สวัสดีค่ะ เรารู้ว่าการที่เราจะมาตั้งกระทู้วันนี้มันก็คงไม่ทำให้เกิดประโยช์อะไร ขอแค่ระบายก็พอ
เรื่องมันก็เริ่มจาก แฟนเราจะมาเรียนภาษาไทยที่ไทยเลยจะหาโรงเรียนที่มันสามารถขอวีซ่าให้ได้ด้วย แล้วอยู่ในจังหวัดของเรา จนเราไปเจอสถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่ง เขาบอกว่าเขามีอีกสาขาหนึ่งที่สอนหลักสูตรภาษาไทย แล้วสามารถออกวีซ่าให้เราได้ด้วย เราก็เลยขอเบอร์ติดต่อมา จนสุดท้ายก็ได้ชื่อโรงเรียนมาเรียบร้อย เราก็เลยติดต่อสอบถามไปสักพัก เขาก็บอกว่าสมัครที่นี่ ไม่มีปัญหาแน่นอน ทำมาให้หลายเคสแล้ว สามารถเรียนได้แน่นอน ไม่มีปัญหากับที่อยู่ (โรงเรียนอยู่คนที่ละที่กับจังหวัดเรา) เราก็เลยตัดสินสมัครที่นี่ จ่ายเงินทันที เพราะจะได้เริ่มเดินเรื่องทำวีซ่า โดยไม่ได้คิดอะไรมากมาย (คนไลค์เพจของโรงเรียนนี้พอสมควร) เพราะเราคิดว่าถ้าจะมีปัญหากับที่อยู่ เขาก็คงจะไม่ให้ผ่านตั้งแต่ส่งเอกสารไปที่สถานฑูตรอบแรกแล้ว จนส่งเอกสารอะไรเรียบร้อยแล้วก็ได้มาอยู่ที่ไทย เรียนภาษาไทยไปประมาณสามเดือน (ผ่านทางสไกป์ เราไม่รู้ว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้) ถึงเวลาต่อวีซ่าอีกครั้ง เราเดินทางไปที่นั่น เพื่อจะต่อวีซ่า ไปเอาเอกสารต่อวีซ่าที่โรงเรียน พอเราไปถึงตม. เขาเลยบอกว่าไม่สามารถต่อวีซ่าให้ได้ ก็มีการสอบปากคำอะไรกันไปนิดหน่อย แต่เขาไม่ได้เอาเรื่องอะไร เพราะมันมาจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเรา เขาก็เลยให้คำแนะนำเราเยอะพอสมควร (เราไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนจริงๆ) แล้วหลังจากนั้นเขาเลยให้เราโทรกลับไปที่โรงเรียน ขอเงินคืน 50% โดยที่มีเจ้าหน้าที่ของตม.ยืนอยู่เป็นเพื่อนเราตอนที่เราโทรไป ตอนแรกโรงเรียนเฉไฉพูดกลับกลอกไปมาว่าไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวเราจะเข้าไปคุยกับทางตม.ให้ รับรองว่าต่อได้แน่นอนค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ (เหลืออีก 4 วัน วีซ่าหมด) เราเลยบอกว่าไม่ ต้องการแค่เงินคืน 50% เพราะเราคุยกับตม.เรียบร้อย แล้วก็เข้าใจแล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เขาก็บอกเราว่าเดี๋ยวติดต่อกลับมา แล้วก็ตัดสายเราไป
สักพักเขาโทรกลับมา เขาก็พยายามเกลี้ยกล่อมเราว่าจะมาคุยกับเจ้าหน้าที่ให้ แต่เราก็ยังยืนยันคำเดิม คือไม่ เราต้องการเงินคืน ขอแค่ 50% ก็ได้ (ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยังอยู่กับเรา) จนสุดท้ายเขาก็ยอม บอกว่าตกลง จะคืนเงินให้ 50% แต่ขอทยอยคืนให้เดือนหน้า ให้เข้าใจเขาด้วย เพราะเขาก็ต้องหมุนเงินเหมือนกัน ตอนนั้นประมาณช่วงกลางเดือน (คงผิดที่เราเองที่ไม่ได้อัดเสียงตอนนั้นไว้ด้วย) เราก็พยายามติดต่อไปเรื่อยๆ ทุกๆครั้งที่แฟนเราติดต่อไป ปรากฏว่าแทบจะไม่มีคนพูดภาษาอังกฤษได้เลย จนเราต้องเป็นคนคุยตลอด บางครั้งก็แปลกใจนะ ว่าเป็นโรงเรียนสอนภาษาได้ไง จนมาถึงเดือนที่เขาบอกจะคืนให้ เราติดต่อไป ขอคุยกับเจ้าของโรงเรียนที่รับเรื่องไว้ เขาก็บอกว่าเจ้าของไม่อยู่ ขอเบอร์ติดต่อกลับ เดี๋ยวโทรกลับมา จนเรารอ วันแล้ว วันเล่า โทรไปมากกว่า 10 ครั้ง เราก็ได้รับคำตอบเดิมทุกครั้ง ไม่อยู่ เดี๋ยวติดต่อกลับ จนมาเดือนนี้ เราก็พยายามโทรไป แล้วก็ยังคงได้คำตอบเดิม สุดท้ายจนวันนี้เราโทรไปครั้งแรก เราขอเบอร์เจ้าของโรงเรียน แต่ก็เฉไฉ เขาไม่อยู่ ขอเบอร์ติดต่อกลับด้วยค่ะ ... ก็ให้ไป สักพักแฟนเราทนไม่ไหวเลยโทรกลับไปอีก แล้วเอามาให้เราคุย แต่ครั้งนี้เขาบอกว่าต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีเราก็กำลังพยายามคืนให้อยู่ทีละครึ่งๆ เพราะมันมีหลายเคส หลายคิวและก็หลายแสนน่ะค่ะ แต่ละคิวละคอสก็ราคาต่างกัน จะพยายามคืนให้นะคะ เราก็ถามเขาว่านานแค่ไหน เขาบอก 3-4 เดือน แล้วก็บอกว่าเข้าใจเราหน่อยนะคะๆๆ แล้วก็ตัดสายไป ทีนี้แฟนของเราเลยไปโพสบนเฟชบุคของโรงเรียนนี้ประมาณว่า อยากจะขอเบอร์ติดต่อของเจ้าของโรงเรียนหน่อย อะไรประมาณนี้ ปรากฏว่าโพสโดนลบเร็วมากค่ะ แล้วเราสองคนก็โดนบล็อคไปโดยปริยาย ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ส่งข้อความไปถามอะไรจะไม่ได้รับการตอบกลับเลย หรือผ่านมาเป็นเดือนถึงจะตอบ เป็นคุณๆจะโมโหไหมคะ เงินที่เสียไปก็หลักหมื่น คงจะไม่มีใครรับผิดชอบได้ เราถือซะว่า เสียค่าโง่อีกครั้งก็แล้วกัน เพราะยังไงเราคงจะทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ
เราไม่รู้จะแท็กห้องไหน ถ้าแท็กผิดห้องต้องขอโทษด้วย
ขอระบายค่ะ ฝากถึงโรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่งที่บอกว่าจะคืนเงินให้ แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยการบล็อคเรา
เรื่องมันก็เริ่มจาก แฟนเราจะมาเรียนภาษาไทยที่ไทยเลยจะหาโรงเรียนที่มันสามารถขอวีซ่าให้ได้ด้วย แล้วอยู่ในจังหวัดของเรา จนเราไปเจอสถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่ง เขาบอกว่าเขามีอีกสาขาหนึ่งที่สอนหลักสูตรภาษาไทย แล้วสามารถออกวีซ่าให้เราได้ด้วย เราก็เลยขอเบอร์ติดต่อมา จนสุดท้ายก็ได้ชื่อโรงเรียนมาเรียบร้อย เราก็เลยติดต่อสอบถามไปสักพัก เขาก็บอกว่าสมัครที่นี่ ไม่มีปัญหาแน่นอน ทำมาให้หลายเคสแล้ว สามารถเรียนได้แน่นอน ไม่มีปัญหากับที่อยู่ (โรงเรียนอยู่คนที่ละที่กับจังหวัดเรา) เราก็เลยตัดสินสมัครที่นี่ จ่ายเงินทันที เพราะจะได้เริ่มเดินเรื่องทำวีซ่า โดยไม่ได้คิดอะไรมากมาย (คนไลค์เพจของโรงเรียนนี้พอสมควร) เพราะเราคิดว่าถ้าจะมีปัญหากับที่อยู่ เขาก็คงจะไม่ให้ผ่านตั้งแต่ส่งเอกสารไปที่สถานฑูตรอบแรกแล้ว จนส่งเอกสารอะไรเรียบร้อยแล้วก็ได้มาอยู่ที่ไทย เรียนภาษาไทยไปประมาณสามเดือน (ผ่านทางสไกป์ เราไม่รู้ว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้) ถึงเวลาต่อวีซ่าอีกครั้ง เราเดินทางไปที่นั่น เพื่อจะต่อวีซ่า ไปเอาเอกสารต่อวีซ่าที่โรงเรียน พอเราไปถึงตม. เขาเลยบอกว่าไม่สามารถต่อวีซ่าให้ได้ ก็มีการสอบปากคำอะไรกันไปนิดหน่อย แต่เขาไม่ได้เอาเรื่องอะไร เพราะมันมาจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเรา เขาก็เลยให้คำแนะนำเราเยอะพอสมควร (เราไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนจริงๆ) แล้วหลังจากนั้นเขาเลยให้เราโทรกลับไปที่โรงเรียน ขอเงินคืน 50% โดยที่มีเจ้าหน้าที่ของตม.