O==============================================O
มรรค 8
O==============================================O
https://www.facebook.com/BossKubPom
1 สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) (สัมมา = โดยชอบ , ดี , ถูกต้อง , ถูกถ้วน , สมบูรณ์ , จริง , แท้ )
2 สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ) (ดำริ = คิด , ตริตรอง)
3 สัมมาวาจา (วาจาชอบ) (วาจา = คำพูด , ถ้อยคำ)
4 สัมมากัมมันตะ (การงานชอบ) (ประพฤติชอบ, กระทำชอบ)
5 สัมมาอาชีวะ (อาชีวะชอบ) (อาชีพชอบ , การเลี้ยงชีพชอบ)
6 สัมมาวายามะ (ความเพียรชอบ) ( เพียร = ความบากบั่น)
7 สัมมาสติ (ความระลึกชอบ)
8 สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ)
หรือ
อริยอัฎฐังคิกมัคคปาฐะ (อริยะมรรคมีองค์ 8)
1 สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)
2 สัมมาสังกัปโป (ความดำริชอบ)
3 สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ)
4 สัมมากัมมันโต (การทำการงานชอบ)
5 สัมมาอาชีโว (การเลี้ยงชีวิตชอบ)
6 สัมมาวายาโม (ความพากเพียรชอบ)
7 สัมมาสติ (ความระลึกชอบ)
8 สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ)
บทสวด
https://www.youtube.com/watch?v=Lc8VT6r0oh8
(ท่านพุทธทาส)
_______________________________________
มรรค = หนทาง คือทางเดิน
มรรค = ทาง หมายถึง ทางสายกลาง
(ท่านพุทธทาส)
_______________________________________
ทิฏฐิ = ความเห็น , ทฤษฎี;
ความเห็นผิดมี ๒ คือ
๑. สัสสตทิฏฐิ ความเห็นว่าเที่ยง
๒. อุจเฉททิฏฐิ ความเห็นว่าขาดสูญ;
อีกหมวดหนึ่งมี ๓ คือ
๑. อกิริยทิฏฐิ ความเห็นว่าไม่เป็นอันทำ
๒. อเหตุกทิฏฐิ ความเห็นว่าไม่มีเหตุ
๓. นัตถิกทิฏฐิ ความเห็นว่าไม่มี คือถืออะไรเป็นหลักไม่ได้เช่น มารดาบิดาไม่มี เป็นต้น;
ในภาษาไทยมักหมายถึงการดื้อดึงในความ เห็น (พจนานุกรมเขียนทิฐิ)
_______________________________________
สัมมากัมมันตะ = การงานชอบ
- บางแห่งแปลว่า กระทำชอบ ครับ
คือ การกระทำที่เว้นจากความประพฤติชั่วทางกาย 3 อย่าง ได้แก่
งดเว้นจากการฆ่าสัตว์
งดเว้นจากการลักทรัพย์
งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
- กัมมันตะ แปลแบบแคบๆ คือ การกระทำกิจกรรม การทำกิจ การทำงาน
- พฤติกรรมทางกาย การกระทำทางกาย
- เป็นประพฤติชอบ กระทำชอบครับ ว่าด้วยเรื่องพฤติกรรมต่างๆ
http://pantip.com/topic/32603671
_______________________________________
อาชีวะ
อาชีพ , การเลี้ยงชีพ , ความเพียรพยายามในการแสวงหาปัจจัยยังชีพ , การทำมาหากิน
_______________________________________
วายามะ
ความพยายาม, ความหมั่น, ความบากบั่น
_______________________________________
สติ
ความระลึกได้ , นึกได้ , ความไม่เผลอ , การคุมใจไว้กับกิจ หรือกุมจิตไว้กับสิ่งที่เกี่ยวข้อง,
จำการที่ทำและคำที่พูด แล้ว แม้นานได้
(ข้อ ๑ ในธรรมมีอุปการะมาก ๒ , ข้อ ๓ ในพละ ๕ , ข้อ ๑ ในโพชฌงค์ ๗ ,
ข้อ ๖ ในสัทธรรม ๗ , ข้อ ๙ ในนาถกรณธรรม ๑๐)
_______________________________________
เพียร
น. ความบากบั่น, ความกล้าแข็ง. ก. พยายามจนกว่าจะสําเร็จ, บากบั่น.
สมาธิ
น. ความตั้งมั่นแห่งจิต; ความสํารวมใจให้แน่วแน่ เพื่อให้จิตใจสงบหรือเพื่อให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง.
