วันนี้มัยมาพร้อมกับหนังสือด้านการลงทุน อยู่ 3 เล่มด้วยกัน จะมีการลงทุนในด้านไหนบ้างมาดูกันค่ะ^^
หนังสือ "เหนือกว่าวอลสตรีท : ONE UP ON WALL STREET"
ชื่อหนังสือ : เหนือกว่าวอลสตรีท : ONE UP ON WALL STREET
ผู้เขียน : Peter Lynch , John Rothchild
ผู้แปล : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
สำนักพิมพ์ : ฟิเดลลิตี้พับลิชชิ่ง, บจก.
ราคา : 348 บาท
สิ่งที่ได้รับจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ : หนังสือเล่มนี้เป็นการศึกษาการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะแบบเน้นหุ้นเติบโต ลินซ์ เคยเป็นผู้จัดการกองทุน ฟิเดลลิตี้ แม็คเจ็ลลัน ซึ่งทำผลงานเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นสถิติอันโด่งดัง โดยหลักการของเขาก็คือ นักลงทุนทั่วไปสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญหุ้นของบริษัทที่เรารู้จักเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น คนที่ทำงานในอุตสาหกรรมโรงพยาบาล ก็จะมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจโรงพยาบาลและสามารถเลือกหุ้นที่ชนะตลาดได้อย่างง่ายๆ เท่าๆกับมืออาชีพในวอลสตรีท
โดยเล่มนี้มีการปรับเปลี่ยนความเข้าใจและมุมมองความคิดเกี่ยวกับการลงทุน การเลือกหุ้นที่จะสร้างผลตอบอย่างยอดเยี่ยม 10 เด้งให้กับการลงทุนของเรา ตามความคิดของ Peter Lynch การวิเคราะห์การลงทุนนั้นควรศึกษาที่ปัจจัยพื้นฐานไม่ใช่การดูกราฟประหลาดๆ หรือตัวเลขที่ยุ่งยากซับซ้อน Peter Lynch ได้แบ่งหุ้นออกเป็น 6 ประเภทได้แก่ หุ้นโตช้า, หุ้นแข็งแกร่ง, หุ้นโตเร็ว, หุ้นวัฏจักร, หุ้นฟื้นตัว, หุ้นทรัพย์สินมาก โดยที่หุ้นหนึ่งตัวอาจจะอยู่ได้หลายประเภทและอาจจะเปลี่ยนประเภทได้เมื่อเวลาผ่านไป การทำความเข้าใจประเภทของหุ้นทั้ง 6 ช่วยให้การวิเคราะห์หุ้นง่ายขึ้นมาก สามารถที่จะแยกหุ้นที่น่าสนใจและไม่น่าสนใจออกจากกันได้ หุ้นที่ชนะตลาด และควรตัดสินยังไงเมื่อเกิดปัญหาต่างๆ
ปีเตอร์ ลินซ์ได้ให้แง่คิดไว้ว่า "การขาดทุนของคุณถูกจำกัดด้วยเงินที่คุณลงทุนไป หมายความว่า ถ้าคุณลงทุนหุ้นด้วยเงิน 1 หมื่นบาท โอกาสที่คุณจะเสียจนหมดตัวแค่ 1 หมื่นบาท ในทางกลับกัน เงิน 1 หมื่นบาท จะสามารถสร้างผลกำไรให้คุณได้ 1 แสนบาท 1 ล้านบาท ถ้าคุณเก่งพอที่จะหาหุ้น 10 เด้ง 100 เด้ง ได้" มัยว่าเป็นแง่คิดที่น่าสนใจค่ะ
หนังสือ "ไม่ต้องไฮโซก็ลงทุนในคอนโดได้"
ชื่อหนังสือ : ไม่ต้องไฮโซก็ลงทุนในคอนโดได้
ผู้เขียน : อัญพัชร์ ทรัพย์ยืนยง
สำนักพิมพ์ : สต็อคทูมอร์โรว
ราคา : 225 บาท
สิ่งที่ได้รับจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ : เล่มนี้เป็นอีกหนึ่งเล่มที่สอนให้ลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง คือ การลงทุนในคอนโด คุณยุ้ยได้พูดถึงจุดพลิกที่ทำให้กลายมาเป็นนักลงทุนในคอนโดที่ประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ได้ลาออกจากงานประจำ สำหรับเล่มนี้ยังเผยเทคนิคที่ทำให้การลงทุนในคอนโดไม่มีคำว่า ”ขาดทุน” ,“ไม่มีคนเช่า” และเทคนิคนั้น มัยได้สรุปมาให้อ่านกันคราวๆนะคะ เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อ
1. คอนโดนั้นต้องอยู่ในแหล่งหยดน้ำ(ในระแวก มหาวิทยาลัย,ห้างสรรพสินค้า)
2.ในการเลือกซื้อคอนโดนั้นเราต้องสอบถามข้อมูลให้แน่ใจก่อนว่ามีการเช่าห้องใน คอนโดนั้นตลอดไหม เช่น จำนวนห้อง 100 ห้อง อัตราการอยู่อาศัย 80% เพื่อลดความเสี่ยงในการ “ไม่มีคนเช่า”
