ขอเท้าความก่อนสักย่อหน้านะครับ
แฟนผมได้งานที่จังหวัดบ้านเกิด จึงย้ายจากกรุงเทพไป พอทำงานได้ปีนึงก็มีความคิดที่จะซื้อบ้าน ประจวบเหมาะกับเพื่อนของแฟนผมก็ซื้อบ้านเช่นกัน จึงตกลงที่จะซื้อบ้านติดกัน ในหมู่บ้านโครงการ (บ้านจัดสรร ต่อจากนี้จะใช้คำว่า บ้านโครงการ) เป็นบ้านทาวเฮ้าส์ชั้นเดียว กำแพงด้านหลังติดกัน หลังจากซื้อเรียบร้อย ผมกับแฟนก็ช่วยกันคิดว่าจะต่อเติมอะไรบ้าง เพราะแฟนผมจะอยู่คนเดียว (ผมทำงานกรุงเทพ) ก็ควรจะมีลูกกรง เหล็กดัด แล้วก็หลังคาหน้าบ้านที่จอดรถ หลังคาหลังบ้าน ทำห้องครัว ซิ๊งล้างจาน+เค้าเตอร์
ลักษณะบ้านจะเป็นตามรูป (ผมวาดเองแบบคร่าวๆ) ด้วยความที่ผมอยู่ไกล แฟนผมจึงทำหน้าที่ติดต่อหาช่างมาทำการต่อเติมบ้าน ซึ่งแฟนผมก็ลองให้ช่างหลายเจ้าตีราคา และมีเจ้านึง (ต่อไปนี้จะเรียกว่าช่าง อ.) พนักงานขายบ้านเป็นคนแนะนำมา และบ้านช่าง อ. ก็อยู่ในโครงการด้วย พอเค้าตีราคา ก็ได้ราคา 55,000 บาท ในครั้งแรก ทั้งหมดนี้มี
1. ลูกกรง เหล็กดัดแบบธรรมดา ติดประตูกระจกหน้าบ้าน หน้าต่างหน้าบ้านอีก 2 บาน ไม่เอาข้างหลัง เพราะจะก่อกำแพงปิด
2. ก่อกำแพงตรงหลังบ้านจะทำห้องครัว ติดพัดลมดูดอากาศ เค้าเตอร์ ซิ๊งล้างจาน
3. ปูกระเบื้องหน้าบ้าน 17 ตรม. หลังบ้านเทปูน ปูกระเบื้อง 15 ตรม.
อันนี้คือให้ช่างทุกคนตีราคาใน option เดียวกัน พอแฟนผมสรุปได้ว่าจะเอาช่างคนนี้ ผมกับแฟนก็คุยกันว่าจะเปลี่ยนแบบ เพราะเราจะเอาหลังบ้านที่โล่งพอที่จะตากผ้าได้ ผมเลยออกแบบหลังบ้านใหม่
จากวางกำแพง 3 ด้าน เป็นก่อกำแพงสูงจากพื้น 2 เมตรทั้ง 3 ด้าน ติดระแนงเหล็กด้านนึง (ตามรูป) ส่วนกำแพงตรงกลางจะก่อปูนยาว 3 เมตร ที่เหลือเป็นระแนงเหล็ก
พอแฟนผมไปบอกช่าง อ. ก็ตีราคามา 67,000 บาท ซึ่งแฟนผมมองว่าทำไมระแนงเหล็กมันแพงจัง แค่เปลี่ยนระแนงอย่างเดียวทำไมเพิ่มมาเป็นหมื่น พอแฟนผมไปคุย แฟนผมขอ 60,000 บาท และจะซื้อซิ๊งให้เอง ช่าง อ. ก็โอเค ส่วนระยะเวลา ช่าง อ. ขอ 15 วัน แฟนผมให้ 17 วัน ให้เริ่มได้เลยหลังวันทำสัญญา ซึ่งผมก็จะเข้าไปดูด้วย
วันทำสัญญา ผมกับแฟน ก็รอช่าง อ. ตั้งแต่เย็น แต่เค้ามาตอนเกือบ 2 ทุ่ม ภาพแรกที่เห็นคือ เด็กวันรุ่นอายุ 23-24 ปี หน้าใส ผิวขาว ใส่ชุดสะอาดสะอ้าน ไร้ความเป็นช่างในสายตาผม ส่วนลูกน้องที่ตามมาก็ใส่ชุดเสื้อยืด กางเกงเจเจ ตัวเล็กๆ ดูแล้วเป็นคนงานแน่ๆ แต่ทำไมไม่ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงยีน เหมือนช่างทั่วไปล่ะ? รึไม่กลัวปูน? ไม่กลัวแดดกลัวฝน? แต่ตอนนั้นผมไม่คิดมาก ก็ฟังแฟนผมตกลงงานกัน พาไปชี้ตำแหน่ง เพื่อยืนยันงานอีกรอบ
