เที่ยว Blue Sky Resort เกาะพยาม แบบไม่ต้องพยายามมาก

สวัสดีครับ ผมเพิ่งมีโอกาสไปเที่ยวเกาะพยาม จังหวัดระนองมา เลยเอาประสบการณ์มาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ

       ติดตามได้เพิ่มเติม

       facebook : https://www.facebook.com/bossbibi.wisawa
       instagram : bossbibiz    

       เกาะพยาม จังหวัดระนอง เป็นอีกเกาะที่หลายๆคนฝันอยากจะไปเที่ยวสักครั้ง แต่กลับตรงข้ามกับผม ส่วนตัวผมเดินทางบ่อย เที่ยวหลายๆที่แต่กลับไม่เคยรู้จักเกาะพยามเลยจริงๆ ผมมีโอกาสมาธุระจังหวัดระนอง แล้วเรื่องบังเอินก็เกิดขึ้น ระหว่างเช็คอินโรงแรมในตัวเมืองระนอง ห้องพักยังทำความสะอาดไม่เสร็จ มานั่งรอที่ล็อบบี้ โรงแรม ก็หยิบหนังสือ จังหวัดระนอง มาอ่านที่เค้าแจกฟรี อ่านไปสักพักเจอ เกาะพยาม ดูจากรูปภาพ สวยดีจัง ธรรมชาติมากเลย ในใจคิดว่าถ้าเดินทางไม่ลำบาก ไปง่ายๆ ใช้เวลาไม่มาก จะลองไปเที่ยวดู พอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ ที่กำแพงมีป้ายเรือไปเกาะพยามอยู่ มันช่างเป็นอะไรที่พอดิบพอดีเลย อ่านแล้วใช้เวลาแค่ 30 นาที กับ เที่ยวเรือมีแทบทั้งวัน ผมตัดสินใจไปในวินาทีนั่นเลย พอเข้าห้องพักก็เสิร์ดหาข้อมูลที่พักทันที ได้ข้อมูลว่า Blue Sky Resort น่าจะเป็นรีสอร์ทที่โอเคสุดแล้ว ก็โทรไปจองทันที ได้ห้องแล้ว โทรจองเรือ พร้อมทุกอย่างแล้วสิ วันนั่นรีบทำธุระให้เสร็จ แล้วออกเดินทางไป เกาะพยาม เลยจ้าาาา




การเดินทางไปเกาะพยามนั้น ไปขึ้นเรือได้ที่ ท่าเทียบเรือ เทศบาลตำบลปากน้ำ (ไปเกาะพยาม) เสิร์ดจาก GPS ได้เลยปักหมุดไว้ตรงอยู่ครับ
ซึ่งก็อยู่ในตัวเมืองนี่เอง ไปง่ายมากครับ ที่ผมโทรจองเรือนั้น ราคา 700 บาท ไป - กลับ และ ฝากรถที่ท่าเรือได้เลย วันละ 100 บาทเท่านั้นเอง
ที่จอดรถปลอดภัยมีหลังคาอยู่ในร่มครับ



บนเรือผมเดินทางไปสปีทโบทใช้เวลาประมาณ 40 นาที บนเรือนั้งกันประมาณ 20 คนครับ
ทรงผมแอบ วินเทจ นิดนึง 5 5 5



ก็พอลงเรือก็มี พนักงานจาก Bluesky มารอรับที่ท่าเรือ โดยนั้งรถกอล์ฟ จากท่าเรือไป ที่รีสอร์ท
ใช้เวลานิดเดียว เพราะท่าเรือกับรีสอร์ทแทบจะติดๆกัน เดินไปหากันยังได้เลย ผมจองห้องพักแบบมัลดิฟไว้ ฝั่ง L จะติดริมน้ำและมีทางลงไปเล่นน้ำได้ด้วย
จังหวะที่ไปนั้นน้ำกำลังลงพอดีเลยน้ำเลยไม่เยอะเท่าไหร เข้ามาชมในห้องพักกันครับ ลืมบอกไป ทริปนี้ ผมเดินทางเพียงคนเดียว โดยไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำว่าจะมา มีกระเป๋าเสื้อผ้าใบนึงเสื้อผ้า 2 ชุด กับ กระเป๋ากล้องอีกใบ











