ถอดรหัสลับ SPECTRE วิเคราะห์ เจาะลึก ปริศนาไขกระจ่างแล้ว!!!

หลายท่านคงได้อ่านรีวิวจากหลายๆที่กันมาบ้างแล้ว ซึ่งโพสนี้จะไม่พูดถึงเรื่องการรีวิวและบทวิจารณ์ครับ แต่จะมาพูดถึงเรื่องการเจาะลึกถึงรหัสลับที่ซ่อนไว้ในหนังให้กระจ่างออกมาครับ อาจจะยาวหน่อย แต่อยากให้อ่านกันครับ

สืบเนื่องจาก SKYFALL ได้ใส่รหัสลับไว้ให้เราตีความกันบ้างแล้ว ตามกระทู้ (ของคนอื่น) ดังนี้...
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=navagan&month=02-11-2012&group=2&gblog=110#axzz3t2L9DeNS




เริ่มจาก ฉากเปิดเรื่องด้วย Gunbarrel ซึ่งกลับมาแล้วจริงๆ กลับมาอยู่ในที่เดิมที่ควรอยู่ นั่นก็เป็นรหัสลับที่จะบอกกับคนดูทุกคนว่า เจมส์ บอนด์คนเดิมกลับมาแล้ว กลับมาในรูปแบบที่เจมส์ บอนด์ควรจะเป็นในแบบดั้งเดิมและคลาสสิคในยุคปัจจุบัน

บอนด์อยู่ใน Mexico City เพื่อสะสางบัญชีแค้นให้กับ M คนเก่า นั่นเป็นเพราะว่าบอนด์ยังจงรักภักดีให้กับ M คนเก่าแม้ว่าเธอจะจากไปแล้วก็ตาม ทั้งๆที่ตอนนี้บอนด์ก็มี M คนใหม่อยู่แล้ว แต่ดูท่าเหมือนบอนด์จะไม่เชื่อฟังคำสั่งสักเท่าไร นั่นเป็นรหัสลับที่จะบอกกับคนดูว่า หนังเจมส์ บอนด์ มีชีวิตอยู่บนโลกนี้มานานแสนนาน ยังไงก็ยังอาลัยอาวรณ์กับเจ้าของเก่าอยู่วันยังค่ำ แต่ในเมื่อตอนนี้อยู่กับเจ้าของใหม่ ก็ต้องแอบทำงานสานต่อให้เจ้าของเก่าแบบลับๆ และรหัสลับก็จะค่อยๆเฉลยมากขึ้นเรื่อยๆ โปรดอ่านต่อครับ

ระหว่างทางที่บอนด์เดินทางร่วมกับแทนเนอร์โดยเรือในแม่น้ำเธมส์ แทนเนอร์ได้อธิบายว่า "ตึกเก่าจะถูกทุบทิ้งสัปดาห์หน้า ทุบทิ้งดีกว่ารีนูเวทใหม่ ประหยัดงบได้เยอะ" ทำให้ถอดรหัสลับได้ความว่า
SPECTRE ฉายครั้งแรกใน UK วันที่ 26 ตุลาคม 2015 และ Sony จะหมดสัญญากับหนังเจมส์ บอนด์ ในสัปดาห์ถัดไปคือ 6 พฤศจิกายน 2015 ก็คือสัปดาห์หน้าแบบที่ในหนังว่านั่นแหละครับเพราะฉะนั้นแล้วตึก MI6 ก็เปรียบเสมือน Sony ที่จะหมดสัญญาในสัปดาห์หน้า ทุบทิ้งดีกว่ารีนูเวทใหม่ หมายความว่า ทุบเจมส์ บอนด์แบบดิบๆ บ้าระห่ำทิ้งไป ยังดีกว่ามารีบู๊ทหนังเจมส์ บอนด์ใหม่ซึ่งมันเสียเวลา เจมส์ บอนด์ควรจะกลับไปสู่โหมดคลาสสิคแบบที่คนทั่วโลกรู้จักจะดีกว่า

ฉากที่ M คุยกับ C อยู่ในตึกใหม่ และพูดคุยกันถึงเรื่องการสอดแนมดักฟังสายลับซึ่ง M เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควร นั่นก็ถอดรหัสลับได้ว่า ก่อนที่ SPECTRE จะเปิดกล้องถ่ายทำนั้น ได้มีแฮ็คเกอร์มาแฮ็คอีเมลล์ของ Sony และทำให้รู้ความลับของหนังทั้งหมดไปนั่นเอง

