แชร์ประสบการณ์ขายของออนไลน์ของเด็กอายุ20ค่ะ

ก่อนอื่นขออนุญาติแนะนำตัวก่อนนะคะ ปัจจุบันเจ้าของกระทู้อายุ 20 ปีเต็มค่ะ จะ 21 ปีหน้า
ยังเรียนอยู่มหาลัยวิทยาชั้นปีที่ 3 ค่ะ อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ขายของออนไลน์ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันค่ะ

จุดเริ่มต้น
.
เจ้าของกระทู้เริ่มขายของสมัย ม.ปลายค่ะ ราว ๆ ม.5 ได้ค่ะ อธิบายก่อนว่าตัวเจ้าของกระทู้เองเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ
และเริ่มที่จะติ่งเกาหลี ติ่งแบบติ่งหนักมากๆ ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ค่ะ 55 เริ่มจากความชอบ ศิลปินเกาหลี ซื้ออัลบั้ม
ของ official goods ต่างๆ ทุกอย่างที่เป็นของศิลปินที่ชอบค่ะ เรียกได้ว่าอะไรออกมา เราต้องมีไอเทมนี้แน่นอน
เอาเงินเก็บไปซื้อบ้าง ขอเงินแม่บ้าง อดขนมเพื่อเก็บเงินไปซื้อบ้าง จนวันนึงแม่เริ่มบ่นค่ะ เริ่มดุ แล้วก็ไม่ยอมให้ซื้อแล้วค่ะ
ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้น ของการหาเงินค่ะ เจ้าของกระทู้เริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ เริ่มจากการขายเสื้อให้กับกลุ่มแฟนคลับศิลปินเกาหลีค่ะ
เริ่มต้นจากวงที่ตัวเองชอบ ออกแบบเสื้อเองค่ะ เนื่องจากตัวเจ้าของกระทู้มีความรู้ความสามารถด้านโปรแกรมออกแบบ กราฟฟิค
พอใช้ได้ไม่ถึงกับดีมากค่ะ ออกแบบตามที่ตัวเองชอบ รับออร์เดอร์เอง ส่งของเอง ส่งผิดไซส์บ้าง พิมพ์ที่อยู่ผิดบ้าง มั่วไปหมด
แพ็คของเอง ส่งของเอง โดยมีแม่เป็นคนคอยสอนและพาไปส่งของด้วยตัวเองเลยค่ะ เรียกได้ว่าเริ่มต้นจาก 0 เลยค่ะ
เพราะตัวเจ้าของกระทู้เองไม่มีความรู้เลย อาศัยขายผ่านโซเชี่ยล และกลุ่มแฟนคลับที่ตัวเองอยู่ค่ะ เสื้อรอบแรกที่ขาย
ขายได้เพียงแค่ 10-20 ตัวเท่านั้น กำไรได้มาเพียง 500 บาทเนื่องจากเข้าเนื้อ ส่วนของที่ส่งของผิด ค่านู้นนี่นั่น ด้วยความไม่พร้อม
แล้วก็เริ่มขายเสื้อของวงอื่นๆ ไปเรื่อยๆ ค่ะ ได้กำไรมา 1000-2000 บาท ดีใจมาก ๆ เริ่มเก็บเงินค่ะ ไม่อยากใช้เงินที่หามา
เพราะเริ่มรู้ว่าเงินหายากค่ะ ซื้อของที่อยากได้น้อยลง แต่ไม่ถึงกับเลิกซื้อ จนกระทั่งช่วง จบ ม.6 ค่ะ เริ่มค้นพบพวกของแฟนเมดต่างๆ
ก็เลยไปรับมาขายต่อค่ะ พบว่ามันได้กำไรดีมากกว่าเสื้อที่ขายอยู่ ก็เลยเริ่มหายจากการขายเสื้อค่ะ ขายพวกของแฟนเมดต่างๆ เรื่อยมา
จนกระทั่งเปิดเทอมมหาลัยวิทยา ปี 1 เทอม 1 ค่ะ เจ้าของกระทู้ต้องย้ายมาเรียนในกรุงเทพฯ ชีวิตจะอิสระมากยิ่งขึ้น
แต่ยังอยู่ในกรอบของตัวเองค่ะ เจ้าของกระทู้เริ่มขายของ Official Goods ค่ะ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลว
ที่ทำให้เจ้าของกระทู้หยุดขายของไปพักนึงเลยทีเดียว

