ์แค่บางตอนไม่ได้อ่านทั้งหมด แต่เท่าที่อ่าน คิดว่าป้าสร้อยในบทประพันธ์ดูจะเหมือนป้าสร้อยในเวอร์ชั่นก่อนอยู่มากกว่าเวอร์ชั่นปัจจุบัน)
ในขณะที่
ป้าสร้อยเวอร์ชั่น 2558 เป็นคุณป้าที่ออกจะแจ่มใส กระฉับกระเฉง เฟรนลี่ สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ บทเสริมให้ดูเป็นคนรู้จักหาความรู้ (ถือและอ่านหนังสือไกลบ้านเนืองๆ)และช่างสงสัยเมื่อนายเล็กเล่าอะไรให้ฟังโดยการถามนายเล็กต่อบ้างเป็นระยะๆ มีอารมณ์ร่วม-เอนจอยกับท่านหญิงเวลาไปไหนมาไหน กินอะไรด้วยเหมือนเป็นส่วนประกอบสำคัญของเรื่องเป็นเพื่อนร่วมเดินทางมากกว่าดูเป็นภาระ มีต้องเอาใจบ้าง แต่ไม่ต้องโอ๋มาก ยังเป็นคนขี้บ่นเหมือนเดิม แต่บ่นเพียงแปปเดียวแบบขอให้ได้บ่นซักนิดแล้วก็เลิก บ่นแบบหยิกแกมหยอก55+ (สำหรับดิชั้น ป้าสร้อยเวอชั่นนี้ดูเป็นคนน่ารัก) และในเวอร์ชั่นนี้ยัง
มีทั้งการรักษาและการเพิ่มเติมบทบาทสำคัญยิ่งในการเตือนสติท่านหญิง อย่างใน
ฉากโต้กับท่านหญิงหลังได้รับจดหมายจากเสด็จอาว่า ทรงไม่รักใครไม่ใช่หรือเพคะ กับตอน
ขอร้องให้เสด็จกับท่านดนัยและแต่งงานกับท่านดนัยที่ระเบียง แสดงให้เห็นว่าป้าสร้อยเห็นทุกๆอย่างและมีสติอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังเป็น”กาวใจ”หรือตัวชงชั้นเยี่ยมให้ท่านหญิงกับท่านดนัยเมื่อความจริงเผย (เชื่อว่าใครชมละครต้องรักป้าสร้อย)
คลิปยังไม่ทรงรักใครไม่ใช่หรือเพคะ (เครดิต คุณเที่ยงวัน)
คลิปขอร้องให้เสด็จกับท่านดนัยและแต่งงานกับท่านดนัย (เครดิต คุณเที่ยงวัน)
ผู้เขียนบทโทรทัศน์เลือกที่จะละบางสิ่ง เช่น บทบ่นที่ชวนน่ารำคาญออกไป แต่ยังคงรักษาการแสดงออกผ่านอากัปริยาอื่นๆ เช่น การมอง การทำหน้าสงสัย ปรับบุคลิกบางอย่างของตัวละครที่ทำให้เนื้อเรื่อง
ดูสมูทและชวนให้บันเทิงมากขึ้น เลือกเพิ่มมิติให้ตัวละครอย่างสร้างสรรค์แต่ยังคงรักษาแก่นของตัวละครและแก่นหลักของเรื่องโดยรวมไว้ กล่าวคือ เพิ่มเติมอย่างมีที่มาที่ไป และยังช่วยชูรสให้ละครเข้มข้นยิ่งขึ้น อย่างฉากโต้กับท่านหญิงที่ช่วยขับเน้นปมเรื่องฐานะที่แตกต่างกันของท่านหญิง-นายเล็ก (คนดูหลายคนปาดน้ำตาเป็นแถบๆ) หรือบทสนทนาที่น่ารักตอนขี่หลังนายเล็กแล้วป้าสร้อยถามเรื่องแม่ ที่ช่วยให้เห็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นของตัวละคร (แต่ป้าก็ยังอยู่ในฐานะป้าเหมือนเดิม) ถ้าจะเปรียบเทียบอาจกล่าวได้ว่า