แฟนผม : อ. ไม่จดหรอ
ช่าง อ. : ไม่เป็นไรครับพี่ ผมรู้กัน
แต่แฟนผมก็จดในเอกสารสัญญาของตัวเองนะครับ แต่ของเค้าไม่ได้จด แฟนผมจึงจดไปให้บางส่วน แถมเซ็นกำกับไปให้ด้วยว่าแก้เอง
สองสามวันแรกเค้ามาทำหลังคาหน้าหลัง แฟนผมก็ไปดูทุกวัน กลังจากนั้นแฟนผมก็ฝาก เพื่อนกับสามีเค้าช่วยดูให้ เพราะแฟนผมไม่ว่าง (ผมกลับมาทำงานที่กรุงเทพ) พอดีว่าพี่ที่รู้จักกัน เค้าซื้อบ้านในโครงการด้วย จึงเดินมาดูช่างที่บ้านแฟนผม เพราะกำลังหาช่างเหมือนกัน เค้าบอกว่า "ตอนที่พี่มาบ้านเรานะ พี่ไม่เห็นใครอยู่บ้านเลย ประตูก็เปิดทิ้งไว้ บ้านก็สกปรก ขยะทิ้งไว้เต็มบ้านเลย ทั้งพื้นทั้งผนังเปื้อนหมด พื้นในบ้านก็ไม่ได้ปูผ้าใบด้วย พี่ไม่เอาแล้วนะ ช่างคนนี้"
รูปนี้หันหน้าออกกน้าบ้าน ที่เค้าถ่ายมาให้ดู
ตอนนั้นแฟนผมทำงานอยู่ จึงโทรไปหาช่าง อ.
แฟนผม : อ. ทำไมข่างของ อ. ทำบ้านพี่รกขนาดนี้ล่ะ
ช่าง อ. : ต่อเติมบ้านมันก็สกปรกแบบนี้แหละพี่
แฟนผม : แล้วทำไมไม่ปูผ้ารองให้พี่ด้วยล่ะ ไหนวันนั้นบอกว่าจะปูให้ (วันที่ทำสัญญา ผมกับช่าง อ. และลูกน้อง ช่วยกันยกโซฟาออก เพราะช่าง อ. บอกว่าจะปูผ้าก่อนทำงาน)
ช่าง อ. : พี่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวงานจบผมมีทีมแม่บ้านมาทำความสะอาดให้
แฟนผม : แน่นะ
ช่าง อ. : แน่พี่ พี่ไม่ต้องห่วง บ้านผมอยู่แค่นี้เอง
ตอนผมได้ยินแฟนผมเล่าให้ฟัง ผมก็รู้สึกแย่แล้วครับ คิดดูว่าแฟนผมจะรู้สึกแย่แค่ไหน ตกเย็นแฟนผมก็ไปเอง
นอกจากจะเจอสภาพบ้านชวนน่าตกใจแล้วก็เจอระแนงที่ผิดสเปคอีก เพราะผมบอกเค้าว่าไอระแนงนี้จะต้องอยู่หลังก่อกำแพงแล้ว 2 เมตร ค่อยตีระแนง แฟนผมจึงแจ้งลูกน้องที่ทำว่างานมันผิดสเปคนะ ลูกน้องเค้าก็สวนมาว่าทำตามแบบครับ อีกวันช่าง อ. เข้ามาในบ้านก็ยังตกใจกับสภาพบ้าน สั่งลูกน้องเก็บกวาดเลยทีเดียว แฟนผมจึงโอเค เพราะเห็นว่ายังคุยรู้เรื่องบ้าง
พอวันหยุด weekend ผมก็เดินทางไปดูเลย เห็นลูกน้องเค้ายาแนวกระเบื้องหน้าบ้าน แต่ช่าง อ. ยังไม่ว่าง ผมเลยพากันไปดูแอร์ที่จะมาติดบ้าน ผมกลับมาเย็นๆ มาเจอสภาพกระเบื้องหน้าบ้าน เบี้ยวแถมไม่ได้ slope ด้วย
บวกกับกล่องข้าวที่ลูกน้องเค้ากินตั้งแต่กี่โมงก็ไม่รู้ ทิ้งเอาไว้ ผมอึ้งจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว พอเดินไปหลังบ้านก็เจอเม็ดแตงกับขี้บุหรี่อีก ผมก็ไม่ไหวละ ให้แฟนโทรเรียกช่าง อ. มาด่วน ผมรอยันสองทุ่ม มันก็ยังไม่มา ผมออกไปหาอะไรกิน แวะเอาทีวีไปซ่อม กลับมาสามทุ่มกว่า มันก็ยังไม่มา จนสี่ทุ่มกว่ามันมากับลูกน้องอีกสี่ห้าคน แฟนผมก็เริ่มพูดเลย