ความล้มเหลว
.
พวกของ Official Goods ของศิลปินเกาหลี เราต้องสั่งมาจากต่างประเทศค่ะ ตอนนั้นตอนของกระทู้ยังไม่มีบัตรเครดิต
และก็ไม่มีความรู้เรื่องพวก k-web shopping card หรือ paypal เลยค่ะ เลยไม่สามารถสั่งของมาขายให้ลูกค้าได้เองโดยตรง
เลยต้องสั่งของจากร้านที่รับหิ้ว รับสั่งของจากประเทศเกาหลีค่ะ เลือกที่เรทต่ำที่สุดเท่าที่จะหาได้ค่ะ รอบแรก ๆ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
มีปัญหาหนักสุดแค่ของมาช้า แต่ได้ของครบตลอดนะคะ ก็เริ่มมีโดนลูกค้าบ่นบ้าง ด่าบ้าง แต่มาหนักกว่าก็ตอนที่สั่งของไป
แล้วไม่ได้ของค่ะ เจ้าของกระทู้โดนโกงเป็นเงินหมื่นกว่าบาทค่ะ สำหรับเด็กอายุเพียง 19 ปี เงินจำนวนนี้มันเยอะมาก
เงินจากการขายของที่ผ่านมาก็ไม่ได้เก็บค่ะ เอาไปจ่ายค่ารุ่น ค่า text หนังสือต่าง ๆ ค่าเสื้อ ค่าชุดช็อป ไม่ได้ขอแม่เพิ่มค่ะ
เงินก็หมด ทีนี้เครียดมากเลยค่ะ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ตัวเจ้าของกระทู้เองก็ไม่เคยขอยืมเงินใครค่ะ ไม่กล้าบอกแม่ด้วย
เพราะกลัวว่าแม่จะไม่ให้ขายของอีก เพราะที่บ้านจะพูดตลอดว่า ไม่อยากให้ขายของอยากให้ตั้งใจเรียนให้จบก่อน
แต่ไม่เคยห้ามจริงจัง ที่บ้านไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน และไม่พอให้ขอเพิ่มได้ แต่เป็นที่ตัวเจ้าของกระทู้เองไม่อยากรบกวนพ่อแม่ค่ะ
ก็เลยควักเอาเงินเก็บที่เหลืออยู่จ่ายชดใช้ลูกค้าไป 10-20 คนได้ เอาเงินที่แม่ให้รายเดือนมาหมุนใช้คืน ประหยัดทุกวิถีทาง
เพราะค่าครองชีพในกรุงเทพก็สูง ก็ยังต้องกินต้องใช้ ก็พยายามชดใช้ไปค่ะ เป็นเวลากว่า 3 เดือนเลยกว่าจะหมดครบทุกคน
ก็มีโดนลูกค้าด่าบ้าง แต่บางส่วนก็เข้าใจค่ะ ตอนนั้นเลยท้อ กลัวจะโดนโกงแบบเดิมอีก เลยพักการขายของไปเลยยาว ๆ ค่ะ

กลับมาพยายามใหม่
.
หลังจากโดนโกงครั้งนั้น ก็เหมือนจะเข็ดค่ะ แต่ก็มีเรื่องให้กลับมาขายของอีกจนได้ เพราะเนื่องจาก ค่าครองชีพสูง ประจวบกับขึ้นปี 2 ค่ะ
ค่าหนังสือ ค่ารับน้อง ค่ารุ่น ค่าต่าง ๆ เยอะมาก ขอเงินแม่เพิ่มมาตลอด 1000-2000 บ้าง ไม่เคยเกินนี้ค่ะ ประหยัดเอา ไม่อยากรบกวนแม่
จนกระทั่งเริ่มรู้สึกว่า เอ๊ะ เราใช้เงินเยอะไปรึป่าว อยากซื้อนู้นนี่นั่นเหมือนเดิม ไม่อยากขอแม่เพิ่มอีกแล้ว ก็เลยเริ่มกลับมาขายของอีกค่ะ
กลับมาขายพวกของแฟนเมดอย่างเดิม กำไรรอบละ 2000-5000 เปิดรอบตามคอนเสิร์ตค่ะ มีทั้งแบบจัดส่ง และนัดรับของหน้าคอนเสิร์ต
จากนั้นเริ่มมีคนรู้จักร้านมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปลายปี 2557 ค่ะ ร้านเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าเก่ากลับมาอุดหนุน จากการเป็นอารมณ์ดี
ขี้เล่น ใส่ใจลูกค้า เพราะตัวเจ้าของกระทู้เองก็เป็นคนนึงที่อยู่ในกลุ่มแฟนคลับเกาหลีค่ะ เจ้าของกระทู้เข้าใจ นิสัยและความต้องการลูกค้า
อาศัยความชอบของตัวเองให้เกิดประโยชน์ค่ะ รายได้จากการขายของเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งขายของรอบนึงไม่ต่ำกว่า 5000 บาท
จนกระทั่งเป็นหมื่น ๆ บาท เริ่มขายคนเดียวไม่ไหวแล้วค่ะ ก็เริ่มชวนเพื่อนสนิทมาช่วยขาย ให้ค่าจ้างเป็นรายวันเอา
1500-2000 บาทต่อวัน แล้วแต่ว่าจะขายดีหรือใช้งานเพื่อนมากน้อยแค่ไหนค่ะ เริ่มมีเงินลงทุน ตั้งร้านขายตามหน้าคอนเสิร์ตบ้าง
จนปัจจุบัน เจ้าของกระทู้อายุ 20 ปี ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา มีเงินเก็บจากการขายของออนไลน์ เกือบ ๆ แสนบาทแล้วค่ะ
ไม่นับกิเลสทั้งหลายจากการติ่งเกาหลี ซื้อกล้อง และซื้อของที่ตัวเองอยากได้ทั้งปวงด้วยเงินของตัวเอง น่าจะมีเงินเก็บเยอะกว่านี้แล้วค่ะ
ตอนนี้กลายเป็นลูกที่แม่ไว้ใจ ไม่บ่นสักคำเวลาจะไปขายของ ไม่บ่นเวลาจะใช้เงินทำอะไรเลยค่ะ

