**คำถาม ซึ่ง ไร้คนตอบ**+++ กรณี ปัญหาเกียร์ cvt และ น้ำมันเกียร์ ns2 ns3 จะให้ใช้อะไรกันแน่++

จากกรณี ปัญหาเกียร์ cvt ที่พบว่า เกิดฟองอากาศในน้ำมันเกียร์


ความเดิม ปีที่แล้ว

http://pantip.com/topic/32468144
และปัญหาว่า ทาง0 นิสสัน ตกลงจะให้ใช้ น้ำมันเกียร์ อะไรกันแน่
ns2 หรือ ns3
ช่วงหลังทาง0 อ้างว่า
ให้ใช้ตามสติกเกอร์ที่ฝากระโปรงถ้า ระบุว่าเป็น ns2 ก็ใช้ ns2
ถ้าระบุว่าเป็น ns3 ก็ใช้ ns3


**แต่ประเด็น เรื่องน้ำมันเกียร์  cvt ที่ไม้วัด และเพลท ระบุว่า เป็น ns2 แต่ ฝ่ายเทคนิค ยืนยันตามจดหมายข้างล่าง
ว่า รถผมเติม น้ำมันเกียร์ ns3 มาจากโรงงานตามมาตราฐานที่กำหนดอย่างถูกต้อง ทั้งที่ไม้วัดและ เพลท ระบุว่าเป็น ns2**
ตามเรื่อง ว่าให้มาพิสูจน์กัน ก็หายเงียบ นัด บริษัทผู้ผลิตเกียร์ cvt ไม่ได้สักที ผมโทรหา ลูกค้าสัมพันธ์บ่อยมากๆๆช่วงนั้น
ไม่รู้กลัวอะไรกัน **เราก็แค่ผู้ใช้รถธรรมดาคนนึง อยากคุยกับ วิศวกร nmt และวิศวกรบริษัทผู้ผลิตเกียร์ cvt แค่นั้น**
ช่วงหลัง ใน0 ให้เปลี่ยนกลับมาใช้  น้ำมันเกียร์ ns2 กันอีก  สลับไป สลับมา จน งง กันทั้งวิศวกร เอง ช่างเทคนิค คนใชีรถก็งง

****งง งง กันแบบนี้ ทำอย่างไรดีครับ เพื่อ ให้ ความจริงถูกเปิดเผยต่อ ผู้ใช้รถ****





**ไม้วัด และเพลทที่ฝากระโปรงระบุว่า ให้ใช้น้ำมันเกียร์ ns2 แต่ ตามจดหมายกลับบอกว่า รถผม เติม ns3 มาจากโรงงานตามมาตราฐาน**




เพลทที่ติดฝากระโปรงหน้า ก็ระบุว่าให้ใช้ น้ำมันเกียร์ cvt **ns2 only**
แต่ทำไม จดหมายตอบกลับจากโรงงาน ระบุว่า รถผม เติมน้ำมันเกียร์ ns3 มาจากโรงงานตามมาตรฐานที่กำหนด



**มาตรฐานการควบคุม คุณภาพต่างๆๆ ที่บริษัทนี้ได้รับ  คงต้องเอาเอกสาร ไปให้ มาตราฐาน ที่รับรองบริษัทนี้ ตรวจสอบกันหน่อยซะแล้วซิ **>










*** ปัญหาเกียร์ cvt ที่มีปัญหานั้น อธิบายได้ในรูปจากสิทธิบัตรข้างล่างนี้**


**อะไรทำให้ น้ำมันเกียร์ cvt เกิดฟองอากาศในระบบ**
ns2 ns3 มันก็ต่างกันที่ค่าความหนืด กับสารบางอย่างแค่นั้น

**แต่ อะไรทำให้ เกิดฟองอากาศในน้ำมันเกียร์ ต่างหากล่ะ ที่เราต้องสนใจ**




**ช่วงนี้ มอเตอร์โชว์ หรือ มอเตอร์ expo อะไรนะ ไม่ได้ยืดเส้น ยืดสาย มานาน ช่วงนี้**









***อยากขอสักครั้งได้ไหม กลับมาตอบคำถามที่มีแต่เธอที่รู้***



**เรียนเชิญทุกท่าน ร่วมเสนอ แนวทางเพื่อให้ บริษัท   nissan ชี้แจง เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมครับ**