3.เราสามารถกู้เงินจากแบงก์เพื่อมาซื้อคอนโดได้ดยที่ไม่ต้องใช้เงินเราเลยซักบาทเดียว
4.คอนโดที่จะลงทุนจะต้องมีค่าเช่าคืนกลับมา8%ของราคาดอกเบี้ยที่เรากู้เงินจากแบงค์ จึงจะตัดสินใจซื้อ
5.การเลือกคอนโดที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ต้องดูให้ถี่ถ้วน เช่น วิว, ชั้น,ฮ้วงจุย และรายละเอียดอื่นอีกมากมาย
สำหรับมัยคิดว่าการลงทุนนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และจะประสบความสำเร็จได้นั้นเราจะต้องลงมือทำก่อนมันค่ะ
หนังสือ "อยากรวยผมช่วยคุณได้"
สำหรับมัยมองว่า การวางแผนทางการเงินของ มีความสำคัญ มัยมีความรู้สึกว่า ถ้าเรายังจัดการกับการเงินของเราเองไม่ได้ เราจะเอาเงินไปลงทุนได้ยังไงล่ะ และก็ถือว่าหนังสือเล่มนี้เป็นการลงทุนในระยะยาวอีกด้วย
ชื่อหนังสือ : อยากรวยผมช่วยคุณได้
ผู้เขียน : มงคล ลุสัมฤทธิ์
สำนักพิมพ์ : สต็อคทูมอร์โรว
ราคา : 225 บาท
สิ่งที่ได้รับจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ : หนังสือเล่มนี้มัยมองว่า มันเป็นเหมือนคู่มือที่ใช้วางแผนทางการเงิน ถ้าเราไม่มีเป้าหมายหรือทิศทางของชีวิต ก็จะไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน ก็คงไม่ต่างกับเรือที่ไร้จุดหมาย การวางแผนทางการเงินเปรียบเสมือน เรามีเครื่องมือนำทาง ที่จะช่วยให้ชีวิตไม่หลงทาง และมีโอกาสถึงจุดหมายที่ต้องการ มัยคิดว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะใช้ได้กับทุกคน เพราะเล่มนี้ได้วางแผนทางการเงินให้ในแต่ละช่วงชีวิต ตั้งแต่ วัยเริ่มทำงาน, วันทำงาน และวัยก่อนเกษียณ
การวางแผนทางการเงินนั้นไม่ใช่มีแค่การออมเงินในธนาคารเท่านั้น แต่นั้นหมายถึงการแบ่งเงินออกเป็นส่วนต่างๆ ให้เหมะสมกับความต้องการของแต่ละคน แต่ละวัยเช่น
การเก็บเงิน : ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง เช่น เงินฝากออมทรัพย์, เงินฝากประจำไม่เกิน 1 ปี
การลงทุน : ความเสี่ยงต่ำ = พันธบัตรรัฐบาล
ความเสี่ยงสูง = หุ้น
กองทุน : การที่คนหลายๆ คนเอาเงินมารวมกันจนเป็นก้อนใหญ่ แล้วมีผู้จัดการกองทุนดูแลเงินเหล่านั้นโดยการทำเงิน
ไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ ตามนโยบายของแต่ละกองทุน
การลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ : RMF, LMF, Provident Fund
และสุดท้ายมัยคิดว่าเป็นการลงทุนที่สำคัญที่สุด ทุกคนควรที่จะลงทุนในสิ่งนี้ แต่คนโดยส่วนใหญ่อาจคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา หรือยังไม่สำคัญ นั่นคือ "การทำประกัน" ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต หรืออุบัติเหตุ การทำประกันทุกวันนี้ มีหลายบริษัท และหลายประเภท สำหรับมัยมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงเพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ตอนไหน เมื่อไหร่ แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ในระหว่างที่เราขาดรายได้ หรือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล มัยคิดว่าเป็นการลงทุนที่สำคัญที่สุดค่ะ
[CR] รีวิวหนังสือการลงทุน "เหนือกว่าวอลสตรีท", "ไม่ต้องไฮโซก็ลงทุนในคอนโดได้" และ"อยากรวยผมช่วยคุณได้"
หนังสือ "เหนือกว่าวอลสตรีท : ONE UP ON WALL STREET"
ชื่อหนังสือ : เหนือกว่าวอลสตรีท : ONE UP ON WALL STREET
ผู้เขียน : Peter Lynch , John Rothchild
ผู้แปล : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
สำนักพิมพ์ : ฟิเดลลิตี้พับลิชชิ่ง, บจก.