ป้าสร้อยในเวอร์ชั่นนี้ เปรียบเสมือนเลข 0 ที่คอยอยู่ตำแหน่งหลังเลขอื่นๆ(ตัวละครในเรื่อง) คอยเพิ่มค่า เพิ่มสีสันเรื่องราว ผู้ชมอาจอยากให้ป้าป่วยนานๆหรือหลับต่ออีกหน่อยแต่ขาดป้าไปนี่มีกร่อยนะคะ 55
คลิป ขี่หลัง (ฉากเต็ม)
รอยยิ้มของป้าสร้อย
แต่นอกจากผู้เขียนบทแล้ว ดิชั้นว่าเราควรไม่ลืมชมผู้รับบทป้าสร้อย คือ
คุณก้อย ปาริฉัตร ไพรหิรัญ นักแสดงมากฝีมือ(เป็นคู่แฝดกับคุณกล้วย ปรารถนา บรรจงสร้าง ที่เล่นเป็นวิมล ในเวอร์ชั่น 2531) แม้ตัวจริงคุณก้อยจะยังสวยมากและอายุน้อยกว่าป้าสร้อย(คุณก้อยอายุหลัก 5 ต้นๆ ดิชั้นไม่ทราบว่าป้าสร้อยอายุเท่าไหร่ แต่น่าจะราวๆหลัก 6)
แววตา น้ำเสียง ท่าทางที่แสดงออกทำให้เชื่อได้จริงๆว่าเป็นป้าสร้อยที่รักท่านหญิงเหมือนลูกตัวเองแต่ก็เทิดทูนท่านหญิงยิ่ง เมื่อบวกกับที่ได้เห็นภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ จะเห็นได้ว่าคุณก้อยมีความเป็นมืออาชีพมาก น้องจีน่ากับคุณกรรณจะถ่ายกี่เทค คุณก้อยก็จูนสีหน้าท่าทางตามบทที่เทคนั้นกลับมาใหม่ได้เสมอ คอยส่งอารมณ์ในฉากสำคัญๆ (และยังต้องเดินทาง เดินเท้าเหมือนคนอื่นเวลาไปถ่ายทำ สตรองจริงๆ ดิชั้นขอซูฮก) ถ้าคนที่รับบทป้าสร้อยไม่ใช่คุณก้อย ฟิลลิ่งที่ได้จากการชมคงไม่ใช่แบบนี้ ป้าสร้อยของเราคงไม่ทั้งน่ารักน่าหยิกแบบนี้ สำหรับดิชั้นคุณก้อยสามารถถ่ายทอดบทเป็นป้าสร้อยได้สมบูรณ์แบบ ต้องขอบคุณทีมงานด้วยที่ช่วยเลือกคุณก้อยมารับบท และขอบคุณคุณก้อยด้วยที่เหมือนเป็นพี่เลี้ยงสอนเรื่องการแสดงให้นักแสดงรุ่นหนุ่มสาวในละครค่ะ
คลิป ปัดโธ่เว้ย (เครดิต คุณเที่ยงวัน)
คลิป ดินนื่ง ไดนิ่ง(เครดิต คุณเที่ยงวัน)



อัพเดต วันที่9/12/58 เวลา 16.00 มีแฟนละครผู้น่ารักคนที่คุณก็รู้ว่าใคร55+ ส่งภาพนี้มาให้ ขอบคุณมากๆเลยที่นำมาฝาก (จขกท.ชื่นใจมากและเชื่อว่าแฟนละครทุกท่านเห็นแล้วก็จะชื่นใจด้วย)


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดีใจที่คุณก้อยรับทราบ และจะขอติดตามผลงานคุณก้อยไปเรื่อยๆด้วยเช่นกัน