_______________________________________
มรรค 2 ข้อแรกเป็นปัญญา
มรรค 3 ข้อกลางเป็นศีล
มรรค 3 ข้อท้ายเป็นสมาธิ
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
1 สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์
เป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์
เป็นความรู้ในความดับแห่งทุกข์
เป็นความรู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับแห่งทุกข์
_______________________________________
รู้อริยสัจ 4
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
2 สัมมาสังกัปปะ, สัมมาสังกัปโป (ความดำริชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ความดำริในการออกจากกาม
ความดำริในการไม่มุ่งร้าย
ความดำริในการไม่เบียดเบียน
_______________________________________
- ทิ้งความคิดหรือละ กาม พยาบาท เบียดเบียน
ทิ้งความคิดอกุศลทั้งปวง ทางกาย วาจา ใจ
ทั้ง ยืน เดิน นั่ง นอน
- ทำข้อนี้ได้ เดินมรรคครบ 8 เลย
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
3 สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดไม่จริง
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดส่อเสียด
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดหยาบ
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ
_______________________________________
ง่าย ๆ ก็แค่ตามรักษาความจริง
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
4 สัมมากัมมันตะ, สัมมากัมมันโต (การทำการงานชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการฆ่า
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการถือเอาสิ่งที่เจ้าของไม่ได้ให้แล้ว
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย
_______________________________________
รักษาศีล 3 ข้อแรก
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
5 สัมมาอาชีวะ, สัมมาอาชีโว (การเลี้ยงชีวิตชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ละการเลี้ยงชีวิตที่ผิดเสีย
ย่อมสำเร็จความเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตที่ชอบ
_______________________________________
ไม่ทำอาชีพ 5 อย่าง
1. การค้าขายศัสตรา (ศัสตรา = ของมีคมเป็นเครื่องแทงฟัน)
2. การค้าขายสัตว์
3. การค้าขายเนื้อสัตว์
4. การค้าขายน้ำเมา
5. การค้าขายยาพิษ
_______________________________________
ถ้าจะให้ดีเยี่ยม ถ้าใครอยากหลุดพ้น
ก็เอา เดรัจฉานวิชา ออกไปจากตัว มีประมาณ 110 ข้อ
http://media.watnapahpong.org/video/SY941DB1H2B3/เปิดธรรมที่ถูกปิด-เดรัจฉานวิชา
http://download.watnapahpong.org/watnapahpong/vdo/tirajana.mp4
_______________________________________
ง่าย ๆ เลี้ยงชีวิตโดยไม่เบียดเบียน
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
6 สัมมาวายามะ, สัมมาวายาโม (ความพากเพียรชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่ยังไม่เกิด
ไม่ให้เกิดขึ้น
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะละอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่เกิดขึ้นแล้ว
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดขึ้นให้เกิดขึ้น
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อความตั้งอยู่ ความไม่เลอะเลือน
ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ
ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว
_______________________________________
ปรารภ = กล่าวถึง; ตั้งต้น; ดําริ.
เพียร
ความบากบั่น, ความกล้าแข็ง. ก. พยายามจนกว่าจะสําเร็จ, บากบั่น
อกุศลธรรม
ธรรมที่เป็นอกุศล, ธรรมฝ่ายอกุศล, ธรรมที่ชั่ว, ธรรมฝ่ายชั่ว
อกุศล = บาป, ชั่ว, ไม่ฉลาด, ความชั่ว, กรรมชั่ว
กุศลธรรม = ธรรมที่เป็นกุศล , ธรรมฝ่ายกุศล , ธรรมที่ดี , ธรรมฝ่ายดี
กุศล = บุญ , ความดี , ฉลาด , สิ่งที่ดี , กรรมดี
ไพบูลย์ = ความเต็มเปี่ยม, ความเต็มที่. ว. เต็มเปี่ยม, เต็มที่
เจริญ = ก. เติบโต, งอกงาม, ทําให้งอกงาม
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
7 สัมมาสติ (ความระลึกชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้
_______________________________________
กาย เช่น ลมหายใจ การเคลื่อนไหวของตัวเรา การทำงาน ณ ขณะนั้น
เวทนา อยู่กับ อุเบกขา
จิต ให้เจริญ อานาปานสติ
ธรรม ตามให้เห็นความไม่เที่ยง จางคลาย ดับไม่เหลือ สลัดคืน
ดูทั้งภายนอกและภายในก็ได้
_______________________________________
กิเลส = สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง , ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด
ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์
สัมปชัญญะ
ความรู้ตัวอยู่เสมอ, ความไม่เผลอตัว,
มักใช้เข้าคู่ กับคำ สติ เป็น สติสัมปชัญญะ.
