สวัสดีค่าาาาาา นี่เป็นกระทู้ที่ 3 นะคะ ( 2 กระทู้ที่แล้วก็แชร์ประสบการณ์..นี่เราประสบการณ์เยอะมากเลยหรอ??)
เป็นเรื่องของธรรมชาติ เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ และพบว่ามีหลายคนที่มีอาการใกล้เคียงกันจึงคิดว่าเรื่องนี้น่าจะพอเป็นประโยชน์ให้กับสาวๆได้บ้างค่ะ
เริ่มตั้งแต่ต้น คือเราเริ่มมีประจำเดือนตอนอายุ 13 ตอนนั้นอยู่ ม.2 ก็เหมือนเด็กผู้หญิงเริ่มเป็นสาวทั่วไป คือประจำเดือนในช่วงแรกมาไม่สม่ำเสมอ (หรือจะเรียกว่ามากอยู่เสมอก็ได้) คือจะมาเยอะๆ ครั้งละประมาณ 2 สัปดาห์ (เผื่อคุณผู้ชายมาอ่านนะคะ ปกติจะมีประจำเดือนกัน 3-5-7 วัน ทุกๆ 28 วัน นับจาก ปจด มาวันแรก) พอหมด 2 สัปดาห์ไปแล้ว ก็ยังมีอยู่ ถึงจะน้อยแต่ก็ยังต้องใส่ผ้าอนามัย จนครบรอบใหม่ มันก็กลับมาเยอะอีกประมาณ 3-4 วัน *เราจำได้ว่าพีคสุดตอนนั้นคือมาติดต่อกัน 36 วัน ขุ่นพระ!!!
ช่วงปีแรกก็มาต่อเนื่องแบบนั้นค่ะ ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเรา ไม่ตื่นเต้นอะไร เพราะคิดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
มาพีคครั้งแรก น่าจะตอน ม.3 จำแม่นเลยว่ากำลังสอบอยู่ คือมันรู้สึกว่า ปจด กำลังเดินทางออกมา (ปกติผู้หญิงเราจะรู้สึกว่า ปจด เดินทางเวลาเปลี่ยนท่าทางเช่น นอนแล้วลุก นั่งแล้วยืนนะคะ) แต่นี่คือเรานั่งทำข้อสอบอยู่แล้วมันรู้สึกได้ เราเลยลองเอามือสอดเข้าไประหว่างกระโปรงกับเก้าอี้ คือเลือดติดมือเลยค่ะ
นึกสภาพที่เก้าอี้ไม้ๆแข็งๆ มีน้ำหกเลอะอยู่นะคะ คือออกมามากขนาดนั้น กระโปรงนี่เป็นแผนที่โลกเลย!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ขอคุณครูไปล้าง นี่ล้างไปน้ำตาไหลไปนะคะ ผ้าอนามัยชุ่มทุกตารางมิล เรายืนตักน้ำราดผ่านกกน ลงบนโถส้วมนี่เป็นสีแดงฉาน
ลองนึกถึงหนังทำแท้งอะค่ะ เลือดไหลเป็นทางลงมา 2 ข้างขา แล้วหยดตรงกลางด้วย คือตกใจมากกก เหม็นคาว น้ำตาก็ไหล
จำไม่ได้ว่าครูหากระโปรงอะไรมาเปลี่ยนให้ยังไง แต่ตอนนั้นเราขอออกมายืนสอบวิชาที่เหลือต่อนอกห้อง คือไม่กล้านั่งค่ะ กลัวมันออกมาอีก
จากนั้นวิถีปจด เราก็ยังคงมานานหลายวันอยู่ จนขึ้นม.ปลาย ที่เริ่มมาปีละ 2 ครั้ง (ประมาณ 6-7 เดือน มาทีนึง ครั้งละประมาณ 5-7 วัน)
แล้วแผนที่โลก ก็กลับมาเยือนกระโปรงนักเรียนเราเป็นครั้งที่ 2 ตอนอยู่ ม.5
คราวนี้จำได้ว่าคุณครูที่โรงเรียนออกไปซื้อ กกน จากโรบินสันบางรักมาให้เปลี่ยน เดจาวูค่ะ แต่ไม่ร้องไห้แล้ว สตรองงงง
และอีกครั้ง ตอนปี 1 กำลังนั่งแท็กซี่กลับบ้านพอดี เลยค่อยโชคดีหน่อย
มีพีคๆแบบนี้ 3 ครั้งในชีวิตค่ะ
เราไม่เคยไปหาหมอเลย เพราะคิดว่าฮอร์โมนเราคงไม่คงที่