ฉากที่บอนด์เดินทางไปยังห้องประชุมลับขององค์กร SPECTRE บอนด์บอกการ์ดหน้าประตูว่าเขาคือมิกกี้เมาส์ ซึ่งแปลกมากๆที่บอนด์เล่นมุขนี้ โอเบอเฮาเซอร์บอกกับบอนด์ว่า "ในที่สุดก็มายืนอยู่ตรงนี้ ทำไมมาช้านักล่ะ?" ซึ่งถอดรหัสลับแล้วได้ความว่า ในที่สุด เจมส์ บอนด์ก็ได้มาเป็นหนังแบบแอ็คชั่นฮีโร่ขี้โม้โอ้อวดแบบที่ควรจะเป็นสักที ทำไมมาช้านักล่ะ? และบอนด์ก็พยายามหนี หันไปเจอการ์ดหน้าประตู การ์ดพูดทันทีว่า "ไงล่ะมิกกี้เมาส์" บอนด์ก็จับการ์ดโยนลงไปข่างล่างทันที นั่นถอดรหัสลับได้ความว่า ณ ตอนนี้มีค่ายหนังอยู่หลายค่ายที่มาร่วมประมูลเพื่อเป็นเจ้าของลิขสิทธ์หนังเจมส์ บอนด์ แต่ที่แน่ๆ บอนด์ไม่เอามิกกี้เมาส์ ซึ่งก็คือ ไม่เอาดิสนีย์นั่นเอง ยิ่งฉากในห้องโรงแรมที่แทนเจียยิ่งเด่นชัดว่าบอนด์ไม่เอาดิสนีย์ครับ "ใครส่งแกมา? แกทำงานให้ใคร?"

ฉากที่บอนด์เดินทางไปที่คลีนิคของเมเดลลีน มีภูเขาน้ำเเข็ง มีหิมะปกคลุม ก็ทำให้นึกถึง Paramount Pictures ได้เช่นกัน

บอนด์อยู่บนรถไฟกับเมเดลลีน ทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆแบบ From Russia With Love ซึ่งในภาคนั้นก่อนบอนด์เข้าห้องจะต้องเคาะประตู 3 ครั้ง แต่ใน SPECTRE นั้นเคาะประตู 4 ครั้ง จึงถอดรหัสได้ว่า นี่เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่แดเนียล เครกมารับบทเจมส์ บอนด์ หรืออีกนัยนึงคือ นี่เป็นภาคสุดท้ายแล้วที่เครกจะรับบทเจมส์ บอนด์ ผมเล่นแค่ 4 ภาคเท่านั้นนะ ซึ่งในสมัยเพียร์ซ บรอสแนนเลิกเป็นเจมส์ บอนด์ก็เล่นมาทั้งหมด 4 ภาคเช่นกัน

ฉากดินเนอร์บนรถไฟ บอนด์ตอบคำถามของเมเดลลีนเหมือนจะเป็นการบอกอะไรบางอย่าง เช่น ไม่รู้จะทำอะไรต่อ ไม่ได้คิดเป็นต้น เหมือนกับว่าจะบอกใบ้ว่าจะเลิกเป็นเจมส์ บอนด์แล้ว และถ้าเลิกแล้วก็ไม่รู้จะไปทำอะไรต่อ

หลังจากที่บอนด์สู้กับมิสเตอร์ฮิงซ์ เมเดลลีนถามว่า "เอาไงต่อ" จากนั้นก็ตัดเข้าฉากเลิฟซีนแบบรุนแรง แล้วตัดออกแบบไม่มีเยื่อใย ถอดรหัสได้ความว่าภาคนี้ บทไม่ได้แน่นอย่างที่ควรจะเป็น เมดลลีนจึงถามว่า "เอาไงต่อ" เพราะไม่มีบทจะให้แสดงต่อแล้ว แม้แต่ฉากเลิฟซีนก็มีแค่เลิฟซีนและไม่มีอะไรอีกเลย