แฟนผม : อ. ทำไมกระเบื้องเป็นแบบนี้ล่ะ
ช่าง อ. : โห พี่ นึกว่าเรื่องอะไร อันนี้ผมรู้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมแก้ให้เลยพี่ เรื่องแค่นี้เอง
แฟนผม : แล้วจะแก้ยังไง จะรื้อ รึจะปูทับ
ช่าง อ. : คงรื้อแล้วแหละ ปูผมก็เสียเงินเพิ่ม แค่นี้ผมก็ขาดทุนแล้วพี่
แฟนผม : ก็โอเค ก็แล้วแต่ อ. ละกัน (แต่ผมกับแฟนคุยกันก่อนแล้วว่าถ้าจะปูทับ ก็เสียค่ากระเบื้องพันกว่าบาทเอง)
จังหวะนั้นเองลูกน้องเค้าก็แทรกมาว่า
ลูกน้อง : มันปูตรงๆ ไม่ได้หรอกพี่ ผนังพี่ กำแพงพี่มันเบี้ยว (ซึ่งตรงนี้เรารู้กันอยู่แล้ว)
ผม : จริงๆ แล้กำแพงเบี้ยวไม่เกี่ยวครับ ช่างที่ expert เค้าก็จะรู้ว่าถ้าขอบเบี้ยวก็จะวางกระเบื้องตรงกลางให้ตรงก่อน ส่วนขอบมันจะเลี้ยวลดคดเคี้ยวยังไงก็แค่ตัดให้วางได้
ทีนี้เงียบกันหมดเลยทั้งลูกน้องทั้งหัวหน้า
ผม : ผมเคยดูช่างสร้างบ้านมาหลายหลังแล้วนะ ไม่เคยเจองานแบบนี้เลย แล้วกล่องข้าวนี่อะไร ไม่ทิ้งรึไง อ. เดินตามพี่มาดูหลังบ้าน นี่อะไร ขวดเอ็มร้อย ขยะกินแล้วไม่ทิ้ง
ช่าง อ. : พี่ไม่ต้องห่วง ผมมีแม่บ้านมาเก็บกวาดให้หลังจบงาน
ผม : กล่องข้าวกับขวดเอ็มร้อยเนี่ยนะ จะปล่อยให้หมาเข้ามากินแล้วขี้เยี่ยวทิ้งไว้รึไง
ช่าง อ. : ครับ รึพี่จะให้ผมเก็บเลย เห้ยพวกเก็บให้พี่เค้าหน่อย (ออกแนวประชด แต่ผมเก็บไปแล้วบางส่วนครับ)
ผม : แล้วเครื่องมือ อุปกรณ์ สว่านตอนพี่มายังเสียบปลั๊กอยู่เลย บ้านก็ไม่ล็อคให้พี่ ถ้าของแกหายอย่ามาโทษพี่นะ พี่บอกไว้ก่อน
ต่างคนต่างเงียบ ผมก็เงียบ จากนั้นผมก็รอมันเก็บกวาดทำความสะอาด
ช่าง อ. : เออพี่ พรุ่งนี้พี่ต้องโอนเงินงวดที่สองให้ผมนะ ผมไม่มีเงินไปลงของแล้ว ตอนนี้ก็เข้าเนื้อผมแล้วหลายพันเนี่ย (ตามสัญญาจะระบุวันครับ ไม่ได้ระบุว่างานไหนเสร็จแล้วจะให้งวดที่สอง แต่ระบุว่า ผ่านมา 1 อาทิตย์ต้องให้งวดที่สอง ซึ่งพวกผมพลาดกันเอง)
ผม : แล้ว อ. จะแก้กระเบื้องให้พี่เมื่อไหร่
ช่าง อ. : พี่จะมาเร่งผมแบบนี้ไม่ได้หรอก ผมมีงานหลายที่
ผม : งั้นเย็นๆ ได้มั้ยล่ะ
ช่าง อ. : ไม่ได้พี่ ต้องเช้าครับ
แฟนผม : งั้น อ. มาทำกี่โมงพี่โอนให้ตอนนั้น
ช่าง อ. : พี่อย่ามาอย่างงี้กับผมนะ ถ้าเล่นแบบนี้ผมไม่ชอบนะบอกไว้เลย
ผม : ไว้พรุ่งนี้มาคุยกันดีกว่า ตอนนี้ดึแล้ว (ห้าทุ่มกว่า)
