ด้วยคำสัญญาที่ให้ไว้กับรุ่นพี่สถาบัน..เราจึงมีโอกาสได้ไปเดินป่าในทริปนี้...
ทริปผาแง่ม หรือ ผาสองฤดู บอกได้เลยว่านี่จะเป็นครั้งแรกของการเดินป่า
ใจจริงอยากไปมานานมาแล้ว แต่ไม่มีกลุ่ม กลุ่มเพื่อน ๆ ก็ไม่มีใครชอบแนวนี้
ค้าบอกว่าไปทำให้มันลำบากทำไม เที่ยวสบาย ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..
เราว่าความสบายเราทำได้ทุกวันอยู่แล้ว แต่ลุย ๆ แบบนี้ นาน ๆ ถึงจะ่ได้ไปสักครั้งหนึ่ง แต่ดีมีเพื่อนในกลุ่มอีกคนที่ชอบเหมือนกัน
รุ่นพี่เรามักจะเห็นเราชอบเที่ยวแบบลุย ๆ พี่จึงมักจะชวนน้องคนนี้ไปเที่ยวป่าด้วย
แต่ว่าที่ต่าง ๆ ที่พี่เค้าชวนไปมันช่างไกลบ้านเราเหลือเกิน เพราะพี่แกอยู่ที่สตูล แกมักจะเดินป่าที่ทางภาคใต้
ส่วนเราอยู่เชียงราย โหยยยยยย..ไกลมากอ่ะ ต้องนั่งเครื่องหลายต่อ ไหนจะค่าใช้จ่ายอีก...
เลยไปสัญญากับพี่เค้าไว้ว่า ถ้าพี่มาเดินป่าทางภาคเหนือนะน้องสัญญาเลยว่าจะไปด้วยแน่นอน
....พี่แจ้งล่วงหน้ามาหลายเดือนเลยว่าพี่จะไปเดินป่าที่ผาแง่ม หรือผาสองฤดูที่เชียงใหม่...งานนี้เราจึงไม่พลาด
... แต่จากกรุ๊ปทั้งหมด 17 คน พอถึงวันเดินทางเหลืออยู่ประมาณ 8 คน....
และแล้วก็ถึงวันเดินทาง ปกตินี่เราเดินทางท่องเที่ยวจะพยายามแบกของไปให้น้อยที่สุด
แต่รอบนี้ไม่ได้เลยของเยอะจริง ๆ ไหนจะเต๊นท์ ถุงนอน เสื้อกันหนาว จิปาถะจริง ๆ
ทริปนี้เราไปวันที่ 4-8 พ.ย. 58 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ แต่ขึ้นผาสองฤดูนี่แค่ 2 วัน 1 คืนค่ะ
ทริปนี้พี่ ๆ เค้าเหมารถสองแถวแดงออกจากเชียงใหม่แถว ๆ คันคลองค่ะ ไปเส้นทางดอยอินทนนท์...
โครงการหลวงขุนวางค่ะ.. มาถึงก็ต้องจัดของใหม่ว่าสิ่งไหนจำเป็นจะต้องเอาไปใช้บนดอย
ของที่ไม่ใช้ก็เก็บออกฝากไว้ที่รถแดง ...ที่นี่มีเหล้าบ้วยขาย รสชาติจะออก
หวาน ๆ หน่อยค่ะ มีแบบขวดกะเป็นแบน
ตอนแรกก็ไปซื้อมาแบน พี่ ๆ เค้าบอกไม่พอเอามาอีกแบน (ลืมถ่ายรูปไว้ค่ะ)
จัดของกว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป 11 โมงแล้ว ของหนัก ๆ เราก็จ้างลูกหาบขึ้นไป เค้าคิดกิโลละ 50 บาท
...คนนำทางบอกว่าให้รีบขึ้นก่อนที่จะช้าไปกว่านี้ ไปถึงเร็วก็จะได้ไปดูผาสองฤดูเร็วขึ้น..