ราคา : 348 บาท
สิ่งที่ได้รับจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ : หนังสือเล่มนี้เป็นการศึกษาการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะแบบเน้นหุ้นเติบโต ลินซ์ เคยเป็นผู้จัดการกองทุน ฟิเดลลิตี้ แม็คเจ็ลลัน ซึ่งทำผลงานเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นสถิติอันโด่งดัง โดยหลักการของเขาก็คือ นักลงทุนทั่วไปสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญหุ้นของบริษัทที่เรารู้จักเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น คนที่ทำงานในอุตสาหกรรมโรงพยาบาล ก็จะมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจโรงพยาบาลและสามารถเลือกหุ้นที่ชนะตลาดได้อย่างง่ายๆ เท่าๆกับมืออาชีพในวอลสตรีท
โดยเล่มนี้มีการปรับเปลี่ยนความเข้าใจและมุมมองความคิดเกี่ยวกับการลงทุน การเลือกหุ้นที่จะสร้างผลตอบอย่างยอดเยี่ยม 10 เด้งให้กับการลงทุนของเรา ตามความคิดของ Peter Lynch การวิเคราะห์การลงทุนนั้นควรศึกษาที่ปัจจัยพื้นฐานไม่ใช่การดูกราฟประหลาดๆ หรือตัวเลขที่ยุ่งยากซับซ้อน Peter Lynch ได้แบ่งหุ้นออกเป็น 6 ประเภทได้แก่ หุ้นโตช้า, หุ้นแข็งแกร่ง, หุ้นโตเร็ว, หุ้นวัฏจักร, หุ้นฟื้นตัว, หุ้นทรัพย์สินมาก โดยที่หุ้นหนึ่งตัวอาจจะอยู่ได้หลายประเภทและอาจจะเปลี่ยนประเภทได้เมื่อเวลาผ่านไป การทำความเข้าใจประเภทของหุ้นทั้ง 6 ช่วยให้การวิเคราะห์หุ้นง่ายขึ้นมาก สามารถที่จะแยกหุ้นที่น่าสนใจและไม่น่าสนใจออกจากกันได้ หุ้นที่ชนะตลาด และควรตัดสินยังไงเมื่อเกิดปัญหาต่างๆ
ปีเตอร์ ลินซ์ได้ให้แง่คิดไว้ว่า "การขาดทุนของคุณถูกจำกัดด้วยเงินที่คุณลงทุนไป หมายความว่า ถ้าคุณลงทุนหุ้นด้วยเงิน 1 หมื่นบาท โอกาสที่คุณจะเสียจนหมดตัวแค่ 1 หมื่นบาท ในทางกลับกัน เงิน 1 หมื่นบาท จะสามารถสร้างผลกำไรให้คุณได้ 1 แสนบาท 1 ล้านบาท ถ้าคุณเก่งพอที่จะหาหุ้น 10 เด้ง 100 เด้ง ได้" มัยว่าเป็นแง่คิดที่น่าสนใจค่ะ
หนังสือ "ไม่ต้องไฮโซก็ลงทุนในคอนโดได้"
ชื่อหนังสือ : ไม่ต้องไฮโซก็ลงทุนในคอนโดได้
ผู้เขียน : อัญพัชร์ ทรัพย์ยืนยง
สำนักพิมพ์ : สต็อคทูมอร์โรว
ราคา : 225 บาท
สิ่งที่ได้รับจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ : เล่มนี้เป็นอีกหนึ่งเล่มที่สอนให้ลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง คือ การลงทุนในคอนโด คุณยุ้ยได้พูดถึงจุดพลิกที่ทำให้กลายมาเป็นนักลงทุนในคอนโดที่ประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ได้ลาออกจากงานประจำ สำหรับเล่มนี้ยังเผยเทคนิคที่ทำให้การลงทุนในคอนโดไม่มีคำว่า ”ขาดทุน” ,“ไม่มีคนเช่า” และเทคนิคนั้น มัยได้สรุปมาให้อ่านกันคราวๆนะคะ เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อ
1. คอนโดนั้นต้องอยู่ในแหล่งหยดน้ำ(ในระแวก มหาวิทยาลัย,ห้างสรรพสินค้า)
2.ในการเลือกซื้อคอนโดนั้นเราต้องสอบถามข้อมูลให้แน่ใจก่อนว่ามีการเช่าห้องใน คอนโดนั้นตลอดไหม เช่น จำนวนห้อง 100 ห้อง อัตราการอยู่อาศัย 80% เพื่อลดความเสี่ยงในการ “ไม่มีคนเช่า”