ยืนอยู่เป็นเพื่อนเราตอนที่เราโทรไป ตอนแรกโรงเรียนเฉไฉพูดกลับกลอกไปมาว่าไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวเราจะเข้าไปคุยกับทางตม.ให้ รับรองว่าต่อได้แน่นอนค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ (เหลืออีก 4 วัน วีซ่าหมด) เราเลยบอกว่าไม่ ต้องการแค่เงินคืน 50% เพราะเราคุยกับตม.เรียบร้อย แล้วก็เข้าใจแล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เขาก็บอกเราว่าเดี๋ยวติดต่อกลับมา แล้วก็ตัดสายเราไป
สักพักเขาโทรกลับมา เขาก็พยายามเกลี้ยกล่อมเราว่าจะมาคุยกับเจ้าหน้าที่ให้ แต่เราก็ยังยืนยันคำเดิม คือไม่ เราต้องการเงินคืน ขอแค่ 50% ก็ได้ (ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยังอยู่กับเรา) จนสุดท้ายเขาก็ยอม บอกว่าตกลง จะคืนเงินให้ 50% แต่ขอทยอยคืนให้เดือนหน้า ให้เข้าใจเขาด้วย เพราะเขาก็ต้องหมุนเงินเหมือนกัน ตอนนั้นประมาณช่วงกลางเดือน (คงผิดที่เราเองที่ไม่ได้อัดเสียงตอนนั้นไว้ด้วย) เราก็พยายามติดต่อไปเรื่อยๆ ทุกๆครั้งที่แฟนเราติดต่อไป ปรากฏว่าแทบจะไม่มีคนพูดภาษาอังกฤษได้เลย จนเราต้องเป็นคนคุยตลอด บางครั้งก็แปลกใจนะ ว่าเป็นโรงเรียนสอนภาษาได้ไง จนมาถึงเดือนที่เขาบอกจะคืนให้ เราติดต่อไป ขอคุยกับเจ้าของโรงเรียนที่รับเรื่องไว้ เขาก็บอกว่าเจ้าของไม่อยู่ ขอเบอร์ติดต่อกลับ เดี๋ยวโทรกลับมา จนเรารอ วันแล้ว วันเล่า โทรไปมากกว่า 10 ครั้ง เราก็ได้รับคำตอบเดิมทุกครั้ง ไม่อยู่ เดี๋ยวติดต่อกลับ จนมาเดือนนี้ เราก็พยายามโทรไป แล้วก็ยังคงได้คำตอบเดิม สุดท้ายจนวันนี้เราโทรไปครั้งแรก เราขอเบอร์เจ้าของโรงเรียน แต่ก็เฉไฉ เขาไม่อยู่ ขอเบอร์ติดต่อกลับด้วยค่ะ ... ก็ให้ไป สักพักแฟนเราทนไม่ไหวเลยโทรกลับไปอีก แล้วเอามาให้เราคุย แต่ครั้งนี้เขาบอกว่าต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีเราก็กำลังพยายามคืนให้อยู่ทีละครึ่งๆ เพราะมันมีหลายเคส หลายคิวและก็หลายแสนน่ะค่ะ แต่ละคิวละคอสก็ราคาต่างกัน จะพยายามคืนให้นะคะ เราก็ถามเขาว่านานแค่ไหน เขาบอก 3-4 เดือน แล้วก็บอกว่าเข้าใจเราหน่อยนะคะๆๆ แล้วก็ตัดสายไป ทีนี้แฟนของเราเลยไปโพสบนเฟชบุคของโรงเรียนนี้ประมาณว่า อยากจะขอเบอร์ติดต่อของเจ้าของโรงเรียนหน่อย อะไรประมาณนี้ ปรากฏว่าโพสโดนลบเร็วมากค่ะ แล้วเราสองคนก็โดนบล็อคไปโดยปริยาย ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ส่งข้อความไปถามอะไรจะไม่ได้รับการตอบกลับเลย หรือผ่านมาเป็นเดือนถึงจะตอบ เป็นคุณๆจะโมโหไหมคะ เงินที่เสียไปก็หลักหมื่น คงจะไม่มีใครรับผิดชอบได้ เราถือซะว่า เสียค่าโง่อีกครั้งก็แล้วกัน เพราะยังไงเราคงจะทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
เราไม่รู้จะแท็กห้องไหน ถ้าแท็กผิดห้องต้องขอโทษด้วย