พี่ที่ตอนแรกตั้งใจจะไปด้วยแกไม่สบายแต่ก็ยังขับรถมาส่ง และก็ขับส่งจนสุดทางที่รถจะไปได้
หลังจากนี้ก็เริ่มเดินดินแดง ถนนลูกรังกันแล้ว
เดินยังไม่ทันไร ก็หิวข้าวกันแล้ว เพราะมันเที่ยงกว่าแล้วค่ะ ขอพักทานข้าวกันแป๊บบบบบนะค่ะ
ข้าวนี่พี่ ๆ เค้าก็เตรียมให้ค่ะ ไก่ทอด+ข้าวเหนียว+น้ำพริกตาแดง...อร่อย ฟิน เว่อร์ เลยค่ะ
อิ่มแล้ว พลังมา เริ่มออกเดินทางกันต่อ..พร้อมไม้เท้าวิเศษคนละอัน...ลุยยยยยย
ขาขึ้น กะ ขาลง จะเป็นคนละทางกันนะค่ะ
เพื่อจะได้เห็นทิวทัศน์ทั้ง 2 แบบ ขาขึ้น ป่าจะชื้นซะมากกว่า ต้นไม้สูงใหญ่ ไม่ค่อยได้เห็นแสงแดด
เดินให้เป็นระเบียบเรียบร้อยกันหน่อย
เราใช้เวลาเดินถึงจุดที่จะกางเต๊นท์ ประมาณ 3 ชม.กว่า
แต่เราก็ไม่รีบเดินกันนะค่ะ ชมนกชมไม้ หยุดพักถ่ายรูปกันบ้าง
พอมองเห็นว่าสุดปลายทางแล้ว ทุกคนก็ตะโกนกันเสียงดังเลย เห็นแสงสว่างแล้วววว
เหมือนสุดปลายทางที่อุโมงค์ยังงั้นเลยค่ะ
นั่งพักเหนื่อยสักหน่อยเพราะเดินมาถึงก่อนใครเพื่อน
...คนนำทางถามว่าจะขึ้นไปดูผาสองฤดูเลยไหม ถ้าไปวันนี้พรุ่งนี้เช้าก็ไม่ต้องขึ้นไปดูแล้วก็ได้
พวกเราก็ตกลงทันทีว่าจะไปดูกันเย็นนี้แต่ต้องกางเต๊นท์จัดของให้เรียบร้อยก่อนขึ้นไป
หมอกเริ่มลงแล้ว พวกเราต้องรีบทำอะไรให้เรียบร้อยแล้วขึ้นไป
เมื่อจัดแจงของเรียบร้อยแล้ว ก็ลุยต่อเพื่อจะไปยังผาสองฤดู หรือผาแง่มนี่เอง
จากจุดนี้ที่จะไปทางชันมากเลยค่ะ...แต่ไปถึงข้างบนแล้วคุ้มมาก สวยจนไม่อยากจะลงมาเลยค่ะ
ต้องขึ้นไปบนโน้นนนนน จะได้เห็นผาสองฤดูแล้ว
ตอนขึ้นไปแรก ๆ มันเห็นแต่หมอกตีมาเต็มเลยค่ะ นั่งรอสักพัก เริ่มเป็นแล้วค่ะ เห็นกับตาแล้วสวยมากเลยค่ะ
มันจะมีทางให้ปีนลงไปข้างล่างเพื่อไปยังสันผาที่ยื่นออกไปค่ะ..มีเรากะพี่ผู้ชายอีกคนที่ข้ามไป
แต่เพื่อนในกลุ่มเค้ากลัวกันเลยไม่ได้ไป แต่ข้ามไปแล้วพอไปยืนจุดนั้นรู้สึกว่าธรรมชาติมันยิ่งใหญ่ อลังการมากเลยค่ะ
เราใช้เวลาอยู่ข้างบนเกือบ 2 ชม.ได้ค่ะ เพราะมัวแต่ชมความสวยงามของธรรมชาติ ลงมาก็เกือบมืดแล้วค่ะ
คืนนี้เราก็ทานกันง่าย ๆ ต้มมาม่า ปลากระป๋อง ขนม
เครื่องดื่มเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย อยู่กันจนถึงเที่ยงคืนก็แยกย้ายกันเข้าเต๊นท์
...วันนี้ตื่นกันแต่เช้า เพื่อจะได้เสพธรรมชาติรอบ ๆ ตัวก่อนจะลงไปสู่ชีวิตจริงกัน
เช้าวันนี้ก็ยังมาม่าเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเป็นผัดมาม่าใส่แหนม
อะไรเหลือ ๆ ก็เอามาทำกินกันให้หมด หลังจากนั้นก็เริ่มเก็บของเตรียมลงไปข้างล่าง
อิ่มแล้วก็ช่วยกันจัดแจงเก็บของนะจ๊ะ..