วันต่อมาผมรอตั้งแต่เช้า ไม่มีใครโผล่มาสักคน จนสิบโมงกว่า ผมกับแฟนออกไปกินข้าว เจอมันคุยกับลูกค้าที่หน้าโครงการ ก็แวะจอด บอกว่าจะไปกินข้าวก่อน เนี่ยรอแต่เช้าละ มันก็ครับๆ
กลับมาที่บ้าน มันก็ยังไม่มา จนเที่ยงกว่าๆ มันมา ยืนดู แล้วก็เดินไปหาช่างของโครงการ ที่กำลังทาสีให้บ้านฝั่งตรงข้าม ช่วงเวลานั่นมันก็พยายามบอกให้แฟนผมโอนเงินให้มัน แต่ด้วยความที่เรายังไม่เงินมันเริ่มแก้ไขอะไรสักอย่างเลย สุดท้ายมันเริ่มมีน้ำโห พูดว่าพี่ไม่ต้องกลัวบ้านผมอยู่แค่นี้เอง บลาๆๆ สุดท้ายแฟนผมจึงให้ไป พอบ่ายๆ แฟนผมต้องไปทำงาน เหลือผมคนเดียว ผมก็รอดูว่ามันจะแก้ยังไง ในขณะที่ช่าง อ. ก็ถามลูกน้องว่า ไอ...ไปไหนวะไม่มาทำงาน ไอ....ล่ะโทรหาไม่ติดเลย ลูกน้องคนนั้นก็ตอบว่าไม่รู้ๆๆๆ แล้วรอสักพักก็มีช่างมีอายุคนนึงเดินมาคุยกับมัน เป็นช่างกระเบื้องที่มันไปหามาจากช่างของโครงการ เค้ามาถึงก็สั่งให้ลูกน้องมันรื้ออันเก่าออก ส่วนช่างทาสีที่รู้จักกับช่าง อ. เค้าก็มาพูดกับผมว่า น้องมันพลาด งานเร่งด้วย แถมปูกระเบื้องอตนกลางคนมันก็เลยเบี้ยว บลาๆๆๆ แต่เนี่ยพี่เอาช่างฝีมือดีมาให้ละ ปูมาเป็น 10 ปี มือหนึ่งๆ
ผมอยากเอารูปนี้ปาใส่หน้าช่างทาสีที่กำลังพูดช่วยมันอยู่ ปูบ้าอะไร เอ็นก็ไม่ขึง ไม่มีวัดระดับน้ำ รูปนี้สามีของเพื่อนแฟนผมถ่ายมาไว้ให้ รึใครสักคน ผมไม่แน่ใจ แต่อยากรู้ว่าถ้ามันเห็นมันยังกล้าพูดว่าพลาดอีกมั้ย? แถมมันบอกว่างานเร่ง มันขอ 15 วัน ผมให้ 17 วัน แล้วเมื่อเช้ามันก็ไม่มา นี่เร่งแล้วหรอ? งานเร่งก็ต้องมาแต่เช้าแล้วสิ
ผมรอจนเค้ารื้อๆ เสร็จ พ่อช่าง อ. ที่เป็นช่างเหมือนกันก็มาดู เค้าแต่งตัว เสื้อยืดทับด้วยเสื้อเชิ้ตลายสกอต กางเกงยืนเปื้อนปูน มาถึงก็หยิบกระเบื้องที่โดนสกัดมาขัดเอายาแนวออก ลูกน้องก็ยืนดู จนผมทนไม่ไหวต้องเดินไปช่วยแก ลูกน้องมันก็ยังยืนคุยกันไม่สนใจ ช่าง อ. ก็เดินไปตามลูกน้องคนอื่น เหมือนจะให้มาเรียนปูกระเบื้อง ก็ไม่มีใครมา สุดท้ายช่าง อ. เดินมาเจอพ่อ มันพูดว่า "พ่อไปดูตรงนู้นเลย!! ตรงนี้ไม่มีอะไรแล้ว" ผมนี่แทบผงะเลย นี่มันคุยกับพ่อมันแบบนี้หรอ ผมเลยมีโอกาสสังเกตชุดมัน เป็นเสื้อยืดกางเกงวอร์มบางๆ ติดตราแลมโบกีนี่ ดูสะอาด เหมือนจะไปฟิตเนส ผมไม่รู้จะเอือมท่าไหนดี นี่ชุดงานช่างบ้านไหนวะ
สุดท้ายตอนช่างคนใหม่มาปู ผมก็คุยงานกับเค้าทีเดียวรู้เรื่อง เค้าก็วัดระดับน้พ ทำ slope ขึงเอ็นทีละแถว ทำตรงกลางก่อนตามที่ผมบอก
เดี๋ยวมาต่อตอนเย็นครับ
