คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
คงต้องเปลี่ยนมาเป็นอธิบายแทนว่าทำไมคำถามนี้ถึงไม่สามารถให้คำตอบได้
อย่างแรกคือบททดสอบไอคิวนั้นไม่ใช่สิ่งที่มีมาตรฐานตายตัวครับ การวัดค่าความสามารถทางปัญญาของมนุษย์เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก ถ้ามีมนุษย์ที่มีความสามารถในการคำนวนเทียบเทากับคอมพิวเตอร์ ก็สามารถบอกได้แค่ว่าคำนวนได้เร็วกว่ามนุษย์ทั่วไปเป็นล้านเท่า แต่คะแนน IQ ที่วัดออกมาได้ก็คงจะเยอะกว่าคนทั่วไปไม่ถึงล้านเท่า เพราะแบบทดสอบพวกนี้มันมีขีดจำกัดของมัน คนที่คิดเลขเร็วเท่าคอมพิวเตอร์อาจจะทำคะแนน IQ ได้แค่ไม่กี่ร้อยคะแนนเท่านั้น อาจจะได้คะแนนน้อยกว่าคนฉลาดอื่นๆด้วยซ้ำเพราะในแง่คำถามที่ไม่ได้ใช้ Logic อาจจะตอบได้แค่ปานกลางในขณธที่คำถามแนวเลขหรือ Logic อาจจะได้เต็ม
อย่างที่สองคือการมีค่า IQ สูงๆไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นจะมีประสิทธิภาพทางความคิดสูงตามไปด้วย เหมือนเคสๆหนึ่งของคนที่ประสบอุบัติเหตุจนสมองได้รับความเสียหาย แต่พอรักษาหายแล้วปรากฏว่าพูดจารู้เรื่อง ดูเหมือนคนทั่วไป ทดสอบ IQ ดูแล้วได้คะแนนสูงเหมือนตอนที่ยังมีชีวิต ความรู้หรือความสามารถไม่ได้หายไปแต่อย่างไร ทว่าระบบความรู้สึกทางอารมณ์ของเขากลับมีปัญหา... ฟังดูไม่สำคัญ แต่ในการตอบโจทย์ที่ไม่ใช่คณิตศาตร์หรือ Logic นั้น เขาต้องใช้ความคิดหนักมากๆ จนสุดท้ายต้องถูกไล่ออกจากงาน ไปแต่งงานใหม่กับโสเภณีเพราะเหตุผลที่ยากจะบอกได้ ดังนั้นแม้ค่าจากการทดสอบ IQ จะยังสูง แต่ตัวเขาในตอนนนั้นก็ไม่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนฉลาดอีกต่อไป
ที่ยกกรณีข้างบนนี้มาก็เพื่อที่จะชี้ให้เห็นครับว่าการวัดระดับไอคิวนั้นเป็นเรื่องซับซ้อน การตัดสินใจหรือการแก้ปัญหาในชีวิตของมนุษย์เรามีอย่างอื่นที่อยู่นอกเหนือจากหลัก Logic อยู่สูงมาก เราอาจจะมองว่าความฉลาดก็คือหลัก Logic หรือค่าความสามารถทางด้านอื่นอีกไม่กี่ตัว ทว่าในความเป็นจริงนั้นนอกจากประสาทสัมผัสทั้งห้านั้นเรายังมีประสาทสัมผัสอีกสิบกว่าตัวที่ได้ถูกค้นพบ กล่าวคือแค่ในกรณีมนุษย์ทั่วไปการใช้แบบทดสอบ IQ มาวัดค่าความฉลาดคนก็เป็นสิ่งที่วุ่นวายมากแล้ว ตัวตนสมมุติแบบนั้นยิ่งเป็นอะไรที่ให้คำตอบได้ยากยิ่งกว่ายากครับ
อย่างที่สามคือการมีทักษะในการคำนวนสูงกว่าคนทั่วไปล้านเท่า ไม่ไดด้หมายความว่าจะฉลากกว่าคนทั่วไปล้านเท่า อาจจฉลาดกว่าคนทั่วไปแค่ 100 เท่าเฉยๆก็เป็นไปได้ (ตัวเลขสมมุติเพื่อให้เห็นภาพ)