ที่สำคัญอย่าลืมทำความสะอาดด้วย ขยะทุกชิ้นเรานำใส่ถุงดำลงไปทิ้งข้างล่าง
สถานที่ท่องเที่ยวจะน่าไปก็เพราะทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาดนี่แหล่ะค่ะ
นี่เรากำลังจะเดินลงจากสวรรค์กันใช่ไหมค่ะเนี่ยยยยยย สวยงามจริง ๆ
ทางลงก็ชันพอสมควรนะค่ะ..กลับลงมาเล็บเขียวเลยค่ะ เพราะจิกเท้าลงมาตลอดทาง
และแล้วทริป ผาสองฤดู หรือผาแง่ม ก็จบลงอย่างสวยงาม
ทริปนี้ฉันได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นหลายคนเลย..และที่ไปฉันก็รู้จักพี่สถาบัน กะได้พกเพื่อนไปด้วยอีกคนแค่นั้น
นอกนั้นก็ไปทำความรู้จักที่นั่น...มิตรภาพใหม่ ๆ มักจะเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ
ท้องฟ้าเปรียบเหมือนหลังคาบ้านผืนใหญ่
ดวงดาวเปรียบเหมือนภาพวาดที่เราสามารถนั่งมองได้โดยไม่เบื่อ
ขอบคุณมิตรภาพดี ดี และความสุขที่มอบให้ค่ะ
และที่สำคัญขอบคุณรูปจากหลาย ๆ กล้อง ที่ได้นำมาแชร์ในนี้ค่ะ
ปีหน้าพี่เค้าชวนไปดอยหลวงเชียงดาว ถ้าไม่ติดอะไรสำคัญ เราไม่พลาดแน่นอนค่ะ
เพราะการได้อยู่กับธรรมชาติมันทำให้เรา สงบ สุข สดชื่น
5-6.11.58
[CR] ด้วยคำสัญญา..จึงต้องมาที่ผาสองฤดู
ทริปผาแง่ม หรือ ผาสองฤดู บอกได้เลยว่านี่จะเป็นครั้งแรกของการเดินป่า
ใจจริงอยากไปมานานมาแล้ว แต่ไม่มีกลุ่ม กลุ่มเพื่อน ๆ ก็ไม่มีใครชอบแนวนี้
ค้าบอกว่าไปทำให้มันลำบากทำไม เที่ยวสบาย ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..
เราว่าความสบายเราทำได้ทุกวันอยู่แล้ว แต่ลุย ๆ แบบนี้ นาน ๆ ถึงจะ่ได้ไปสักครั้งหนึ่ง แต่ดีมีเพื่อนในกลุ่มอีกคนที่ชอบเหมือนกัน
รุ่นพี่เรามักจะเห็นเราชอบเที่ยวแบบลุย ๆ พี่จึงมักจะชวนน้องคนนี้ไปเที่ยวป่าด้วย
แต่ว่าที่ต่าง ๆ ที่พี่เค้าชวนไปมันช่างไกลบ้านเราเหลือเกิน เพราะพี่แกอยู่ที่สตูล แกมักจะเดินป่าที่ทางภาคใต้
ส่วนเราอยู่เชียงราย โหยยยยยย..ไกลมากอ่ะ ต้องนั่งเครื่องหลายต่อ ไหนจะค่าใช้จ่ายอีก...
เลยไปสัญญากับพี่เค้าไว้ว่า ถ้าพี่มาเดินป่าทางภาคเหนือนะน้องสัญญาเลยว่าจะไปด้วยแน่นอน
....พี่แจ้งล่วงหน้ามาหลายเดือนเลยว่าพี่จะไปเดินป่าที่ผาแง่ม หรือผาสองฤดูที่เชียงใหม่...งานนี้เราจึงไม่พลาด
... แต่จากกรุ๊ปทั้งหมด 17 คน พอถึงวันเดินทางเหลืออยู่ประมาณ 8 คน....
