[CR] JAPAN TRIP ON OCTOBER :: Day 2 :: Flea Market at Yoyogi park

[2015] JAPAN TRIP 23 OCT – 31 OCT :: TOKYO – SENDAI – FUKUSHIMA
Day2) 24 Oct : Yoyogi Park, Flea Market and Earth Garden Autumn Craft Fair

เช้านี้เริ่มต้นวันด้วยการออกเดินทางจากที่พัก (Ueno) เวลา 7.30 น. เพื่อไปเดินเล่นที่ สวน Yoyogi และไปงาน “Flea  Market”  ที่จัดขึ้นที่นี่ ซึ่งก่อนเดินทางมาญี่ปุ่นได้ทำการเช็คตารางของการเปิดตลาดของมือสองมาแล้วจาก เว็บไซต์ JNTO ทำให้ทราบว่าจะมีจัดขึ้นตรงกับช่วงที่เดินทางพอดี นั้นคือวันที่ 24 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.00 [http://www.jnto.go.jp/eng/pdf/special/antique_fleamarketsintokyo.pdf]

แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เรารู้เลยว่า จะไปเจออีกหนึ่งอีเว้นท์ที่สนุกและน่าประทับใจพอๆกัน ซึ่งมีชื่อว่างาน “Earth Garden Autumn Craft Fair” ที่จัดอยู่ในบริเวณที่เรียกได้ว่า ติดกัน จนนึกว่างานเดียวกันซะอีก ทั้งสองงานมีบรรยากาศที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน  แต่ความน่าประทับใจนั้นให้ไปเต็มๆเลยสำหรับทั้งสองงาน

เริ่มต้นด้วยการถึงนั่งรถไฟ Metro จากสถานี Ueno ไปยัง สถานี Harajuku และไปเดินตามป้ายที่ชี้ไปยังสวนสาธารณะโยโยงิ (Yoyogi Park) ภาพด้านล่างเป็นภาพจากทางเข้ามาทาง west gate ค่ะ


จากหน้าประตูเดินไปเรื่อยๆ จนเจอสนามหญ้ากว้างๆ ที่มีน้ำพุ 2 อันใหญ่ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของสวนนี้อยู่ด้านขวามือ ให้หันหน้าหาน้ำพุและเดินตรงไปจน เจอสะพานลอยใหญ่ๆ ที่มีลาย Graffiti อยู่ใต้สะพาน และเป็นสะพานที่ดูเหมือนว่าถ้าข้ามไปแล้วจะออกนอกสวน


นั้นแหละ ข้ามไปเลยจ้าาา
(ภาพด้านล่างจะเป็นภาพที่พอขึ้นบันไดมาสักเกือบถึงล่ะ จะเห็นวิวประมาณนี้ของสะพาน)


ถ้าคิดว่า อธิบาย งง รบกวนดูจากแผนที่ด้านล่างนี้ได้เลย จขกท.ที่ได้วงจุดจัดงานทั้งสองอันไว้ให้ล่ะ
เพราะตอนที่ไป คือไปแบบไม่รู้มันเลยตั้งอยู่ตรงไหน รู้แค่ว่ามันจัดที่นี่ มันเลยไม่ได้ง่ายเหมือนตอนเขียนอธิบาย ประกอบกับสวนมันกว้างมากกกกกกกก ทำให้เดิน (หลง) เล่นซะเหนื่อย ถามคนก็ไม่มีคนรู้ แถมทำหน้ามึนใส่อีก เพราะสวนสาธารณะแห่งนี้มีจัดกิจกรรมเยอะมาก จนเกือบถอดใจไม่ไปแล้ว เพราะหาไม่เจอสักที


แต่ด้วยบุญ และความกล้าที่สะสมมา ทำให้ตัดสินใจลองถามครั้งสุดท้ายกับคุณลุงรปภ.ที่ขับจักรยานผ่านมา คุณลุงแกรู้ค่ะ ว่า Flea Market ที่อยากจะไปเนี่ยมันอยู่ตรงไหน แถมแกพอพูดภาษาปะกิดได้นิดหน่อยทำให้ง่ายขึ้นไปอีก หนูต้องขอบคุณคุณลุงมากๆที่ทำให้หนูได้เจอประสบการณ์ดีๆ ในเวลาต่อมา [คือตอนนั้นหลงเดินไปถึงจุด Bird Sanctuary แล้ว จากจุดเริ่มต้นคือริมซ้ายสุดของแผนที่แถวๆ คำว่า Office นั่นแหละ ^^"]

ด้วยความว่าเดินหลงเยอะ ก็ขอ SNAP ภาพไปเรื่อยๆด้วยระหว่างทาง





ระหว่างอยู่บนสะพานก็มองลงมาเจอเหมือนเค้ากับกำลังตั้งร้านกันอยู่ ก็คิดว่า สงสัยมาเร็วไป แต่ตอนนั้นก็เกือบจะ 9 โมงแล้วนะ หรือว่าเราดูเวลาผิดว่า Flea Market เปิดตอน 8.00


ปรากฏว่างานนี้ไม่ใช่งาน Flea Market ที่ตั้งใจจะมาค่ะ
แต่เป็นงานที่ชื่อว่า Earth Garden Autumn Craft Fair ซึ่งเป็นงานกึ่งๆ เทศกาล คล้ายๆ ART BOX บ้านเราอ่าแหละ คือมีขายของ ขายอาหาร มีดนตรีเล่นสด 3 จุด เป็นเวทีใหญ่ 1 และเป็นแบบย่อมๆ อีก 2 จุด