เมื่อเจอเด็กสร้างบ้าน เตือนใจให้คนที่อยากต่อเติมบ้าน
แฟนผมได้งานที่จังหวัดบ้านเกิด จึงย้ายจากกรุงเทพไป พอทำงานได้ปีนึงก็มีความคิดที่จะซื้อบ้าน ประจวบเหมาะกับเพื่อนของแฟนผมก็ซื้อบ้านเช่นกัน จึงตกลงที่จะซื้อบ้านติดกัน ในหมู่บ้านโครงการ (บ้านจัดสรร ต่อจากนี้จะใช้คำว่า บ้านโครงการ) เป็นบ้านทาวเฮ้าส์ชั้นเดียว กำแพงด้านหลังติดกัน หลังจากซื้อเรียบร้อย ผมกับแฟนก็ช่วยกันคิดว่าจะต่อเติมอะไรบ้าง เพราะแฟนผมจะอยู่คนเดียว (ผมทำงานกรุงเทพ) ก็ควรจะมีลูกกรง เหล็กดัด แล้วก็หลังคาหน้าบ้านที่จอดรถ หลังคาหลังบ้าน ทำห้องครัว ซิ๊งล้างจาน+เค้าเตอร์
ลักษณะบ้านจะเป็นตามรูป (ผมวาดเองแบบคร่าวๆ) ด้วยความที่ผมอยู่ไกล แฟนผมจึงทำหน้าที่ติดต่อหาช่างมาทำการต่อเติมบ้าน ซึ่งแฟนผมก็ลองให้ช่างหลายเจ้าตีราคา และมีเจ้านึง (ต่อไปนี้จะเรียกว่าช่าง อ.) พนักงานขายบ้านเป็นคนแนะนำมา และบ้านช่าง อ. ก็อยู่ในโครงการด้วย พอเค้าตีราคา ก็ได้ราคา 55,000 บาท ในครั้งแรก ทั้งหมดนี้มี
1. ลูกกรง เหล็กดัดแบบธรรมดา ติดประตูกระจกหน้าบ้าน หน้าต่างหน้าบ้านอีก 2 บาน ไม่เอาข้างหลัง เพราะจะก่อกำแพงปิด
2. ก่อกำแพงตรงหลังบ้านจะทำห้องครัว ติดพัดลมดูดอากาศ เค้าเตอร์ ซิ๊งล้างจาน
3. ปูกระเบื้องหน้าบ้าน 17 ตรม. หลังบ้านเทปูน ปูกระเบื้อง 15 ตรม.
อันนี้คือให้ช่างทุกคนตีราคาใน option เดียวกัน พอแฟนผมสรุปได้ว่าจะเอาช่างคนนี้ ผมกับแฟนก็คุยกันว่าจะเปลี่ยนแบบ เพราะเราจะเอาหลังบ้านที่โล่งพอที่จะตากผ้าได้ ผมเลยออกแบบหลังบ้านใหม่
จากวางกำแพง 3 ด้าน เป็นก่อกำแพงสูงจากพื้น 2 เมตรทั้ง 3 ด้าน ติดระแนงเหล็กด้านนึง (ตามรูป) ส่วนกำแพงตรงกลางจะก่อปูนยาว 3 เมตร ที่เหลือเป็นระแนงเหล็ก
พอแฟนผมไปบอกช่าง อ. ก็ตีราคามา 67,000 บาท ซึ่งแฟนผมมองว่าทำไมระแนงเหล็กมันแพงจัง แค่เปลี่ยนระแนงอย่างเดียวทำไมเพิ่มมาเป็นหมื่น พอแฟนผมไปคุย แฟนผมขอ 60,000 บาท และจะซื้อซิ๊งให้เอง ช่าง อ. ก็โอเค ส่วนระยะเวลา ช่าง อ. ขอ 15 วัน แฟนผมให้ 17 วัน ให้เริ่มได้เลยหลังวันทำสัญญา ซึ่งผมก็จะเข้าไปดูด้วย
วันทำสัญญา ผมกับแฟน ก็รอช่าง อ. ตั้งแต่เย็น แต่เค้ามาตอนเกือบ 2 ทุ่ม ภาพแรกที่เห็นคือ เด็กวันรุ่นอายุ 23-24 ปี หน้าใส ผิวขาว ใส่ชุดสะอาดสะอ้าน ไร้ความเป็นช่างในสายตาผม ส่วนลูกน้องที่ตามมาก็ใส่ชุดเสื้อยืด กางเกงเจเจ ตัวเล็กๆ ดูแล้วเป็นคนงานแน่ๆ แต่ทำไมไม่ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงยีน เหมือนช่างทั่วไปล่ะ? รึไม่กลัวปูน? ไม่กลัวแดดกลัวฝน? แต่ตอนนั้นผมไม่คิดมาก ก็ฟังแฟนผมตกลงงานกัน พาไปชี้ตำแหน่ง เพื่อยืนยันงานอีกรอบ