3.เราสามารถกู้เงินจากแบงก์เพื่อมาซื้อคอนโดได้ดยที่ไม่ต้องใช้เงินเราเลยซักบาทเดียว
4.คอนโดที่จะลงทุนจะต้องมีค่าเช่าคืนกลับมา8%ของราคาดอกเบี้ยที่เรากู้เงินจากแบงค์ จึงจะตัดสินใจซื้อ
5.การเลือกคอนโดที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ต้องดูให้ถี่ถ้วน เช่น วิว, ชั้น,ฮ้วงจุย และรายละเอียดอื่นอีกมากมาย
สำหรับมัยคิดว่าการลงทุนนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และจะประสบความสำเร็จได้นั้นเราจะต้องลงมือทำก่อนมันค่ะ
หนังสือ "อยากรวยผมช่วยคุณได้"
สำหรับมัยมองว่า การวางแผนทางการเงินของ มีความสำคัญ มัยมีความรู้สึกว่า ถ้าเรายังจัดการกับการเงินของเราเองไม่ได้ เราจะเอาเงินไปลงทุนได้ยังไงล่ะ และก็ถือว่าหนังสือเล่มนี้เป็นการลงทุนในระยะยาวอีกด้วย
ชื่อหนังสือ : อยากรวยผมช่วยคุณได้
ผู้เขียน : มงคล ลุสัมฤทธิ์
สำนักพิมพ์ : สต็อคทูมอร์โรว
ราคา : 225 บาท
สิ่งที่ได้รับจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ : หนังสือเล่มนี้มัยมองว่า มันเป็นเหมือนคู่มือที่ใช้วางแผนทางการเงิน ถ้าเราไม่มีเป้าหมายหรือทิศทางของชีวิต ก็จะไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน ก็คงไม่ต่างกับเรือที่ไร้จุดหมาย การวางแผนทางการเงินเปรียบเสมือน เรามีเครื่องมือนำทาง ที่จะช่วยให้ชีวิตไม่หลงทาง และมีโอกาสถึงจุดหมายที่ต้องการ มัยคิดว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะใช้ได้กับทุกคน เพราะเล่มนี้ได้วางแผนทางการเงินให้ในแต่ละช่วงชีวิต ตั้งแต่ วัยเริ่มทำงาน, วันทำงาน และวัยก่อนเกษียณ
การวางแผนทางการเงินนั้นไม่ใช่มีแค่การออมเงินในธนาคารเท่านั้น แต่นั้นหมายถึงการแบ่งเงินออกเป็นส่วนต่างๆ ให้เหมะสมกับความต้องการของแต่ละคน แต่ละวัยเช่น
การเก็บเงิน : ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง เช่น เงินฝากออมทรัพย์, เงินฝากประจำไม่เกิน 1 ปี
การลงทุน : ความเสี่ยงต่ำ = พันธบัตรรัฐบาล
ความเสี่ยงสูง = หุ้น
กองทุน : การที่คนหลายๆ คนเอาเงินมารวมกันจนเป็นก้อนใหญ่ แล้วมีผู้จัดการกองทุนดูแลเงินเหล่านั้นโดยการทำเงิน
ไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ ตามนโยบายของแต่ละกองทุน
การลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ : RMF, LMF, Provident Fund
และสุดท้ายมัยคิดว่าเป็นการลงทุนที่สำคัญที่สุด ทุกคนควรที่จะลงทุนในสิ่งนี้ แต่คนโดยส่วนใหญ่อาจคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา หรือยังไม่สำคัญ นั่นคือ "การทำประกัน" ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต หรืออุบัติเหตุ การทำประกันทุกวันนี้ มีหลายบริษัท และหลายประเภท สำหรับมัยมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงเพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ตอนไหน เมื่อไหร่ แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ในระหว่างที่เราขาดรายได้ หรือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล มัยคิดว่าเป็นการลงทุนที่สำคัญที่สุดค่ะ