ถามว่าทำไมตัวเลขมันถึงได้ต่างกันขนาดนี้ คำตอบก็คือ IQ นั้นเป็ยแบบทดสอบที่ใช้วัด "ความฉลาดของมนุษย์" จึงอาจจะพูดได้ว่าเป็นความฉลาดที่สามารถเอาไปใช้ทำประโยชน์ หรือมีผลต่อการใช้ชีวิตสำหรับมนุษย์ ดังนั้นความสามารถในการคำนวนเลขได้เร็วเป็นล้านเท่าจะช่วยให้คนๆนั้นเขียนหนังสือได้เร็วขึ้นหรือไม่ เข้าใจการเมืองได้ดีขึ้นหรือไม่ อ่านความรู้สึกของผู้คนได้เก่งขึ้นหรือไม่ ดังนั้นถึงจะมีความสามารถในการคิดเลขสูงขึ้นมาเป็นล้านเท่า แต่อาจจะช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมา หรือทำงานได้มีปนะสิทธิภาพสูงกว่าคนทั่วไปเพียงไม่กี่เท่าๆนั้น ยิ่งเอาไปรวมกับเหตุผลข้อสองที่กล่าวมาแล้ว คำถามนี้ต่อให้เอาไปถามผู้เชี่ยวชาญโดนตรงเขาก็ไม่มีคำตอบให้ครับ
สรุปคือ ตัวตนของแบบทดสอบ IQ ทุกวันนี้ยังไม่สมบูรณ์ ตัวตนสมมุติแบบที่กล่าวมาไม่อาจจะใช้หลักการทั่วไปวัดค่าความฉลาดได้เพราะความฉลาดไม่ได้ขึ้นกับทักษะ Logic หรือด้านใดด้านอื่นเพียงไม่กี่ด้าน แล้วถึงมีมีความสามารถด้านใดด้านหนึ่งสูงขึ้นมาจนทะลุเพดานก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ความสามารถโดยรวมสูงขึ้นมาจนทะลุเพดานครับ
อย่างแรกคือบททดสอบไอคิวนั้นไม่ใช่สิ่งที่มีมาตรฐานตายตัวครับ การวัดค่าความสามารถทางปัญญาของมนุษย์เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก ถ้ามีมนุษย์ที่มีความสามารถในการคำนวนเทียบเทากับคอมพิวเตอร์ ก็สามารถบอกได้แค่ว่าคำนวนได้เร็วกว่ามนุษย์ทั่วไปเป็นล้านเท่า แต่คะแนน IQ ที่วัดออกมาได้ก็คงจะเยอะกว่าคนทั่วไปไม่ถึงล้านเท่า เพราะแบบทดสอบพวกนี้มันมีขีดจำกัดของมัน คนที่คิดเลขเร็วเท่าคอมพิวเตอร์อาจจะทำคะแนน IQ ได้แค่ไม่กี่ร้อยคะแนนเท่านั้น อาจจะได้คะแนนน้อยกว่าคนฉลาดอื่นๆด้วยซ้ำเพราะในแง่คำถามที่ไม่ได้ใช้ Logic อาจจะตอบได้แค่ปานกลางในขณธที่คำถามแนวเลขหรือ Logic อาจจะได้เต็ม
อย่างที่สองคือการมีค่า IQ สูงๆไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นจะมีประสิทธิภาพทางความคิดสูงตามไปด้วย เหมือนเคสๆหนึ่งของคนที่ประสบอุบัติเหตุจนสมองได้รับความเสียหาย แต่พอรักษาหายแล้วปรากฏว่าพูดจารู้เรื่อง ดูเหมือนคนทั่วไป ทดสอบ IQ ดูแล้วได้คะแนนสูงเหมือนตอนที่ยังมีชีวิต ความรู้หรือความสามารถไม่ได้หายไปแต่อย่างไร ทว่าระบบความรู้สึกทางอารมณ์ของเขากลับมีปัญหา... ฟังดูไม่สำคัญ แต่ในการตอบโจทย์ที่ไม่ใช่คณิตศาตร์หรือ Logic นั้น เขาต้องใช้ความคิดหนักมากๆ จนสุดท้ายต้องถูกไล่ออกจากงาน ไปแต่งงานใหม่กับโสเภณีเพราะเหตุผลที่ยากจะบอกได้ ดังนั้นแม้ค่าจากการทดสอบ IQ จะยังสูง แต่ตัวเขาในตอนนนั้นก็ไม่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนฉลาดอีกต่อไป
