ผีเจาะปากมาพูดหรือไง?
เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในหัวระหว่างดูภาพยนตร์ รอบปฐมทัศน์ ที่เซ็นทรัลเวิรลด์ โรง 15 เมื่อเวลา 20:00 น.
ทางผู้จัด (บัตรแรบบิท) ให้เข้าโรงได้ตั้งแต่ 19:00 น. เมื่อไปถึง นั่งเก้าอี้ตามเลขที่ที่ได้รับ เราสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างด้านหลัง พลังมนุษย์ป้า ที่มาพร้อมบุตร เด็กน้อยน่าจะอายุสัก 8-10 ขวบ พูดจาคุยกันตลอดเวลา ช่วงที่หนังยังไม่เริ่มฉาย เราคิดว่า โอเค ทนไปก่อน เดี๋ยวหนังฉายคงหยุด .... แล้วคิดว่าหยุดมั๊ยคะ หึ! ถ้าหยุดคุณๆ คงไม่ได้มานั่งอ่านกระทู้นี้
เอาล่ะ พรีวิวหนังมาละ เกือบครึ่ง ค่อน ชั่วโมง ไม่หยุดคุยค่ะ เรื่องที่คุยก็เรื่องขนมบ้าง คอมเม้นท์พรีวิวหนังบ้าง เด็กชายน้อยถามคำถามบ้าง เด็กชายน้อยฮัมเพลงลูกทุ่งบ้าง ที่แย่คือ มนุษย์แม่ไม่ห้ามค่ะ มนุษย์แม่คุยด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เด็กโพล่งออกมาเฉยๆ แม่จะทำเสียง ชู่ววววว์ อ้าห์....อย่านึกว่าดีนะคะ เรานั่งทนจนถึงช่วงเวลาเพลงสรรเสริญพระบารมี .... ไม่หยุดค่ะ เค้าทั้งคู่ไม่หยุด
ช่วงเพลงสรรเสริญ ตอนที่ลุกขึ้นยืนเราและคุณแฟนหันไปมองทั้งคู่พร้อมๆ กัน ... นางทำหน้างงๆ
ระหว่างหนังฉาย คุยกันตลอด ซึ่งมุมหนึ่งเราเข้าใจเด็กนะ ถ้าเค้าสงสัย สัญชาตญานเค้าคือถาม อะไรอะ ทำไมอะ .... แต่แทนที่แม่จะเตือนลูกให้ถามเบาๆ ไม่ค่ะ ทั้งคู่พากย์หนังควบคู่ไปกับหนังที่กำลังฉาย ที่พีคสุดๆ คือ ทั้งคู่มีอารมณ์ร่วมกับหนังขั้นตื่นเต้นสุดๆ ไม่สามารถเก็บความลุ้นร่วมไปกับหนังได้ ทั้งคู่เริ่มพากย์ ..."เร็วๆๆๆๆ (เดี๋ยวไม่ทัน)" พอช่วงพีคของหนังบรรเทาลง เลือดที่พลุ่งพล่านในตัวแม่ลูกทั้งสองเริ่มสงบ เด็กน้อยฮัมเพลงลูกทุ่งต่อ เป็นแบบนี้เรื่อยๆ มีการสนทนากันระหว่างหนังอย่างต่อเนื่อง
หลายครั้งที่อยากหันไปตำหนิแต่ถ้าทำอย่างนั้น ก็จะมีคนที่สร้างมลภาวะทางเสียงเพิ่มอีกหนึ่งคนทันที เรานิ่ง นิ่ง นิ่ง จนหนังจบ ก็มีนะคะ ช่วงแรกๆ ที่เราคิดว่า เฮ้ย ตูนั่งผิดที่แน่ๆ อยากเปลี่ยนที่มองหาที่ว่างดีๆ ก็ไม่มี เลยต้องทนต่อ สรุปง่ายๆ สั้นๆ ว่า ผีเจาะปากมาพูด อรรถรสในการชมหนังถูกตัดลง 50% ทันที
สมัยนี้เราเห็นพ่อแม่รังแกฉัน หลายเวอร์ชั่นมากๆ อย่างเรื่องนี้ แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะสอนลูกว่าการชมภาพยนตร์ในโรงหนังซึ่งเป็นที่สาธารณะควรปฏิบัติตัวอย่างไร ควรสอนว่าเราควรจะดูหนังเงียบๆ เพื่อไม่เป็นการรบกวนคนอื่น แต่ไม่เลย นอกจากไม่ห้ามแล้วคุณแม่เองกลับคุยด้วยกับลูก นั่นเท่ากับว่า เป็นการสนับสนุนการกระทำแบบนี้ให้เด็ก เค้าจะโตขึ้นแล้วรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องปกติ
อยากฝากบอกว่า ถ้าไม่เข้าใจมารยาทการชมภาพยนตร์ในที่สาธารณะ โปรดดูที่บ้านค่ะ เพราะสิ่งที่สองแม่ลูกทำ เหมือนกำลังนั่งดูหนังที่บ้านมากๆ
เอาล่ะหนังจบแล้ว ลุกแล้วเรากับคุณแฟนหันไปมองอีกรอบ คิดว่าเค้าสองคนรู้สึกไหมคะ ... ไม่น่าจะเป็นไปได้ มองเรากลับ หน้างงๆ ประมาณว่า พวกหล่อนมองชั้นทำไม
จบ (ห้วนๆ)
คนที่เคยเจอแบบนี้จะเข้าใจเลยว่ามันน่ารำคาญมา.............ก
เพื่อนๆ เคยเจอแย่กว่านี้ไม๊คะ
พ่อแม่รังแกฉัน - เวอร์ชั่น มารยาทในโรงหนัง (รอบปฐมทัศน์ ที่ CTW)
เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในหัวระหว่างดูภาพยนตร์ รอบปฐมทัศน์ ที่เซ็นทรัลเวิรลด์ โรง 15 เมื่อเวลา 20:00 น.