แฟนผม : อ. ไม่จดหรอ
ช่าง อ. : ไม่เป็นไรครับพี่ ผมรู้กัน
แต่แฟนผมก็จดในเอกสารสัญญาของตัวเองนะครับ แต่ของเค้าไม่ได้จด แฟนผมจึงจดไปให้บางส่วน แถมเซ็นกำกับไปให้ด้วยว่าแก้เอง
สองสามวันแรกเค้ามาทำหลังคาหน้าหลัง แฟนผมก็ไปดูทุกวัน กลังจากนั้นแฟนผมก็ฝาก เพื่อนกับสามีเค้าช่วยดูให้ เพราะแฟนผมไม่ว่าง (ผมกลับมาทำงานที่กรุงเทพ) พอดีว่าพี่ที่รู้จักกัน เค้าซื้อบ้านในโครงการด้วย จึงเดินมาดูช่างที่บ้านแฟนผม เพราะกำลังหาช่างเหมือนกัน เค้าบอกว่า "ตอนที่พี่มาบ้านเรานะ พี่ไม่เห็นใครอยู่บ้านเลย ประตูก็เปิดทิ้งไว้ บ้านก็สกปรก ขยะทิ้งไว้เต็มบ้านเลย ทั้งพื้นทั้งผนังเปื้อนหมด พื้นในบ้านก็ไม่ได้ปูผ้าใบด้วย พี่ไม่เอาแล้วนะ ช่างคนนี้"
รูปนี้หันหน้าออกกน้าบ้าน ที่เค้าถ่ายมาให้ดู
ตอนนั้นแฟนผมทำงานอยู่ จึงโทรไปหาช่าง อ.
แฟนผม : อ. ทำไมข่างของ อ. ทำบ้านพี่รกขนาดนี้ล่ะ
ช่าง อ. : ต่อเติมบ้านมันก็สกปรกแบบนี้แหละพี่
แฟนผม : แล้วทำไมไม่ปูผ้ารองให้พี่ด้วยล่ะ ไหนวันนั้นบอกว่าจะปูให้ (วันที่ทำสัญญา ผมกับช่าง อ. และลูกน้อง ช่วยกันยกโซฟาออก เพราะช่าง อ. บอกว่าจะปูผ้าก่อนทำงาน)
ช่าง อ. : พี่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวงานจบผมมีทีมแม่บ้านมาทำความสะอาดให้
แฟนผม : แน่นะ
ช่าง อ. : แน่พี่ พี่ไม่ต้องห่วง บ้านผมอยู่แค่นี้เอง
ตอนผมได้ยินแฟนผมเล่าให้ฟัง ผมก็รู้สึกแย่แล้วครับ คิดดูว่าแฟนผมจะรู้สึกแย่แค่ไหน ตกเย็นแฟนผมก็ไปเอง
นอกจากจะเจอสภาพบ้านชวนน่าตกใจแล้วก็เจอระแนงที่ผิดสเปคอีก เพราะผมบอกเค้าว่าไอระแนงนี้จะต้องอยู่หลังก่อกำแพงแล้ว 2 เมตร ค่อยตีระแนง แฟนผมจึงแจ้งลูกน้องที่ทำว่างานมันผิดสเปคนะ ลูกน้องเค้าก็สวนมาว่าทำตามแบบครับ อีกวันช่าง อ. เข้ามาในบ้านก็ยังตกใจกับสภาพบ้าน สั่งลูกน้องเก็บกวาดเลยทีเดียว แฟนผมจึงโอเค เพราะเห็นว่ายังคุยรู้เรื่องบ้าง
พอวันหยุด weekend ผมก็เดินทางไปดูเลย เห็นลูกน้องเค้ายาแนวกระเบื้องหน้าบ้าน แต่ช่าง อ. ยังไม่ว่าง ผมเลยพากันไปดูแอร์ที่จะมาติดบ้าน ผมกลับมาเย็นๆ มาเจอสภาพกระเบื้องหน้าบ้าน เบี้ยวแถมไม่ได้ slope ด้วย
บวกกับกล่องข้าวที่ลูกน้องเค้ากินตั้งแต่กี่โมงก็ไม่รู้ ทิ้งเอาไว้ ผมอึ้งจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว พอเดินไปหลังบ้านก็เจอเม็ดแตงกับขี้บุหรี่อีก ผมก็ไม่ไหวละ ให้แฟนโทรเรียกช่าง อ. มาด่วน ผมรอยันสองทุ่ม มันก็ยังไม่มา ผมออกไปหาอะไรกิน แวะเอาทีวีไปซ่อม กลับมาสามทุ่มกว่า มันก็ยังไม่มา จนสี่ทุ่มกว่ามันมากับลูกน้องอีกสี่ห้าคน แฟนผมก็เริ่มพูดเลย