ที่ยกกรณีข้างบนนี้มาก็เพื่อที่จะชี้ให้เห็นครับว่าการวัดระดับไอคิวนั้นเป็นเรื่องซับซ้อน การตัดสินใจหรือการแก้ปัญหาในชีวิตของมนุษย์เรามีอย่างอื่นที่อยู่นอกเหนือจากหลัก Logic อยู่สูงมาก เราอาจจะมองว่าความฉลาดก็คือหลัก Logic หรือค่าความสามารถทางด้านอื่นอีกไม่กี่ตัว ทว่าในความเป็นจริงนั้นนอกจากประสาทสัมผัสทั้งห้านั้นเรายังมีประสาทสัมผัสอีกสิบกว่าตัวที่ได้ถูกค้นพบ กล่าวคือแค่ในกรณีมนุษย์ทั่วไปการใช้แบบทดสอบ IQ มาวัดค่าความฉลาดคนก็เป็นสิ่งที่วุ่นวายมากแล้ว ตัวตนสมมุติแบบนั้นยิ่งเป็นอะไรที่ให้คำตอบได้ยากยิ่งกว่ายากครับ
อย่างที่สามคือการมีทักษะในการคำนวนสูงกว่าคนทั่วไปล้านเท่า ไม่ไดด้หมายความว่าจะฉลากกว่าคนทั่วไปล้านเท่า อาจจฉลาดกว่าคนทั่วไปแค่ 100 เท่าเฉยๆก็เป็นไปได้ (ตัวเลขสมมุติเพื่อให้เห็นภาพ)
ถามว่าทำไมตัวเลขมันถึงได้ต่างกันขนาดนี้ คำตอบก็คือ IQ นั้นเป็ยแบบทดสอบที่ใช้วัด "ความฉลาดของมนุษย์" จึงอาจจะพูดได้ว่าเป็นความฉลาดที่สามารถเอาไปใช้ทำประโยชน์ หรือมีผลต่อการใช้ชีวิตสำหรับมนุษย์ ดังนั้นความสามารถในการคำนวนเลขได้เร็วเป็นล้านเท่าจะช่วยให้คนๆนั้นเขียนหนังสือได้เร็วขึ้นหรือไม่ เข้าใจการเมืองได้ดีขึ้นหรือไม่ อ่านความรู้สึกของผู้คนได้เก่งขึ้นหรือไม่ ดังนั้นถึงจะมีความสามารถในการคิดเลขสูงขึ้นมาเป็นล้านเท่า แต่อาจจะช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมา หรือทำงานได้มีปนะสิทธิภาพสูงกว่าคนทั่วไปเพียงไม่กี่เท่าๆนั้น ยิ่งเอาไปรวมกับเหตุผลข้อสองที่กล่าวมาแล้ว คำถามนี้ต่อให้เอาไปถามผู้เชี่ยวชาญโดนตรงเขาก็ไม่มีคำตอบให้ครับ
สรุปคือ ตัวตนของแบบทดสอบ IQ ทุกวันนี้ยังไม่สมบูรณ์ ตัวตนสมมุติแบบที่กล่าวมาไม่อาจจะใช้หลักการทั่วไปวัดค่าความฉลาดได้เพราะความฉลาดไม่ได้ขึ้นกับทักษะ Logic หรือด้านใดด้านอื่นเพียงไม่กี่ด้าน แล้วถึงมีมีความสามารถด้านใดด้านหนึ่งสูงขึ้นมาจนทะลุเพดานก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ความสามารถโดยรวมสูงขึ้นมาจนทะลุเพดานครับ
แสดงความคิดเห็น
ณ ขณะนี้ถ้าเทียบกับคน ไอคิวของคอมพิวเตอร์ควรอยู่ในระดับใดครับ