มาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ การทำงานใน UAE ( Dubai, Abu Dhabi)

สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิพทุกท่าน ก่อนอื่นเจ้าของกระทู้ขอแนะนำตัวเองสักเล็กน้อยนะคร้าบ
ขณะนี้เจ้าของกระทู้อายุ29ปี, ทำงานเป็นเชฟ ร้านอาหารไทยเฟรนไชส์ชื่อดัง (Junior Sous Chef)อยู่ที่กรุง อาบูดาบี ( Abu-Dhabi) สหรัฐอาหรับ เอมิเรต
( United Arab Emirate). เจ้าของกระทู้จะมาเขียนเล่าประสบการณ์จริง ที่อาจจะมีประโยชนสำหรับเพื่อนๆหลายท่านที่กำลังจะตัดสินใจมาทำงานที่ประเทศนี้, รวมถึงประเทศทางตะวันออกกลางด้วย (Gulf Countries).

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เจ้าของกระทู้ตัดสินใจลงพันทิพ ภาษาที่ใช้ในการเขียนอาจจะไม่เป็นทางการ และไม่สรวยสวยเก๋ แต่ก็จะพยายามเขียนให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายน้ะฮ้าฟฟฟ,  ส่วนเรื่องชื่อบุคคลและชื่อบริษัท ทางเจ้าของกระทู้ขออนุญาตสงวนไว้เป็นความลับนะครับ.
(ปล.หลังไมค์มาได้จ้า) เรื่องราว จะถูกแบ่งเป็นหัวข้อหลักๆเพื่อการจินตนาการได้ง่ายขึ้นนะคร้าบ

1.บริษัท
บริษัทของผม เป็นบริษัทค่อนข้างใหญ่  มีชาวอินดียเป็นผู้บริหาร ตั้งอยู่ที่ Dubai ( 140Km from Abu Dhabi) ซึ่งวัฒนธรรมองค์กรย่านนี้ จะต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า จะแตกต่างกับที่ไทย รวมถึงชาติตะวันตกอย่างชัดเจน   ซึ่งที่นี่จะคงความเป็นเจ้านาย-ลูกน้องชัดเจนมาก  กล่าวแล้วคือ คุณจะไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรใดๆ  ทางบริษัทจะมีวิธีมากมายในการบีบให้คุณไม่กล้าเรียกร้องอะไร ยกตัวอย่างเช่น การเรียกร้องให้ทางบริษัท จ่ายเงินชดเชย การทำงานล่วงเวลา  ตรงจุดนี้ทางเจ้าของกระทู้ได้คุยกับทาง ผู้จัดการทั่วไป ได้เพียงคำตอบมาว่า เป็นนโยบายของทางบริษัท ที่จะให้ชดเชยเป็นเงินก็ได้ รึเป็นวันหยุดสะสมก็ได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว โอกาสในการได้รับวันหยุดนั้น แทบเป็น0เลยทีเดียว เพราะพนักงานไม่เพียงพอ

2.สัญญาว่าจ้าง
สัญญาว่าจ้างที่ออกให้โดยบริษัท จะเป็นไปตามกฎหมายแรงงานของ UAE  ทุกอย่าง   แต่มีหลายๆสิ่งนะครับที่ควรรู้ก่อนจะมาที่นี่ด้วยตนเอง

2.1 การยึดพาสปอต (Passport Retention)
การยึดพาสปอตจากนายจ้าง ถือเป็นเหตุการณ์และกิจกรรมปกติที่เกิดขึ้นแทบทุกองค์กรในประเทศนี้ (ยกเว้นพนักงานต้อนรับของสายการบิน)
พาสปอตของคุณจะถูกยึดแทบจะตั้งแต่วันแรกที่ เดินออกมาจากสนามบิน โดยให้เหตุผลว่า ดำเนินการเรื่องวีซ่า (Visa Processing) แต่หลังจากนั้นคุณก็ยากที่จะได้พบกับหนังสือเดินทางของคุณอีก. หลังจากนั้นไม่นาน คุณจะได้เอกสารให้เซ็น บอกว่าเป็น Company policyบ้าง บอกว่าเป็น Sub-contract บ้าง   ข้อความในนั้นจะมีการพูดถึงการอนุญาตให้ทางบริษัทสามารถเก็บพาสปอตของเราไว้ได้ เพื่อเหคุผลด้าน กันพาสปอตสูญหาย หรือชำรุด. โดยเป็นการเหมือนๆมัดมือชก  ไม่มีการแจ้งใดๆมาก่อนจากเมืองไทย

