สำหรับผมแล้ว มือถือรุ่นกระดูกหมาที่โคตะระหนัก และถึกทนโคตรๆ ชนิดที่ไอโฟนสมัยนี้ยังชิดซ้ายเกือบตกขอบถนน
ก่อนที่โนเกียจะครองตลาด และมือถือ 3310 ก็กลายเป็นตำนานเล่าขานจนทุกวันนี้
และสมัยนั้นเริ่มมีอินเตอร์เน็ตเข้ามาใช้แล้ว เรียกว่า Dail-up ด้วยความเร็วที่เร็วมากสมัยนั้นคือ 56kbps พร้อมกับเสียงต่อเน็ตที่ทุกคนคุ้นเคย
ส่วนความบันเทิงสมัยนั้น เป็นยุคที่เครื่องเกมเฟื่องฟูมาก ตลาดสะพานเหล็กเป็นอะไรที่ต้องไปเยือนเป็นประจำ (ก่อนที่จะโดนรื้อไปเมื่อสองเดือนก่อน) แน่นอนว่าสมัยนั้นเกมบอย, เกมเพลย์, แฟมิคอมเป็นอะไรที่ท็อปฮิตมาก เกมสมัยนั้นก็คงหนีไม่พ้น
มาริโอ้ กระโดดเก็บเห็ดกันกระจาย
คอนทรา กับสูตรในตำนานอย่าง "ขึ้นขึ้น ลงลง ซ้ายขวา ซ้ายขวา BA Select Start" คือผู้ชาย 100คน ต้องมีซัก 95 คนที่รู้จักสูตรนี้แน่นอน
วินนิ่งอิเลฟเว่น เกมฟุตบอลในตำนาน กับวลี "วินนิ่งมั้ยสาด" และร้านเกมทุกร้านต้องเห็นแต่คนเล่นเกมนี้ พร้อมกับกฎเหล็ก "ห้ามเอาโรแบร์โต้ คาร์ลอสยืนคู่กับโรนัลโด้" เวลายิงจุดโทษต้องเอาจอยซุกใต้เสื้อด้วย ถ้าแพ้ก็อ้างประจำ "จอยมันไม่ดี" จนยุคนี้เกม FIFA ก็ยังใช้วลีนี้ได้อยู่
โปเกมอน ตั้งแต่ภาคRed, Gold Silver, Ruby Sapphire เล่นกันจนรู้หมดว่าจะจับโปเกมอนนี้ที่ไหน อาจจะเรียกได้ว่า 3 เจนนี้เป็นยุคทองของโปเกมอนเลยก็ว่าได้ พอเข้าภาค Diamond Pearl เริ่มเสื่อมความนิยม เพราะย้ายไปเล่นเครื่อง DS ประกอบกับอนิเมะที่เนื้อเรื่องเดิมๆคือสู้กับแก๊งร็อกเก็ตไปวันๆ...