จนมาช่วงปี 2 มั้งคะ ที่คิดว่าเออ ไปหาหมอเหอะ... เพื่อนเพิ่นไม่มีใครเป็นแบบนี้เลย
แล้วการพบสูติแพทย์ครั้งแรกก็เกิดขึ้น
ตอนนั้นใสๆเลยค่ะ ไปทั้งชุดนักศึกษากับเพื่อนผู้หญิง 1 คน นั่งรอนี่มีแต่คุณแม่อุ้มท้องมาหาหมอ
คุณหมอส่งไปอัลตราซาวด์ค่ะ ผลออกมาคือเราไม่มีอะไรผิดปกติ หมอเลยวินิจฉัยว่าเป็นที่ฮอร์โมน ให้เราลองทานฮอร์โมนดู 7 วัน พอยาหมดแล้ว ปจด ควรมาภายใน 2-3 วัน ซึ่งก็มาค่ะ นั่นหมายความว่าฮอร์โมนเรายังไม่คงที่นั่นเอง
*วิธีรักษาคือทานยาคุม เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนค่ะ*
เราก็กินไปสองสามแผง และก็เลิกกิน เพราะคิดว่าไม่ได้ร้ายแรงอะไร หมอบอกว่ามาน้อยๆ (นานๆมาที) ดีกว่ามาเยอะ
ชิวเลยค่ะ โล่งสบายทั้งปี 555
ผ่านมาอีก 5-6 ปี เราจะไปเรียนเมืองนอก ก็เลยแวะไปหาหมอหน่อย ก็เหมือนเดิมค่ะ อัลตราซาวด์ดูไม่มีอะไร
หมอก็ให้ยาคุมไปทาน พอทานรอบเดือนก็ปกติ ก็กินไปซัก 4-5 แผงก็หยุด
NOTE: เราเริ่มมีสิวยักษ์ตอนก่อนไปเมืองนอก และหลังกลับมาจากเมืองนอกตอนอายุ 25 เราเริ่มมีสิวผดผื่น ทั้งๆที่ก่อนไปไม่มีสิวเลยตั้งแต่เด็กนะคะ
คิดว่าอาจเป็นการเปลี่ยนแปลง น้ำ อากาศ มลภาวะ
เร่ืองสิวนี่ล่ะค่ะ....เป็นตัวเฉลย!!!
กลับจากเมืองนอกมา 2 ปี ก็ได้ขึ้นขาหยั่งครั้งแรกกกก T T
ตอนนั้นอายุ 27 แล้วค่ะ รู้สึกว่าประจำเดือนมาหลายวันละ ไม่หมดซะที คือมาน้อยแบบเหมือนตกขาวที่เป็นสีน้ำตาลอะค่ะ
รำคาญ...เลยไปหาหมอเลย ละหมอก็ถามว่าจะตรวจภายในไหม
คือใจนึงก็เอาวะ ให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกใจก็แบบ...เฮ้ยยย คืมปากเป็ดเหมือนที่เห็นในหนังเลยนะเว่ยยย
สุดท้ายก็ตรวจค่ะ พยาบาลถามว่าให้ปิดหน้ามั้ยคะ 555 ตอนนั้นคิดว่าหนูไม่รู้จะทำหน้ายังไง ปิดๆไปเหอะค่ะ
ผลออกมาก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ตรวจมะเร็งก็ไม่เจอ
รักษาวิธีเดิมค่ะ กินยาคุม (บ้างไม่กินบ้าง ไม่ซี)
อย่างที่เกริ่นไปใน Note คือช่วงนี้สิวยักษ์เรามาบ่อยมาก ตามหัวคิ้ว แก้มบ้าง และตรงคาง
เราก็ไปหาหมอตามคลินิค ฉีดสิวทั่วไป เค้าก็ขายคอร์สหน้าใส เลเซอร์ ล้างน้ำเกลือไรไปตามเรื่อง
พอฉีดสิวทีก็ยุบ 2อาทิตย์ก็ขึ้นใหม่ เป็นงี้ไปเรื่อยๆ ก็ขี้เกียจไปหาบ้าง (ออฟฟิศอยู่สาทร หาหมอสยาม เหนื่อยเดินทาง)
เราก็เลยไปหาหมอที่คลินิกผิวหนัง ของโรงพยาบาลใกล้ๆออฟฟิศแทนค่ะ สิวขึ้นก็เดินไปฉีดได้เลย
คุณหมอก็ฉีดยา (เราว่ายาหมอรพ.แรงกว่าคลินิกนะ รู้สึกได้ผลกว่า) ก็ดูอาการแล้วก็ให้เริ่มทานโรแอคคิวเท็น
ขึ้น ยุบ ขึ้น ยุบ ไปหาบ่อยๆจนหมอเอะใจ คุณหมอบอกว่าอายุขนาดนี้แล้ว (30 แล้ววว) ไม่ควรเป็นสิวหัวช้างแล้วนะ
ก็เลยเริ่มถามเรื่องประจำเดือน..... แล้วคุณหมอสิว ก็ส่งไปพบคุณหมอสู!!!