{รัตนาวดี} ชวนคุยเรื่อง “ป้าสร้อย” เวอร์ชั่น 2558 : ขอชื่นชมทั้งผู้เขียนบทโทรทัศน์และคุณก้อย ปาริฉัตร ไพรหิรัญ ผู้รับบท
อยากชวนแฟนละครและชาวติ่งคุยกันเรื่อง(คุณ) ป้าสร้อยค่ะ
(ความเห็นของดิชั้นอาจจะเหมือนและแตกต่างจากแฟนละคร แฟนนิยาย ข้อมูลก็อาจมีจุดบกพร่อง พูดคุยติชมได้นะคะ)
(ไม่ได้แท็กจีน่า กรรณนะคะ เพราะอาจจะไม่เกี่ยวโดยตรงนัก)
(จขกท.มีอัพเดตอยู่ด้านท้ายกระทู้ เป็นข้อความจากป้าสร้อยนะคะ)
นอกจากท่านดนัยวัฒนาหรือนายเล็กที่รับบทโดยคุณกรรณ สวัสดิวัตน์ และบทท่านหญิงรัตนาวดี ที่รับบทโดยน้องจีน่า ญีนา ซาลาส ที่โดดเด่นในเรื่องและได้รับการชื่นชมแล้ว ยังมีอีกบทหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันในเรื่อง (เพราะเดินเรื่องกัน 3 คน) คือบทของป้าสร้อย พี่เลี้ยงที่ตามเสด็จท่านหญิง จนเปรียบเสมือนเป็นเงาตามตัวท่านหญิงตลอดเรื่อง ท่านหญิงอยู่ไหนก็มีป้าสร้อยอยู่ที่นั่น ถ้าจะตีเป็นตัวเลขก็ราว 80-90 เปอร์เซ็นต์ของละครต้องมีป้าสร้อยในฉากด้วยไม่ว่าจะออกไปเที่ยว ทานขนมอาหาร งีบหลับในรถ หรือนอนหลับข้างท่านหญิง
จากที่ดิชั้นได้มีโอกาสชมละครเวอร์ชั่นก่อนคือ เวอร์ชั่น 2531คุณขวัญฤดี-เกรียงไกร ผ่านทางยูทูปผ่านๆแบบไม่ละเอียดนัก แต่เชื่อว่าผู้ที่ได้ชมจะเห็นถึงความแตกต่างของตัวละครจากทั้งสองเวอร์ชั่น เช่นกัน (จขกท.ขออกตัวว่าไม่ได้มุ่งโจมตีละครในอดีต เพียงแต่อยากนำมาเปรียบเทียบให้เห็นความเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ถ้าทำให้แฟนๆรู้สึกไม่ดีต้องขออภัย)
สิ่งที่ดิชั้นคิดว่าทั้งสองเวอร์ชั่นเหมือนกันคือ บทบาทหน้าที่หลักในการรักษาพระเกียรติท่านหญิง คอยเตือน คอยปรามท่านหญิงไม่ให้ลืมองค์
แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ บุคลิกของตัวละคร
ป้าสร้อยเวอร์ชั่นเก่า ดูเหมือนเป็นคุณป้า “ไทยโบราณ” (เป็นคำที่พระเอกเวอร์ชั่นก่อนคุณเกรียงไกรอธิบายตอนเขียนจดหมายถึงท่านพจน์) เหมือนสร้างให้เป็นหญิงสูงวัยที่ดูต้องให้การดูแลหรือเป็นห่วง ทำตัวเปิ่นๆ ปนขำขันแทรก(เช่น ฟังฝรั่งทักทายว่าบองชู เป็นหาว่าฝรั่งว่าแกว่า ชู้ๆ บอกนายเล็กว่าจะไปแจ้งตำรวจ) เวลาบ่นจะบ่นแบบที่ภาษาวัยรุ่นสมัยนี้เรียกว่า