ความสำเ้ร็จของมนุษย์ ก็คือ การมีรถหรู คอนโดใจกลางเมือง คิดกันได้แค่นี้หรอ

ช่วงหลังๆมานี่เริ่มรู้สึกชัดมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือ หลายคนแสวงหาสิ่งต่างๆเพื่อมาตอบสนองความอยากตนเอง
แล้วก็คิดว่า การมีสิ่งต่างๆมากๆ มันจะยิ่งทำให้ตนเองมีความสุข ซึ่งไอความสำเร็จทีว่า
มันก็แค่ การมีโทรศัพท์ใหม่สักครั้ง รถหรู หรือ ไม่ก็คอนโดสักแห่ง

คนมันคิดกันได้แค่นี้หรอ ไม่เห็นมีใครคิดจะไปช่วยสังคม หรือ คนที่ขาดโอกาสเลย ห่วงแต่ตัวเอง

แต่ก็พอเข้าใจนะว่าที่คนคิดแบบนี้ก็เพราะว่า การมีเงินทองมากๆ แล้วจะได้เป็นที่สนใจยอมรับ
ใครๆก็อยากรุ้จัก ใครๆก็อยากเข้าหา ลองดูง่ายๆสิ อย่างถ้าผู้ชายไม่มีเงินทอง รถ
ใครเขาจะมาสนใจหล่ะ โดยเฉพาะผุ้หญิง นี่เห็นข่าวนึงเศร้าใจแท้ ผู้ชายขอแต่งงาน
แต่กลับโดนถาม มีเงินเยอะหรอ รถหละ่มีหรือยัง บ้านก็ไม่มี แล้วก็ทิ้งผู้ชายไปเลย

ส่วนพวกที่เล่นหุ้น จนมีเวลาเยอะแยะ เอาเข้าจริง มีเวลามากไปอีกฝ่ายก็รำคาญก็ได้
วันๆก็จ่องแต่จอ ทำราคากำไรให้ได้ก็พอ แต่พวกนี้ก็เสี่ยง ยิ่งเดี๋ยวนี้เล่นยากมากหุ้น
เกิดขาดทุนก็แทนที่จะกินอยุ่ดี กลับกลายเป็นลำบากกว่าเดิม คนจะไปสนใจพวก
ที่มีธุรกิจใหญ่โตมากกว่าไง

สุดท้ายคนก็ห่วงแต่ตัวเองทั้งนั้น น้อยคนที่จะร่วมทุกข์

ใครที่สนใจ อ่านพวกข้อคิด หรือ ต้องการพิจารณาความจริงบนโลก
เข้ามาอ่านได้ทีนี่ (ย้ำเหมาะกับคนที่ต้องการความจริงเท่านั้น)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ไม่ควรจริงๆครับ







ไม่ควรยุ่งเรื่องคนอื่นครับ .....
ถ้าคุณพอใจแค่เช่าได้อยู่อพาร์ทเม้นเช่าเดือนละ 3 พัน นั่งรถเมล์ตลอดชีวิต ก็เอาเงินที่เหลือเอาไปช่วยเหลือสังคมให้หมดเลยครับ ขออนุโมทนาครับ

ถึงจุดๆหนึ่ง คนเราก็เริ่มคืนอะไรให้สังคมเองแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่า จุดนั้นของแต่ละคนมันอยู่ตรงไหน...
ความคิดเห็นที่ 2
คิดแทนคนอื่น
ความคิดเห็นที่ 3
ปลอบใจตัวเอง
ความคิดเห็นที่ 13
ยอมรับว่าผมรักตัวเองครับ
แล้วก็แคร์คนในครอบครัวมาเป็นอันดับ 1

ชีวิตนี้ผมมีเงิน
ซื้อคอนโด ให้ตัวเองอยู่
ซื้อรถให้ตัวเองขับ

ซื้อรถคันใหญ่หน่อยให้พ่อกับแม่ขับ
เพราะเค้าแก่แล้ว อยากให้เดินทางสบายๆ ไม่เมื่อย

มีเงินส่งน้องเรียน ป.ตรี


เรื่องสังคมก็ยอมรับว่าไม่ค่อยได้ช่วยอะไร
อย่างเก่งก็บริจาคเลือด บริจาคของตอนน้ำท่วม
ลงแรงแพคของ แพคข้าวกล่อง ช่วงน้ำท่วม
ขับรถมีน้ำใจ จอดให้คนข้ามถนน
ขับรถไปส่งเพื่อนร่วมงานที่รถไฟฟ้า ฯลฯ

ก็ประมาณนี้

สรุปคือ
"ผมมีชีวิต เพื่อหาเงิน และใช้เงินไปกับสิ่งที่ผมสบายใจ"
ครอบครัวสบายใจ
โดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน

ส่วนรวมอาจจะยังช่วยเหลืออะไรไม่มาก
แต่ไม่ทำให้สังคมต้องเป็นภาระ แค่นี้ผมก็ OK กับตัวเองแล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 6
จริง ๆ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องครอบครัวหรอกครับเอาแค่ตัวคุณเองนี่แหละ เวลาออกไปข้างนอกมีเงินในกระเป๋าสิบบาท กับพันบาท อย่างไหนที่จะทำให้คุณอุ่นใจมากกว่ากัน นี่ยกตัวอย่างง่าย ๆ คือเรามีไว้มันก็ดีครับ ก็ค่อย ๆ หา ค่อย ๆ สร้างมันขึ้นมาเรื่อย ๆ สักวันมันก็ต้องมี อะไรที่มันจำเป็นสักวันก็ต้องซื้อครับ ช้าเร็วยังไงก็ต้องหามาให้ได้ ไม่ใช่ว่าคุณจะมองสังคมภายนอกแก่งแย่งชิงดี เห็นคตนมีเงินเยอะ ๆ แล้วร้องยี้ มันไม่ใช่ไงครับ ตัวคุณเองก็ต้องกินใช้ทุกวัน อาจจะไม่ร่ำรวยฟู้ฟ่าแต่มันก็ต้องมีพออยู่พอกินได้สบายจริงไหม ฉะนั้นอย่าไปจับผิดคนอื่นหรือคิดแทนใครเลย เอาตัวคุณเองถามตัวเองดีกว่าว่าชีวิตยังขาดอะไร อะไรที่จำเป็นก็ไปหามันมาเพื่อเติมเต็ม ให้ตัวเองและครอบครัวด้วย วันีน้ยังไม่มี วันหน้าก็ต้องมี

ส่วนที่คุณบอกว่าน่าจะเอาไปช่วยคนอื่นที่เขาขาดโอกาสมั่งอะไรงี้ คือมันก็แล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละคนครับ คุณรู้ได้ไงว่าเขาไม่ช่วย ปีนึงเขาอาจจะทำบุญเป็นล้าน ๆ ก็ได้ คุณก็ไม่รู้อะไรกะเขาหรอก อย่าเพิ่งคิดไปเอง ผมเชื่อว่าพื้นฐานทุกคนมีน้ำใจและอยากช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่าทั้งนั้น แต่ก็ต้องถามก่อนว่าพร้อมไหม ตัวเองเอาตัวรอดหรือยัง ไม่งั้นก็กลายเป็นเตี้ยอุ้มค่อม คนว่ายน้ำไม่เป็นแต่หาญจะไปช่วยคนจมน้ำก็ตายทั้งคู่ มันก็ไม่ถูกใช่ไหมครับ คิดถึงจุดนี้ด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่