ทางเดินเข้าห้องพักจะเป็นเหมือนไม้ระแนงถ้าเมาๆ หรือเดินไม่ดี มีตกลงไปแน่นอนครับ ตอนมึดๆต้องระวังนิดนึง



บริเวณล็อบบี้ติดชายทะเลละ มีมุมอาหารเครื่องดื่ม ที่รีสอร์ทมีบริการ เรือแคนนู จักรยาน ให้ลูกค้ายืมใช้ได้เลย ในรีสอทร์ทค่อนข้างจะเงียบสงบ เป็นส่วนตัวดีครับ พนักงานอัธยาสัยดี ยิ้มแย้ม ตลอด



มานั่งริมทะเล สั่งอาหารว่างมากินดู พนักงานแนะนำ กล้วยทอดซอสส้ม กับน้ำสัปปะรดปั่น รสชาติบอกเลยอร่อยครับ
หวานๆ คล้ายๆไอติมทอด ข้างในจะยังอุ่นๆอยู่ ความร้อนจากกล้วย แล้วราดด้วยซอสส้ม
( คือแบบว่ามาถึงปุบกินเลย ลืมถ่ายรูปก่อนที่จะกิน ฮ่า า า )



ตกกลางคืนก็ได้เวลานอน เข้านอนแต่ 4 ทุ่มได้ตั้งใจจะตื่นเช้าๆมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่นอน นอนสบายมากครับ อยากจะขโมยหมอนกลับบ้านเหลือเกิน
เช้ามาออกมาชมพระอาทิตย์ เวลา 7.30 น ยืมจักรยานแล้วปั่น ออกมา สะพานทางเข้ารีสอร์ท ซึ่งจริงๆเดินมาก็ได้ แล้วก็ไปชมบรรยากาศรอบๆรีสอร์ท






อาหารเช้า เค้ามีให้เลือกประมาณ 10 รายการ ว่าเราจะเลือกอะไร ไม่ใช่เป็นแบบบุฟเฟ่ นะครับ เพราะลูกค้าไม่เยอะมาก ทำบุฟเฟ่ น่าจะเหลือ




ได้เวลากลับแล้วสิ จองเรือกลับไว้รอบ 13.30น พนักงานก็ไปส่งที่ท่าเรือ แต่ที่แปลกคือ ผมตอนนั่งเรือมาเต็มลำเรือ แต่ขากลับ ผมเหมาคนเดียว
คนขับเรือบอก เป็นวันหยุดเค้าเพิ่งจะมากันยังไม่มีใครกลับ คือ วันที่ผมไปเป็นวันศุกร์ที่ 4 และกลับวันเสาร์ที่ 5 ธันวา นี้เอง บอกเลยตอนกลับ พายุเข้าพอดีฝนตก คลื่นแรง ฝากชีวิตไว้กับคนขับเรือจริงๆ แต่ก็ถึงฝั่งอย่างปลอดภัย





ปล.ผมคิดว่าหลายคนคงสงสัย ผมเดินทางไปคนเดียวทำไมถึงถ่ายรูปได้ ผมใช้กล้อง GOPRO นะครับ และ กดชัตเตอร์ผ่านมือถือเอานะครับ
สังเกตในภาพผมจะถือมือถือเกือบทุกรูปเลย

แถม VDO ให้ คลิปนึงครับ : https://www.facebook.com/bossbibi.wisawa/videos/772349939560078/?pnref=story

ขอบคุณที่ติดตามมาจนจบนะครับผม ผมเดินทางบ่อยๆเดี๋ยวจะเข้ามาโพสบ่อยๆนะครับ ถ้าชอบหรืออะไรคอมเม้นติชมได้เลย ขอบคุณมากๆครับ