มาม่าหรือลำไย เช่น ตอนต้องเดินเพราะนายวิศาลแกล้งดูดน้ำมันไป (เวอร์ชั่นก่อนและในบทประพันธ์ไม่ได้ขี่หลังนายเล็ก) ป้าสร้อยก็เดินโอดโอยปวดขาไปตลอดทาง พอไปถึงก็บ่นกระปอดกระแปดยาวว่าทำไมต้องมานอนในโรงนามีวัวมีควาย นอนฟางแข็งๆ(ไม่อยากนอน) และดูค่อนข้างเข้ากี้เจ้าการ เช่น เวลาให้นายเล็กไปเดินดูดอกไม้เป็นเพื่อนท่านหญิง ก็บอกกับนายเล็กว่าจะนั่งจับตาดูนายเล็กจากตรงเก้าอี้นี้ (คือดูเวอร์ชั่นเดิม ดิชั้นแทบอยากจะเหมาไวน์ทั้งถังโอ๊คให้ป้าเมาจนหลับไปนานๆ)
(ดิชั้นขออกตัวอีกว่าตัวเองอ่านบทประพันธ์แค่บางตอนไม่ได้อ่านทั้งหมด แต่เท่าที่อ่าน คิดว่าป้าสร้อยในบทประพันธ์ดูจะเหมือนป้าสร้อยในเวอร์ชั่นก่อนอยู่มากกว่าเวอร์ชั่นปัจจุบัน)
ในขณะที่ป้าสร้อยเวอร์ชั่น 2558 เป็นคุณป้าที่ออกจะแจ่มใส กระฉับกระเฉง เฟรนลี่ สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ บทเสริมให้ดูเป็นคนรู้จักหาความรู้ (ถือและอ่านหนังสือไกลบ้านเนืองๆ)และช่างสงสัยเมื่อนายเล็กเล่าอะไรให้ฟังโดยการถามนายเล็กต่อบ้างเป็นระยะๆ มีอารมณ์ร่วม-เอนจอยกับท่านหญิงเวลาไปไหนมาไหน กินอะไรด้วยเหมือนเป็นส่วนประกอบสำคัญของเรื่องเป็นเพื่อนร่วมเดินทางมากกว่าดูเป็นภาระ มีต้องเอาใจบ้าง แต่ไม่ต้องโอ๋มาก ยังเป็นคนขี้บ่นเหมือนเดิม แต่บ่นเพียงแปปเดียวแบบขอให้ได้บ่นซักนิดแล้วก็เลิก บ่นแบบหยิกแกมหยอก55+ (สำหรับดิชั้น ป้าสร้อยเวอชั่นนี้ดูเป็นคนน่ารัก) และในเวอร์ชั่นนี้ยังมีทั้งการรักษาและการเพิ่มเติมบทบาทสำคัญยิ่งในการเตือนสติท่านหญิง อย่างในฉากโต้กับท่านหญิงหลังได้รับจดหมายจากเสด็จอาว่า ทรงไม่รักใครไม่ใช่หรือเพคะ กับตอนขอร้องให้เสด็จกับท่านดนัยและแต่งงานกับท่านดนัยที่ระเบียง แสดงให้เห็นว่าป้าสร้อยเห็นทุกๆอย่างและมีสติอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังเป็น”กาวใจ”หรือตัวชงชั้นเยี่ยมให้ท่านหญิงกับท่านดนัยเมื่อความจริงเผย (เชื่อว่าใครชมละครต้องรักป้าสร้อย)