และเมื่อมีเกม สิ่งที่คู่กันคงขาดไม่ได้คือการ์ตูน โดยเฉพาะการ์ตูนช่อง 9 ที่สมัยก่อนเรียกว่าคุณภาพมาก ออกอากาศแต่การ์ตูนดีๆ ดังๆทั้งนั้นอย่าง
ดิจิมอน ดูกันจนติดชนิดที่ต้องมาจองทีวีทุกเช้าเสาร์อาทิตย์ให้ได้ พร้อมกับจำชื่อดิจิมอนพร้อมร่างแปลกได้ทุกตัวอย่างเช่น อากูมอน-เกรย์มอน-เมทัลเกรย์มอน-วอร์เกรย์มอน-โอเมกามอน
ตอนนี้มีภาค Tri ทำรีเมคสดๆร้อนๆ ดูไปแล้วโคตรคิดถึงความหลังมาก
และแน่นอนว่านอกจากการ์ตูนแล้ว สิ่งที่ทุกคนติดหูคือ เพลงButter-Fly และ Brave Heart ซึ่งมีเวอร์ชั่นภาษาไทยของพี่นัทน้องนพ บางคนนี่ถึงกับร้องตามได้เลยทีเดียว
ผมชอบเพลงเวอร์ชั่นญี่ปุ่นมากกว่านะ แถมความหมายก็ดีมากด้วย ซึ่งเพลงไทยก็แปลจากญี่ปุ่นอีกที แต่แปลแค่รอบเดียว(จบฮุคแรก)แล้วร้องย้อน น่าจะแปลทั้งเพลงเลย
ดราก้อนบอล ที่ปล่อยพลังคลื่นเต่ากันกระจาย แปลงร่างเป็นซุเปอร์ไซย่า และเพลง OP "ชาลา เฮดชาลา"
กัปตันสึบาสะ การ์ตูนฟุตบอลที่ดังที่สุดในยุคนั้น ด้วยท่าไม้ตายต่างๆ ที่แม้จะดูเวอร์วัง แต่ก็ยังคงความสมจริงเอาไว้ และการ์ตูนเรื่องนี้เองทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นได้ไปฟุตบอลโลก (ไทยก็จะตามไปในเร็วๆนี้แหละ)
ยูกิโอ ที่ไม่เน้นขายเนื้อเรื่อง แต่ขายการ์ด ในยุคนั้นไม่มีหรอกเล่นมือถือ เล่นยูกิมันนี่แหละมันส์สุดแล้วสำหรับผู้ชาย เล่นไปโดนครูยึดไปหลายรอบไม่เข็ด ซื้อใหม่เล่นต่อ 555
ส่วนฝั่งผู้หญิงก็มีการ์ตูนผู้หญิงตาหวานอย่าง
เซเลอร์มูน กับวลีฮิต
ตัวแทนแห่งดวงจันทร์จะลงทัณฑ์แกเอง สร้างความหลงใหลแก่เด็กสาวในยุคนั้นโดยเฉพาะ และแน่นอนว่าเพลง OP ของเซเลอร์มูนก็ดังไม่แพ้ฝั่งดิจิมอนเลย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นๆอีกอย่าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ, แม่มดน้อยโดเรมี โดยส่วนมากจะเป็นแนวสาวน้อยเวทมนตร์ทั้งนั้นเลย
ยอมรับว่าแม้เป็นการ์ตูนผู้หญิง แต่ผมเองก็แอบติดเหมือนกันนะ 555
สำหรับผมแล้วการ์ตูนไม่ใช่แค่สื่อไร้สาระอย่างที่ผู้ใหญ่ว่ากัน แต่มันแฝงข้อคิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมิตรภาพ, การเอาชนะอุปสรรค, ความพยายามต่างๆ ผมเองยอมรับว่าได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากการ์ตูนเยอะพอสมควร
จบฝั่งการ์ตูน ข้ามมาทางฮอลลิวูดกันบ้าง ทุกคนคงไม่ลืมกับหนังรักระดับตำนานเรือล่มอย่าง Titanic กับพระเอกสุดหล่ออย่าง Leonardo DiCarpio และเพลงประกอบหนัง My Heart Will Go On ที่ดังเป็นพลุแตก พร้อมกวาดรางวัลออสการ์ไปถึง 11 สาขา
The Lord of The Rings ทั้งสามภาค พร้อมทั้งภาพและเสียงสุดอลังการ โดยเฉพาะภาคสุดท้ายที่ไม่น้อยหน้าไททานิค จัดออสการ์ไปที่ 11 สาขาเท่ากัน
แต่สำหรับผมแล้ว ผมชอบเรื่อง Toy Story สองภาคแรกมากกว่า ดูแล้วสนุกดี แถมเป็นต้นกำเนิดของอนิเมชั่น 3D ของ Pixar ด้วย
ส่วนตัวไม่ค่อยเป็นคอหนังเท่าไหร่ เลยไม่รู้จักหนังดังๆมาก เลยฝากคนที่เชี่ยวชาญมาแชร์หนังดังในยุค 2540 หน่อยครับ