ข้อนี้เจ้าของกระทู้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ และให้ความสำคัญมาก เพราะทางบริษัทสามารถ เพิกเฉยต่อคำร้องขอใดๆของเราที่อาจเกิดขึ้น เช่น การขอวันหยุดพักร้อนประจำปี, การเดินทางท่องเที่ยวประเทศใกล้ๆในวันหยุด หรือแม้กระทั่งการลาออกจากงานที่เจ้าของกระทู้กระทำอยู่โดยถูกต้องในขณะนี้.
แม้ว่าทางรัฐบาลที่นี่จะประกาศชัดเจนว่า การยึดพาสปอต หรือ การเก็บพาสปอต ซึ่งประกาศชัดเจนที่ปกหลังว่าเป็นสมบัติของรัฐบาลไทย ห้ามให้หน่วยงานใด หรือองค์กรใดๆนอกเหนือจากที่ระบุไว้ เก็บ ยีด หรือ ครอบครอง ของพนักงานไว้โดยที่คนเหล่านั้นจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม เป็นความผิดทางกฎหมาย  แต่ การกระทำนี้ กลับแพร่หลาย และกระทำกันอย่างกว้างขวาง ในประเทศนี้.  เจ้าของกระทู้เคยถามไปทางสถานทูตไทย  ว่าไม่มีนโยบายใดๆที่จะจัดการตรงนี้ได้เลยหรอ?  คำตอบที่ได้รับคือ  ทำกันทุกบริษัท เป็นเรื่องปกติ ความเคยชิน 9ล9

2.2 สัญญาว่าจ้างที่คุณได้เซ็นตอนอยู่ที่ไทยจะคลุมเครือ และไม่มีความชัดเจน  ซึ่ง คุณจะได้รับสัญยาอีกฉบับ ที่มีความละเอียดขึ้น เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว

ข้อความสิทธิประโยชน์ในสัญยาหลายๆข้อจะ บอกว่า แล้วขึ้นอยู่กับนโยบายของทางบริษัท (As per company policy)  ซึ่งตอนนี้ เจ้าของกระทู้ ไม่มีประกัน อุบัติเหตุใดๆที่ทางบริษัททำให้ทั้งสิ้น เพราะหมดอายุ  เอ๊ะ!!! นี่คงเป็นคำว่าแล้วแต่นโยบายที่ว่าสิน้ะ ++++   การจะไปหาหมอแต่ละครั้งต้องสำรองจ่ายเงินจำนวนมาก แม้ว่าทางบริษัทให้นำใบเสร็จมาเบิกได้  แต่ก็จะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 วัน ( โดยเฉพาะกรณีของเจ้าของกระทู้ที่ทำตัวเป็นปัญหา เพราะไปถามทาง General manager ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับ passport)


3.สภาพความป็นอยู่, ที่พัก, สภาพแวดล้อม

ในสัญยาจะระบุอย่างชัดเจนว่าทางบริษัท จะจัดหาที่พักและรถรับส่ง   เมื่อมาถึงที่นี่ ก็พบว่าเป็นไปตามนั้นจริงๆจ้า  555   เพราะทางบริษัทได้เตรียมห้องขนาด 6คูณ6 ไว้ให้พนักงานชายจำนวน 11 อยู่.......    อยู่กันยังไงน่ะหรอ?  เตียงสองชั้นที่ทำจากเหล็กบางๆจ้า   นึกถึงเพลงพี่เท่งขึ้นมาทันที  อ๊อด แอ่ด   อิอิอิ ความเป็นอยู่ อย่าได้เทียบกับการอยู่หอพักเล็กๆราคา2500/เดือนในกรุงเทพเลยนะ.......  
ที่นี่คุณจะได้พบเพื่อนใหม่ในห้องนอน ในบ้าน รวมถีง ห้องน้ำมากมาย    เจ้าของกระทู้เคยเป็นคนที่เกลียดแมลงสาปมากๆ เจอที่ไหนต้องตี......จนมาทุกวันนี้ ในเมื่อเรากำจัดมันไม่ได้ เพราะเยอะเหลือเกิน ก็เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันซะ  5555  

เบดบั้ก (Bed bug) เป็นสัตว์ขนาดเล็กมาก จะชอบอาศัยอยู่ในฟูกหรือ ใต้ที่นอน ก่อให้เกิดความรำคาญ คัน แล้วแพ้มากๆในบางคนซึ่งก็พบได้มากมายในบ้านพักพนักงาน