และแล้วก็ถึงวันเดินทาง ปกตินี่เราเดินทางท่องเที่ยวจะพยายามแบกของไปให้น้อยที่สุด
แต่รอบนี้ไม่ได้เลยของเยอะจริง ๆ ไหนจะเต๊นท์ ถุงนอน เสื้อกันหนาว จิปาถะจริง ๆ
ทริปนี้เราไปวันที่ 4-8 พ.ย. 58 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ แต่ขึ้นผาสองฤดูนี่แค่ 2 วัน 1 คืนค่ะ
ทริปนี้พี่ ๆ เค้าเหมารถสองแถวแดงออกจากเชียงใหม่แถว ๆ คันคลองค่ะ ไปเส้นทางดอยอินทนนท์...
โครงการหลวงขุนวางค่ะ.. มาถึงก็ต้องจัดของใหม่ว่าสิ่งไหนจำเป็นจะต้องเอาไปใช้บนดอย
ของที่ไม่ใช้ก็เก็บออกฝากไว้ที่รถแดง ...ที่นี่มีเหล้าบ้วยขาย รสชาติจะออก
หวาน ๆ หน่อยค่ะ มีแบบขวดกะเป็นแบน
ตอนแรกก็ไปซื้อมาแบน พี่ ๆ เค้าบอกไม่พอเอามาอีกแบน (ลืมถ่ายรูปไว้ค่ะ)
จัดของกว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป 11 โมงแล้ว ของหนัก ๆ เราก็จ้างลูกหาบขึ้นไป เค้าคิดกิโลละ 50 บาท
...คนนำทางบอกว่าให้รีบขึ้นก่อนที่จะช้าไปกว่านี้ ไปถึงเร็วก็จะได้ไปดูผาสองฤดูเร็วขึ้น..
พี่ที่ตอนแรกตั้งใจจะไปด้วยแกไม่สบายแต่ก็ยังขับรถมาส่ง และก็ขับส่งจนสุดทางที่รถจะไปได้
หลังจากนี้ก็เริ่มเดินดินแดง ถนนลูกรังกันแล้ว
เดินยังไม่ทันไร ก็หิวข้าวกันแล้ว เพราะมันเที่ยงกว่าแล้วค่ะ ขอพักทานข้าวกันแป๊บบบบบนะค่ะ
ข้าวนี่พี่ ๆ เค้าก็เตรียมให้ค่ะ ไก่ทอด+ข้าวเหนียว+น้ำพริกตาแดง...อร่อย ฟิน เว่อร์ เลยค่ะ
อิ่มแล้ว พลังมา เริ่มออกเดินทางกันต่อ..พร้อมไม้เท้าวิเศษคนละอัน...ลุยยยยยย
ขาขึ้น กะ ขาลง จะเป็นคนละทางกันนะค่ะ
เพื่อจะได้เห็นทิวทัศน์ทั้ง 2 แบบ ขาขึ้น ป่าจะชื้นซะมากกว่า ต้นไม้สูงใหญ่ ไม่ค่อยได้เห็นแสงแดด
เดินให้เป็นระเบียบเรียบร้อยกันหน่อย
เราใช้เวลาเดินถึงจุดที่จะกางเต๊นท์ ประมาณ 3 ชม.กว่า
แต่เราก็ไม่รีบเดินกันนะค่ะ ชมนกชมไม้ หยุดพักถ่ายรูปกันบ้าง
พอมองเห็นว่าสุดปลายทางแล้ว ทุกคนก็ตะโกนกันเสียงดังเลย เห็นแสงสว่างแล้วววว
เหมือนสุดปลายทางที่อุโมงค์ยังงั้นเลยค่ะ
นั่งพักเหนื่อยสักหน่อยเพราะเดินมาถึงก่อนใครเพื่อน
...คนนำทางถามว่าจะขึ้นไปดูผาสองฤดูเลยไหม ถ้าไปวันนี้พรุ่งนี้เช้าก็ไม่ต้องขึ้นไปดูแล้วก็ได้
พวกเราก็ตกลงทันทีว่าจะไปดูกันเย็นนี้แต่ต้องกางเต๊นท์จัดของให้เรียบร้อยก่อนขึ้นไป
หมอกเริ่มลงแล้ว พวกเราต้องรีบทำอะไรให้เรียบร้อยแล้วขึ้นไป
เมื่อจัดแจงของเรียบร้อยแล้ว ก็ลุยต่อเพื่อจะไปยังผาสองฤดู หรือผาแง่มนี่เอง