แต่จุดเด่นของมันคือ งานนี้เรารักโลกค่ะ ร้านอาหารและเครื่องดื่มจะไม่มีให้ภาชนะ
คุณต้องเตรียมมาเองจากบ้าน แต่ถ้าคุณไม่ได้เอามาไม่เป็นไร เค้ามีขายในราคา 100 เยน
เมื่อกินเสร็จเช็คให้สะอาดเอาไปคืนจุด Re Use ได้เงินคืน 50 เยน
(ถ้าสังเกตจะเห็นว่าฝรั่งคนนั้นกินข้าวและดื่มเบียร์สด จากจานและแก้วพลาสติก)


หรือจะดูชัดๆ จากอาหารที่ จขกท. กินต่อไปนี้  พิซซ่าเตาถ่าน ราคา 700 เยน เป็นแบบ half/half  คือไซส์ไม่ได้ใหญ่มาก แต่พออยู่ท้องค่ะ แน่นอนว่า ภาชนะที่ใช้ก็ต้องเป็นจานและแก้ว ที่เค้าขายอยู่แล้ว แต่อยากจะบอกว่าจานเนี่ย คุณภาพดีแบบน่าเอาเก็บไปใช้ต่อเลย แต่ไม่ได้เก็บมานะคะ เอาไปแลกตังค์คืน 5555


สำหรับจานต่อไป คือข้าวราดแกงกระหรี่ 2 ชนิด คือแบบเหลว กับแบบข้นๆ (ที่กองอยู่ด้านบน)
กินผสมกันแล้วอร่อยเลย ถ้ากินแยกก็ได้  คือ แบบข้นๆ จะฉุนและเข้มข้นกว่า
(แน่นอนว่า จานคือ จานที่ใส่พิซซ่า เมื่อกี้นั่นแหละ ใครจะยอมเสียตังค์ซื้อ 2ใบ)


ส่วนเบียร์ถ้าไม่อยากเสียตังค์ค่าแก้ว ก็มีแบบกระป๋องขาย มีหลายยี่ห้อให้เลือกสรรตามใจชอบเลย


และเบียร์กระป๋องที่เป็นที่นิยมจากชาวญี่ปุ่นในวันนั้นคือ เบียร์สิงห์ ทำไมถึงมีขายน่ะหรอ ก็เพราะมีบูทอาหารไทยมาเปิดจ้า แต่คนขายเป็นคนญี่ปุ่นนะคะ


ผ่านจากจุดของงาน Earth Garden Autumn Craft Fair มา ขอนำท่านเข้าสู่พาร์ทของ Flea Market ที่ตั้งใจมาตั้งแต่แรกกันบ้างค่ะ จากจุดที่จัดงานเมื่อกี้ไม่ไกล (ดูได้จากแผนที่ด้านบน) คุณจะเหมือนเดินผ่านความวุ่นวายของงานเทศกาล เข้าสู่ความสงบ และมนต์ขลังปนน่ารักของโซนนี้


ทั้งคนขายและคนเดินดูของ ไม่อายุเยอะไปเลย ก็เป็นคนที่ตั้งใจมาดูของกันจริงๆ จะมีหลุดมาก็นักท่องเที่ยวอย่างเรานี่แหละค่ะ คนขายบางร้านเหมือนแค่มาตั้งร้าน และรอคุยกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ที่แวะเวียนมา บ้างก็เป็นคนซื้อ บ้างก็เป็นเพื่อนคนขายด้วยกัน

ส่วนของที่ขายก็มีตั้งแต่ของเล่น ของแต่งบ้าน ของใช้ ของเก่า ของสะสม งานศิลปะ กิโมโน  ฯลฯ ทุกสิ่งอย่างเลยว่างั้นเถอะ บางทีเดินๆไปก็เจอของที่คาดไม่ถึงอยู่เยอะ และที่คาดไม่ถึงนี่ไม่ใช่แค่ของนะ แต่เป็น ราคา ด้วย มีตั้งแต่ราคา 100 เยน จนถึง เป็น 100,000 เยน





อย่างถาดนี้ ทุกอย่างในถาดชิ้นละ 100 เยน


ตัวอย่างของที่ตบมาได้จากที่นี่ ก็มีตามภาพด้านล่างนี้เลยจ้า (จริงๆ มีอีก แต่บางชิ้นไม่ได้ถ่ายไว้)
เกือบทุกตัวในภาพ ยกเว้น รถที่เป็นไฟแช็ค ได้มาในราคาชิ้นละ 100 เยน และชิ้นที่ภาคภูมิใจที่สุด คือ หน้ากากเท็นงู ที่ได้มา ฟรี !!!


คุณลุงคนขาย และเพื่อนของคุณลุงน่ารักมากๆ พยายามอธิบายของแต่ละชิ้นที่เราสนใจเป็นภาษาญี่ปุ่น ปนอังกฤษแบบช้าๆ พร้อมบอกเราว่า หนูเนี่ยโชคดีนะที่มาเจอคุณลุงร้านนี้ เพราะโน่น นี่ นั้น บลาๆๆ แต่สนุกมากๆ คุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็ประทับใจเป็นที่สุดค่ะ

ครั้งหน้าหากมีโอกาสได้มาอีก ก็จะเช็คเวลาเพื่อมาที่นี่อีกค่ะ

วันนี้ยังไม่จบ แต่หลังจากนี้ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ไปเดินเล่นที่ที่ใครๆก็ไปกันอย่างฮาราจุกุ ชิบุยะ ชินจุกุ ค่ะ
ขอข้ามไปเลยล่ะกันนะคะ ^^


แล้วเดียวกระทู้ต่อไปจะเป็น วันที่ จขกท จะไปเที่ยว Naruko Gorge, Sendai ค่ะ หากชอบกันอย่าลืมติดตามนะคะ
-----------------------------------------------------------------------------------------

Day1 : SAWARA >> http://pantip.com/topic/34520411
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่