หมอสิวกลัวเราเป็นซีสต์ เพราะมีหลายคนที่เป็นสิวยักษ์แบบเรา พอส่งตรวจแล้วเจอซีสต์
พบหมอสู!!!
หมอให้เจาะเลือดดูฮอร์โมนส์ก่อนเลยค่ะ ผลออกมาว่าฮอร์โมนส์เพศชายเรามากกว่าของเพศหญิง อัตราส่วน 2:1 (คือได้ประมาณ สิบเอ็ด ต่อห้าจุดกว่าๆ ปกติควรบาลานซ์กัน) จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้ามัน มีสิวยักษ์ มีหนวด
และรักษาด้วยการกินยาคุมเหมือนเดิม หมอบอกให้กินซัก 6 เดือนดูก่อน กินมา 5 - 6 เดือนแล้วค่ะ พอหยุดกิน ปจด ก็ไม่มาอีก T T
ก็เลยต้องกินต่อเนื่อง
ตอนนี้ยังไม่ได้ไปพบหมออีก และไม่ได้ถามคุณหมอเรื่องการมีบุตรอะไรนะคะ ไม่รีบบบบ
ที่เล่าให้ฟัง เผื่อน้องๆสาวๆที่มีปัญหาแบบนี้ จะได้พอเดาสาเหตุได้ว่าเกิดจากอะไร และจะได้ไปรักษาได้ถูกจุดค่ะ
กว่าเราจะได้เจาะเลือดเนี่ย ผ่านมาแล้ว 17 ปี นับจากวันที่มีประจำเดือนครั้งแรกกก 55555
ป.ล. ยาคุมแต่ละตัวก็มีระดับฮอร์โมนส์ต่างกันนะคะ ใครมีอาการแบบนี้ปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อกินเองดีกว่าค่ะ ^^
เพราะฮอร์โมน....เรื่องเล่าจากรอบเดือน
เป็นเรื่องของธรรมชาติ เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ และพบว่ามีหลายคนที่มีอาการใกล้เคียงกันจึงคิดว่าเรื่องนี้น่าจะพอเป็นประโยชน์ให้กับสาวๆได้บ้างค่ะ
เริ่มตั้งแต่ต้น คือเราเริ่มมีประจำเดือนตอนอายุ 13 ตอนนั้นอยู่ ม.2 ก็เหมือนเด็กผู้หญิงเริ่มเป็นสาวทั่วไป คือประจำเดือนในช่วงแรกมาไม่สม่ำเสมอ (หรือจะเรียกว่ามากอยู่เสมอก็ได้) คือจะมาเยอะๆ ครั้งละประมาณ 2 สัปดาห์ (เผื่อคุณผู้ชายมาอ่านนะคะ ปกติจะมีประจำเดือนกัน 3-5-7 วัน ทุกๆ 28 วัน นับจาก ปจด มาวันแรก) พอหมด 2 สัปดาห์ไปแล้ว ก็ยังมีอยู่ ถึงจะน้อยแต่ก็ยังต้องใส่ผ้าอนามัย จนครบรอบใหม่ มันก็กลับมาเยอะอีกประมาณ 3-4 วัน *เราจำได้ว่าพีคสุดตอนนั้นคือมาติดต่อกัน 36 วัน ขุ่นพระ!!!