ผู้เขียนบทโทรทัศน์เลือกที่จะละบางสิ่ง เช่น บทบ่นที่ชวนน่ารำคาญออกไป แต่ยังคงรักษาการแสดงออกผ่านอากัปริยาอื่นๆ เช่น การมอง การทำหน้าสงสัย ปรับบุคลิกบางอย่างของตัวละครที่ทำให้เนื้อเรื่องดูสมูทและชวนให้บันเทิงมากขึ้น เลือกเพิ่มมิติให้ตัวละครอย่างสร้างสรรค์แต่ยังคงรักษาแก่นของตัวละครและแก่นหลักของเรื่องโดยรวมไว้ กล่าวคือ เพิ่มเติมอย่างมีที่มาที่ไป และยังช่วยชูรสให้ละครเข้มข้นยิ่งขึ้น อย่างฉากโต้กับท่านหญิงที่ช่วยขับเน้นปมเรื่องฐานะที่แตกต่างกันของท่านหญิง-นายเล็ก (คนดูหลายคนปาดน้ำตาเป็นแถบๆ) หรือบทสนทนาที่น่ารักตอนขี่หลังนายเล็กแล้วป้าสร้อยถามเรื่องแม่ ที่ช่วยให้เห็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นของตัวละคร (แต่ป้าก็ยังอยู่ในฐานะป้าเหมือนเดิม) ถ้าจะเปรียบเทียบอาจกล่าวได้ว่า ป้าสร้อยในเวอร์ชั่นนี้ เปรียบเสมือนเลข 0 ที่คอยอยู่ตำแหน่งหลังเลขอื่นๆ(ตัวละครในเรื่อง) คอยเพิ่มค่า เพิ่มสีสันเรื่องราว ผู้ชมอาจอยากให้ป้าป่วยนานๆหรือหลับต่ออีกหน่อยแต่ขาดป้าไปนี่มีกร่อยนะคะ 55
แต่นอกจากผู้เขียนบทแล้ว ดิชั้นว่าเราควรไม่ลืมชมผู้รับบทป้าสร้อย คือ คุณก้อย ปาริฉัตร ไพรหิรัญ นักแสดงมากฝีมือ(เป็นคู่แฝดกับคุณกล้วย ปรารถนา บรรจงสร้าง ที่เล่นเป็นวิมล ในเวอร์ชั่น 2531) แม้ตัวจริงคุณก้อยจะยังสวยมากและอายุน้อยกว่าป้าสร้อย(คุณก้อยอายุหลัก 5 ต้นๆ ดิชั้นไม่ทราบว่าป้าสร้อยอายุเท่าไหร่ แต่น่าจะราวๆหลัก 6) แววตา น้ำเสียง ท่าทางที่แสดงออกทำให้เชื่อได้จริงๆว่าเป็นป้าสร้อยที่รักท่านหญิงเหมือนลูกตัวเองแต่ก็เทิดทูนท่านหญิงยิ่ง เมื่อบวกกับที่ได้เห็นภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ จะเห็นได้ว่าคุณก้อยมีความเป็นมืออาชีพมาก น้องจีน่ากับคุณกรรณจะถ่ายกี่เทค คุณก้อยก็จูนสีหน้าท่าทางตามบทที่เทคนั้นกลับมาใหม่ได้เสมอ คอยส่งอารมณ์ในฉากสำคัญๆ (และยังต้องเดินทาง เดินเท้าเหมือนคนอื่นเวลาไปถ่ายทำ สตรองจริงๆ ดิชั้นขอซูฮก) ถ้าคนที่รับบทป้าสร้อยไม่ใช่คุณก้อย ฟิลลิ่งที่ได้จากการชมคงไม่ใช่แบบนี้ ป้าสร้อยของเราคงไม่ทั้งน่ารักน่าหยิกแบบนี้ สำหรับดิชั้นคุณก้อยสามารถถ่ายทอดบทเป็นป้าสร้อยได้สมบูรณ์แบบ ต้องขอบคุณทีมงานด้วยที่ช่วยเลือกคุณก้อยมารับบท และขอบคุณคุณก้อยด้วยที่เหมือนเป็นพี่เลี้ยงสอนเรื่องการแสดงให้นักแสดงรุ่นหนุ่มสาวในละครค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้