ต่อจากหนังก็นิยาย แน่นอนว่าหนีไม่พ้น Harry Potter ทั้ง 7 ภาค ด้วยเนื้อหาที่แปลกใหม่สำหรับคนสมัยนั้น และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนิยายแฟนตาซียุคต่อมาคือ “โรงเรียนเวทมนตร์” สำหรับคนที่เป็นสายอ่านแล้ว คงที่จะยกย่องให้เป็นสุดยอดหนังสือแห่งยุคเลยก็ว่าได้
อีกหนึ่งกระแสบันเทิงที่ถือว่าเป็นของใหม่มากสำหรับคนไทยคือ “เกาหลีฟีเวอร์” ที่เข้ามาในปลายยุค 40 เริ่มบุกเบิกจากละครเรื่อง “แดจังกึม”
ก่อนที่จะเผยแพร่ K-Pop ในเวลาต่อมา ซึ่งวงในยุคแรกๆก็เช่น ดงบังชินกิ
พิมพ์มาชั่วโมงกว่า เหนื่อย Orz นี่นับแค่สื่อบันเทิงของนอกนะเนี่ย ในไทยดังๆก็มีอย่าง D2B ที่สมัยก่อนบอกว่าดังมากกกก ยิ่งกว่า Bodyslam ตอนนี้อีกมั้ง
นอกจากนี้ยังมีพวกแฟชั่นเสื้อผ้า ทรงผมอีก ซึ่งผมไม่สันทัดเรื่องนี้เท่าใดนัก
ตำนานฟุตบอลยุค 90-2000 อย่างเช่นซีดาน เบ็คแฮม โรนัลโด้(อ้วน) ซิโก้ รวมถึงปรากฏการณ์อย่างนัดชิง UCL ปี 1999 ที่ตราตรึงใจแฟนแมนยูทุกคน
แล้วก็การเมืองรอบโลกในยุคนั้นอย่างถล่มเวิลด์เทรด, สงครามอิรัก, Y2K, สึนามิภาคใต้ เป็นต้น
ก็ขอฝากท่านๆแชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้ทั้งคนรุ่นเราที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร(แอบแก่..) และวัยรุ่นตอนนี้ด้วยล่ะกันครับ
ถ้าผมมีเวลาจะมาช่วยแชร์เพิ่มเติมนะครับ ขอตัวไปพักผ่อนก่อน
ในยุค2540-50 มีอะไรที่คนยุคนั้นฮิตกันบ้าง มาแชร์กันหน่อย
ก่อนที่โนเกียจะครองตลาด และมือถือ 3310 ก็กลายเป็นตำนานเล่าขานจนทุกวันนี้
และสมัยนั้นเริ่มมีอินเตอร์เน็ตเข้ามาใช้แล้ว เรียกว่า Dail-up ด้วยความเร็วที่เร็วมากสมัยนั้นคือ 56kbps พร้อมกับเสียงต่อเน็ตที่ทุกคนคุ้นเคย
ส่วนความบันเทิงสมัยนั้น เป็นยุคที่เครื่องเกมเฟื่องฟูมาก ตลาดสะพานเหล็กเป็นอะไรที่ต้องไปเยือนเป็นประจำ (ก่อนที่จะโดนรื้อไปเมื่อสองเดือนก่อน) แน่นอนว่าสมัยนั้นเกมบอย, เกมเพลย์, แฟมิคอมเป็นอะไรที่ท็อปฮิตมาก เกมสมัยนั้นก็คงหนีไม่พ้น
มาริโอ้ กระโดดเก็บเห็ดกันกระจาย
คอนทรา กับสูตรในตำนานอย่าง "ขึ้นขึ้น ลงลง ซ้ายขวา ซ้ายขวา BA Select Start" คือผู้ชาย 100คน ต้องมีซัก 95 คนที่รู้จักสูตรนี้แน่นอน
วินนิ่งอิเลฟเว่น เกมฟุตบอลในตำนาน กับวลี "วินนิ่งมั้ยสาด" และร้านเกมทุกร้านต้องเห็นแต่คนเล่นเกมนี้ พร้อมกับกฎเหล็ก "ห้ามเอาโรแบร์โต้ คาร์ลอสยืนคู่กับโรนัลโด้" เวลายิงจุดโทษต้องเอาจอยซุกใต้เสื้อด้วย ถ้าแพ้ก็อ้างประจำ "จอยมันไม่ดี" จนยุคนี้เกม FIFA ก็ยังใช้วลีนี้ได้อยู่
โปเกมอน ตั้งแต่ภาคRed, Gold Silver, Ruby Sapphire เล่นกันจนรู้หมดว่าจะจับโปเกมอนนี้ที่ไหน อาจจะเรียกได้ว่า 3 เจนนี้เป็นยุคทองของโปเกมอนเลยก็ว่าได้ พอเข้าภาค Diamond Pearl เริ่มเสื่อมความนิยม เพราะย้ายไปเล่นเครื่อง DS ประกอบกับอนิเมะที่เนื้อเรื่องเดิมๆคือสู้กับแก๊งร็อกเก็ตไปวันๆ...