จากจุดนี้ที่จะไปทางชันมากเลยค่ะ...แต่ไปถึงข้างบนแล้วคุ้มมาก สวยจนไม่อยากจะลงมาเลยค่ะ
ต้องขึ้นไปบนโน้นนนนน จะได้เห็นผาสองฤดูแล้ว
ตอนขึ้นไปแรก ๆ มันเห็นแต่หมอกตีมาเต็มเลยค่ะ นั่งรอสักพัก เริ่มเป็นแล้วค่ะ เห็นกับตาแล้วสวยมากเลยค่ะ
มันจะมีทางให้ปีนลงไปข้างล่างเพื่อไปยังสันผาที่ยื่นออกไปค่ะ..มีเรากะพี่ผู้ชายอีกคนที่ข้ามไป
แต่เพื่อนในกลุ่มเค้ากลัวกันเลยไม่ได้ไป แต่ข้ามไปแล้วพอไปยืนจุดนั้นรู้สึกว่าธรรมชาติมันยิ่งใหญ่ อลังการมากเลยค่ะ
เราใช้เวลาอยู่ข้างบนเกือบ 2 ชม.ได้ค่ะ เพราะมัวแต่ชมความสวยงามของธรรมชาติ ลงมาก็เกือบมืดแล้วค่ะ
คืนนี้เราก็ทานกันง่าย ๆ ต้มมาม่า ปลากระป๋อง ขนม
เครื่องดื่มเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย อยู่กันจนถึงเที่ยงคืนก็แยกย้ายกันเข้าเต๊นท์
...วันนี้ตื่นกันแต่เช้า เพื่อจะได้เสพธรรมชาติรอบ ๆ ตัวก่อนจะลงไปสู่ชีวิตจริงกัน
เช้าวันนี้ก็ยังมาม่าเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเป็นผัดมาม่าใส่แหนม
อะไรเหลือ ๆ ก็เอามาทำกินกันให้หมด หลังจากนั้นก็เริ่มเก็บของเตรียมลงไปข้างล่าง
อิ่มแล้วก็ช่วยกันจัดแจงเก็บของนะจ๊ะ..
ที่สำคัญอย่าลืมทำความสะอาดด้วย ขยะทุกชิ้นเรานำใส่ถุงดำลงไปทิ้งข้างล่าง
สถานที่ท่องเที่ยวจะน่าไปก็เพราะทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาดนี่แหล่ะค่ะ
นี่เรากำลังจะเดินลงจากสวรรค์กันใช่ไหมค่ะเนี่ยยยยยย สวยงามจริง ๆ
ทางลงก็ชันพอสมควรนะค่ะ..กลับลงมาเล็บเขียวเลยค่ะ เพราะจิกเท้าลงมาตลอดทาง
และแล้วทริป ผาสองฤดู หรือผาแง่ม ก็จบลงอย่างสวยงาม
ทริปนี้ฉันได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นหลายคนเลย..และที่ไปฉันก็รู้จักพี่สถาบัน กะได้พกเพื่อนไปด้วยอีกคนแค่นั้น
นอกนั้นก็ไปทำความรู้จักที่นั่น...มิตรภาพใหม่ ๆ มักจะเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ
ท้องฟ้าเปรียบเหมือนหลังคาบ้านผืนใหญ่
ดวงดาวเปรียบเหมือนภาพวาดที่เราสามารถนั่งมองได้โดยไม่เบื่อ
ขอบคุณมิตรภาพดี ดี และความสุขที่มอบให้ค่ะ
และที่สำคัญขอบคุณรูปจากหลาย ๆ กล้อง ที่ได้นำมาแชร์ในนี้ค่ะ
ปีหน้าพี่เค้าชวนไปดอยหลวงเชียงดาว ถ้าไม่ติดอะไรสำคัญ เราไม่พลาดแน่นอนค่ะ
เพราะการได้อยู่กับธรรมชาติมันทำให้เรา สงบ สุข สดชื่น
5-6.11.58