ช่วงปีแรกก็มาต่อเนื่องแบบนั้นค่ะ ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเรา ไม่ตื่นเต้นอะไร เพราะคิดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
มาพีคครั้งแรก น่าจะตอน ม.3 จำแม่นเลยว่ากำลังสอบอยู่ คือมันรู้สึกว่า ปจด กำลังเดินทางออกมา (ปกติผู้หญิงเราจะรู้สึกว่า ปจด เดินทางเวลาเปลี่ยนท่าทางเช่น นอนแล้วลุก นั่งแล้วยืนนะคะ) แต่นี่คือเรานั่งทำข้อสอบอยู่แล้วมันรู้สึกได้ เราเลยลองเอามือสอดเข้าไประหว่างกระโปรงกับเก้าอี้ คือเลือดติดมือเลยค่ะ
นึกสภาพที่เก้าอี้ไม้ๆแข็งๆ มีน้ำหกเลอะอยู่นะคะ คือออกมามากขนาดนั้น กระโปรงนี่เป็นแผนที่โลกเลย!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จำไม่ได้ว่าครูหากระโปรงอะไรมาเปลี่ยนให้ยังไง แต่ตอนนั้นเราขอออกมายืนสอบวิชาที่เหลือต่อนอกห้อง คือไม่กล้านั่งค่ะ กลัวมันออกมาอีก
จากนั้นวิถีปจด เราก็ยังคงมานานหลายวันอยู่ จนขึ้นม.ปลาย ที่เริ่มมาปีละ 2 ครั้ง (ประมาณ 6-7 เดือน มาทีนึง ครั้งละประมาณ 5-7 วัน)
แล้วแผนที่โลก ก็กลับมาเยือนกระโปรงนักเรียนเราเป็นครั้งที่ 2 ตอนอยู่ ม.5
คราวนี้จำได้ว่าคุณครูที่โรงเรียนออกไปซื้อ กกน จากโรบินสันบางรักมาให้เปลี่ยน เดจาวูค่ะ แต่ไม่ร้องไห้แล้ว สตรองงงง
และอีกครั้ง ตอนปี 1 กำลังนั่งแท็กซี่กลับบ้านพอดี เลยค่อยโชคดีหน่อย
มีพีคๆแบบนี้ 3 ครั้งในชีวิตค่ะ
เราไม่เคยไปหาหมอเลย เพราะคิดว่าฮอร์โมนเราคงไม่คงที่
จนมาช่วงปี 2 มั้งคะ ที่คิดว่าเออ ไปหาหมอเหอะ... เพื่อนเพิ่นไม่มีใครเป็นแบบนี้เลย
แล้วการพบสูติแพทย์ครั้งแรกก็เกิดขึ้น
ตอนนั้นใสๆเลยค่ะ ไปทั้งชุดนักศึกษากับเพื่อนผู้หญิง 1 คน นั่งรอนี่มีแต่คุณแม่อุ้มท้องมาหาหมอ
คุณหมอส่งไปอัลตราซาวด์ค่ะ ผลออกมาคือเราไม่มีอะไรผิดปกติ หมอเลยวินิจฉัยว่าเป็นที่ฮอร์โมน ให้เราลองทานฮอร์โมนดู 7 วัน พอยาหมดแล้ว ปจด ควรมาภายใน 2-3 วัน ซึ่งก็มาค่ะ นั่นหมายความว่าฮอร์โมนเรายังไม่คงที่นั่นเอง
*วิธีรักษาคือทานยาคุม เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนค่ะ*
เราก็กินไปสองสามแผง และก็เลิกกิน เพราะคิดว่าไม่ได้ร้ายแรงอะไร หมอบอกว่ามาน้อยๆ (นานๆมาที) ดีกว่ามาเยอะ
ชิวเลยค่ะ โล่งสบายทั้งปี 555
ผ่านมาอีก 5-6 ปี เราจะไปเรียนเมืองนอก ก็เลยแวะไปหาหมอหน่อย ก็เหมือนเดิมค่ะ อัลตราซาวด์ดูไม่มีอะไร
หมอก็ให้ยาคุมไปทาน พอทานรอบเดือนก็ปกติ ก็กินไปซัก 4-5 แผงก็หยุด
NOTE: เราเริ่มมีสิวยักษ์ตอนก่อนไปเมืองนอก และหลังกลับมาจากเมืองนอกตอนอายุ 25 เราเริ่มมีสิวผดผื่น ทั้งๆที่ก่อนไปไม่มีสิวเลยตั้งแต่เด็กนะคะ
คิดว่าอาจเป็นการเปลี่ยนแปลง น้ำ อากาศ มลภาวะ
เร่ืองสิวนี่ล่ะค่ะ....เป็นตัวเฉลย!!!