เวทนา
ความเสวยอารมณ์ , ความรู้สึก , ความรู้สึกสุขทุกข์ มี ๓ อย่าง คือ
๑. สุขเวทนา ความรู้สึกสุขสบาย
๒. ทุกขเวทนา ความรู้สึกไม่สบาย
๓. อทุกขมสุขเวทนา ความรู้สึกไม่สุขไม่ทุกข์ คือ เฉย ๆ
เรียกอีกอย่างว่าอุเบกขาเวทนา; อีกหมวด หนึ่งจัดเป็น
เวทนา ๕ คือ ๑. สุข สบายกาย ๒. ทุกข์ ไม่สบายกาย ๓. โสมนัส สบายใจ
๔. โทมนัส ไม่สบายใจ ๕. อุเบก- ขา เฉยๆ;
ในภาษาไทย ใช้หมายความว่า เจ็บปวดบ้าง สงสารบ้าง ก็มี
จิต = ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ , สภาพที่นึกคิด , ความคิด , ใจ
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
8 สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากธรรมที่เป็นอกุศลทั้งหลาย
เข้าถึงปฐมฌาณ ประกอบด้วย วิตก วิจารณ์ มีปีติและสุขอันเกิดจาก
การวิเวกแล้วแลอยู่ เพราะความที่วิตกวิจารณ์ทั้งสองระงับลง
เข้าถึงทุติยฌาณ เป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจภายใน ให้สมาธิเป็นธรรม
อันเอกผุดมีขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจารณ์ มีแต่และสุขอันเกิดจากสมาธิแล้วแลอยู่
ย่อมเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ และสัปชัญญะ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย
ชนิดที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย ย่อมกล่าวสรรเสริญผู้นั้นว่า เป็นผู้อยู่
อุเบกขา มีสติ อันปรกติสุข ดังนี้ เข้าถึงตติยฌาณ แล้วแลอยู่
เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่งโสมนัส
และโทมนัสทั้งสองในการก่อน เข้าถึงจตุตฌาณ ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข
มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่
_______________________________________
สงัด = ก. เงียบสงบ เช่น คลื่นสงัด ลมสงัด. ว. เงียบเชียบ
วิตก
ความตรึก , ตริ , กายยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ หรือปักจิตลงสู่อารมณ์ , การคิด , ความดำริ;
ไทยใช้ ว่าเป็นห่วงกังวล
วิจารณ์
1. พิจารณา , ไตร่ตรอง
2. สอบสวน , ตรวจตรา
3. คิดการ , กะการ , จัดเตรียม , จัดแจง , ดูแล , จัดดำเนินการ
4. ในภาษาไทย มักหมายถึง ติชม , แสดงความคิดเห็นในเชิงตัดสินคุณค่า ชี้ข้อดีข้อด้อย
ปีติ
ความอิ่มใจ , ความดื่มด่ำในใจ มี ๕ คือ
1. ขุททกาปีติ ปีติเล็กน้อยพอขนชันน้ำตาไหล
2. ขณิกาปีติ ปีติชั่วขณะรู้สึก แปลบๆ ดุจฟ้าแลบ
3. โอกกันติกาปีติ ปีติเป็นระลอกรู้สึกซู่ลงมาๆ ดุจคลื่นซัดฝั่ง
4. อุพเพคาปีติ ปีติโลดลอย ให้ใจฟูตัวเบา หรืออุทานออกมา
5. ผรณาปีติ ปีติซาบซ่าน เอิบอาบไปทั่วสรรพางค์เป็นของประกอบกับสมาธิ
อุเบกขา
1. ความวางใจเป็นกลาง ไม่เอนเอียงด้วยชอบหรือชัง , ความวางใจเฉยได้ ไม่ยินดียินร้าย
2. ความรู้สึกเฉย ๆ ไม่สุขไม่ทุกข์ เรียกเต็มว่าอุเบกขาเวทนา
โสมนัส = ความดีใจ , ความสุขใจ , ความปลาบปลื้ม
โทมนัส = ความเสียใจ , ความเป็นทุกข์ใจ
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
มรรค 8 เดินครบถ้วนสมบูรณ์ จะทำให้ไม่มี อหังการมมังการ
ดับนิวรณ์ 5
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
http://www.84000.org/tipitaka/pita
มรรค 8 หนึ่งในหนทางไป โสดาบัน
O==============================================O