และเมื่อมีเกม สิ่งที่คู่กันคงขาดไม่ได้คือการ์ตูน โดยเฉพาะการ์ตูนช่อง 9 ที่สมัยก่อนเรียกว่าคุณภาพมาก ออกอากาศแต่การ์ตูนดีๆ ดังๆทั้งนั้นอย่าง
ดิจิมอน ดูกันจนติดชนิดที่ต้องมาจองทีวีทุกเช้าเสาร์อาทิตย์ให้ได้ พร้อมกับจำชื่อดิจิมอนพร้อมร่างแปลกได้ทุกตัวอย่างเช่น อากูมอน-เกรย์มอน-เมทัลเกรย์มอน-วอร์เกรย์มอน-โอเมกามอน
ตอนนี้มีภาค Tri ทำรีเมคสดๆร้อนๆ ดูไปแล้วโคตรคิดถึงความหลังมาก
และแน่นอนว่านอกจากการ์ตูนแล้ว สิ่งที่ทุกคนติดหูคือ เพลงButter-Fly และ Brave Heart ซึ่งมีเวอร์ชั่นภาษาไทยของพี่นัทน้องนพ บางคนนี่ถึงกับร้องตามได้เลยทีเดียว
ดราก้อนบอล ที่ปล่อยพลังคลื่นเต่ากันกระจาย แปลงร่างเป็นซุเปอร์ไซย่า และเพลง OP "ชาลา เฮดชาลา"
กัปตันสึบาสะ การ์ตูนฟุตบอลที่ดังที่สุดในยุคนั้น ด้วยท่าไม้ตายต่างๆ ที่แม้จะดูเวอร์วัง แต่ก็ยังคงความสมจริงเอาไว้ และการ์ตูนเรื่องนี้เองทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นได้ไปฟุตบอลโลก (ไทยก็จะตามไปในเร็วๆนี้แหละ)
ยูกิโอ ที่ไม่เน้นขายเนื้อเรื่อง แต่ขายการ์ด ในยุคนั้นไม่มีหรอกเล่นมือถือ เล่นยูกิมันนี่แหละมันส์สุดแล้วสำหรับผู้ชาย เล่นไปโดนครูยึดไปหลายรอบไม่เข็ด ซื้อใหม่เล่นต่อ 555
ส่วนฝั่งผู้หญิงก็มีการ์ตูนผู้หญิงตาหวานอย่าง
เซเลอร์มูน กับวลีฮิต ตัวแทนแห่งดวงจันทร์จะลงทัณฑ์แกเอง สร้างความหลงใหลแก่เด็กสาวในยุคนั้นโดยเฉพาะ และแน่นอนว่าเพลง OP ของเซเลอร์มูนก็ดังไม่แพ้ฝั่งดิจิมอนเลย
ยอมรับว่าแม้เป็นการ์ตูนผู้หญิง แต่ผมเองก็แอบติดเหมือนกันนะ 555
สำหรับผมแล้วการ์ตูนไม่ใช่แค่สื่อไร้สาระอย่างที่ผู้ใหญ่ว่ากัน แต่มันแฝงข้อคิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมิตรภาพ, การเอาชนะอุปสรรค, ความพยายามต่างๆ ผมเองยอมรับว่าได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากการ์ตูนเยอะพอสมควร