โบลเฟลด์ เฉลยตัวตนของตัวละครให้คนดูได้รู้ว่า แท้จริงแล้วเค้าคือพี่ชายบุญธรรมของบอนด์ คำว่าพี่ชายในภาษาอังกฤษเรียกว่า Brother และแล้ว Brother ก็ไปถล่มตึก Mi6 จนสิ้นซาก แถมตอนจบ Brother รอด นั่นก็ถอดรหัสได้ว่า โบลเฟลด์ = Brother = Warner Brother ซึ่งค่ายนี้มาแรงมากในเรื่องที่จะถือครองลิขสิทธิ์หนังเจมส์ บอนด์ และตอนจบ Brother รอด ก็ยิ่งทำให้ความเป็นไปได้ในเรื่องการถือครองลิขสิทธิ์มีสูงมากขึ้น

ฉากที่บอนด์เดินทางเข้าไปในฐานลับของโบลเฟลด์ มีการต้อนรับอย่างดี และพนักงานก็ขอปืนของบอนด์ก่อนเข้าไปข้างใน บอนด์บอกว่าให้ระวังเพราะปืนมีลูก จึงถอดรหัสได้ความว่า ฐานลับของโบลเฟลด์เปรียบเสมือนฐานของ Warner Brother เมื่อบอนด์เข้ามาหาก็ต้องให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แถมบอนด์ยังพูดแบบโชว์พาวว่าเขายังมีแรงสู้ ยังมีไฟอยู่เสมอ (ปืนมีลูก) ประหนึ่งว่าหนังเจมส์ บอนด์ยังมีต่อไปเรื่อยๆ

หลังจากเฮลิคอปเตอร์ของโบลเฟลด์ตก บอนด์บอกกับโบลเฟลด์ว่า "กระสุนหมด" ถอดรหัสได้ความว่า ภาคนี้หมดมุขที่จะดำเนินเรื่องต่อ หรืออีกนัยนึงคือ แดเนียลเครกจะไม่เล่นเป็นเจมส์ บอนด์อีกต่อไปแล้ว จากนั้นมีสองทางใหเลือกระหว่างเดินไปหา M หรือจะเดินไปหาเมเดลลีน บอนด์พูดอีกว่า "มีสิ่งอื่นที่น่าทำกว่า" จากนั้นจึงเดินไปหาเมเดลลีนแล้วโยนปืนทิ้ง จึงถอดรหัสได้ว่า เครกเลิกเล่นเป็นบอนด์แล้วจริงๆ และพร้อมที่จะใช้ชีวิตไปกับคู่ชีวิตนับจากนี้เป็นต้นไป

บอนด์ลงลิฟท์มาหา Q ซึ่ง Q ก็แปลกใจมาก คิวบอกว่า "นึกว่าคุณไปแล้ว" บอนด์บอกว่า "ผมไปแล้ว แต่มาทวงของคืน" นั่นคือ Aston Martin DB5 คันโปรดของบอนด์ จึงถอดรหัสได้ความว่า เดิมทีสัญญาของแดเนียลเครก คือ ถ้ารับบทเจมส์ บอนด์ จะได้ขับรถ Aston Martin กลับบ้าน
Q ซึ่งบอกว่า "นึกว่าคุณไปแล้ว" ก็หมายความว่า นึกว่าเครกเลิกเป็นเจมส์ บอนด์แล้ว เครกจึงตอบไปว่า เลิกแล้ว แต่มารับรถกลับบ้านนั่นเอง

บอนด์ ขับรถไปกับเมเดลลีน และจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ซึ่งหลายคนคาดเดาว่าจะต้องจบแบบนางเอกโดนยิงทะลุกระจกหน้ารถแบบใน On Her Majesty's Secret Service ก็ถอดรหัสได้ว่า เดิมที Christopher Nolan อยากกำกับหนังเจมส์ บอนด์มาก แถมเรื่องที่เค้าชอบก็ยังเป็น On Her Majesty's Secret Service ประมาณว่า ถ้าอยากกำกับล่ะก็ มาช่วยทำฉากจบให้ SPECTRE มันจบแบบ On Her Majesty's Secret Service ให้หน่อยสิ เหมือนเป็นการเปิดทางให้ Nolan มากับกับในภาคต่อไปนั่นเอง

การที่สื่อให้เห็นว่าแดเนียล เครก เลิกเป็นเจมส์ บอนด์ นั่นก็เป็นเพราะการคาดเดาของคนดู เพราะมีข่าวลือหนาหูเรื่องผู้ที่จะมารับบทบอนด์คนใหม่นั่นเองครับ ซึ่งความจริงแล้วเครกยังเหลือสัญญาอีก 1 ภาคคือ Bond 25

เป็นยังไงกันบ้างครับ หวังว่าคงจะชอบกันนะครับ ท่านทั้งหลายมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่