แฟนผม : อ. ทำไมกระเบื้องเป็นแบบนี้ล่ะ
ช่าง อ. : โห พี่ นึกว่าเรื่องอะไร อันนี้ผมรู้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมแก้ให้เลยพี่ เรื่องแค่นี้เอง
แฟนผม : แล้วจะแก้ยังไง จะรื้อ รึจะปูทับ
ช่าง อ. : คงรื้อแล้วแหละ ปูผมก็เสียเงินเพิ่ม แค่นี้ผมก็ขาดทุนแล้วพี่
แฟนผม : ก็โอเค ก็แล้วแต่ อ. ละกัน (แต่ผมกับแฟนคุยกันก่อนแล้วว่าถ้าจะปูทับ ก็เสียค่ากระเบื้องพันกว่าบาทเอง)
จังหวะนั้นเองลูกน้องเค้าก็แทรกมาว่า
ลูกน้อง : มันปูตรงๆ ไม่ได้หรอกพี่ ผนังพี่ กำแพงพี่มันเบี้ยว (ซึ่งตรงนี้เรารู้กันอยู่แล้ว)
ผม : จริงๆ แล้กำแพงเบี้ยวไม่เกี่ยวครับ ช่างที่ expert เค้าก็จะรู้ว่าถ้าขอบเบี้ยวก็จะวางกระเบื้องตรงกลางให้ตรงก่อน ส่วนขอบมันจะเลี้ยวลดคดเคี้ยวยังไงก็แค่ตัดให้วางได้
ทีนี้เงียบกันหมดเลยทั้งลูกน้องทั้งหัวหน้า
ผม : ผมเคยดูช่างสร้างบ้านมาหลายหลังแล้วนะ ไม่เคยเจองานแบบนี้เลย แล้วกล่องข้าวนี่อะไร ไม่ทิ้งรึไง อ. เดินตามพี่มาดูหลังบ้าน นี่อะไร ขวดเอ็มร้อย ขยะกินแล้วไม่ทิ้ง
ช่าง อ. : พี่ไม่ต้องห่วง ผมมีแม่บ้านมาเก็บกวาดให้หลังจบงาน
ผม : กล่องข้าวกับขวดเอ็มร้อยเนี่ยนะ จะปล่อยให้หมาเข้ามากินแล้วขี้เยี่ยวทิ้งไว้รึไง
ช่าง อ. : ครับ รึพี่จะให้ผมเก็บเลย เห้ยพวกเก็บให้พี่เค้าหน่อย (ออกแนวประชด แต่ผมเก็บไปแล้วบางส่วนครับ)
ผม : แล้วเครื่องมือ อุปกรณ์ สว่านตอนพี่มายังเสียบปลั๊กอยู่เลย บ้านก็ไม่ล็อคให้พี่ ถ้าของแกหายอย่ามาโทษพี่นะ พี่บอกไว้ก่อน
ต่างคนต่างเงียบ ผมก็เงียบ จากนั้นผมก็รอมันเก็บกวาดทำความสะอาด
ช่าง อ. : เออพี่ พรุ่งนี้พี่ต้องโอนเงินงวดที่สองให้ผมนะ ผมไม่มีเงินไปลงของแล้ว ตอนนี้ก็เข้าเนื้อผมแล้วหลายพันเนี่ย (ตามสัญญาจะระบุวันครับ ไม่ได้ระบุว่างานไหนเสร็จแล้วจะให้งวดที่สอง แต่ระบุว่า ผ่านมา 1 อาทิตย์ต้องให้งวดที่สอง ซึ่งพวกผมพลาดกันเอง)
ผม : แล้ว อ. จะแก้กระเบื้องให้พี่เมื่อไหร่
ช่าง อ. : พี่จะมาเร่งผมแบบนี้ไม่ได้หรอก ผมมีงานหลายที่
ผม : งั้นเย็นๆ ได้มั้ยล่ะ
ช่าง อ. : ไม่ได้พี่ ต้องเช้าครับ
แฟนผม : งั้น อ. มาทำกี่โมงพี่โอนให้ตอนนั้น
ช่าง อ. : พี่อย่ามาอย่างงี้กับผมนะ ถ้าเล่นแบบนี้ผมไม่ชอบนะบอกไว้เลย
ผม : ไว้พรุ่งนี้มาคุยกันดีกว่า ตอนนี้ดึแล้ว (ห้าทุ่มกว่า)