มรรค 8
O==============================================O
https://www.facebook.com/BossKubPom
1 สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) (สัมมา = โดยชอบ , ดี , ถูกต้อง , ถูกถ้วน , สมบูรณ์ , จริง , แท้ )
2 สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ) (ดำริ = คิด , ตริตรอง)
3 สัมมาวาจา (วาจาชอบ) (วาจา = คำพูด , ถ้อยคำ)
4 สัมมากัมมันตะ (การงานชอบ) (ประพฤติชอบ, กระทำชอบ)
5 สัมมาอาชีวะ (อาชีวะชอบ) (อาชีพชอบ , การเลี้ยงชีพชอบ)
6 สัมมาวายามะ (ความเพียรชอบ) ( เพียร = ความบากบั่น)
7 สัมมาสติ (ความระลึกชอบ)
8 สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ)
หรือ
อริยอัฎฐังคิกมัคคปาฐะ (อริยะมรรคมีองค์ 8)
1 สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)
2 สัมมาสังกัปโป (ความดำริชอบ)
3 สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ)
4 สัมมากัมมันโต (การทำการงานชอบ)
5 สัมมาอาชีโว (การเลี้ยงชีวิตชอบ)
6 สัมมาวายาโม (ความพากเพียรชอบ)
7 สัมมาสติ (ความระลึกชอบ)
8 สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ)
บทสวด
https://www.youtube.com/watch?v=Lc8VT6r0oh8
(ท่านพุทธทาส)
_______________________________________
มรรค = หนทาง คือทางเดิน
มรรค = ทาง หมายถึง ทางสายกลาง
(ท่านพุทธทาส)
_______________________________________
ทิฏฐิ = ความเห็น , ทฤษฎี;
ความเห็นผิดมี ๒ คือ
๑. สัสสตทิฏฐิ ความเห็นว่าเที่ยง
๒. อุจเฉททิฏฐิ ความเห็นว่าขาดสูญ;
อีกหมวดหนึ่งมี ๓ คือ
๑. อกิริยทิฏฐิ ความเห็นว่าไม่เป็นอันทำ
๒. อเหตุกทิฏฐิ ความเห็นว่าไม่มีเหตุ
๓. นัตถิกทิฏฐิ ความเห็นว่าไม่มี คือถืออะไรเป็นหลักไม่ได้เช่น มารดาบิดาไม่มี เป็นต้น;
ในภาษาไทยมักหมายถึงการดื้อดึงในความ เห็น (พจนานุกรมเขียนทิฐิ)
_______________________________________
สัมมากัมมันตะ = การงานชอบ
- บางแห่งแปลว่า กระทำชอบ ครับ
คือ การกระทำที่เว้นจากความประพฤติชั่วทางกาย 3 อย่าง ได้แก่
งดเว้นจากการฆ่าสัตว์
งดเว้นจากการลักทรัพย์
งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
- กัมมันตะ แปลแบบแคบๆ คือ การกระทำกิจกรรม การทำกิจ การทำงาน
- พฤติกรรมทางกาย การกระทำทางกาย
- เป็นประพฤติชอบ กระทำชอบครับ ว่าด้วยเรื่องพฤติกรรมต่างๆ
http://pantip.com/topic/32603671
_______________________________________
อาชีวะ
อาชีพ , การเลี้ยงชีพ , ความเพียรพยายามในการแสวงหาปัจจัยยังชีพ , การทำมาหากิน
_______________________________________
วายามะ
ความพยายาม, ความหมั่น, ความบากบั่น
_______________________________________
สติ
ความระลึกได้ , นึกได้ , ความไม่เผลอ , การคุมใจไว้กับกิจ หรือกุมจิตไว้กับสิ่งที่เกี่ยวข้อง,
จำการที่ทำและคำที่พูด แล้ว แม้นานได้
(ข้อ ๑ ในธรรมมีอุปการะมาก ๒ , ข้อ ๓ ในพละ ๕ , ข้อ ๑ ในโพชฌงค์ ๗ ,
ข้อ ๖ ในสัทธรรม ๗ , ข้อ ๙ ในนาถกรณธรรม ๑๐)
_______________________________________
เพียร
น. ความบากบั่น, ความกล้าแข็ง. ก. พยายามจนกว่าจะสําเร็จ, บากบั่น.
สมาธิ
น. ความตั้งมั่นแห่งจิต; ความสํารวมใจให้แน่วแน่ เพื่อให้จิตใจสงบหรือเพื่อให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง.