จบฝั่งการ์ตูน ข้ามมาทางฮอลลิวูดกันบ้าง ทุกคนคงไม่ลืมกับหนังรักระดับตำนานเรือล่มอย่าง Titanic กับพระเอกสุดหล่ออย่าง Leonardo DiCarpio และเพลงประกอบหนัง My Heart Will Go On ที่ดังเป็นพลุแตก พร้อมกวาดรางวัลออสการ์ไปถึง 11 สาขา
The Lord of The Rings ทั้งสามภาค พร้อมทั้งภาพและเสียงสุดอลังการ โดยเฉพาะภาคสุดท้ายที่ไม่น้อยหน้าไททานิค จัดออสการ์ไปที่ 11 สาขาเท่ากัน
แต่สำหรับผมแล้ว ผมชอบเรื่อง Toy Story สองภาคแรกมากกว่า ดูแล้วสนุกดี แถมเป็นต้นกำเนิดของอนิเมชั่น 3D ของ Pixar ด้วย
ส่วนตัวไม่ค่อยเป็นคอหนังเท่าไหร่ เลยไม่รู้จักหนังดังๆมาก เลยฝากคนที่เชี่ยวชาญมาแชร์หนังดังในยุค 2540 หน่อยครับ
ต่อจากหนังก็นิยาย แน่นอนว่าหนีไม่พ้น Harry Potter ทั้ง 7 ภาค ด้วยเนื้อหาที่แปลกใหม่สำหรับคนสมัยนั้น และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนิยายแฟนตาซียุคต่อมาคือ “โรงเรียนเวทมนตร์” สำหรับคนที่เป็นสายอ่านแล้ว คงที่จะยกย่องให้เป็นสุดยอดหนังสือแห่งยุคเลยก็ว่าได้
อีกหนึ่งกระแสบันเทิงที่ถือว่าเป็นของใหม่มากสำหรับคนไทยคือ “เกาหลีฟีเวอร์” ที่เข้ามาในปลายยุค 40 เริ่มบุกเบิกจากละครเรื่อง “แดจังกึม”
ก่อนที่จะเผยแพร่ K-Pop ในเวลาต่อมา ซึ่งวงในยุคแรกๆก็เช่น ดงบังชินกิ
พิมพ์มาชั่วโมงกว่า เหนื่อย Orz นี่นับแค่สื่อบันเทิงของนอกนะเนี่ย ในไทยดังๆก็มีอย่าง D2B ที่สมัยก่อนบอกว่าดังมากกกก ยิ่งกว่า Bodyslam ตอนนี้อีกมั้ง
นอกจากนี้ยังมีพวกแฟชั่นเสื้อผ้า ทรงผมอีก ซึ่งผมไม่สันทัดเรื่องนี้เท่าใดนัก
ตำนานฟุตบอลยุค 90-2000 อย่างเช่นซีดาน เบ็คแฮม โรนัลโด้(อ้วน) ซิโก้ รวมถึงปรากฏการณ์อย่างนัดชิง UCL ปี 1999 ที่ตราตรึงใจแฟนแมนยูทุกคน
แล้วก็การเมืองรอบโลกในยุคนั้นอย่างถล่มเวิลด์เทรด, สงครามอิรัก, Y2K, สึนามิภาคใต้ เป็นต้น
ก็ขอฝากท่านๆแชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้ทั้งคนรุ่นเราที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร(แอบแก่..) และวัยรุ่นตอนนี้ด้วยล่ะกันครับ
ถ้าผมมีเวลาจะมาช่วยแชร์เพิ่มเติมนะครับ ขอตัวไปพักผ่อนก่อน