ความสำเร็จ
.
ปัจจุบันเจ้าของกระทู้ ไม่ได้รบกวนแม่เรื่องเงิน เงินที่แม่ส่งให้ทุกเดือนยังรับเหมือนเดิม แต่ไม่ได้ใช้เงินส่วนนั้นแล้วค่ะ
กะจะเก็บไว้คืนแม่หลังเรียนจบค่ะ ร้านที่ขายของอยู่ตอนนี้ก็เติบโตขึ้น รายได้จากขายต่อรอบเป็นหมื่นบาทค่ะ มีหยุดขายบ้าง
ช่วงสอบก็จะหยุดขายไปอ่านหนังสือสอบ เก็บเล็กผสมน้อย ประหยัดบ้าง ซื้อของที่ชอบบ้าง ตามประสาวัยรุ่นค่ะ
มีเข้าไปดูคอนเสิร์ตบ้างเฉพาะวงที่ตัวเองชอบ จากเด็กที่แม่ห้ามใช้เงินไร้สาระ ก็พัฒนามาเป็นคนที่วางแผนการใช้เงินด้วยตัวเองได้ค่ะ
ขอบคุณผู้มีพระคุณที่สุดในชีวิตของเจ้าของกระทู้มาก ๆ เลยนะคะ ถ้าไม่มีพ่อและแม่คอยสนับสนุน คอยสอน คอยเตือนมาตลอด
ก็จะไม่มีเด็กที่รู้จักใช้เงิน และเก็บเงินในวันนี้เลยค่ะ ความสำเร็จไม่ได้มาจากการที่เราขายของแล้วได้เงินเยอะค่ะ
แต่คือมันคือการสอนให้เรารู้จักใช้เงินเป็นเป็น รู้จักใช้ รู้จักเก็บ และรู้จักหา เรียนรู้คุณค่าของเงินด้วยตัวเอง
เรียนรู้ถึงความยากลำบากในการหาเงินค่ะ เราไม่ได้คิดที่จะประสบความสำเร็จกับอาชีพนี้ แต่อาชีพนี้ทำให้เรามีความสุขค่ะ
.
.

ต่อไปจะเป็นพาร์ทสำหรับแนะนำการขายของนะคะ

part 1 : ขายอะไรดี ?
.
ก่อนอื่นเราต้องดูก่อนเลยว่าอะไรคือสิ่งที่เหมาะกับเรา และเราสามารถเข้าถึง เข้าใจในตัวสินค้าได้จริง ๆ อย่างตัวเจ้าของกระทู้เอง
เป็นของเกี่ยวกับศิลปินเกาหลี ก็ต้องมาดูกลุ่มแฟนคลับ ฐานแฟนคลับ และสำรวจความต้องการของกลุ่มลูกค้า ว่าต้องการแบบไหน
แบบไหนเป็นที่นิยม หลังจากนั้นก็เริ่มหาซัพพลายเออร์ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือนอกประเทศ หาให้ได้ต้นทุนต่ำที่สุด หลังจากนั้น
ปัญหาที่ตามมาคือแล้วเราจะรู้ได้ไงว่าซัพพลายเออร์ที่หามาจะส่งของให้เราจริงๆ อย่างตัวเราเองแก้ปัญหาจากไปซื้อจากหน้าร้าน
ในราคาส่ง อย่างไรการตามติดตามดู feedback ของซัพพลายเออร์ ก็จะช่วยในเรื่องของการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี

part 2 : จะขายได้ที่ไหน ?
.
ต้องเข้าใจก่อนว่าสินค้าที่ขายเหมาะกับคนกลุ่มไหน เช่นของเราเหมาะกับแฟนคลับ เราก็ต้องไปเจาะลงลึกเข้าไปในกลุ่มนี้เพื่อให้คนที่สนใจ
เห็นสินค้าที่เราขายค่ะ เริ่มจากลงสินค้าน้อยชิ้นก่อน ก็พัฒนาไปลงหลายชิ้นเผื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้เลือกซื้อค่ะ การเจาะกลุ่มผู้บริโภคไม่ยาก
ปัจจุบันคนเล่น social กันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น facebook twitter instagram website สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งใกล้ตัวในชีวิตประจำวันมากค่ะ
เพียงแค่เรารู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ ตัวเจ้าของกระทู้เองเริ่มจาก twitter เนื่องจากเป็นอะไรที่เราเล่นอยู่แล้ว ฝาก retweet ตามกลุ่มแฟนคลับต่างๆ
ก็จะทำให้คนเห็นสินค้าเรามากขึ้น ทั้งคนทั่วไป กลุ่มที่เราต้องการขาย ตามด้วยการเปิด fanpage ของ facebook ค่ะ ก็ช่วยให้
คนบางกลุ่มที่ไม่ได้เล่น twitter เห็นสินค้าเรามากขึ้นค่ะ Like Share จัดกิจกรรมแจกของ ก็เป็นการโปรโมทร้านไปในตัว
จัดให้มี promotion ของลดราคา ก็ช่วยด้วยเหมือนกัน ทีนี้พอมีคนเห็นสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น เราก็จะเริ่มสร้างฐานลูกค้าได้ในระดับนึง
จนเติบโต ร้านเป็นที่รู้จัก ก็จะเริ่มมีความน่าเชื่อถือเองค่ะ

part 3 : หาลูกค้าได้ยังไง ?
.
เริ่มแรกเราอาจจะยังขายไม่ได้เยอะหรอกค่ะ รอบแรกที่เราเล่าไป เราขายได้กำไรเพียง 500 บาทเท่านั้น เราก็นำเงินส่วนมาใช้กับ facebook ads ค่ะ
ถือว่าคุ้มค่าค่ะ fanpage มีคนกดไลค์เพิ่มมากขึ้น หลังจากนั้นก็มีลูกค้าเพิ่มเข้ามาค่ะ ได้กำไรเพิ่ม 2 เท่าเลย และก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
ลูกค้าเพิ่มขึ้น มีรีวิว ความน่าเชื่อถือของร้านก็เพิ่มไปด้วย เดี๋ยวนี้ผู้บริโภคไม่คิดมากเรื่องเงินหรอกค่ะ แต่จะคิดมากเรื่องโดนโกงมากกว่า
การสร้างความน่าเชื่อถือของร้านเป็นสิ่งสำคัญ ไม่แปลกใจเลยที่ร้านที่ขายแพงกว่า ยังสามารถขายได้เพราะ มีความน่าเชื่อถือสูงค่ะ ปากต่อปาก ลูกค้าของเรา
ก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเองค่ะ ทีนี้การขายของออนไลน์สำหรับเราก็ไม่ยากแล้ว


เทคนิคการขายของของเจ้าของกระทู้ ก็มีเพียงเท่านี้เองค่ะ ^^
เผื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลาย ๆ คนนะคะ สังคมอาจจะมองว่าการติ่งเกาหลีเป็นเรื่องไร้สาระ
แต่สำหรับตัวเจ้าของกระทู้เอง เชื่อว่าเราสามารถทำให้สิ่งที่เราชอบให้เกิดประโยชน์ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม
เพียงแค่เรามีความพยายามอดทน ไม่มีใครเริ่มต้นแล้วสำเร็จเลย ทุกอย่างต้องใช้เวลาค่ะ
และสุดท้ายนอกจากจะขอบคุณบุพการี ก็ยังอยากขอบคุณศิลปินวง SHINee มากๆเลย
ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กน้อย รู้จักใช้เงินและ เก็บเงิน แต่ถึงยังไง ก็ยังเลิกติ่งไม่ได้ค่ะ 55555.
ยังคงจงรักภักดีกับจงฮยอนโอปป้ามาเสมอ 7 ปีเต็ม ตอนนี้ที่บ้านเลิกบ่นไปแล้วค่ะ เหลือแต่เพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัยแทน

ใครอยากปรึกษาเรื่องขายของออนไลน์ อะไรยังก็หลังไมค์มาถามได้น้า แนะนำได้บ้างค่ะ
ในฐานะคนที่รู้และลองตลาดมาก่อนค่ะ อย่างอื่นก็พอแนะนำได้ตามประสบการณ์ค่ะ ยิ้ม
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ <3
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่