_______________________________________
มรรค 2 ข้อแรกเป็นปัญญา
มรรค 3 ข้อกลางเป็นศีล
มรรค 3 ข้อท้ายเป็นสมาธิ
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
1 สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์
เป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์
เป็นความรู้ในความดับแห่งทุกข์
เป็นความรู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับแห่งทุกข์
_______________________________________
รู้อริยสัจ 4
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
2 สัมมาสังกัปปะ, สัมมาสังกัปโป (ความดำริชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ความดำริในการออกจากกาม
ความดำริในการไม่มุ่งร้าย
ความดำริในการไม่เบียดเบียน
_______________________________________
- ทิ้งความคิดหรือละ กาม พยาบาท เบียดเบียน
ทิ้งความคิดอกุศลทั้งปวง ทางกาย วาจา ใจ
ทั้ง ยืน เดิน นั่ง นอน
- ทำข้อนี้ได้ เดินมรรคครบ 8 เลย
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
3 สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดไม่จริง
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดส่อเสียด
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดหยาบ
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ
_______________________________________
ง่าย ๆ ก็แค่ตามรักษาความจริง
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
4 สัมมากัมมันตะ, สัมมากัมมันโต (การทำการงานชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการฆ่า
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการถือเอาสิ่งที่เจ้าของไม่ได้ให้แล้ว
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย
_______________________________________
รักษาศีล 3 ข้อแรก
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
5 สัมมาอาชีวะ, สัมมาอาชีโว (การเลี้ยงชีวิตชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ละการเลี้ยงชีวิตที่ผิดเสีย
ย่อมสำเร็จความเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตที่ชอบ
_______________________________________
ไม่ทำอาชีพ 5 อย่าง
1. การค้าขายศัสตรา (ศัสตรา = ของมีคมเป็นเครื่องแทงฟัน)
2. การค้าขายสัตว์
3. การค้าขายเนื้อสัตว์
4. การค้าขายน้ำเมา
5. การค้าขายยาพิษ
_______________________________________
ถ้าจะให้ดีเยี่ยม ถ้าใครอยากหลุดพ้น
ก็เอา เดรัจฉานวิชา ออกไปจากตัว มีประมาณ 110 ข้อ
http://media.watnapahpong.org/video/SY941DB1H2B3/เปิดธรรมที่ถูกปิด-เดรัจฉานวิชา
http://download.watnapahpong.org/watnapahpong/vdo/tirajana.mp4
_______________________________________
ง่าย ๆ เลี้ยงชีวิตโดยไม่เบียดเบียน
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
6 สัมมาวายามะ, สัมมาวายาโม (ความพากเพียรชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่ยังไม่เกิด
ไม่ให้เกิดขึ้น
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะละอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่เกิดขึ้นแล้ว
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดขึ้นให้เกิดขึ้น
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อความตั้งอยู่ ความไม่เลอะเลือน
ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ
ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว
_______________________________________
ปรารภ = กล่าวถึง; ตั้งต้น; ดําริ.
เพียร
ความบากบั่น, ความกล้าแข็ง. ก. พยายามจนกว่าจะสําเร็จ, บากบั่น
อกุศลธรรม
ธรรมที่เป็นอกุศล, ธรรมฝ่ายอกุศล, ธรรมที่ชั่ว, ธรรมฝ่ายชั่ว
อกุศล = บาป, ชั่ว, ไม่ฉลาด, ความชั่ว, กรรมชั่ว
กุศลธรรม = ธรรมที่เป็นกุศล , ธรรมฝ่ายกุศล , ธรรมที่ดี , ธรรมฝ่ายดี
กุศล = บุญ , ความดี , ฉลาด , สิ่งที่ดี , กรรมดี
ไพบูลย์ = ความเต็มเปี่ยม, ความเต็มที่. ว. เต็มเปี่ยม, เต็มที่
เจริญ = ก. เติบโต, งอกงาม, ทําให้งอกงาม
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
7 สัมมาสติ (ความระลึกชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้
_______________________________________
กาย เช่น ลมหายใจ การเคลื่อนไหวของตัวเรา การทำงาน ณ ขณะนั้น
เวทนา อยู่กับ อุเบกขา
จิต ให้เจริญ อานาปานสติ
ธรรม ตามให้เห็นความไม่เที่ยง จางคลาย ดับไม่เหลือ สลัดคืน
ดูทั้งภายนอกและภายในก็ได้
_______________________________________
กิเลส = สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง , ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด
ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์
สัมปชัญญะ
ความรู้ตัวอยู่เสมอ, ความไม่เผลอตัว,
มักใช้เข้าคู่ กับคำ สติ เป็น สติสัมปชัญญะ.
