[CR] ตามหาใบไม้เปลี่ยนสีในภาวะโลกร้อน Tokyo Kyoto NARA

               เวลาล่วงเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน ลมหนาวมาเยือนญี่ปุ่นแล้ว แม้เมืองไทยจะยังร้อนอบอ้าว เราและเพื่อนๆตัดสินใจกันมาก่อนที่จะไปเที่ยวสองสามเดือนแล้วว่าคราวนี้เราจะต้องไปเที่ยวให้ตรงฤดูกาลและสถานที่ให้ได้ ใบไม้แดงที่ญี่ปุ่นก็ต้องเดือนพฤศจิกายนเท่านั้นสิ แถมดังที่สุดเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีก็ต้องเกียวโต แล้วเราจะไปนิกโกกันอีกดีไหม คาวาคูชิโกะล่ะ ถ้างั้นเราก็ต้องไปลงโตเกียวก่อนสิ ฮิโรชิม่าก็น่าสนใจ ไปได้จากโอซากากันเลย ถ้าเช่นนั้นขากลับเราก็ต้องกลับจากสนามบินคันไซสิ ปักหมุดเมืองที่จะลงและเมืองที่จะกลับได้เสียที ว่าแล้วเราก็เริ่มหาตั๋วราคาถูกกันบ้าง หวังว่าจะได้อวดชาวบ้านได้ว่าไปญี่ปุ่น9วันสองหมื่นอะไรแบบนั้น
              แต่ความจริงที่เราเจอก็คือช่วงที่หาตั๋วไม่มีสายการบินใดมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจเลย ทั้งราคาและเวลาเดินทาง คนหาตั๋วเริ่มหงุดหงิด ทำเอาพวกเราชาวคณะเริ่มสิ้นหวัง ปีนี้คงไม่ได้ไปตามหาใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นเป็นแน่แท้แล้ว แต่เมื่อความหวังหดหายไป ราคาใหม่ที่เตะตา(ในตอนนั้น)ก็เข้ามาพอดี บางกอกแอร์เวย์ร่วมกับสายการบินเจแปนแอร์ไลน์เสนอโปรโมชั่นในราคาไปกลับญี่ปุ่นสามารถไปลงและกลับต่างเมืองได้ราคาอยู่ในราวๆสองหมื่นนิดๆ  ฉับพลันทันใดสายจองตั๋วก็ลงมือทันทีที่พวกเราโอเคกับราคา เฮกันได้ทันทีว่าเราจะไปช่วงหลังวันที่15 พฤศจิกายน ทริปนี้คร่าวๆประมาณ9วัน
             แต่ก่อนที่เราจะจองตั๋วนั้น  เพื่อนสาวโสดที่หลานโตเป็นหนุ่มกำลังจะรับพระราชทานปริญญาเดือนพฤศจิกายนพอดี ขอเลื่อนวันเดินทางหลังหลานรักรับปริญญา วันท่องเที่ยวของเราเลยมาลงตัวคือไปสายๆวันที่20 กลับถึงกรุงเทพเมืองฟ้าอมรเมืองหลวงของประเทศไทยที่รักของเราวันที่30เช้ามืด  เพื่อเพื่อนที่ไม่ตกงานจะได้อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานได้ทันทีทันใด ส่วนใครที่ไม่ต้องรีบรุดไปทำงานก็จะได้กลับบ้านนอนพักผ่อนกันไป
           ถัดจากเรื่องตั๋วก็มาเรื่องโรงแรมที่พัก เราเคยไปทั้งโตเกียว เกียวโต โอซากากันมาแล้วเลยตัดสินใจจะพักโรงแรมเดิมที่เราคิดว่าใช้ได้ทั้งทำเล และความสะดวกในการเดินทาง โตเกียวเราเลยลงตัวกันที่Toyoko-inn-Shinagawa-eki Konan-guchi Tennozu (ชอบตรงที่มีอาหารเช้าด้วยนี่แหละ) เกียวโตคือที่ The Backpacker's Guesthouse Budget Inn. ซึ่งใกล้สถานีเกียวโตสะดวกในการท่องเที่ยวมากๆๆ   ส่วนที่โอซากา มาลองโรงแรมใหม่ที่เราไม่เคยไป Hotel Landmark Umeda อยู่ในย่าน Umeda ที่ใหญ่ซะจนหลงทางกันมาแล้ว  
           เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก สามเดือนผ่านไปช่วงนั้นความทุกข์ระทมได้ผ่านเข้ามาในชีวิตของพวกเราอยู่เนืองๆ  เพราะช่วงเดือนกันยายน ตุลาคมโปรสายการบินทะยอยออกกันมาอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าราคาที่ออกมาทำให้พวกเราต้องหลั่งน้ำตาด้วยความเสียดาย(เงิน) แต่แน่นอนสายแข็งอย่างเรา อะไรที่ผ่านไปแล้วย่อมไม่อาจหวนกลับคืน ราคาที่แพงกว่าย่อมแสดงถึงฐานะอันมีจะกินของเรา(แต่ถ้าได้ถูกกว่าก็ดีนะ กัดฟันกล่าว พลางกระซิกๆ) และของที่แพงกว่าย่อมดีกว่า
              ของเราบินตรงนะไม่มีไปรอเครื่องที่ไหนดึกๆดื่นๆ (แต่ได้ข่าวว่าเวลากลับกลับหลังแอร์เอ็กซ์อีก หึหึ)
              ของเรากระเป๋าได้สองใบนะ ใบละ23กก.(แต่เราคงไม่จัดหนัก ถึงขนาดซื้อครกกลับบ้านจนต้องแบกนน.46กก.หรอกน่า)
             ของเราที่นั่งต้องสบายและกว้างกว่าน่ะ หลับได้สบาย และETC .....ต้องดีกว่า ต้องเริ่ดกว่า สะกดจิตตัวเองเข้าไว้ (ก็มันจองไปแล้วนี่)
              เมื่อทำใจได้แล้วจิตใจของเราก็ปล่อยวางได้ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด ภาระกิจต่อไปคือปักหมุดว่าเราจะไปที่ไหนในแต่ละเมืองบ้าง แผนกวางโปรแกรมจะได้จัดแผนเที่ยวกันต่อไป
ชื่อสินค้า:   Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่