บริษัทจัดสรรค์หอพักรวม ชาย/หญิง ให้กับพนักงาน ระยะห่างจากที่ทำงานประมาณ 35 km โดยจัดรถตู้ ขนาด 14 ที่นั่งไว้รับส่ง จะต้องนั่งรถวันนะกว่า 1.5 ชั่วโมง ทุกๆวัน

การเข้าห้องน้ำในตอนเช้าๆก่อนการไปทำงานแทบจะเป็นเรื่องที่ห่างไกลความเป็นจริงมาก เพราะการรอต่อคิวเข้าห้องน้ำที่มากถึง 7-8 คน ต่อห้อง  ลองนึกภาพสิ  พนักงาน 28 คน   มีห้องน้ำ 4 ห้อง ,และทุกห้องใช้น้ำพร้อมๆกัน โอ้โห  ตายๆๆๆๆ น้ำที่ไหลออกมา แทบจะมีความแรงพอๆกับน้ำที่ไหลออกจากท่อแอร์

โดยรวมแล้วประเทศ UAE เป็นประเทศที่มีความงดงาม ธรรมชาติ ทะเล ทะเลทราย ท้องถนน จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สะอาด  การเดินทางไม่ยาก ไม่ง่าย มีรถสาธารณะ ค่อนข้างเยอะ แต่ราคาการเรียกแทกซี่อาจจะแพงไปสักนิดเมื่อเทียบกับเมืองไทย (30 Km ประมาณ 600บาท) ราคาค่าครองชีพต้องบอกตรงๆว่าแพงกว่ากรุงเทพพอสมควร (เทียบจากการกินข้าวให้อิ่ม 1 มื้อ)  ค่าเช่าบ้านจะแพงมากๆ ประมาน 35000-40000 บาท ต่อห้อง ต่อเดือน  .  และนั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทถึงให้พนักงานอยู่ห้องละ10คน+แมลงสาป


4. การติดต่อประสานงานกับบริษัท
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นเพราะเจ้าของกระทู้ทำตำแหน่ง Junior Sous  ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการติดต่อประสานงานกับทาง office หรือ management อยู่บ่อยๆ   สิ่งที่ได้สัมผัส คือความไม่เป็นมืออาชีพของทางบริษัท, การไม่จ่ายเงินค่าสินค้ากับบริษัทอื่นๆที่สั่งของ ทำให้ การสั่งของถูกเพิกเฉย.  การวางแผนเรื่องจำนวนพนักงาน คุณจะหาแทบไม่ได้จากที่นี่ เช่น พนักงานลาออก  พนักงานครบสัญยา พนักงานป่วย 9ล9 จำนวน เชฟที่เคยทำด้วยกันจาก 13 คน ลดลงเหลือ 7 คน ภายในระยะเวลา 5 เดือน    ทางบริษัทนิ่งเฉย  ปล่อยให้คุณทำงานอย่างเต็มที่ ตามเวรตามกรรม 5555   เงินเดือนได้ช้า 5 วัน ถือเป็นเรื่องปกติ  !!!
ทุกวันนี้ เจ้าของกระทู้ยื่นเรื่องลาออกเรียบร้อยแล้ว ให้ระยะเวลาในการหาคนทดแทน 2 เดือนเต็ม    ตอนนี้ โดนดองเรื่องลาออกอยู่จ้า รวมทั้งการแจ้งให้จ่ายค่าปรับและจัดการเอกสารซึ่งจะเรียกให้คุณเข้าไปที่ ออฟฟิศเท่านั้น เพื่อไปตกลง เจรจาจ่ายค่าปรับ (ค่าเดินทาง อาบูดาบี ถึง ดูไบ ขั้นต่ำ 600 บาท)

ตอนนี้ทางเจ้าของกระทู้ก็ได้แต่รอ...ร้อออ.......รอ    หวังว่าข้อความประสบการณ์เล็กๆน้อยๆนี้ จะช่วยให้มุมมอง กับเพื่อนๆ พี่ๆ ชาวไกลบ้านที่สนใจการทำงานในต่างประเทศ ไว้เป็นข้อมูลการตัดสินใจนะค้าบบบ .ใครมีความเห็น เกี่ยวกับการทำงานใน UAE ก็มาลองแชร์ๆกันนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่