"ฉันไว้ใจเธอ" คำพูดเดียว จดจำไม่ลืมเลือน
โดย...ระรินธร เพ็ชรเจริญ
“ฉันไว้ใจเธอ” คำพูดเพียงคำเดียวแต่ทรงพลานุภาพยิ่ง เป็นสิ่งยึดมั่นเหนี่ยวนำให้หมอหนุ่มวัย 30 ต้นๆ คนหนึ่ง ทุ่มเทชีวิตทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในชนบทท่ามกลางสถานการณ์ปราบปรามคอมมิวนิสต์ที่รุนแรง แม้จะมีโอกาสทางราชการและการเมือง แต่ก็หาได้ทำให้เขาทิ้งพื้นที่ ทิ้งประชาชนไปแต่อย่างใด
30 ปีเต็มทีนพ.บุญยงค์ วงศ์รักมิตร รับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการอยู่ใน จ.น่าน ตั้งแต่ปี 2507 ในยุคที่การสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลกับกองทัพปลดแอกประชาชนเป็นไปอย่างเข้มข้น ทหาร ตำรวจที่บาดเจ็บจากการสู้รบ ส่งเข้ามายังโรงพยาบาลน่าน ซึ่งทำให้บุคลากรทุกฝ่ายของโรงพยาบาลในจังหวัดเล็กๆ ห่างไกลขาดแคลนเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัย ต้องทำงานอย่างหนักอย่างที่แทบไม่รู้จักคำว่า “เวลาราชการ” และ “วันหยุด”
แรงบันดาลใจที่มีความหมายที่สุดในชีวิตของหมอบุญยงค์ คือ ในปี 2511 พระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์มากมายและพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 2.4 แสนบาท ให้โรงพยาบาลน่านสร้างตึกพิทักษ์ไทย โดยมีพระราชดำรัสกับหมอบุญยงค์ว่า “เงินที่ขอไปนั้น ฉันนำมามอบให้แล้ว ขอให้หมอดำเนินการก่อสร้างเองนะ ไม่ต้องผ่านราชการ ฉันไว้ใจเธอ”
“ฉันไว้ใจเธอ” พระราชดำรัสครั้งนั้นยังคงก้องอยู่ในหัวใจหมอบุญยงค์ตราบเท่าทุกวันนี้ ทำให้ยังคงทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของเมืองน่าน ไม่เฉพาะแต่ด้านการแพทย์ แต่หลังเกษียณอายุราชการก็ยังทำงานในทุกสถานะที่จะทำประโยชน์ให้กับเมืองน่านได้
“กษัตริย์ตรัสกับเราแบบนี้ เราก็ดีใจ ปลาบปลี้มในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้”
ระยะเวลา 51 ปีที่อยู่เมืองน่าน พ่อหมอบุญยงค์จึงกลายเป็นผู้อาวุโสที่คนน่านทุกระดับยอมรับนับถือ เป็นผู้ที่ให้แนวคิด แนวทางพัฒนา แก้ไขปัญหาให้กับหลายองค์กร ประชาคมน่านจึงเปรียบเสมือนโรงเรียน ที่มีอาจารย์หมอบุญยงค์เป็นครูใหญ่ ในฐานะที่ปรึกษาอาวุโสประชาคมน่าน เป็นจริยวัตรที่หมออีกหลายรุ่นเดินตามเส้นทางแบบอย่างดีงามของอาจารย์หมอบุญยงค์
http://www.posttoday.com/social/general/403165
http://bit.ly/เพจข่าวดี
"ฉันไว้ใจเธอ" พระราชดำรัสแก่ นพ.บุญยงค์ วงศ์รักมิตร ผู้อุทิศตัวให้สังคม
"ฉันไว้ใจเธอ" คำพูดเดียว จดจำไม่ลืมเลือน
โดย...ระรินธร เพ็ชรเจริญ
“ฉันไว้ใจเธอ” คำพูดเพียงคำเดียวแต่ทรงพลานุภาพยิ่ง เป็นสิ่งยึดมั่นเหนี่ยวนำให้หมอหนุ่มวัย 30 ต้นๆ คนหนึ่ง ทุ่มเทชีวิตทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในชนบทท่ามกลางสถานการณ์ปราบปรามคอมมิวนิสต์ที่รุนแรง แม้จะมีโอกาสทางราชการและการเมือง แต่ก็หาได้ทำให้เขาทิ้งพื้นที่ ทิ้งประชาชนไปแต่อย่างใด
30 ปีเต็มทีนพ.บุญยงค์ วงศ์รักมิตร รับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการอยู่ใน จ.น่าน ตั้งแต่ปี 2507 ในยุคที่การสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลกับกองทัพปลดแอกประชาชนเป็นไปอย่างเข้มข้น ทหาร ตำรวจที่บาดเจ็บจากการสู้รบ ส่งเข้ามายังโรงพยาบาลน่าน ซึ่งทำให้บุคลากรทุกฝ่ายของโรงพยาบาลในจังหวัดเล็กๆ ห่างไกลขาดแคลนเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัย ต้องทำงานอย่างหนักอย่างที่แทบไม่รู้จักคำว่า “เวลาราชการ” และ “วันหยุด”
แรงบันดาลใจที่มีความหมายที่สุดในชีวิตของหมอบุญยงค์ คือ ในปี 2511 พระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์มากมายและพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 2.4 แสนบาท ให้โรงพยาบาลน่านสร้างตึกพิทักษ์ไทย โดยมีพระราชดำรัสกับหมอบุญยงค์ว่า “เงินที่ขอไปนั้น ฉันนำมามอบให้แล้ว ขอให้หมอดำเนินการก่อสร้างเองนะ ไม่ต้องผ่านราชการ ฉันไว้ใจเธอ”
“ฉันไว้ใจเธอ” พระราชดำรัสครั้งนั้นยังคงก้องอยู่ในหัวใจหมอบุญยงค์ตราบเท่าทุกวันนี้ ทำให้ยังคงทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของเมืองน่าน ไม่เฉพาะแต่ด้านการแพทย์ แต่หลังเกษียณอายุราชการก็ยังทำงานในทุกสถานะที่จะทำประโยชน์ให้กับเมืองน่านได้
“กษัตริย์ตรัสกับเราแบบนี้ เราก็ดีใจ ปลาบปลี้มในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้”
ระยะเวลา 51 ปีที่อยู่เมืองน่าน พ่อหมอบุญยงค์จึงกลายเป็นผู้อาวุโสที่คนน่านทุกระดับยอมรับนับถือ เป็นผู้ที่ให้แนวคิด แนวทางพัฒนา แก้ไขปัญหาให้กับหลายองค์กร ประชาคมน่านจึงเปรียบเสมือนโรงเรียน ที่มีอาจารย์หมอบุญยงค์เป็นครูใหญ่ ในฐานะที่ปรึกษาอาวุโสประชาคมน่าน เป็นจริยวัตรที่หมออีกหลายรุ่นเดินตามเส้นทางแบบอย่างดีงามของอาจารย์หมอบุญยงค์
http://www.posttoday.com/social/general/403165
http://bit.ly/เพจข่าวดี