วันต่อมาผมรอตั้งแต่เช้า ไม่มีใครโผล่มาสักคน จนสิบโมงกว่า ผมกับแฟนออกไปกินข้าว เจอมันคุยกับลูกค้าที่หน้าโครงการ ก็แวะจอด บอกว่าจะไปกินข้าวก่อน เนี่ยรอแต่เช้าละ มันก็ครับๆ
กลับมาที่บ้าน มันก็ยังไม่มา จนเที่ยงกว่าๆ มันมา ยืนดู แล้วก็เดินไปหาช่างของโครงการ ที่กำลังทาสีให้บ้านฝั่งตรงข้าม ช่วงเวลานั่นมันก็พยายามบอกให้แฟนผมโอนเงินให้มัน แต่ด้วยความที่เรายังไม่เงินมันเริ่มแก้ไขอะไรสักอย่างเลย สุดท้ายมันเริ่มมีน้ำโห พูดว่าพี่ไม่ต้องกลัวบ้านผมอยู่แค่นี้เอง บลาๆๆ สุดท้ายแฟนผมจึงให้ไป พอบ่ายๆ แฟนผมต้องไปทำงาน เหลือผมคนเดียว ผมก็รอดูว่ามันจะแก้ยังไง ในขณะที่ช่าง อ. ก็ถามลูกน้องว่า ไอ...ไปไหนวะไม่มาทำงาน ไอ....ล่ะโทรหาไม่ติดเลย ลูกน้องคนนั้นก็ตอบว่าไม่รู้ๆๆๆ แล้วรอสักพักก็มีช่างมีอายุคนนึงเดินมาคุยกับมัน เป็นช่างกระเบื้องที่มันไปหามาจากช่างของโครงการ เค้ามาถึงก็สั่งให้ลูกน้องมันรื้ออันเก่าออก ส่วนช่างทาสีที่รู้จักกับช่าง อ. เค้าก็มาพูดกับผมว่า น้องมันพลาด งานเร่งด้วย แถมปูกระเบื้องอตนกลางคนมันก็เลยเบี้ยว บลาๆๆๆ แต่เนี่ยพี่เอาช่างฝีมือดีมาให้ละ ปูมาเป็น 10 ปี มือหนึ่งๆ
ผมอยากเอารูปนี้ปาใส่หน้าช่างทาสีที่กำลังพูดช่วยมันอยู่ ปูบ้าอะไร เอ็นก็ไม่ขึง ไม่มีวัดระดับน้ำ รูปนี้สามีของเพื่อนแฟนผมถ่ายมาไว้ให้ รึใครสักคน ผมไม่แน่ใจ แต่อยากรู้ว่าถ้ามันเห็นมันยังกล้าพูดว่าพลาดอีกมั้ย? แถมมันบอกว่างานเร่ง มันขอ 15 วัน ผมให้ 17 วัน แล้วเมื่อเช้ามันก็ไม่มา นี่เร่งแล้วหรอ? งานเร่งก็ต้องมาแต่เช้าแล้วสิ
ผมรอจนเค้ารื้อๆ เสร็จ พ่อช่าง อ. ที่เป็นช่างเหมือนกันก็มาดู เค้าแต่งตัว เสื้อยืดทับด้วยเสื้อเชิ้ตลายสกอต กางเกงยืนเปื้อนปูน มาถึงก็หยิบกระเบื้องที่โดนสกัดมาขัดเอายาแนวออก ลูกน้องก็ยืนดู จนผมทนไม่ไหวต้องเดินไปช่วยแก ลูกน้องมันก็ยังยืนคุยกันไม่สนใจ ช่าง อ. ก็เดินไปตามลูกน้องคนอื่น เหมือนจะให้มาเรียนปูกระเบื้อง ก็ไม่มีใครมา สุดท้ายช่าง อ. เดินมาเจอพ่อ มันพูดว่า "พ่อไปดูตรงนู้นเลย!! ตรงนี้ไม่มีอะไรแล้ว" ผมนี่แทบผงะเลย นี่มันคุยกับพ่อมันแบบนี้หรอ ผมเลยมีโอกาสสังเกตชุดมัน เป็นเสื้อยืดกางเกงวอร์มบางๆ ติดตราแลมโบกีนี่ ดูสะอาด เหมือนจะไปฟิตเนส ผมไม่รู้จะเอือมท่าไหนดี นี่ชุดงานช่างบ้านไหนวะ
สุดท้ายตอนช่างคนใหม่มาปู ผมก็คุยงานกับเค้าทีเดียวรู้เรื่อง เค้าก็วัดระดับน้พ ทำ slope ขึงเอ็นทีละแถว ทำตรงกลางก่อนตามที่ผมบอก
เดี๋ยวมาต่อตอนเย็นครับ