กลับจากเมืองนอกมา 2 ปี ก็ได้ขึ้นขาหยั่งครั้งแรกกกก T T
ตอนนั้นอายุ 27 แล้วค่ะ รู้สึกว่าประจำเดือนมาหลายวันละ ไม่หมดซะที คือมาน้อยแบบเหมือนตกขาวที่เป็นสีน้ำตาลอะค่ะ
รำคาญ...เลยไปหาหมอเลย ละหมอก็ถามว่าจะตรวจภายในไหม
คือใจนึงก็เอาวะ ให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกใจก็แบบ...เฮ้ยยย คืมปากเป็ดเหมือนที่เห็นในหนังเลยนะเว่ยยย
สุดท้ายก็ตรวจค่ะ พยาบาลถามว่าให้ปิดหน้ามั้ยคะ 555 ตอนนั้นคิดว่าหนูไม่รู้จะทำหน้ายังไง ปิดๆไปเหอะค่ะ
ผลออกมาก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ตรวจมะเร็งก็ไม่เจอ
รักษาวิธีเดิมค่ะ กินยาคุม (บ้างไม่กินบ้าง ไม่ซี)
อย่างที่เกริ่นไปใน Note คือช่วงนี้สิวยักษ์เรามาบ่อยมาก ตามหัวคิ้ว แก้มบ้าง และตรงคาง
เราก็ไปหาหมอตามคลินิค ฉีดสิวทั่วไป เค้าก็ขายคอร์สหน้าใส เลเซอร์ ล้างน้ำเกลือไรไปตามเรื่อง
พอฉีดสิวทีก็ยุบ 2อาทิตย์ก็ขึ้นใหม่ เป็นงี้ไปเรื่อยๆ ก็ขี้เกียจไปหาบ้าง (ออฟฟิศอยู่สาทร หาหมอสยาม เหนื่อยเดินทาง)
เราก็เลยไปหาหมอที่คลินิกผิวหนัง ของโรงพยาบาลใกล้ๆออฟฟิศแทนค่ะ สิวขึ้นก็เดินไปฉีดได้เลย
คุณหมอก็ฉีดยา (เราว่ายาหมอรพ.แรงกว่าคลินิกนะ รู้สึกได้ผลกว่า) ก็ดูอาการแล้วก็ให้เริ่มทานโรแอคคิวเท็น
ขึ้น ยุบ ขึ้น ยุบ ไปหาบ่อยๆจนหมอเอะใจ คุณหมอบอกว่าอายุขนาดนี้แล้ว (30 แล้ววว) ไม่ควรเป็นสิวหัวช้างแล้วนะ
ก็เลยเริ่มถามเรื่องประจำเดือน..... แล้วคุณหมอสิว ก็ส่งไปพบคุณหมอสู!!!
หมอสิวกลัวเราเป็นซีสต์ เพราะมีหลายคนที่เป็นสิวยักษ์แบบเรา พอส่งตรวจแล้วเจอซีสต์
พบหมอสู!!!
หมอให้เจาะเลือดดูฮอร์โมนส์ก่อนเลยค่ะ ผลออกมาว่าฮอร์โมนส์เพศชายเรามากกว่าของเพศหญิง อัตราส่วน 2:1 (คือได้ประมาณ สิบเอ็ด ต่อห้าจุดกว่าๆ ปกติควรบาลานซ์กัน) จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้ามัน มีสิวยักษ์ มีหนวด
และรักษาด้วยการกินยาคุมเหมือนเดิม หมอบอกให้กินซัก 6 เดือนดูก่อน กินมา 5 - 6 เดือนแล้วค่ะ พอหยุดกิน ปจด ก็ไม่มาอีก T T
ก็เลยต้องกินต่อเนื่อง
ตอนนี้ยังไม่ได้ไปพบหมออีก และไม่ได้ถามคุณหมอเรื่องการมีบุตรอะไรนะคะ ไม่รีบบบบ
ที่เล่าให้ฟัง เผื่อน้องๆสาวๆที่มีปัญหาแบบนี้ จะได้พอเดาสาเหตุได้ว่าเกิดจากอะไร และจะได้ไปรักษาได้ถูกจุดค่ะ
กว่าเราจะได้เจาะเลือดเนี่ย ผ่านมาแล้ว 17 ปี นับจากวันที่มีประจำเดือนครั้งแรกกก 55555
ป.ล. ยาคุมแต่ละตัวก็มีระดับฮอร์โมนส์ต่างกันนะคะ ใครมีอาการแบบนี้ปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อกินเองดีกว่าค่ะ ^^