ทางผู้จัด (บัตรแรบบิท) ให้เข้าโรงได้ตั้งแต่ 19:00 น. เมื่อไปถึง นั่งเก้าอี้ตามเลขที่ที่ได้รับ เราสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างด้านหลัง พลังมนุษย์ป้า ที่มาพร้อมบุตร เด็กน้อยน่าจะอายุสัก 8-10 ขวบ พูดจาคุยกันตลอดเวลา ช่วงที่หนังยังไม่เริ่มฉาย เราคิดว่า โอเค ทนไปก่อน เดี๋ยวหนังฉายคงหยุด .... แล้วคิดว่าหยุดมั๊ยคะ หึ! ถ้าหยุดคุณๆ คงไม่ได้มานั่งอ่านกระทู้นี้
เอาล่ะ พรีวิวหนังมาละ เกือบครึ่ง ค่อน ชั่วโมง ไม่หยุดคุยค่ะ เรื่องที่คุยก็เรื่องขนมบ้าง คอมเม้นท์พรีวิวหนังบ้าง เด็กชายน้อยถามคำถามบ้าง เด็กชายน้อยฮัมเพลงลูกทุ่งบ้าง ที่แย่คือ มนุษย์แม่ไม่ห้ามค่ะ มนุษย์แม่คุยด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เด็กโพล่งออกมาเฉยๆ แม่จะทำเสียง ชู่ววววว์ อ้าห์....อย่านึกว่าดีนะคะ เรานั่งทนจนถึงช่วงเวลาเพลงสรรเสริญพระบารมี .... ไม่หยุดค่ะ เค้าทั้งคู่ไม่หยุด
ช่วงเพลงสรรเสริญ ตอนที่ลุกขึ้นยืนเราและคุณแฟนหันไปมองทั้งคู่พร้อมๆ กัน ... นางทำหน้างงๆ
ระหว่างหนังฉาย คุยกันตลอด ซึ่งมุมหนึ่งเราเข้าใจเด็กนะ ถ้าเค้าสงสัย สัญชาตญานเค้าคือถาม อะไรอะ ทำไมอะ .... แต่แทนที่แม่จะเตือนลูกให้ถามเบาๆ ไม่ค่ะ ทั้งคู่พากย์หนังควบคู่ไปกับหนังที่กำลังฉาย ที่พีคสุดๆ คือ ทั้งคู่มีอารมณ์ร่วมกับหนังขั้นตื่นเต้นสุดๆ ไม่สามารถเก็บความลุ้นร่วมไปกับหนังได้ ทั้งคู่เริ่มพากย์ ..."เร็วๆๆๆๆ (เดี๋ยวไม่ทัน)" พอช่วงพีคของหนังบรรเทาลง เลือดที่พลุ่งพล่านในตัวแม่ลูกทั้งสองเริ่มสงบ เด็กน้อยฮัมเพลงลูกทุ่งต่อ เป็นแบบนี้เรื่อยๆ มีการสนทนากันระหว่างหนังอย่างต่อเนื่อง
หลายครั้งที่อยากหันไปตำหนิแต่ถ้าทำอย่างนั้น ก็จะมีคนที่สร้างมลภาวะทางเสียงเพิ่มอีกหนึ่งคนทันที เรานิ่ง นิ่ง นิ่ง จนหนังจบ ก็มีนะคะ ช่วงแรกๆ ที่เราคิดว่า เฮ้ย ตูนั่งผิดที่แน่ๆ อยากเปลี่ยนที่มองหาที่ว่างดีๆ ก็ไม่มี เลยต้องทนต่อ สรุปง่ายๆ สั้นๆ ว่า ผีเจาะปากมาพูด อรรถรสในการชมหนังถูกตัดลง 50% ทันที
สมัยนี้เราเห็นพ่อแม่รังแกฉัน หลายเวอร์ชั่นมากๆ อย่างเรื่องนี้ แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะสอนลูกว่าการชมภาพยนตร์ในโรงหนังซึ่งเป็นที่สาธารณะควรปฏิบัติตัวอย่างไร ควรสอนว่าเราควรจะดูหนังเงียบๆ เพื่อไม่เป็นการรบกวนคนอื่น แต่ไม่เลย นอกจากไม่ห้ามแล้วคุณแม่เองกลับคุยด้วยกับลูก นั่นเท่ากับว่า เป็นการสนับสนุนการกระทำแบบนี้ให้เด็ก เค้าจะโตขึ้นแล้วรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องปกติ
อยากฝากบอกว่า ถ้าไม่เข้าใจมารยาทการชมภาพยนตร์ในที่สาธารณะ โปรดดูที่บ้านค่ะ เพราะสิ่งที่สองแม่ลูกทำ เหมือนกำลังนั่งดูหนังที่บ้านมากๆ
เอาล่ะหนังจบแล้ว ลุกแล้วเรากับคุณแฟนหันไปมองอีกรอบ คิดว่าเค้าสองคนรู้สึกไหมคะ ... ไม่น่าจะเป็นไปได้ มองเรากลับ หน้างงๆ ประมาณว่า พวกหล่อนมองชั้นทำไม
จบ (ห้วนๆ)
คนที่เคยเจอแบบนี้จะเข้าใจเลยว่ามันน่ารำคาญมา.............ก
เพื่อนๆ เคยเจอแย่กว่านี้ไม๊คะ