อยากถามความเห็นของทุกๆคนนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนอยู่หอพักด้วยกันค่ะ เราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ ต่างคนก็ต่างเรียนหนักทั้งคู่ เรื่องการทำความสะอาดห้องก็ตกลงกันว่าจะช่วยๆกันทำ ส่วนใหญ่เราจะเป็นคนกวาดห้อง จัดห้อง เก็บของ ทำความสะอาด ส่วนเขาจะเป็นคนล้างห้องน้ำ ถูห้อง ทิ้งขยะ
เรื่องล้างจานเขาก็ขอไว้ค่ะ บอกว่าช่วยหน่อยได้ไหม เขาไม่ชอบเลย เราก็โอเคค่ะ ถ้ายังไม่เหนื่อยมาก เราจะช่วยล้างให้ตลอด เสื้อผ้าพวกชุดชั้นใน ถุงเท้า ต้องซักมือ เขาก็ขอให้เราช่วยซักส่วนของเขาให้ด้วย(ตอนแรกเราไม่ชอบเลยค่ะ คิดว่ามันจะมากเกินไปหรือเปล่า แต่ตอนนี้ชินไปแล้ว) แต่พอวันนึงเราขอให้เขาช่วยตาก เพราะเราเหนื่อยมาก ไม่ไหวแล้ว เขากลับบอกว่า ช่วยตากอย่างอื่นที่ไม่ใช่ชุดชั้นในได้ไหม มันรู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้ เราก็งงๆ จำไม่ได้แล้วว่าตอบไปว่ายังไงค่ะ
วันนึงเรามีโอกาสได้คุยกับคุณพ่อของเขา พ่อเขาก็ถามว่าเป็นไงบ้าง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า เราก็เลยพูดเรื่องนี้ไปค่ะ เพราะบางครั้งเรารู้สึกเหนื่อยมาก ทั้งๆที่เราก็เรียนหนักเหมือนกัน แต่ทำไมงานมันเหมือนจะเทมาอยู่ที่เราคนเดียว
คำตอบที่ได้มาคือ "..นี่พ่อไม่ได้จะเข้าข้างใครนะลูกนะ แต่งานพวกนี้มันเป็นหน้าที่ของผู้หญิง เข้าใจพ่อไหม.."
อึ้งค่ะ บอกตรงๆว่าเรารู้สึกแย่มากเลยค่ะตอนนั้น ทำไมเขาถึงมีความคิดแบบนี้ เพราะมันสวนทางกับความคิดของเรามากๆ เราคิดว่าตอนนี้ยังเป็นนักศึกษา สถานะเท่ากัน เรื่องแบบนี้ควรช่วยเหลือกันไม่ใช่หรอค่ะ แต่ถ้าจบไปแล้วมีงานทำ เขาทำงานหนัก ส่วนเราเป็นแม่บ้านอยู่บ้านเฉยๆ เราจะไม่ว่าไม่บ่นเลยค่ะ ให้ทำอะไรก็ทำได้หมด
อยากรู้ว่าสมัยนี้ยังมีการปลูกฝังค่านิยมว่าผู้หญิงต้องทำงานบ้าน ต้องทำความสะอาด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดๆอยู่หรือเปล่าคะ
หรือว่ามันสมควรเป็นแบบนี้ดีแล้ว? รบกวนขอรับความคิดเห็นหรือคำแนะนำของทุกคนหน่อยนะคะ อยากรู้เหตุผลในมุมต่างด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
..ถ้าแท็กห้องผิดต้องขออภัยด้วยนะคะ เพิ่งหัดตั้งกระทู้ค่ะ ปกติตามอ่านอย่างเดียวเลย
ในสมัยนี้ "งานบ้าน" ยังต้องเป็นหน้าที่ของผู้หญิงอยู่ไหมคะ?
เรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนอยู่หอพักด้วยกันค่ะ เราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ ต่างคนก็ต่างเรียนหนักทั้งคู่ เรื่องการทำความสะอาดห้องก็ตกลงกันว่าจะช่วยๆกันทำ ส่วนใหญ่เราจะเป็นคนกวาดห้อง จัดห้อง เก็บของ ทำความสะอาด ส่วนเขาจะเป็นคนล้างห้องน้ำ ถูห้อง ทิ้งขยะ
เรื่องล้างจานเขาก็ขอไว้ค่ะ บอกว่าช่วยหน่อยได้ไหม เขาไม่ชอบเลย เราก็โอเคค่ะ ถ้ายังไม่เหนื่อยมาก เราจะช่วยล้างให้ตลอด เสื้อผ้าพวกชุดชั้นใน ถุงเท้า ต้องซักมือ เขาก็ขอให้เราช่วยซักส่วนของเขาให้ด้วย(ตอนแรกเราไม่ชอบเลยค่ะ คิดว่ามันจะมากเกินไปหรือเปล่า แต่ตอนนี้ชินไปแล้ว) แต่พอวันนึงเราขอให้เขาช่วยตาก เพราะเราเหนื่อยมาก ไม่ไหวแล้ว เขากลับบอกว่า ช่วยตากอย่างอื่นที่ไม่ใช่ชุดชั้นในได้ไหม มันรู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้ เราก็งงๆ จำไม่ได้แล้วว่าตอบไปว่ายังไงค่ะ
วันนึงเรามีโอกาสได้คุยกับคุณพ่อของเขา พ่อเขาก็ถามว่าเป็นไงบ้าง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า เราก็เลยพูดเรื่องนี้ไปค่ะ เพราะบางครั้งเรารู้สึกเหนื่อยมาก ทั้งๆที่เราก็เรียนหนักเหมือนกัน แต่ทำไมงานมันเหมือนจะเทมาอยู่ที่เราคนเดียว
คำตอบที่ได้มาคือ "..นี่พ่อไม่ได้จะเข้าข้างใครนะลูกนะ แต่งานพวกนี้มันเป็นหน้าที่ของผู้หญิง เข้าใจพ่อไหม.."
อึ้งค่ะ บอกตรงๆว่าเรารู้สึกแย่มากเลยค่ะตอนนั้น ทำไมเขาถึงมีความคิดแบบนี้ เพราะมันสวนทางกับความคิดของเรามากๆ เราคิดว่าตอนนี้ยังเป็นนักศึกษา สถานะเท่ากัน เรื่องแบบนี้ควรช่วยเหลือกันไม่ใช่หรอค่ะ แต่ถ้าจบไปแล้วมีงานทำ เขาทำงานหนัก ส่วนเราเป็นแม่บ้านอยู่บ้านเฉยๆ เราจะไม่ว่าไม่บ่นเลยค่ะ ให้ทำอะไรก็ทำได้หมด
อยากรู้ว่าสมัยนี้ยังมีการปลูกฝังค่านิยมว่าผู้หญิงต้องทำงานบ้าน ต้องทำความสะอาด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดๆอยู่หรือเปล่าคะ
หรือว่ามันสมควรเป็นแบบนี้ดีแล้ว? รบกวนขอรับความคิดเห็นหรือคำแนะนำของทุกคนหน่อยนะคะ อยากรู้เหตุผลในมุมต่างด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
..ถ้าแท็กห้องผิดต้องขออภัยด้วยนะคะ เพิ่งหัดตั้งกระทู้ค่ะ ปกติตามอ่านอย่างเดียวเลย