(น้ำมันเกียร์ ns2 และ ns3 มีค่าความหนืดแตกต่างกัน โดย ns2 จะมีค่าความหนืดมากกว่า ns3)


ในรถเกียร์ cvt ที่ฝากระโปรงระบุว่า ns2 only ให้ใช้ ns2 เท่านั้น เมื่อปีที่แล้ว ศูนย์บริการยังเปลี่ยนให้เป็น ns3 และอ้างว่า ns2 ไม่มีแล้ว
แต่ปัจจุบัน ให้ใช้น้ำมันเกียร์ ตามที่ระบุที่ฝากระโปรง ศูนย์ บริการ จึงบอกลูกค้าว่า ให้กลับมาใช้ ns2 เหมือนเดิม (ในรถที่ฝากระโปรงระบุว่า ns2)

nissan ไม่ต้องชี้แจง อะไร ใครเกียร์ cvt พัง เกินระยะประกัน จ่าย เงิน มา แสนกว่า ถ้าเปลี่ยนเกียร์ใหม่ที่0
เราจะปล่อยกันไว้แบบนี้เหรอครับ เพื่อนร่วมชะตากรรมเกียร์ cvt





จากจดหมายตอบกลับที่เป็นลายลักษณ์อักษรจาบริษัท   nissan ระบุว่า

**รถteana j32 ที่ผลิตหลังจากวันที่ 15ธันวาคม 2555 ใช้น้ำมันเกียร์ cvt ชนิด ns3 มาจาก โรงงานตามมาตราฐานที่กำหนดอย่างถูกต้อง**

แต่ปัจจุบัน ทาง0 กลับให้ไปใช้ น้ำมันเกียร์ ns2 ตามที่ระบุที่ฝากระโปรง

***มาตราฐาน ที่กำหนดอย่างถูกต้องของ nissan คือ อะไร??**



รบกวนใครที่ออกรถหลังจากผม
ที่เข้าไปเปลี่ยน น้ำมันเกียร์ cvt จากศูนย์บริการ ที่เปลี่ยนเป็น ns2 และ ns3 ช่วยลงใบเสร็จรับเงิน ที่ระบุการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ns2 ns3
จาก0 ด้วยครับ

ผมจะออกจดหมายไปถึง นิสสันครับ

ถ้าเราไม่รู้จัก คำว่า สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบ
อย่าหวังว่า นิสสันจะตอบอะไรครับ


e mail ผมนะครับ

galaxyproject1@gmail.com ครับ

เราต้องช่วยกันให้นิสสันออกมาชี้แจงครับ

เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้รถเกียร์ cvt ทุกท่านครับ


เราทำตามสิทธิที่เรามีครับ  และบริษัท มีหน้าที่ที่จะต้องให้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง

เพื่อไม่ให้ผู้ใช้รถ หลงสำคัญผิดในข้อเท็จจริงครับ





รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ให้ความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภค โดยบัญญัติถึงสิทธิ
ของผู้บริโภคไว้ในมาตรา 57 ว่า"สิทธิของบุคคลซึ่งเป็นผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครองทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ"

                  พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ได้บัญญัติสิทธิของผู้ บริโภคที่จะได้รับความคุ้มครอง
ตามกฎหมาย 5 ประการ ดังนี้

                 *** 1. สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่ จะได้รับการโฆษณาหรือการ
แสดงฉลากตามความเป็นจริงและปราศจากพิษภัยแก่ผู้บริโภค รวมตลอดถึงสิทธิที่จะได้รับทราบ ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอย่างถูกต้องและเพียงพอที่จะ
ไม่หลงผิด ในการซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยไม่เป็นธรรม ***

                  2. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยความ สมัครใจของผู้บริโภค และปราศจากการ
ชักจูงใจอันไม่เป็นธรรม

                  3. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับสินค้าหรือบริการที่ปลอดภัย มีสภาพและคุณภาพได้มาตรฐาน
เหมาะสมแก่การใช้ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน ในกรณีใช้ตามคำแนะนำหรือระมัดระวังตามสภาพของสินค้าหรือบริการนั้นแล้ว

                  4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อสัญญาโดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ

                  5. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหาย เมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค
ตามข้อ 1, 2, 3 และ 4 ดังกล่าว