เวทนา
ความเสวยอารมณ์ , ความรู้สึก , ความรู้สึกสุขทุกข์ มี ๓ อย่าง คือ
๑. สุขเวทนา ความรู้สึกสุขสบาย
๒. ทุกขเวทนา ความรู้สึกไม่สบาย
๓. อทุกขมสุขเวทนา ความรู้สึกไม่สุขไม่ทุกข์ คือ เฉย ๆ
เรียกอีกอย่างว่าอุเบกขาเวทนา; อีกหมวด หนึ่งจัดเป็น
เวทนา ๕ คือ ๑. สุข สบายกาย ๒. ทุกข์ ไม่สบายกาย ๓. โสมนัส สบายใจ
๔. โทมนัส ไม่สบายใจ ๕. อุเบก- ขา เฉยๆ;
ในภาษาไทย ใช้หมายความว่า เจ็บปวดบ้าง สงสารบ้าง ก็มี
จิต = ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ , สภาพที่นึกคิด , ความคิด , ใจ
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
8 สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ)
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากธรรมที่เป็นอกุศลทั้งหลาย
เข้าถึงปฐมฌาณ ประกอบด้วย วิตก วิจารณ์ มีปีติและสุขอันเกิดจาก
การวิเวกแล้วแลอยู่ เพราะความที่วิตกวิจารณ์ทั้งสองระงับลง
เข้าถึงทุติยฌาณ เป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจภายใน ให้สมาธิเป็นธรรม
อันเอกผุดมีขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจารณ์ มีแต่และสุขอันเกิดจากสมาธิแล้วแลอยู่
ย่อมเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ และสัปชัญญะ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย
ชนิดที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย ย่อมกล่าวสรรเสริญผู้นั้นว่า เป็นผู้อยู่
อุเบกขา มีสติ อันปรกติสุข ดังนี้ เข้าถึงตติยฌาณ แล้วแลอยู่
เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่งโสมนัส
และโทมนัสทั้งสองในการก่อน เข้าถึงจตุตฌาณ ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข
มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่
_______________________________________
สงัด = ก. เงียบสงบ เช่น คลื่นสงัด ลมสงัด. ว. เงียบเชียบ
วิตก
ความตรึก , ตริ , กายยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ หรือปักจิตลงสู่อารมณ์ , การคิด , ความดำริ;
ไทยใช้ ว่าเป็นห่วงกังวล
วิจารณ์
1. พิจารณา , ไตร่ตรอง
2. สอบสวน , ตรวจตรา
3. คิดการ , กะการ , จัดเตรียม , จัดแจง , ดูแล , จัดดำเนินการ
4. ในภาษาไทย มักหมายถึง ติชม , แสดงความคิดเห็นในเชิงตัดสินคุณค่า ชี้ข้อดีข้อด้อย
ปีติ
ความอิ่มใจ , ความดื่มด่ำในใจ มี ๕ คือ
1. ขุททกาปีติ ปีติเล็กน้อยพอขนชันน้ำตาไหล
2. ขณิกาปีติ ปีติชั่วขณะรู้สึก แปลบๆ ดุจฟ้าแลบ
3. โอกกันติกาปีติ ปีติเป็นระลอกรู้สึกซู่ลงมาๆ ดุจคลื่นซัดฝั่ง
4. อุพเพคาปีติ ปีติโลดลอย ให้ใจฟูตัวเบา หรืออุทานออกมา
5. ผรณาปีติ ปีติซาบซ่าน เอิบอาบไปทั่วสรรพางค์เป็นของประกอบกับสมาธิ
อุเบกขา
1. ความวางใจเป็นกลาง ไม่เอนเอียงด้วยชอบหรือชัง , ความวางใจเฉยได้ ไม่ยินดียินร้าย
2. ความรู้สึกเฉย ๆ ไม่สุขไม่ทุกข์ เรียกเต็มว่าอุเบกขาเวทนา
โสมนัส = ความดีใจ , ความสุขใจ , ความปลาบปลื้ม
โทมนัส = ความเสียใจ , ความเป็นทุกข์ใจ
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
มรรค 8 เดินครบถ้วนสมบูรณ์ จะทำให้ไม่มี อหังการมมังการ
ดับนิวรณ์ 5
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
http://www.84000.org/tipitaka/pita